อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 3/2 วันที่ 18 พ.ค. 57
“ผมไม่เคยเข้าโรงหนังอีกเลยนับตั้งแต่...” นาคินทร์ชะงักเมื่อนึกได้ว่า เขาไม่ได้เข้าโรงหนังมาตั้งแต่กนกตาย แต่เมื่อเห็นปานตะวันชะงักฟัง ก็เลยรีบเปลี่ยนประเด็น “ตั้งแต่งานที่บริษัทยุ่งเหลือเกิน ไหนๆ วันนี้ก็ทิ้งงานมาแล้ว ดูหนังเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับคุณตะวัน”ปานตะวันพยายามหาข้ออ้าง “คือ..ฉันไม่ชอบคนเยอะๆ น่ะค่ะ”
“เหรอครับ?” นาคินทร์คิดนิดนึง ”ถ้างั้นไม่เป็นไร”
ปานตะวันเลิกคิ้วงงๆ
นาคินทร์พยักหน้าให้แทนคำขอบคุณ พนักงานออกไป นาคินทร์พูดกับปานตะวัน “เชิญครับ”
“นั่งตรงไหนคะ?”
“ตรงไหนก็ได้ครับ”
ปานตะวันมองงงๆ ตรงไหนก็ได้ ก่อนจะเดินแล้วชนเก้าอี้โครมเพราะความมืด นาคินทร์ยิ้มๆ ก่อนจะ คว้ามือปานตะวันมาจับไว้ ปานตะวันหันขวับ
“ผมพาไปครับ”
“ฉันเดินเองได้”
ปานตะวันดึงมือกลับแล้วเดินต่อ เตะโคร้ม!!! ปานตะวันร้องโอ๊ย!!!
“เจ็บมั๊ยครับ? ดื้อจัง!!”
นาคินทร์โอบเอวปานตะวัน ลงนั่งเก้าอี้ First Class “มานี่”
ปานตะวันรีบขยับตัวออกห่าง มองๆ “ไม่มีคนเลย...หนังคงจะไม่สนุก อย่าดูเลยค่ะ กลับกันเถอะ”
นาคินทร์ยิ้ม “เค้าบอกว่าหนังเรื่องนี้สนุกมากครับ”
“สนุกมาก?? แต่ทั้งโรงมีคนดูอยู่แค่ 2 คนเนี่ยนะคะ”
“มีคนดูแค่เรา 2 คน ก็เพราะผมปิดโรงเหมารอบนี้ไงครับ”
ปานตะวันตกใจ “ปิดโรงเหมารอบนี้”
“ก็คุณบอกเองว่าไม่ชอบคนเยอะๆไม่ใช่เหรอครับ?”
ปานตะวันอึ้ง “อะไรนะคะ” ปานตะวันมองนาคินทร์อย่างไม่อยากจะเชื่อ พนักงานเดินเอาน้ำ ป๊อปคอร์น และผ้าห่มมาให้
นาคินทร์ยื่นน้ำให้ “น้ำมั้ยครับ”
ปานตะวันหน้าตึง หมั่นไส้เศรษฐี “ไม่ค่ะ”
นาคินทร์ยื่นข้าวโพด “ป๊อบคอร์น??”
ปานตะวันหน้าตึง “ไม่ค่ะ”
“หนาวมั้ยครับ?”
ปานตะวันตอบทั้งที่หนาว “ไม่ค่ะ”
นาคินทร์แอบอมยิ้ม ปานตะวันมองตาเขียวประมาณยิ้มทำไม นาคินทร์จิบน้ำ กินป๊อบคอร์นและห่ม
ผ้าสบายยย!! ปานตะวันค้อน ขัดใจมากๆ เคืองเศรษฐี!!
