อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 6/2 วันที่ 23 พ.ค. 57
นาคินทร์ยิ้มหวานให้ ปานตะวันอึ้ง นารถนรินทร์อมยิ้มถูกใจ ปานตะวันทั้งยังเคืองและอาย “ปล่อยค่ะ”“คนอะไรใจร้าย?! จะให้ผมปล่อยคนที่ผมรักได้ยังไง?”
นารถนรินทร์แซว “ ‘คนที่ผมรัก’ นี่หมายถึงใครคะพี่คิน? น้อง? หรือพี่ตะวัน?”
“คุณนารถ!!”
“เห็นผอม ๆ อย่างนี้ ยัยนารถตัวหนักไม่ใช่เล่น..ให้ผมช่วยดีกว่า”
ปานตะวันเสียงแข็ง ๆ “ไม่ต้องค่ะ นี่เป็นหน้าที่ฉัน”
นาคินทร์พูดใกล้หู “จะให้ช่วยอุ้มยัยนารถดี ๆ หรือจะให้ผมอุ้มคุณแทน?”
ปานตะวันสะดุ้ง รีบปล่อยมือจากนารถนรินทร์ แล้วหันหน้ากลับมาเหมือนจะเถียงก็เลยกลายเป็นหน้าจ่ออยู่กับนาคินทร์ 2 คนมองหน้ากัน นารถนรินทร์ชอบใจ
“คุณ!!”
นารถนรินทร์เซ็ง “ว้า”
นาคินทร์ขำน้อย ๆ ค่อย ๆ อุ้มนารถนรินทร์วางบนเตียง ปานตะวันแอบค้อนขวับ
ในห้องสัมมนาโรงพยาบาล พราวพรรณรายกำลังวาดรูปการ์ตูนอัครินทร์ตลกๆ กว้างออกเห็นเป็นพราวพรรณรายขำๆ ฝีมือตัวเอง แล้วก็เงยหน้ามองอัครินทร์ที่กำลังบรรยายอยู่ที่เดิม อัครินทร์มองมาพอดีแทนที่พราวพรรณรายจะหลบ กลับจ้องตาเป๋งจนอัครินทร์เป็นฝ่ายต้องหลบสายตาไปเอง
“ชิ!! รู้จักพราวพรรณรายน้อยไปซะแล้ว ซักวันฉันจะทำให้คุณมาคุกเข่าตรงหน้าฉันให้ได้..คุณหมอหล่อโฮก!!”
ยังกะได้ยิน อัครินทร์หันมามองพราวพรรณรายอีกครั้ง พราวพรรณรายจ้องอัครินทร์ตาเป็นมันแถมยิ้มแบบ “หึ ๆ ไม่รอดมือฉันแน่” คราวนี้อัครินทร์สะดุ้งเล็ก ๆ “ยัยคนนี้ท่าทางจะบ้า?!”ก่อนจะพูดใส่ไมโครโฟน
“เอาล่ะครับทุกท่าน ตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลาพักทานข้าวกลางวันแล้ว ไม่ทราบมีใครสงสัยอะไรมั้ยครับ?”
ไม่มีใครยกมือ นอกจากพราวพรรณราย
“มีคำถามอะไรครับ?”
พราวพรรณรายลุกขึ้นยืน ถามตรงๆ เข้าเป้าเลย “คุณหมอมีแฟนรึยังคะ?”
