@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 13/4 วันที่ 7 พ.ค. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 13/4 วันที่ 7 พ.ค. 57

"เจ๊ยังเคยกอดกับไอ้โน แนบแน่น นมเบียดแผงอกมันแบบนี้แหละ บ.ก." เจ๊ฟูบอก
"บ.ก.คะ...อย่าหวั่นไหวค่ะ อย่าตัดสินเพียงแค่ภาพที่เห็น"
"จริงครับ พี่เมเปิ้ล...สาเหตุใหญ่ที่คนรักกันทะเลาะกัน เพราะชอบเข้าใจผิดแบบนี้แหละ" ดรณ์ว่า
"แล้วฉันต้องทำยังไง"

"ทำยังงี้ไงเพ่!" ชาโนตะโกนใส่กฤษฎากับน้ำฟ้าเลย "จะกอดกันทำไมเนี่ย"
ทุกคนตกใจ "ไอ้โน!"

กฤษฎากับน้ำฟ้าหันขวับมามอง ไทเกอร์ ดรณ์ หยาดทิพย์ และชาโน พร้อมใจกันหลบหายไปทันที เหลือแค่เมธาวลัยยืนอยู่คนเดียว ทั้งสองฝ่ายต่างมองกันอึ้ง!
วายุบุตรกอดณัฎฐาลินีอยู่ เห็นเธอเงียบไป เรียกเบาๆ


"ลินี"
ไม่มีเสียงตอบรับ เขาเขย่าเบาๆ ปรากฏว่าเธอโงยเงนหลับไปแล้ว
"เอ๊า...ร้องไห้จนหลับไปเลย"
เขายิ้มขำ ค่อยๆอุ้มเธอขึ้นมา พาออกไปจากห้องน้ำอย่างทนุถนอมอย่างที่สุด
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ห่มผ้าให้ จะเดินออกไป แต่เปลี่ยนใจ อยู่เฝ้าดีกว่าเขาลงนั่งอีกข้างของเตียงที่ว่างอยู่ กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน

เมธาวลัยยังยืนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม กฤษฎารีบผละจากน้ำฟ้าทันที เธอหน้าเสีย
"คือ...เอ่อ"
เมธาวลัยพยายามแก้เก้อ
"คือ เอ่อ...ฉัน ไม่ได้ ตะโกนนะเมื่อกี้ คือ...พวกมัน"
"พวกไหนครับ"
เธอมองหาพวก แต่ไม่เห็นใคร ไทเกอร์ เจ๊ฟู หยาดทิพย์ เจ๊ฟู นอนหมอบอยู่กับพื้น หลังพุ่มไม้ใกล้ๆ
"สงสัย...คงไปตายกันหมดแล้ว"
ทุกคนสะดุ้ง เธอเซ็งมากที่ถูกทิ้งทุ่น
"คุณเมเปิ้ล มีธุระอะไรกับพวกเราหรือเปล่าคะ"
เธอรวบรวมความกล้า
"มี...แต่ไม่ได้มีกับเธอ"
น้ำฟ้าอึ้ง พวกของไทเกอร์สะใจ
"แปลว่า...ฉันคือส่วนเกินสินะ"
"ใช่! ฉันมีบางอย่างที่ต้องถามกฤษฎา และเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันสองคนเท่านั้น"
น้ำฟ้าอึ้ง
"ขอโทษนะฟ้า"
น้ำฟ้าเจ็บปวด ยิ้มให้กับทั้งคู่ เธอค่อยๆถอยออกไป กฤษฎามองอย่างเห็นใจ ชาโนจะคลานหนีไป แต่หยาดทิพย์คว้าคอเอาไว้
"จะไปไหน"
"ไม่ได้ยินหรือไง บ.กบอกว่าจะคุยกันสองคน"
"ได้ยิน แต่ด้อนแคร์นะ...ฉันจะอยู่ช่วยลุ้น ขอให้ได้ ขอให้โดน" ไทเกอร์ว่า
ทุกคนถาม "โดนอะไร!"
"ชู่ว์!"
เขาหันมองว่าเสียงดังมาจากไหน แต่เธอรู้ดีว่าพวกไทเกอร์ยังอยู่แถวนี้ เลยจูงเขาออกไปทันที โดยที่พวกของไทเกอร์ไม่ทันรู้ตัว
"ทำไมเสียงเงียบไป หรือว่า...กระโจนเข้าใส่กันแล้ว ไม่ต้องคุย"
ทุกคนโผล่หัวขึ้นไปดู แต่ไม่เห็นทั้งสองคนแล้ว ทุกคนเสียดาย

พีศทรรตยังนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งใกล้ชายหาด แต่สงบอารมณ์ได้แล้ว ปินัทธายังร้องไห้ไม่หยุด ปาดน้ำตาป้อยๆ ด้วยความสงสาร เขาชะงัก ได้ยินเสียงสะอื้นเล็กๆ งิ้ดๆ ดังมาจากข้างหลัง เลยลุกขึ้น เหยียบใบไม้เสียงดังกรอบแกรบ เธอสะดุ้ง ตาลีตาเหลือกหาที่หลบทันที
พีศทรรตเดินเข้ามา แต่ไม่เห็นน้ำผึ้งแล้ว
"เหมือนหมาที่ไหนมานั่งร้องไห้"
น้ำผึ้งนั่งเหมือนหมาหมอบ หลบอยู่ เธอพูดเบาๆ
"ว่าฉันเป็นหมา"
เขาเดินออกไป น้ำผึ้งงอน ปาดน้ำตา หยุดร้องไห้ หยุดเสียใจแทน
"ไม่น่าเสียน้ำตาให้เลย พับผ่าสิ"
เธอคลานออกมาจากที่ซ่อน มองตามหลังเขาที่กำลังเดินออกไป สายตาอ่อนลง แต่ก็กลับมาถือดีอีกครั้ง
"ฉันจะไม่ใจอ่อน คุณจะเป็นยังไง จะช้างจะควาย มันก็เรื่องของคุณ"

เมธาวลัยลากกฤษฎาหลบมาที่มุมหนึ่ง เขาตัดสินใจยึดมือของเธอเอาไว้ แล้วฉุดไว้ให้หยุด เธอเซ จนต้องเกาะแขนเขาเอาไว้
"อุ๊ย!"
เธอเขินรีบผละออก กฤษฎาจ้องเธอนิ่ง
"โอเค คุยตรงนี้ก็ได้ ฉันมีเรื่องจะถามเธอ"
กฤษฎา รีบพูดขึ้นมาทันที
"ผมรักคุณ"
เธออึ้ง ค้าง ช็อก
"ผมรักคุณ"
เธอพูดอะไรไม่ออก
"แล้วคุณล่ะครับ"
เธอใจสนั่นอย่างแรง ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก วิ่งหนีออกไปเลย
"คุณเมเปิ้ล"
กฤษฎาวิ่งตามเธอไปทันที

เธอวิ่งเข้าห้อง แล้วปิดประตู เขาวิ่งตามมาไม่ทัน เขาเคาะประตูห้อง
"คุณเมเปิ้ล คุณเมเปิ้ล"
เธอยืนตื่นเต้นตัวแข็งพิงประตู ก่อนระงับความตื่นเต้น แล้วตัดสินใจเปิดประตูออกไป เผชิญหน้ากัน
"พูดผิดพูดใหม่ได้นะ ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง"
"ผมรักคุณ"
"ฉันหูเฝื่อนไปแน่ๆ เธอน่ะเหรอรักฉัน ผู้หญิงที่แก่กว่าเป็นสิบปี ปากร้าย ใจดำ เผด็จการ ฉันมองไม่เห็นเหตุผลที่เธอจะรัก ฉันได้เลย"
"ก็เพราะมันไม่มีเหตุผลไงครับ จะรักใครไม่ต้องมีเหตุผล"
"ต้องมีสิ! มันต้องมี ฉันเกลียดยัยน้ำฟ้านั่นยังมีเหตุผลเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มันต้องมีเหตุผล"
"แต่ผมไม่มี! ผมรู้แค่ว่าผมรักคุณ แล้วมันก็โคตรงี่เง่าเลย ไม่รู้รักคนอย่างคุณเข้าไปลงได้ยังไง แก่ก็แก่กว่า ปากร้าย ใจดำ เผด็จการ ยิ่งกว่าแม่ผมอีก ให้ตายเหอะ"
เธออึ้ง
"ถ้าไม่รัก ไม่รู้สึกอะไร ก็บอกมาเลย ไม่ต้องมาถามหาเหตุผล"

เขาเดินหนีด้วยความฉุน แม้แต่ช่วงโรแมนติกสารภาพรัก เธอก็ยังจะเรื่องมาก
กฤษฎาเดินมาอย่างผิดหวัง หงุดหงิด

"ผู้หญิงอะไร"
"กฤษฎา!"
กฤษฎาหันไป...เมธาวลัยยืนอยู่
"ไอ้เด็กบ้า"
"คุณก็บ้า! นี่ยังตามมาด่าผมอีกเหรอ"
"เออ! เพราะเธอมันเป็นเด็กบ้าที่เข้ามาป่วนชีวิตฉัน ทำให้ชีวิตฉันสับสนยุ่งเหยิง ไม่เป็นอย่างที่เคยเป็น..."
กฤษฎาอึ้ง