ที่ห้องทำงานนัครินทร์ นัครินทร์อเมซิ่งสุดๆ
“ว่าไงนะฮะแม่?? พี่คินน่ะเหรอฮะจะพาสาวเข้าบ้าน?? ไม่จริง!! เป็นไปไม่ได้!! แม่ไม่ได้ไปหาหมอหูนานแค่ไหนแล้วฮะเนี่ย”
“อีตาบ้า!! มาว่าแม่หูตึงหูเพี้ยนเหรอยะ แหม...อีตาลูกคนนี้ ไม่รู้แหละ...แกต้องรีบกลับมาให้ทันทานข้าวเย็นให้ได้นะตานัค นี่!! แล้วก็อย่าบอกพี่คินว่าแม่โทร.มาบอกแก เข้าใจมั้ย? ทำเฉยๆ ธรรมดาๆ อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ แค่นี้นะ”
สาวิตรีวางหู ทวยเทพและนารถนรินทร์ มองหน้าขำกิ๊กกัน
“เฉยๆ ธรรมดาๆ” ทวยเทพพูดขึ้น
“อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่” นารถนรินทร์เอออวย
สาวิตรีโดนลูกแซวยังไม่รู้ตัว “ใช่สิ...พ่อก็ด้วย ยัยนารถยิ่งแล้วเลย อย่าเพิ่งออกฤทธิ์อาละวาดสาวใหม่ของพี่คินเค้าล่ะประเดี๋ยวจะเผ่นไปซะก่อน”
“แหม..คุณแม่อ่ะ นารถก็ต้องว่าไปตามเนื้อผ้าล่ะค่ะ ถ้าดูดีสูสีพี่กนกก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ล่ะก้อ...ฮึ่ม!!”
สาวิตรีหันไปมองใบตอง“นังใบตอง แกอีกคนนะ อย่าวี๊ดว๊ายเว่อร์เกินเหตุ เดี๋ยวคุณคินจะเคืองฉันเอา ... ว๊าย!!! ลืมๆๆๆๆ...ลืมโทร.บอกตาอัคอีกคน!!! แย่แล้วๆๆๆ”
สาวิรีวิ่งไปโทรศัพท์ ทวยเทพ นารถนรินทร์และใบตองขำ พูดใส่กันเอง “อย่าเว่อร์ร์ร์ร์ร์???”
ที่หน้าห้องทำงานนัครินทร์ นัครินทร์เปิดประตูห้องออกมาชะงัก มองประกายเดือนที่กำลังก้มๆ เงยๆ หาของใต้โต๊ะ
“อยู่ไหนน้าาา...เมื่อกี๊หล่นมาตรงนี้นี่นา” ประกายเดือนรู้สึกตัว หันขวับมองนัครินทร์แล้วรีบลุกขึ้น ประกายเดือนตาเขียว “มีอะไรคะท่านรองฯ”
“ขาว เอ๊ย! มีข่าวมาบอกคุณน่ะสิ”
“ข่าวอะไรคะ?”
นัครินทร์กวน “ข่าวเศร้า”
“ข่าวเศร้า?? ใครตายเหรอคะ?”
นัครินทร์สะดุ้ง แล้วยิ้ม “ก็ไม่แน่..หลังจากฟังข่าวนี้ อาจจะมีใครซักคนตรอมใจตายก็ได้”
“งั้นก็คงไม่เกี่ยวกับดิฉันแล้วล่ะค่ะ”
“เกี่ยวสิ..ทำไมจะไม่เกี่ยว”
ประกายเดือนช้อนตามอง?? นัครินทร์ก้มตัวลงบอก “พี่คินทร์...พี่ชายผม..เค้ากำลังจะพาสาวไปกินข้าวที่บ้าน!!!”
ประกายเดือนตกใจนิดนึง นึกเสียใจแทนพี่สาว ก่อนจะทำตาแบ๊ว “แล้วไงคะ”
“แล้วไง? อ้าว..คุณไม่เสียใจเหรอที่พี่ชายผมควงคุณเล่นๆ ได้ไม่กี่วันก็เขี่ยคุณทิ้งซะแล้ว??”
“ปากเหรอคะท่านรองฯ”
“คุณว่าไงนะ?”
“ดิฉันก็ว่า”
เสียงวีวี่แหวมาเลย “โอปป้าาาาา!!! โอปป้านัคกี้!!!!”
นัครินทร์ ประกายเดือนหันขวับมอง นัครินทร์ตกใจ “เฮ่ยย!!!”