อัครินทร์อึ้ง เสียงฮาลั่นห้อง อัครินทร์ทำหน้าไม่ถูกขณะที่พราวพรรณรายทำหน้าแอ๊บแบ๊ว รอฟังคำตอบสุดฤทธิ์ “ว่าไงอ่ะคะ? ดิฉันสงสัยมากอยากทราบคำตอบอ่ะค่ะ”
ผู้คนยังขำกันกิ๊กกั๊ก จ้องอัครินทร์เป็นตาเดียว อัครินทร์พูดไม่ออก บอกไม่ถูก “เอ่อ..ผมคิดว่าเก็บคำถามนี้ไว้ถามเป็นการส่วนตัวจะดีกว่านะครับ ผมขอจบการสัมมนาช่วงเช้าเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”
อัครินทร์พยายามสุภาพทั้งที่อยากจะกินหัวพราวพรรณรายแทบแย่ ผู้คนทะยอยออกจากห้อง อัครินทร์ก้มหน้า ก้มตาเก็บเอกสาร พอเงยหน้าขึ้นมาทั้งห้องก็เหลือแค่พราวพรรณรายนั่งหน้าแบ๊วอยู่ที่เดิม..คนเดียว
อัครินทร์มองแล้วก็ไม่สนใจเก็บของแล้วก็เดินผ่านหน้าพราวพรรณรายเหมือนจะออกจากห้องแต่สุดท้ายก็เฮ้อ! อดห่วงไม่ได้ตามวิสัยสุภาพบุรุษ อัครินทร์หันกลับมาถามตามมารยาท “ไม่ไปทานข้าวเหรอครับ”
“ก็คุณบอกให้เก็บคำถามไว้ถามเป็นการส่วนตัวไม่ใช่เหรอคะ?”
อัครินทร์มองแบบงง ไม่คิดว่าแพรวพรรณรายจะถือเป็นจริงเป็นจัง
“ตอนนี้ก็เหลือแค่เรา 2 คนแล้วเพราะฉนั้น ช่วยกรุณาตอบคำถามให้ดิฉันหายสงสัยด้วยค่ะ”
“ถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ผมบรรยายล่ะก็..โอเค. แต่สำหรับคำถามนั้นผมถือว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องและไม่มีประโยชน์อะไรแก่ผู้เข้าฟังบรรยายเลยแม้แต่น้อย”
“เกี่ยวสิคะ..ใครบอกไม่เกี่ยว? แถมยังมีประโยชน์มว๊าก ๆ ด้วย”
อัครินทร์ทำหน้าบอกไม่ถูก “ผมจะมีแฟนรึไม่มีแฟนมันไปเกี่ยวอะไรกับคุณ..เอ่อ..”
“พราวพรรณรายค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่า ‘พิงค์’ ก็ได้ค่ะ”
อัครินทร์มองความ ‘ชมพู’ ในตัวพราวพรรณรายแล้วก็เก็ท “อ๋อ..เข้าใจละ”
“เข้าใจอะไรคะ?”
“ก็..ไม่มีอะไรครับ”
“ตกลงมีแฟนรึยังคะคุณหมออัครินทร์?! คำตอบของคุณเกี่ยวกับดิฉันมาก เพราะถ้าดิฉันยังไม่ได้คำตอบ ยังไม่เคลียร์ ดิฉันจะฟังคำบรรยายช่วงบ่ายนี้ของคุณไม่รู้เรื่องแน่ ๆ --เพราะมันไม่มีสมาธิ!!”
อัครินทร์ถอนใจเฮือก “ผมคงต้องปล่อยให้เรื่องนั้นเป็นปัญหาของคุณต่อไป—ขอตัวนะครับ คุณพราวอันตราย!!” พูดจบอัครินทร์ก็เดินออก ทิ้งให้พราวพรรณรายอ้าปากหวอ
“เฮ๊ยยย..ไรเนี่ย?! พิงค์แพรวพรรณราย คุณหมอสาวแสนสวยร่ำรวยและเก่งมากโดนผู้ชายเดินจากไปเฉย ๆ หืมม์..นี่ถ้าไม่เห็นว่าหล่อโฮกล่ะ..ฮึ่ม!!!..จำไว้!!”
ในห้องนอนนารถนรินทร์ ปานตะวันกำลังทำกายบริหารท่าเริ่มต้นเบา ๆ Straight Leg Raise (SLR) ยกขาขึ้นตรง ๆ ทีละข้าง ๆ ละ 10 ครั้ง ให้นารถนรินทร์ โดยมีนาคินทร์นั่งดูอยู่
“ดีมากค่ะ..เก่งมาก..เห็นมั้ยคะ ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวอย่างที่น้องนารถคิดเลย”
นารถนรินทร์ยิ้มก่อน ตอบซื่อๆ “แหม..พี่ตะวัน นารถก็ต้องขอคิดให้มันน่ากลัวไว้ก่อน” นารถนรินทร์ยิ้มอ้อนพี่ชาย “จริงมั้ยคะพี่คิน?!”
