อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 9/2 วันที่ 26 พ.ค. 57
นาคินทร์จ้องตาปานตะวัน ปานตะวันยิ่งเคลิ้ม 2คนจ้องตากัน นาคินทร์ค่อย ๆ ก้มหน้าลงใกล้ ทันใดนั้นปานตะวันได้สติก็เรียกทันที “คุณนาคินทร์คะ!!!”“ครับ? ว่าไงครับ?”
ปานตะวันหาทางออก “คือ..เอ่อ..ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า”
นาคินทร์อมยิ้ม รู้ทัน “ผมจะทำให้คุณอิ่มแน่”
ปานตะวันตาโต ตกใจ ทำท่าจะโวย นาคินทร์ขำๆ “อยากทานอะไรครับ ผมจะทำให้คุณทานเอง”
ปานตะวันค้อน นาคินทร์ยิ้มเต็มที่ ดูดีดูบริสุทธิ์ใจ ปานตะวันแอบโล่งอก
มุมดี ๆ สวย ๆ ด้านนนอกบ้านเขา บรรยากาศงดงาม ปานตะวันนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร นาคินทร์วางสปาเก็ตตี้ตรงหน้าปานตะวัน ดูน่าทานมาก “สปาเก็ตตี้ของคุณครับ”
ปานตะวันมองแบบทึ่ง ยิ้มน้อย ๆ นาคินทร์วางชามสลัดตรงกลาง ตักใส่จานเล็กที่วางอยู่ ยิ้ม “สลัดเพื่อสุขภาพ เราแบ่งกัน”
นาคินทร์นั่งลง มองสเต็กเนื้อที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเอง “และนี่..สเต็กเนื้อของผม”
ปานตะวันแอบย่นจมูกนิดนึง นาคินทร์สังเกตุเห็น “ทำไมครับ? ไม่ชอบทานเนื้อเหรอครับ?
ปานตะวันส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่ค่อยชอบค่ะ..สงสาร”
นาคินทร์เลิกคิ้วมอง “สงสาร”
“ค่ะ..ถ้าเลี่ยงได้ ฉันก็จะเลี่ยงไม่ทานสัตว์ใหญ่”
นาคินทร์ยิ้มน้อยๆ “จะเล็กจะใหญ่ก็เหมือนกันล่ะครับ มีความรู้สึก..เจ็บปวดเป็นเหมือนกันทั้งนั้น”
ปานตะวันมองที่นาคินทร์พูดแปลกๆ
นาคินทร์ยิ้มแฉ่ง เปลี่ยนเรื่อง “คุณต้องทานครับ..อร่อยมาก” นาคินทร์หั่นเนื้อพอคำ ใช้ส้อมจิ้มจะป้อนให้ปานตะวัน
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ลองซักคำเถอะครับ รับรองว่าถ้าคุณได้ลิ้มลองรสชาติของมัน คุณจะต้องติดใจ..ไม่มีวันลืม”
ปานตะวันจำใจจะหยิบส้อมมาจากนาคินทร์
“ผมป้อน” ปานตะวันจำใจทานเนื้อที่นาคินทร์ป้อนให้ ตอนแรกก็ดูฝืน ๆ แต่พอเคี้ยวแล้วก็รู้สึกอเมซิ่ง
“นุ่มมากใช่มั้ยครับ?”
“ค่ะ..นุ่มมากเลย”
“นี่คือเนื้อวากิวครับ เป็นเนื้อชั้นเยี่ยม อร่อยมาก นุ่มมาก แล้วก็ราคาแพงมากด้วย” นาคินทร์จิ้มเนื้อเข้าปาก
“เหรอคะ?! จริงด้วย อร่อยอย่างนี้คงต้องแพงมาก ๆ”
“บ้านเราถ้านำเข้าจากญี่ปุ่นก็กิโลละประมาณสองหมื่น”
“สองหมื่น แค่ก ๆๆ” ปานตะวันสำลัก
นาคินทร์ขำ รีบยื่นน้ำให้ดื่ม “ใจเย็นครับ ดื่มน้ำก่อน”
ปานตะวันรีบรับมาดื่มอึ่ก ๆๆ แล้วทำหน้าสยอง “เนื้ออะไรทำไมถึงได้แพงขนาดนั้นคะเนี่ย?”