วีวี่ กิ๊กสาวลูกครึ่งเกาหลี พูดไทยไม่ชัดสำเนียงเกาหลี ปรี่เข้ามากอดนัครินทร์ “โอปป้า...วีวี่คิดถึงโอปป้ามากๆ เลยค่ะ”
นัครินทร์งง “วีวี่..มาไงเนี่ย...ไม่รู้เรื่องเลย”
“วีวี่อยากเซอร์ไพร์สโอปป้าค่ะ วีวี่เอากิมจิร้านที่เมียงดงที่โอปป้าชอบกินมาฝากด้วยนะคะ”
ประกายเดือนอมยิ้ม นัครินทร์เก๊ก
“ค่ะๆ แต้งกิ้วมากๆ ค่ะวีวี่” นัครินทร์แกล้งยั่วจะให้ประกายเดือนหึง “แหม..ผมก็คิดถึงวีวี่มากเลย”
นัครินทร์คว้าถุงกิมจิส่งให้ประกายเดือน “คุณเลขาฯ เอากิมจิไปใส่จาน”
วีวี่ดีใจใหญ่ ประกายเดือนเหวอๆ
“เร็วสิ!! อ้อ!! แล้วอย่าให้ใครเข้ามากวน ผมจะกินกิมจิกับวีวี่!!!”
วีวี่ยิ่งดีใจใหญ่ สองคนพากันเข้าห้องไป
ประกายเดือนมองตาม “แหวะ..โอปป้าาาา!!!” ประกายเดือนมองกิมจิ ทำเสียงล้อเลียน “จะกินกิมจิกับวีวี่ แหวะๆ”
ประกายเดือนจะเดินออกแล้วนึกได้ “เดี๋ยวนะ...ตะกี๊อีตาเบื๊อกบอกว่าท่านประธานจะพาสาวไปกินข้าวที่บ้าน”
ประกายเดือนสงสารพี่สาว “เฮ้อ! ตะวันนะตะวัน แห้วซะแระ!!”
ในโรงหนัง ปานตะวันนั่งหน้าตึง แอบหนาว ค่อยๆ เหล่ไปมองนาคินทร์ที่ตั้งหน้าตั้งตาดูหนังอย่างมีความสุข จู่ๆ นาคินทร์ก็หันมามอง ปานตะวันสะดุ้งที่แอบมองเค้าก่อน
“เป็นไรครับ? หนาวใช่มั้ย?” นาคินทร์เอาผ้าห่มของตัวเอง ห่มให้ปานตะวันด้วย สองคนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
“ไม่ต้องค่ะ...ของฉันก็มี”
“ชู่ว์..หนังกำลังสนุกครับ!!”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ตั้งหน้าตั้งตาดูหนัง ปานตะวันนั่งเกร็ง ซักพักนาคินทร์ขยับตัวมาใกล้มากๆ ไหล่แทบจะเกย ปานตะวันหันขวับมอง “คุณ”
“ผ้าห่มผืนมันเล็กไปนะครับ เดี๋ยวผมต้องต่อว่าเจ้าของโรงซะหน่อยแล้ว...เพื่อนผมเอง”
ปานตะวันได้แต่อึ้ง พูดไม่ออก ซักพักนาคินทร์เอนศีรษะซบไหล่ปานตะวัน
“คุณ!! คุณคะ!!!” เงียบ!!! ปานตะวันจะปรี๊ดแต่ก้มลงมองหน้าเห็นนาคินทร์หลับเฉยก็เลยทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะทำไงดี “อะไรกันเนี่ย??”
ซักพักนาคินทร์ขยับตัวเหมือนหาจุดให้ลงล็อค หน้านาคินทร์มุดเข้าซอกคอปานตะวัน ปานตะวันตาโต คอแข็ง ไม่กล้าหันมามอง “ไหนบอกว่าหนังสนุกไง?”
“นอนอย่างนี้สนุกกว่า”
ปานตะวันสะดุ้ง จะผลักนาคินทร์ออก “คุณ”
นาคินทร์รวบตัวปานตะวันไว้ชิดเลย “ตอนแรกหนังสนุกจริงๆ ครับ แต่ตอนนี้”นาคินทร์จ้องตาปานตะวัน ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ค่อยๆ เขยิบหน้าใกล้ปานตะวัน..ใกล้ๆๆ..