“ก็จริงของยัยนารถนะครับคุณตะวัน เพราะบางสิ่งบางอย่างรึว่าบางคนที่เราคิดว่าง่าย ๆ ไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันอาจจะน่ากลัว กว่าที่เราคิด..น่ากลัวชนิดที่เราคาดไม่ถึงซะด้วยซ้ำ”
นาคินทร์มองปานตะวันแบบในใจคิดว่า “นั่นล่ะ..ปานตะวัน” ปานตะวันมองนาคินทร์แบบแปลกใจ พูดอะไรแปลก ๆ นาคินทร์จ้องตอบก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนแววตามาเนียนนุ่มอย่างเดิม ยิ้ม “คุณตะวันว่าจริงมั้ยครับ?”
ปานตะวันยังไม่เข้าใจอะไรก็ตอบปัด ๆ ไป “ดิฉันไม่ทราบค่ะ”
ปานตะวันหันไปสนใจนารถนรินทร์แทน “น้องนารถยังไหวมั้ยคะ? ถ้าไหว..ขออีกเซ็ทนึงนะคะ”
“โห..ดูสิคะพี่คินวันแรกพี่ตะวันก็โหดเลยอ่ะ”
นาคินทร์ยิ้มน้อย ๆ มองปานตะวัน “พี่ตะวันของนารถเค้าอาจจะโหดมานานแล้วก็ได้..ใครจะไปรู้”
ปานตะวันหันมองนาคินทร์อีกที—ยังไง นาคินทร์ทำหน้าตาธรรมดามาก ไม่มีพิรุธใด ๆ ก่อนจะอมยิ้มนิด ๆ ใส่ ปานตะวันคิดว่าโดนนาคินทร์แซวก็ไม่ติดใจอะไร
“เออ..จริงสิคะ..วันนี้พี่คินไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ?”
“ต้องจ๊ะ..แต่ไม่ไป”
“อ้าว! ทำไมล่ะคะ ไม่สบายรึเปล่า?”
นาคินทร์เอามือแตะหน้าผากตัวเอง “ก็...ไม่แน่ใจเหมือนกัน..เลยว่าจะรอถามคุณพยาบาลซะหน่อย”
ปานตะวัน..แน้?! นารถนรินทร์ขำกิ๊ก “นั่นไง!! ป่วยการเมือง!! พี่ตะวันคะ พี่ตะวันต้องภูมิใจนะคะ ตั้งแต่ทำงานมา นารถไม่เคยเห็นพี่คินโดดงานเลยแม้แต่วันเดียว แต่วันนี้พอพี่ตะวันมา ป่านนี้ KTK ตามหาท่านประธานกันให้วุ่นแล้ว”
ปานตะวันตัดบท “เซ็ทต่อไปเลยนะคะ”
นารถนรินทร์ขำกิ๊ก ปานตะวันแอบค้อนนาคินทร์ นาคินทร์ยิ้มตอบให้อย่างน่าร้ากก ปานตะวันไม่สน ก้มหน้าก้มตาทำกายบริหารให้นารถนรินทร์ไป
ในห้องประชุม KTK บรรยากาศมาคุ นัครินทร์นั่งหน้ายักษ์ใส่ผู้ร่วมประชุมทุกคนราวกับอยากจะหักคอ ผู้ร่วมประชุมกลืนน้ำลายกันเอื้อก ๆ จามจุรีจะเป็นลม พนมมือสวดมนต์พึมพำ สุดท้ายนัครินทร์ทนหงุดหงิดไม่ไหวหันไปกัดฟันพูดกับประกายเดือนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“เมือคืนคุณบอกผมว่าวันนี้พี่คินนัดประชุม 9 โมงตรง!! ห้ามเลท???”
ประกายเดือนหน้าแบ๊ว “ค่ะ!! ถูกต้องค่ะ!! 9 โมงตรง!! ห้ามเลท!!”
