อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4/3 วันที่ 20 พ.ค. 57
จามจุรีหันไปเห็นเป็นนัครินทร์ บนหน้ามีรอยเล็บขีดข่วนเห็นได้ชัดทั้ง 2 แก้ม เดินหน้านิ่ว อารมณ์เสีย จ้ำๆๆ เข้ามา จามจุรีตกใจมาก ขยี้ตา“คุณนัค? คุณพระ!! ตาดิฉันฝาดไปรึเปล่า นี่คุณนัคมาทำงานแต่เช้าได้ยังไงคะเนี่ย??”
“เห็นเลขาฯผมมั้ย? เห็นประกายเดือนมั้ย?!!”
มอลลี่และลูกกอลฟ์ เริ่มตีล้อมเข้ามาอย่างสาระแน
จามจุรีสนใจแก้มนัครินทร์มากกว่า “อุ๊ย!! หน้า คุณนัคไปโดนแมวที่ไหนข่วนมาคะ?”
นัครินทร์รีบตะปบหน้า ตะเบ็งเสียงลั่น “ผมถามว่าเห็นเลขาฯผมมั้ย? ทำไมป่านนี้ยังไม่มาทำงาน??”
“นั่นสิคะ?? ตะกี้ก็เพิ่งถามอยู่ตกลงว่าเลี้ยงแมวตั้งแต่เมื่อไหร่คะ??”
นัครินทร์ตะปบหน้าตัวเองใหม่ ตวาด “แมวบ้าอ่ะสิ ก็เพราะเธอนั่นแหละ”
นัครินทร์ฟ้องคุณจามจุรี “คุณจามจุรีต้องจัดการให้ผมนะ ที่หน้าผมเป็นอย่างนี้ก็เพราะคุณเลขาฯของผมนี่แหละ”
“ห๊า?!”
“เพราะดิฉัน??”
“ใช่!! ก็เมื่อคืนนี้ไง”
“เมื่อคืนนี้?” ทุกคนพูดพร้อมกัน ยกเว้นปาริฉัตรมองอย่างเดียว
“ใช่!! เมื่อคืนนี้!! ที่คุณทิ้งผมไว้คนเดียวไงคุณเลขาฯ”
“ทิ้งไว้คนเดียว?” ทุกคนพูดพร้อมกัน
“อะไรๆๆ คะ?!! พูดให้มันชัดๆ เคลียร์ ๆ หน่อยนะคะท่านรอง เดี๋ยวชาวบ้านแถวนี้จะเข้าใจผิด”
“ก็ไม่จริงเหรอ? เมื่อคืนคุณทิ้งผมไว้ ผมก็เลยเป็นอย่างนี้ไง? ไม่รู้ล่ะ..คุณเลขาฯ คุณต้องรับผิดชอบ!!”
“ทิ้งไว้คนเดียวที่ไหน ทิ้งให้คุณอยู่กับแม่นักร้องเกาหลีกับแม่ดาราฝรั่ง ดิฉันต้องรับผิดชอบด้วยเหรอคะ? แหม..นึกว่าจะได้รับความดีความชอบซะอีก”
“อ้าว!! ตกลงเรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เองเหรอคะคุณนัค?!”
ทุกคนจ้องนัครินทร์กันตาแป๋ว
“เอ่อ..ก็..คือ.. มองอะไร..ทำไมไม่ไปทำงานกัน..แย่จริง!!!” นัครินทร์ชี้ประกายเดือน “คุณด้วย!! ไปทำงาน!!!” นัครินทร์พูดจบก็เดินยัวะๆ กลับไป
“ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ประกายเดือนม้วนตัวออก
มอลลี่และลูกกอล์ฟ สุมหัวเม้าท์เมามัน
“เฮ้อ! มนุษย์หนอ..ปวดหัวหนอ..ดูซิ..ท่านรองฯก็อย่างนี้ แล้วนี่ท่านประธานก็ยังไงเนี่ย ป่านนี้จะไปทำอะไร? อยู่ที่ไหน? อยู่กับใคร? ก็ไม่รู้”
ปาริฉัตรอึ้ง
ห้องนอนคอนโด ปานตะวัน นอนหลับสวยพริ้มอยู่บนเตียง ซักพักเริ่มรู้สึกตัวแล้วเหมือนได้กลิ่นอะไรซักอย่างก็เลยลุกขึ้นงง ๆ งัวเงีย “โห..ทำอะไรกินแต่เช้าเนี่ย”
ปานตะวันยิ้ม ๆ หันไปมองนาฬิกา 9 โมงกว่าแล้ว ปานตะวันตกใจ “จะ 10 โมงแล้ว ทำไมเดือนยังไม่ไปทำงาน??” ปานตะวันส่ายหน้าแล้วลุกออกไป
ที่ห้องนั่งเล่นครัวคอนโดปานตะวัน หม้อซุปเดือดพล่านอยู่บนเตาในส่วนครัวฝรั่ง ปานตะวันเดินออกมาจากห้องนอน “เดือน!! เดือน!!”
