อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 15/3 วันที่ 1 มิ.ย. 57
“คนไข้ต้องให้เลือด โรงพยาบาลขาดเลือดกรุ๊ป AB คุณหมอเป็นคนบริจาคเลือดให้เองค่ะ”พิงค์อึ้ง ปานตะวันอึ้ง “คุณอัค??”
อัครินทร์เซ็ง..ที่ทำดีไปก็ไม่ได้อยากบอกให้ใครรู้ ปานตะวันมองหน้าอัครินทร์แบบ..พูดไม่ออก
ในห้องพักคนไข้ พิงค์นั่งลง หน้าจ๋อยสนิท หน้าตาเป็นเด็กน้อยอ้อมแอ้มรับผิดเสียงอ่อย แต่ยังจะดื้อทำเสียงเขียว “ฉัน..ขอโทษ...ก็ได้!!”
อัครินทร์ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจกับความเยอะของพิงค์ หันมาเจอสายตาปานตะวันจ้องมองอยู่
ปานตะวันซึ้งใจ “คุณอัค..ขอบคุณมากนะคะ ฉัน..ฉันไม่รู้จะพูด จะขอบคุณคุณยังไงดี”
อัครินทร์รีบแทรกเสียงดังเลย “คุณเจื้อยครับ!!”
พยาบาลสะดุ้ง “คะ..คุณหมอ??”
“คนไข้โอเค.แล้ว ไปดูห้องต่อไปกันดีกว่าครับ
พยาบาลเสียดาย เม้าท์ค้าง..แต่ก็.. “ค่ะ”
อัครินทร์รีบดันหลังพยาบาลออกจากห้อง ก่อนจะหันมาบอกปานตะวัน “พักผ่อนเยอะๆนะครับ” อัครินทร์หันไปทำหน้าดุใส่พิงค์ “อย่ารบกวนคนไข้มากนัก”
พิงค์หน้าเหวอ อัครินทร์ออกไปพ้นประตู สองสาวกรูล้อมปานตะวันทันที รุมถามเซ็งแซ่ยังกะนกกระจอกแตกรัง สองคนพูดพร้อมๆกันเลย
“ตะวัน!! ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ? ใครทำอะไรตะวัน? ทำไมตะวันถึงล้ม? ล้มได้ยังไง?”
“ตะวัน!! คุณนาคินทร์ทำอะไรตะวัน ? นี่มันแรงมากนะถึงกับต้องให้เลือด ? อย่าโกหกเพื่อนนะตะวัน..บอกมานะ”
ทันใดนั้น อัครินทร์เปิดประตัวผลัวะ เสียงดุดังแต่ไม่เข้ามา “ผมบอกว่าอย่ารบกวนคนไข้!!!” สองสาวฟรีซ อ้าปากค้าง “ยังไม่เชื่อฟัง ผมจะสั่งห้ามเยี่ยม!!!”
สองสาวจ๋อย อัครินทร์มองเอาจริงแป๊บนึง แล้วปิดประตู สองสาวสำรวมขึ้นทันตา หันมองหน้ากัน พยักเพยิดใส่กันว่าใครถามก่อน
ในที่สุดก็ประกายเดือน ประกายเดือนมองพี่ น้ำตาจะหยด “เจ็บมากมั้ยตะวัน”
ปานตะวันพูดไม่ออก เจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ แต่ก็บอกไปว่า “ไม่..พี่ไม่เจ็บ”
“ใครทำตะวัน??”
“ก็ลื่นล้ม”
“ลื่นล้มอะไรจะขนาดนี้? ตะวันจะโกหกเค้าทำไม? ตั้งแต่เล็กจนโต เราไม่เคยโกหกกัน แล้วนี่ไอ้คนที่รังแกตะวันมันเป็นใคร ทำไมตะวันถึงต้องปกป้องมันถึงขนาดนี้??”