นัครินทร์หมดความอดทน ลุกขึ้นตบโต๊ะเปรี้ยง “แล้วนี่มันอะไรกั๊นนน!!!”
ทุกคนสะดุ้งโหยงตกใจหัวใจแทบวายไปตาม ๆ กัน นัครินทร์เดินยังกะหนูติดจั่น แหกปากลั่น “ตอบผมหน่อยซิว่านี่มันอะไรกัน?? 9 โมงตรง ตรงไหน?? นี่มันจะเที่ยงอยู่แล้ว ทำไมป่านนี้พี่คินยังไม่มา”
นัครินทร์กลับมาตบโต๊ะใส่หน้าประกายเดือน “คุณเลขาฯฮะ คุณช่วยตอบผมหน่อยซิฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้น???”
ประกายเดือนแบ๊วเหมือนเดิม ไม่สะดุ้งสะเทือน “ก็นั่งรออยู่ด้วยกันตรงนี้ ท่านรองฯ เป็นน้องชายแท้ ๆ ยังไม่ทราบ แล้วดิฉันเป็นแค่เลขาฯท่านรองฯจะไปทราบได้ยังไงล่ะคะ?”
นัครินทร์ทำหน้า “ห๊า?!!” ทุกคนในห้องเริ่มสยองขวัญ
จามจุรีสะกิด กระซิบ “ประกายเดือนหนอ..ทำไมตอบท่านรองฯอย่างนั้นนนน??”
“เอ๊า!! ก็มันจริงนี่คะคุณเจเจ?? หรือจะให้โกหกมันผิดศีลข้อ 2 ไม่ใช่เหรอคะ??”
จามจุรีสะดุ้ง งัดยาดมมาดมต่อดีกว่า “เฮ้อ!”
นัครินทร์ เรียกชื่อดังลั่น “คุณประกายเดือน!!”
จามจุรีสะดุ้ง สวดมนต์ต่อ นัครินทร์ก้มลงจ้องหน้า “ผมขอบอกว่าคำตอบของคุณเมื่อกี้มันเป็นคำตอบที่สร้างความไม่พอใจให้ผมอย่างมาก”
ประกายเดือนจ้องกลับ “แล้ว..??”
นัครินทร์แยกเขี้ยวยิ้มทั้งที่หน้ายักษ์ “แล้ว..?? ผมจะใจดีให้โอกาสคุณตอบผมใหม่อีกที เผื่อผมจะพอใจ”นัครินทร์ยื่นหน้าไปจ้องตาแล้วถามใหม่ เน้นคำช้า ๆ “ทำไมป่านนี้พี่คินยังไม่มา?? พี่คินหายไปทำอะไรที่ไหนยังไงกับใคร??”
นัครินทร์จ้องตารอคำตอบ ประกายเดือนจ้องกลับ “คำตอบก็คือ..” ประกายเดือนเอียงคอยิ้มให้ นัครินทร์เอียงคอยิ้มให้ท่าเดียวกันทั้งห้องรอลุ้น “ไม่ทราบค่ะ”
“เฮ๊ยยยย?!!!” ทั้งห้องเซ็ง นัครินทร์เหวี่ยงใส่ “นี่คุณเป็นเลขาฯผมนะฮะคุณประกายเดือน คุณจะมาตอบผมอย่างนี้ไม่ได้ ผมอยากรู้อะไรคุณต้องถามได้ตอบได้”
ประกายเดือนพูดลอย ๆ “ฉันไม่ใช่กุมารทองซะหน่อย คนนะยะ ไม่ใช่อั๊บดุล!!!”
จามจุรีสูดยาดมปี๊ดๆ
“ตะกี้คุณว่าอะไรนะ??”
“เรียนคุณด้วยความเคารพนะคะท่านรองฯ ดิฉันคิดว่าคนที่จะตอบคำถามของท่านรองฯได้ดีที่สุดไม่ใช่ดิฉันแต่น่าจะเป็น”
นัครินทร์สวน “ใคร? ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร??”