นาคินทร์เล่าไป กินไปชิลด์ๆ “เนื้อวากิวมีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น วัวสายพันธุ์นี้ต้องเลี้ยงแบบพิเศษสุด ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ภายในโรงเลี้ยงที่อากาศเย็นสบาย”
ปานตะวันตาโตกับข้อมูล นาคินทร์ยิ้มน้อย ๆ มองปานตะวัน “มันจะได้รับอาหารบำรุงอย่างดีตลอดเวลา 3 ปีเต็ม เพื่อจะได้มีเนื้อมาก ๆ ที่สำคัญเพื่อช่วยระบบย่อยอาหารและรู้สึกผ่อนคลาย เค้าจะให้มันกินเบียร์อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง”
“อะไรนะคะ? วัวต้องกินเบียร์ด้วย??”
นาคินทร์ยิ้ม ๆ พยักหน้า “แค่นั้นยังไม่พอ เค้าจะต้องนวดให้มัน แปรงขนให้มัน ทำทุกอย่างให้มันมีความสุขที่สุด”
นาคินทร์มองปานตะวัน ปานตะวันอเมซิ่ง ยิ้ม ๆ ส่ายหน้า “โห..ไม่อยากจะเชื่อ”
นาคินทร์จ้องปานตะวัน “เชื่อเถอะครับ”
ปานตะวันตาแป๋ว ฟังต่อ “และเมื่อเค้าทำทุกอย่างให้มันมีความสุขที่สุดแล้ว อีกไม่นาน เค้าก็จะ เชือดมัน!!”
ปานตะวันหน้าสลดไม่ได้ทันรู้สึกถึง ‘ความหมาย’ ของนาคินทร์ “โธ่..น่าสงสาร”
“เนื้อมันถึงได้นุ่มคุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างนี้ไงครับอีกซักคำนะครับ”
นาคินทร์จะป้อนปานตะวัน ปานตะวันรีบส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ..ยิ่งฟังยิ่งน่าสงสาร..ฉันทานไม่ลงจริง ๆ”
นาคินทร์มองหน้าปานตะวันก่อนจะทานเนื้อคำนั้นซะเอง เคี้ยวช้า ๆ นาคินทร์จ้องหน้าปานตะวัน “แต่สำหรับผม..ผมชอบมาก”
ปานตะวันไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะทำหน้าไม่เอาด้วย จิ้มผักสลัดทานดีกว่า
นาคินทร์มอง “สงสารตัวเองก่อนจะดีกว่าปานตะวัน เพราะจากนี้ไป คุณก็จะไม่ต่างจากวัวพวกนั้น ผมจะทำทุกอย่างให้คุณมีความสุขที่สุดและหลังจากนั้น..ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องชดใช้ให้ผม..และกนก”
ปานตะวันเห็นนาคินทร์มองอยู่ก็ยิ้ม ๆ ให้ นาคินทร์ยิ้มหวานตอบ
ร้านอาหารเนื้อย่างญี่ปุ่น ประกายเดือนวางเนื้อลงบนกะทะ..ฉ่าาาา!!! ประกายเดือนทำหน้าเซ็ง กลอกตาเบื่อสุด ๆ ที่ต้องนั่งปิ้งเนื้อให้นัครินทร์กับลูกค้าญี่ปุ่นที่นั่งประกบซ้าย – ขวาอยู่ ทาเคชิหัวเราะอารมณ์ดีเว่อร์ กึ่ม ๆ
“อาริงาโตะ..ฮ่า ๆๆ เลขาฯของคุณสุโค่ยยยย!!” ทาเคชิชูนิ้วโป้ง ประกายเดือน แหะ ๆ แล้วเบ้ปาก “ผมอยากจ้างคุณไปเป็นเลขาฯที่โตเกียว โตเกียวสวยมากคุณต้องชอบ”
ประกายเดือนเหล่มาที่นัครินทร์ “ไงดีคะ..ท่านรองฯ”
นัครินทร์เริ่มเหล่ทาเคชิเช่นกัน “ผมว่าเรามาคุยเรื่องสัญญากันดีกว่ามั้ยฮะ..คุณทาเคชิ??”
ทาเคชิไม่สน ถามประกายเดือน “คุณมีแฟนหรือยังคับ??”
“ยังค่ะ!! ยังไม่มี!!”
“เฮ้ยยย!! ทำไมไปโกหกคุณทาเคชิเค้าแบบนั้น มีแฟนแล้วก็บอกเค้าไป ไม่เห็นจะต้องโกหกกันเลยใช่มั้ยฮะ..คุณทาเคชิ??”