ปานตะวันอึ้งไป หลบตา พิงค์มองอาการปานตะวัน แล้วคิด
มุมหนึ่งรพ.แถวหน้าห้องคนไข้ อัครินทร์เดินมากับพยาบาลคนเดิม “ฉันไปจัดยาเลยนะคะ”
“เดี๋ยวครับ” พยาบาลชะงักรอฟัง “การรักษาความลับคนไข้เป็นสิ่งสำคัญนะครับ”
พยาบาลจ๋อย รู้ตัว เสียงอ๋อย “ค่ะ..แต่”
“ไม่มีแต่ครับ มันเป็นจรรณยาบรรณ วิชาชีพ”
“ค่ะ..ดิฉันจะไม่ทำอีกค่ะ”
“ดีครับ ขอบคุณครับ”
พยาบาลรีบแยกไป อัครินทร์ถอนใจเฮือก เดินต่อแล้วสะดุ้งโหยง เมื่อพิงค์โผล่มาขวางหน้า
“เฮ้ยยย!!”
พิงค์จ้องหน้า อัครินทร์อ่อนใจ
มุมหนึ่งแถวดาดฟ้า อัครินทร์และพิงค์ยืนอยู่เห็นวิว
“พี่ชายคุณใช่มั้ย?”
อัครินทร์เฉไฉ “โรงพักไหนส่งมาเนี่ย?”
“ก็ถ้าไม่ตอบ เรื่องก็อาจจะถึงคุณตำรวจ”
“โห..มีขู่”
“ไม่ได้ขู่..เอาจริง!!”
อัครินทร์ ถอนใจเฮือกไม่ยอมตอบ
“ตกลง..ตะวันกับพี่ชายคุณยังไง? รักกันหรือเกลียดกัน หรือทั้งรักทั้งเกลียด? แล้วทำไมถึงต้องทั้งรักทั้งเกลียด??”
อัครินทร์หันมองแบบ..นางเก่งใช้ได้นะนี่?? แต่ก็ไม่ยอมเล่า “คุณเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับ ถ้าคุณยังไม่รู้แล้วผมจะรู้อะไร?”
พิ้งค์อึ้งไป ก่อนจะเถียง “มันก็ไม่แน่!! เป็นเพื่อนกันมันก็ไม่ใช่ว่าจะรู้กันหมดทุกเรื่อง” พิงค์พูดแบบแอบน้อยใจ “บางทีเพื่อนก็อาจจะมีอะไรปิดบังเพื่อนไว้ก็ได้”
อัครินทร์มองอย่างเห็นใจพิงค์เหมือนกัน “เอาน่าคุณ...คนเรามันก็ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรไปซะทุกเรื่องหรอก” พิงค์มองอัครินทร์?? “ยิ่งบางเรื่อง..ไม่รู้ซะ สบายใจกว่า”
พิงค์แว้ด “พูดงี้หมายความว่าไง? นี่หมายความว่าเรื่องมันแย่มากใช่มั้ย? รู้ใช่มั้ยเนี่ย? รู้แล้วไม่ยอมบอกใช่มั้ยเนี่ย?”
“เดี๋ยวๆๆ ใจเย็น!!ผมก็พูดกว้างๆ เตือนสติคุณเฉยๆ” พิงค์ค้อนตากลับ อัครินทร์เหมือนจะพูดกับตัวเอง “เพราะบางที..ถึงรู้ไป..เราก็ทำอะไรไม่ได้..มันเป็นเรื่องของเค้าจริงๆ”
พิงค์ฟังแล้วมองๆ อัครินทร์ที่มองเหม่อไปสุดสายตา
ที่ห้องพักคนไข้ ประกายเดือน เอาผ้าขนหนูเช็ดหน้าปานตะวันเสร็จ “สดชื่นขึ้นมั้ยตะวัน?”
ปานตะวันซึ้งใจ “ขอบใจมากนะเดือน จริงๆ เดี๋ยวพยาบาลเค้าก็มาทำให้”
“ไม่เอาอ่ะ เค้าอยากดูแลตะวันมั่ง คืนนี้เค้านอนเฝ้าตะวันนะ”
“อย่าเลย พรุ่งนี้เดือนต้องไปทำงาน...เดือน..!!..เดือนลาออกเถอะ”
“อะไรเนี่ย? บอกให้ไปทำงานแหมบๆ บอกให้ลาออกแระ?? หกล้มหัวกระแทกแรงไปป่าวเนี่ย?”