ทันใดนั้น โทรศัพท์ปานตะวันดังขึ้น ปานตะวันรีบผละตัวออก ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ลนลานด้วยความประหม่าเขิน “เอ่อ..ฉัน..ฉันลืมปิดโทรศัพท์น่ะค่ะ”
นาคินทร์อมยิ้ม ปานตะวันมองชื่อบนมือถือ “เดือน!! ขอโทษนะคะ” ปานตะวันจะลุกขึ้น
นาคินทร์คว้าข้อมือไว้ “คุยตรงนี้ก็ได้ครับ มีแค่เรา 2 คน”
ปานตะวันอึดอัด แต่จำต้องนั่งลง “เดือน”
ประกายเดือน เทกิมจิอยู่ในครัวที่บริษัท “ตะวัน!! อยู่คอนโดรึเปล่า”
“ปะ..เปล่า”
“นี่!! เค้ามีอะไรจะบอก ท่านประธานเค้ามีหญิงอยู่เหมือนกันนะ เย็นนี้เค้าจะพาไปกินข้าวเย็นกัน”
ปานตะวันสะดุ้ง เหลือบมองนาคินทร์ “อะ..อ๋อ..เหรอ?”
“อืมม์...ตะวันไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“มะ..ไม่เป็น”
“ดีแล้ว ผู้ชายก็งี้แหละ แหม..อยากเห็นหน้ายัยนั่นจังเนาะ”
ปานตะวันสะดุ้ง “อือๆ”
“แต่ไม่รู้นะ เค้ายังคอนเฟิร์มนะว่าท่านประธานแอบปิ๊งตะวัน ยัยนั่นอาจจะแค่กุ๊กกิ๊กกิ๊กก๊อก พี่สาวเราเริ่ดกว่าเยอะ โอเค.งั้นเย็นนี้เจอกันนะจ๊ะ จุ๊ฟ!!” ประกายเดือนพูดเสร็จก็วางหู
“เดี๋ยว...เดือน” ปานตะวันถอนใจเฮือก
“คุณเดือนมีอะไรเหรอครับ?”
“เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะ”
นาคินทร์ยิ้มให้ก่อนจะเอียงเตรียมซบ ปานตะวันรีบเอามือดันหน้านาคินทร์ไว้ “หนังใกล้จะจบแล้ว เดี๋ยวพลาดดูตอนจบนะคะ”
นาคินทร์มองตา “หนังจบ ผมไม่จบ” นาคินทร์พูดจบก็คว้ามือปานตะวันมากุมไว้เฉย ปานตะวันทำหน้าแบบ..อะไรวะเนี่ย นาคินทร์ยิ้มให้ก่อนจะเบือนหน้าไปดูหนัง ปานตะวันพยายามดึงมือกลับ แต่นาคินทร์จับไว้แน่น ทั้งที่ดูหนังหน้านิ่งไม่หันมามอง ปานตะวันจนปัญญาจริงๆ
ที่ทางเดินบริเวณหน้าห้องทำงานนัครินทร์ ประกายเดือนเดินถือถาดใส่ถ้วยกิมจิเดินมาก็โดน ‘เคที่’ กิ๊กลูกครึ่งฝรั่งอีกคนของนัครินทร์ ชนโครมเข้าให้ ประกายเดือนเซฟถ้วยกิมจิสุดชีวิต “ว๊าย!!”
“ชิท!! สติวปิด!! งี่เง่า!! ไม่มีลูกกะตารึไงยะ”
“มีสิยะ!! ตัวยังกะตึกช้างซะขนาดนี้ ทำไมฉันจะมองไม่เห็น”
“อร๊าย!! Who r u?? แกเป็นใคร” เคที่มอง เห็นถือถาด “อ๋อออ... ไอซีเป็นแค่แม่บ้าน!! ดีล่ะ..ฉันจะฟ้องนัคกี้”
“นัคกี้”
“ใช่!! นัคกี้แฟนฉัน..มาย ดาหลิงเจ้าของบริษัทนี้”
ประกายเดือนตาวาว
“นัคกี้อยู่ไหน? นัคกี้!!!”
ประกายเดือนคิดถึงที่นัครินทร์สั่งเอาไว้ “แล้วอย่าให้ใครเข้ามากวน ผมจะกินกิมจิกับวีวี่”
ประกายเดือนยิ้มร้าย “ชู่ว์ว์!! อย่าตะโกนเสียงดังนะคะ คุณนัคกี้อยู่ทางนี้ค่ะ ดิฉันจะพาคุณไปหาดาหลิงของคุณนะคะ...ทางนี้ค่ะ” ประกายเดือนผายมือไป เคที่เดินสะดิ้งออกไป
“หึหึ..คุณนัคกี้”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 3/2 วันที่ 18 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