ปานตะวันเห็นหม้อซุปก็ตกใจจะรีบวิ่งไปปิด “ตายแล้ว!! ทิ้งไว้อย่างนี้ได้ยังไง”
ปานตะวันเอื้อมมือจะปิดสวิชท์เตาแต่มีมือใครคนนึงคว้าหมับเอาไว้ ปานตะวันหันมองขวับ หน้านาคินทร์จ่ออยู่ใกล้ ๆ “คุณ!!!”
นาคินทร์ยิ้ม “อย่าเพิ่งครับ”
ปานตะวันยังอึ้งงงอยู่ นาคินทร์มองตาโอบเอวปานตะวันมาใกล้ “ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบ ต้องเคี่ยวให้เปื่อยอีกซักนิด น้ำซุปจะได้หวาน”
ปานตะวันรีบดึงมือและดันตัวเองออกจากนาคินทร์ “คุณ..คุณมาทำไม? แล้วคุณเข้ามาได้ยังไง?”
นาคินทร์ทำชิลด์ หันไปหรี่ไฟแล้วคนซุปชิม “อืมม์...ยังไม่หวานจริง ๆ ด้วย สงสัยต้องเคี่ยวอีกนาน”
“คุณนาคินทร์คะ..ฉันถาม”
นาคินทร์หันมาตอบทันที “เอาคำถามที่ 2 ก่อนนะครับ ผมเข้ามาได้ยังไง?” นาคินทร์ชูการ์ดขึ้น ยิ้ม “ลืมไปแล้วเหรอครับว่าผมเป็นเจ้าของห้องนี้”
ปานตะวันอึ้ง “แต่มันจะกลายเป็นห้องของคุณทันทีที่คุณทำให้ยัยนารถน้องสาวของผมเดินได้และนั่นก็เป็นที่มาของคำตอบสำหรับคำถามแรกของคุณที่ว่า..ผมมาทำไม?”
ปานตะวันอึ้งอีก นาคินทร์เดินมายื่นหน้าเข้ามาใกล้ “เก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยรึยังครับ? ทานข้าวเช้าเสร็จ ผมจะพาคุณไปบ้านผมทันที”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ยิ้ม หันไปคว้ามีดหั่นหอมหัวใหญ่ฉับๆ “แต่ตอนนี้ นอกจากซุปแล้ว ผมคิดว่าจะทำ ข้าวผัดให้คุณทานด้วยจะได้อยู่ท้องหน่อย เพราะนี่ก็เกือบจะสิบโมงแล้ว” นาคินทร์ทำจมูกฟุดฟิด ยกแขนขึ้นเช็ด ๆ น้ำตา “เป็นอะไรไปคะ..คุณนาคินทร์”
นาคินทร์แสบ ๆ ตา สูดน้ำมูกฟุดฟิด “ปะ..เปล่าครับ ไม่เป็นไร”
ปานตะวันหลุดขำกิ๊ก “น้ำตาไหลขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่เป็นไร มาค่ะ..เดี๋ยวตะวันจัดการเอง”
ปานตะวันคว้ามีดจากมือนาคินทร์มาหั่นหอมหัวใหญ่เองอย่างคล่องแคล่ว
นาคินทร์มองอย่างทึ่ง “ทำไมคุณไม่เห็นแสบตาแบบผมเลยล่ะครับ?”