“พี่ไม่ได้พูดเล่นนะเดือน คุณ.. เอ่อ..ผู้ชายบ้านนี้ไม่น่าไว้ใจ พี่เป็นห่วงเดือนจริงๆ”
“ผู้ชายบ้านนี้?? รวมถึงคุณหมอัครินทร์ที่เพิ่งให้เลือดตะวันไปด้วยเนี่ยนะ?? ไม่น่าไว้ใจ??”
ปานตะวันอึ้งไป
“ตะวัน..เมื่อก่อนเค้าอาจจะด่าอีตาท่านรองฯให้ตะวันฟังเยอะอยู่นะ แต่..เอาจริงๆ อย่างที่เคยบอกน่ะอีตานั่นก็ไม่ได้แย่เกิน”
ปานตะวันมองประกายเดือนหมับเลย “เดือน..อย่าบอกนะว่า”
“เฮ้ย!! อะไร?? จะบ้าหรอ?? เค้าก็แค่ว่าไปตามเนื้อผ้า ว่าแต่ตะวันเหอะ มันชักจะยังไงๆอยู่น้า..คุณหมอัครินทร์ถึงกับสละเลือดให้เนี่ย..ไม่เห็นกับตานึกว่าดูซีรี่ย์เกาหลีอยู่น้าาาา??”
“บ้า!!..นี่อย่าพูดให้ยัยพิงค์ได้ยินเชียวนะ”
ประกายเดือนลากเสียงยาว หน้าเจ้าเล่ห์ “รู้..ก็แค่แหย่เล่น แต่..เอ๊ะ มันมีกลิ่นอยู่น้าาา แล้วยังงี้ท่านประธานของเค้าจะยังไงเนี่ย”
ปานตะวันอึ้ง..เมินหน้าหนี “พี่จะนอน”
ประกายเดือนขำน้อยๆ ปานตะวันหน้าเครียด พิงค์’ ยืนอยู่มุมหนึ่ง หน้าจ๋อยๆ เข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่โต๊ะอาหารบ้านไกรตระกูล สาวิตรีเสิร์ฟข้าวต้มให้นัครินทร์ ใบตองกำลังเสิร์ฟให้คนอื่นๆ
“ดี!! หัดตื่นมาทานข้าวเช้ากะเค้ามั่ง อาหารเช้าดีต่อสุขภาพ ยิ่งเธอนะตานัค ไม่ค่อยจะแข็งแรงเห็นมั้ย? ไปต่างจังหวัดแค่นี้ก็ไม่สบายกลับมา เนี่ยเป็นเพราะอะไร? เพราะใช้ร่างกายหนักมาตลอด เที่ยวดึกเที่ยวดื่น”
นัครินทร์รีบตัดบท “แม่ฮะ..ชุดใหญ่เลยนะฮะ.. จะไม่อยากมากินข้าวเช้าด้วยก็เพราะงี้แหละฮะ กินข้าวหรือว่าฟังเทศน์เนี่ยฮะพ่อ?”
“ไอ้บ้า!! ก็ฟังเทศน์สิวะ..เอ๊ย!ไม่ใช่..กินข้าวๆเร็วๆ”
“จริงสิ..ลูกหมอ..หนูตะวันเป็นยังไงบ้าง?”