ทันใดนั้นปาริฉัตรเปิดประตูผลัวะหน้าตายุ่งยากเข้ามาพอดี ทุกคนหันขวับมอง จ้องเป็นตาเดียวกันประกายเดือนยิ้ม แล้วประกาศ “คุณปาริฉัตร!!”
ปาริฉัตรตาวาวก่อนจะหน้าจ๋อย “คุณฉัตร!! ตกลงยังไงฮะ?? พี่คินไปไหน??”
“เอ่อ..เอ่อ”
นัครินทร์ตวาด “เอ๊า!! มัวแต่ติดอ่างอยู่นั่นแหละ!! ตอบมาเร็ว ๆ ผมหิวข้าว!!”
ปาริฉัตรสะดุ้งกลัว “ค่ะ ๆๆ ..คือ..ดิฉันไม่ทราบจริง ๆ ค่ะว่าท่านประธานไปไหน ดิฉันพยายามติดต่อแล้วแต่ว่าติดต่อท่านประธานไม่ได้”
“จะบ้าเหรอ?? นี่คุณเป็นเลขาฯประสาอะไรฮะ ติดต่อเจ้านายไม่ได้เลิกประชุม!! ไม่ประชุม!! ไม่มีการประชุม!!” นัครินทร์พูดจบก็เดินออก ปล่อยให้ในห้องอื้ออึง
ปาริฉัตรจ้องประกายเดือนยังกับจะฆ่า ประกายเดือนลุกขึ้นจะเดินตามนัครินทร์ออกไป ปาริฉัตรก้าวมาขวางไว้ 2 คนจ้องหน้ากัน ประกายเดือนทำแบ๊วใส่
ปาริฉัตรอ้าปากเตรียมจะลุย แต่จามจุรีพูดขึ้นก่อน “ปาริฉัตร”
ปาริฉัตรชะงัก ประกายเดือนหลิ่วตาให้ก่อนจะเบี่ยงตัวออกไป
จามจุรีปรี่มาหา น้ำเสียงห่วงใย “ท่านประธานไม่เคยเป็นอย่างนี้นะ..เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า โอย ๆ..ทำไงดีเนี้ย??.. ฉันจะเป็นลม!!” จามจุรีสูดยาดมปิ๊ดดด
ปาริฉัตรคิดเป็นกังวลก่อนจะหันไปจิกตาทางที่ประกายเดือนเดินออกไป
ในห้องทำงานนัครินทร์ นัครินทร์พุ่งพรวดมานั่งเก้าอี้โครม!! อย่างคุณหนูอารมณ์เสีย หงุดหงิดชะเง้อซักพัก เอ๊ะ! ทำไมเลขาฯ ยังไม่ตามเข้ามาก็ปรี่จะลุกออกไปตาม แต่นึกได้ ไว้ฟอร์ม กลับมากดประกาศเรียกดีกว่า
“คุณเลขาฯ!! เข้ามาหาผมด่วน!!!” กดเสร็จนัครินทร์ก็เดินหงุดหงิดไป ตั้งใจจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา แต่บังเอิญได้ยินเสียงประกายเดือนเคาะประตูและเปิดประตูผลัวะเข้ามาทันที นัครินทร์ตกกะใจ กะผิดหล่นโครมลงกับพื้น
“ว๊าย!!!”
นัครินทร์รีบปีนขึ้นนอนบนโซฟาหน้าตาเลิ่กลั่ก
ประกายเดือนมองงง ๆ “ท่านรองฯคะ..เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
นัครินทร์เก๊กไก๋ “ใคร? ใครเป็นอะไร?”
ประกายเดือนเหล่ รู้แระ “ก็ท่านรองฯไงคะ ตะกี้ทำท่าเหมือนหล่นโซฟานะคะ??”
“หล่นโซฟา?? บ้า!! ใครหล่นโซฟาฮะ?? ตาถั่วแล้วฮะ ไปหาหมอตัดแว่นได้แล้วฮะคู้ณณ”
ประกายเดือนเบะปาก ไม่อยากต่อความ “อ่ะ..ตกลงเรียกหาดิฉัน มีอะไรให้รับใช้คะ?”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 6/2 วันที่ 23 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