ปานตะวันยิ้มน้อย ๆ “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ตะวันไม่เคยมีปัญหา”
นาคินทร์ยิ้ม “คุณแม่ผมมักจะบอกอยู่เสมอว่า ถ้าจะหาสะใภ้เข้าบ้าน ต้องแอบดูเวลาที่เขาหั่นหัวหอมถ้าเกิดร้องไห้เวลาหั่นล่ะก้อห้ามแต่งเข้าบ้านเด็ดขาด เพราะผู้หญิงคนนั้นจะดูแลครอบครัวไม่ได้”
ปานตะวันชะงักกึกทันที หันมองนาคินทร์ที่จ้องตาอยู่!! จ้องกันซักพัก ปานตะวันรีบเคลียร์สถานการณ์“ขอไข่หน่อยได้มั้ยคะ?”
นาคินทร์ตาโต “อะไรนะครับ?!”
ปานตะวัน หน้าแดง “ฉัน..หมายถึง..เอ่อ..จะทำข้าวผัดไม่ใช่เหรอคะ? ก็น่าจะ..เอ่อ..ใส่ไข่ด้วย”
นาคินทร์ยิ้มแฉ่ง “อ๋อ..ครับ!! ผมจัดการให้เอง”
นาคินทร์หยิบไข่ชูให้ปานตะวันดู ปานตะวันหลบตาอาย นาคินทร์ยิ้มชอบใจ นาคินทร์ต่อยไข่แล้วตี ๆๆ อย่างชำนาญ ปานตะวันแอบค้อน
ปานตะวันรวบช้อน ทานอิ่มแล้ว
“อิ่มแล้วเหรอครับ? ไม่อร่อยเหรอครับ?”
“อร่อยค่ะ อร่อยมาก แต่มื้อเช้า..ฉันทานไม่ค่อยเยอะ”
นาคินทร์ส่ายหน้า “เป็นพยาบาลซะเปล่า ไม่ทราบเหรอครับว่าอาหารที่สำคัญที่สุดคืออาหารเช้า”
ปานตะวันแอบค้อนนิดๆ“ทราบค่ะ แต่..ฉันไม่ค่อยมีเวลาหรอกค่ะ ที่ผ่านมาต้องดูแลคนไข้แต่เช้า”
“งั้นต่อไปนี้..ผมจะทำอาหารเช้าให้คุณทานทุกวัน”
ปานตะวันอึ้ง หลบตาจะพูดต่อ “เอ่อ”
“อาบน้ำแต่งตัวเถอะครับ เราจะได้ไปบ้านผมกัน ตามสัญญาของเรา”
ปานตะวันชะงัก!! แต่นาคินทร์ยิ้มให้อย่างไม่มีอะไรผิดปกติ “ไปสิครับ ป่านนี้ยัยนารถคงรอคุณแย่แล้ว”
ปานตะวันถอนใจเฮือก “ค่ะ”
ปานตะวันค่อย ๆ ลุกขึ้นไปเข้าห้องไป นาคินทร์มองตาม รอยยิ้มค่อย ๆ หายไป เหลือแต่ใบหน้าเยือกเย็น
ที่บ้านไกรตระกูล สาวิตรีตื่นเต้นเดินไปเดินมาสวนสนามกับใบตองที่เดินไปชะเง้อไป ในขณะที่นารถนรินทร์นั่งรออยู่บนรถเข็น ซักพักสาวิตรีชนโครมกับใบตอง
“ว๊าย!! นี่แม่ตอง ตื่นเต้นอะไรนักหนานะ แค่คุณคินจะพาหนูตะวันมาอยู่บ้านเราแค่นี้ ทำไมต้องทำเป็นตื่นเต้นขนาดนี้”
“โห..คุณผู้หญิงขา..คุณผู้หญิงก็คือกันกับใบตองล่ะค่า”
“อะไร? นี่แกมาโทษฉันเรอะ?”
นารถนรินทร์ดีใจ “พี่คินมาแล้ว!!!”