“โอเค..ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วครับแม่”
“สาธุ!! คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะ แหม..แม่ล่ะอยากไปเยี่ยมใจจะขาด พี่คินสิ..อะไรก็ไม่รู้..ห้ามอยู่ได้”
นาคินทร์เดินมา ใบตองพยายามสะกิดสาวิตรี “ไม่รู้จะห้ามทำไม?” สาวิตรีรำคาญใบตอง “อะไรยัยตอง? สะกิดอะไร ? สงสัยจะหวงมากอยากเก็บไว้เยี่ยมคนเดียว ฮิๆๆ” สาวิตรีดุใบตอง “ยัยตอง!! เป็นอะไรเยอะ ตะกุยอยู่นั่นยังกะลูกหมา!!” สาวิตรีหันไปเห็นนาคินทร์ก็อ้าปากค้างอยู่ “.อ๊าาา..พี่คิน..มาเงียบๆนะจ๊ะ”
นาคินทร์เดินมาข้างนารถนรินทร์
นัครินทร์ไม่รู้เรื่องรู้ราว หน้าทะลึ่ง “คุณพยาบาลเป็นอะไรเหรอฮะพี่คิน โดนท่านประธานใช้งานหนักไปรึเปล่าฮะ??ฮ่าๆๆ” นัครินทร์เห็นนาคินทร์มองมาหน้ามึนก็ขำค้างเงิบ “เอิ่ม..ไม่ขำ??” นัครินทร์ก้มหน้ากินข้าวต้มต่อ ทุกคนเงียบๆกันไป
“เอ่อ..ทานข้าวต้มนะจ๊ะพี่คิน” สาวิตรีมองให้ใบตองตักข้าว ใบตองรีบตักข้าวต้มให้ นาคินทร์ชะงักนิดนึง เบือนหน้าหนีน้อยๆแบบรู้สึกเหม็นนิดๆ
“พี่อัคคะ? พี่ตะวันจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่คะ?”
นาคินทร์ชะงักนิดนึง ทำเหมือนไม่สนใจ แต่แอบฟัง
อัครินทร์มองนาคินทร์ก่อนจะตอบน้องสาว “เอาจริงๆวันนี้เย็นๆก็น่าจะกลับได้..แต่ว่า”
“แต่อะไรคะ?”
อัครินทร์มองนาคินทร์ “ก็ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของคนไข้ เพราะร่างกายน่ะไม่เท่าไหร่ แต่จิตใจดูเหมือนจะเพลียมาก”
นาคินทร์มองอัครินทร์
“นั่นไง..เครียด!! พี่คินใช้งานจนเครียดแน่ๆ”
นาคินทร์มองนัครินทร์ นัครินทร์กลับลำ “เธอล่ะสิ..ยัยนารถ!! กายภาพจนคุณพยาบาลเครียด!!”
นาคินทร์ตักข้าวต้มคำแรกขึ้นมาจ่อ ยังไม่กิน
“ปากว่างก็กินข้าวต้มไปพี่นัค อย่างแว้งมากัดน้อง”
“พี่เว้ย..ไม่ใช่หมา!!!!”
นาคินทร์เหม็นข้าวต้ม “อ้วกกกกกกกกก!!”
ทุกคนตะลึงตกใจ “พี่คิน!!เป็นอะไร!!!”
นาคินทร์ไม่ฟังใครแล้ว ลุกขึ้นวิ่งพรวดออกไป ซักพักได้ยินเสียง อ้วกกกกกกกกก!!! ดังแว่วมา ทุกคนมองหน้ากันงงๆ
“สงสัยจะไม่สบายอีกคนแล้วมั้ง?” ทวยเทพสงสัย
“เอ๊..หมู่นี้ คนบ้านเราเป็นอะไร? เดี๋ยวคนโน้นป่วย คนนี้ป่วย” สาวิตรีชักกลุ้มใจ
“แน่ะ!! เห็นมะ?? มาว่าผมเที่ยวดึก ร่างกายเลยไม่แข็งแรง แล้วพี่คินคนดีคนขยันของแม่ล่ะฮะ?? เป็นไงฮะ??ฮ้วกแตกอ้วกแตน”
“หมู่นี้ทำงานหนักมากไปมั้งคะ?” นารถนรินทร์เป็นห่วงพี่ชาย
“นั่นสิ..คงจะเครียด” สาวิตรีเห็นพ้องด้วย
เสียงอ้วกกกกกก!!! แว่วมาอีก ทุกคนสะดุ้ง มองๆกัน
“โห..อ้วกยังกะผู้หญิงแพ้ท้องแหนะค่ะ” ใบตองหลุดปากพูดโดยไม่คิดอะไร แต่สะกิดใจอัครินทร์
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 15/3 วันที่ 1 มิ.ย. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