ภาพต่างๆในอดีตผ่านเข้ามา - - ครั้งแรกที่เธอและเขาสบตากันจั๋งๆครั้งแรกเพราะเมเปิ้ลทำกาแฟหก
"ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง"
เธอแต่งตัวกระชากวัยลดอายุตัวเองเดินเข้ามาในออฟฟิศ
"และประสิทธิภาพในการทำงานของฉันมันก็ลดลง"
เมธาวลัยเดินคุยโทรศัพท์ด้วยความเคร่งเครียดในห้องทำงาน แล้วหันมองออกนอกห้องทำงาน เห็นเขากำลังคุยกับหยาดทิพย์ เจ๊ฟู อิ๋ว ชาโนอย่างร่าเริง กฤษฎาหัวเราะสดใส นัยน์ตาเป็นประกาย เธออึ้ง มองเคลิ้ม ยิ้มตามไปกับกฤษฎา
"ฉันเห็นแต่หน้าเธอ ลอยไปลอยมา เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ"
เธอสะดุ้งจากภวังค์ รีบพูดโทรศัพท์ต่อ แต่ก็ยังมองเขาอย่างไม่วางตา ยิ้มไปคุยงานไป
กฤษฎาหัวเราะร่วน เมธาวลัยยิ่งยิ้มกว้าง
"โลกสีเทาของฉัน...มันก็ไม่ได้เป็นสีเทาอีกต่อไป เธอเหมือน...แสงอาทิตย์เข้ามาทำให้โลกของฉันสว่างและสดใส"
เธอยืนคุยมือถืออยู่ในห้องที่ค่อยๆสว่างขึ้น สดใสขึ้น วิ้งๆ

มุมหนึ่งรีสอร์ต กฤษฎายืนอึ้งอยู่
"ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นแค่ความเผลอไผล แค่อารมณ์ชั่ววูบ ฉันควรจะเปิดใจให้กับคนวัยเดียวกับฉัน ไม่ใช่เด็กอย่างเธอ"
"เด็กกว่าแล้วไง"
"ฉันยังพูดไม่จบ"
กฤษฎาอึ้ง ยอมอดทนฟังต่อไป
"แต่ฉันคิดผิด เธออาจจะอายุน้อยกว่าฉัน แต่เธอกลับมีความคิด มีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉัน"

ในอดีต เธอถูกทุ่มลงบ่อน้ำพุหน้าผับวายุบุตร
"เวลาที่ฉันเป็นบ้า เธอคือคนที่หยุดฉัน"
กฤษฎาที่คอยอยู่เคียงข้างเมเปิ้ลในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา
"เวลาที่ฉันมีเรื่องวุ่นวายเธอคือคนที่อยู่เคียงข้างฉัน ช่วยจัดการปัญหา"
เมื่อเขาและเธอสองคนในยามค่ำคืน
"เวลาที่ฉันไม่มีใคร เธอคือคนที่จะอยู่กับฉัน...จนนาทีสุดท้าย"

เธอยังคงอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
"รู้ตัวอีกที ฉันก็มาอยู่ที่นี่ ยอมทิ้งเหตุผลมากมายที่บอกว่า ฉันไม่สมควรจะรักเธอ มาเพื่อจะทำให้เธอรักฉันให้ได้ และฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปให้ใครเด็ดขาด เพราะเธอคือรักครั้งแรก และจะเป็นรักครั้งสุดท้ายของฉัน เห็นมั้ย ว่ามันมีเหตุผลมากมาย ถ้าเราจะตกหลุมรักใครสักคน"
เขาอึ้ง ดีใจ ตื้นตันที่เธอบอกรัก
"ใช่...มันต้องมีเหตุผลที่เราจะตกหลุมรักใครสักคน ผมรู้แล้วว่าเหตุผลของผมคืออะไร แต่เหตุผลที่ผมรักคุณมีอยู่ข้อเดียวเท่านั้น ไม่ได้เยอะแยะมากมายเหมือนคุณ"
"ว่าฉันเยอะ?"
"ผมรักคุณ...เพราะคุณเป็นอย่างนี้นี่แหละ! คุณเป็นคุณ และนี่ก็คือสิ่งที่ผมหลงรัก ผมหาเหตุผลอะไรอื่นไม่ได้อีกแล้ว"
เธอสิ้นข้อสงสัย เข้าไปกอดเขาเอาไว้ทันที
"ตอนนี้ ฉันไม่กลัวแล้ว แค่เธอรู้สึกเหมือนฉัน แค่นี้ก็พอ"
เธอยิ่งกอดเขาแน่น ก่อนจะรู้สึกว่า ทำไมกฤษฎาไม่กอดตอบ
"ไหนบอกว่ารักฉัน ฉันกอด แล้วทำไมไม่กอดตอบ"
"ผมไม่กอดคุณหรอก"
เธอแปลกใจ เงยหน้ามอง กฤษฎาสบตาหวานซึ้ง
"แต่ผมจะทำแบบนี้"
กฤษฎาค่อยๆ โน้มเข้าไปประทับจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา เธอหลับตาพริ้ม

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 13/4 วันที่ 7 พ.ค. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตรา
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