สาวิตรีดีใจ “มาแล้ว ๆ”
รถนาคินทร์เลี้ยวเข้ามาจอด นาคินทร์และปานตะวันลงมาจากรถ
นารถนรินทร์รีบบอกเสียงดัง “ยินดีต้องรับสู่บ้านไกรตระกูลอย่างเป็นทางการนะคะพี่ตะวัน”
ปานตะวันเขินๆ ด้วยความเจียวตัว “ขอบคุณค่ะ”
ปานตะวันพูดกับสาวิตรี “สวัสดีค่ะ..คุณผู้หญิง”
“อะไรกัน เรียกคุณแม่ว่าคุณผู้หญิงได้ยังไง”
“แม่นล่ะค่ะ ‘คุณผู้หญิง’ น่ะเก็บไว้ให้ใบตองเรียกส่วนคุณตะวันน่ะต้องเรียก ว่าอะไรดีคะ?”
ปานตะวันอึ้ง ๆ นาคินทร์ยิ้ม ๆ
“คุณแม่สิคะ พี่ตะวันต้องเรียกคุณแม่ว่า ‘คุณแม่’”
ปานตะวันตกใจ “คงไม่สมควรหรอกค่ะคุณนารถ”
“นั่นไง!! เมื่อวานก็เพิ่งจะตกลงกันว่าจะเรียกนารถว่า ‘น้อง’ ไม่ทันไรเลย ลืมซะแล้ว”
“เอ่อ..ขอโทษด้วยค่ะ”
“ก็ในเมื่อนารถเป็นน้องสาวพี่ตะวันแล้วคุณแม่ของนารถก็ต้องเป็นคุณแม่ของพี่ตะวันด้วยจริงมั้ยคะคุณแม่”
“นั่นสินะ ต่อไปนี้ตะวันต้องเรียกแม่ว่าคุณแม่อย่างที่ยัยนารถบอกแล้วนะจ๊ะ”
ปานตะวันอึ้ง หันมองนาคินทร์ นาคินทร์ยิ้มแฉ่ง “ผมเห็นด้วย 1000 เปอร์เซ็นต์”
ปานตะวันจ๋อย
“ไหนจ๊ะ..ลองเรียกแม่ว่า ‘คุณแม่’ หน่อยสิจ๊ะ”
ปานตะวันลำบากใจ ก่อนจะจำยอม “คะ..คุณแม่”
ทุกคนดีใจปลาบปลื้ม
“ยินดีต้อนรับลูกสาวคนใหม่ของเรานะจ๊ะ” สาวิตรีลูบผมตะวันอย่างเมตตา ตะวันแอบซาบซึ้งกับความอบอุ่นแบบนี้ที่ขาดหายจากชีวิตไปนานแล้ว
ปานตะวันค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ปานตะวันยกมือไหว้ “ขอบพระคุณค่ะ”
ทุกคนยิ้มแย้ม ปานตะวันเหลือบมองนาคินทร์ นาคินทร์มองอยู่ด้วยสายตาปลื้มปริ่มเช่นกัน ปานตะวันใจชื้น หมดกังวล
ที่บริษัท KTK ประกายเดือนได้รับโทรศัพท์จากปานตะวันก็ดีใจสุดขีด
“จริงเหรอตะวัน?? เห็นมั้ยเค้าบอกตะวันแล้วว่าอย่าคิดมาก เห็นป่ะ..ว่าทุกอย่างมันเริ่ด!!!”
“จริง..เริ่ดเกินไปซะด้วยซ้ำ” ปานตะวันพูดจบก็กวาดตามองทั่วห้อง “ห้องนอนพี่น่ะ..มัน..น่ารักมาก”
“ว้าว!!! อยากเห็นจัง ถ่ายรูปส่งมาดูหน่อยสิ”
“บ้า!! ไม่ดีหรอก บ้านคนอื่นเค้า”
“คนอื่นที่ไหนกัน เออ..นี่..บ้านน่ารักแล้ว..แล้วคนล่ะ คุณพ่อคุณแม่แล้วก็น้องท่านประธานน่ารักรึเปล่า?”
“คุณพ่อยังไม่เจอ แต่คุณแม่แล้วก็น้องนารถน่ารักมาก”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4/3 วันที่ 20 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