“ห๊า??? ดิฉันยังไม่มี”
“ เลขาฯ ผมเค้าแฟนเยอะฮะ..อย่าไปยุ่งเลย”
ทาเคชิตบเข่าฉาดตาหวานกับประกายเดือน “อย่างนี้สิดี..ผมชอบ..คนญี่ปุ่นชอบ การแข่งขัน!! ทั้งสวย น่ารัก คาวาอิเน้อย่างนี้ก็ต้องมีผู้ชายมาชอบเยอะ..จริงมั้ยคับ”
ถามไม่ถามเปล่าจะเอามือมาจับขาอ่อนด้วย นัครินทร์ไวกว่า รีบโดดมาแทรกนั่งแทนประกายเดือน มือทาเคชิเลยตะปบขาอ่อนนัครินทร์แทน ทาเคชิไม่รู้เพราะหลับตาพริ้ม ลูบไล้ ในขณะที่นัครินทร์จ้องทาเคชิอยู่ ซักพักทาเคชิเอะใจ ลืมตามองแล้วสะดุ้ง ทาเคชิอุทานลั่น “คุณนัค!! ถึงว่า..ทำไมมันแข็ง ๆ..เออ..ผมอิ่มแล้ว”
“ดีฮะ!! งั้นสรุปเรื่องสัญญากันเลยดีกว่าฮะ”
ประกายเดือนรีบควักแฟ้มสัญญาออกมา
“ผมอยากร้องคาราโอเกะ”
เจ้านายและเลขาฯ มองหน้ากันแบบ อะไรวะ? ก่อนจะ..เฮ้อ!! เกะก็เกะ!!
ที่ห้องคาราโอเกะ ทาเคชิ กึ่ม เอาการ กำลังเดี่ยวไมโครโฟนอย่างเมามัน ประกายเดือนเซ็งสุด “ท่านรองฯ คะ เมื่อไหร่ลูกค้าท่านรองฯจะเซ็นสัญญาซะทีคะ?”
“น่าาา..อย่าขี้บ่นนักเลยน่ะ นี่!! วันหลังอย่านุ่งสั้นนักสิฮะอยากโชว์นักรึไง” นัครินทร์ไม่พอใจที่เห็นทาเคชิชอบเหล่มองขาอ่อนประกายเดือน
ประกายเดือนตะปบกระโปรงตัวเอง “แหม.. ทีตัวเองล่ะ..ตะก่อนยังเคยแอบดูเค้าจนตกโซฟา”
“อะไรนะห๊า?? ใครแอบดูฮะ?? ขอโทษนะฮะ ผมไม่ใช่อีตาทาเคชิชีกอนั่นนะฮะ อ้อ! อีกอย่าง..จำไว้เลย..คนอย่างผม ไม่มีวันทำตัวเป็น “สมภารกินไก่วัด”เด็ดขาด”
ประกายเดือนกำลังจะอ้าปากเถียง แต่นัครินทร์ถอดสูทมาคลุมขาอ่อนให้ทำเอาอึ้ง นัครินทร์ค้อน “ใครเค้าจะอยากดู!!”
ประกายเดือนอมยิ้ม สองคนเชิด ๆ เริ่ด ๆ ฟอร์มใส่กัน
ทาเคชิปรี่เข้ามาคว้าข้อมือประกายเดือน “คุณเลขาฯมาร้องเพลงกัน”
“ว๊าย!! ไม่เอาค่ะ ฉันไม่ร้อง”
“ถ้าไม่ร้อง ผมไม่เซ็นสัญญานะ”
นัครินทร์เคลียร์ “มา..ผมร้องแทนเอง ร้องคู่กับผมก็ได้ฮะคุณทาเคชิ”
“ผมไม่อยากร้องเพลงกับคุณ ผมจะร้องกับคุณเลขาฯ คนเดียว”
เจ้านายกับเลขาฯ มองหน้ากัน ไม่รู้จะเอาไงดี ทาเคชิขู่อีก “ถ้าไม่ร้อง ผมไม่เซ็น”
“โอเค! ไม่เซ็นก็ไม่ต้องเซ็น!!”
ประกายเดือนตกใจ “เฮ้ย!! ไม่ได้นะคะท่านรองฯ”
นัครินทร์คว้าข้อมือประกายเดือน “ไป!! กลับ!!”
ประกายเดือนยื้อ “ไมได้นะคะ ลูกค้ารายนี้สำคัญมาก บิลลิ่งหลายร้อยล้านนะคะ”
“ช่างมัน!!”
ประกายเดือนไม่สน ไปคว้าไมค์ พูดกับทาเคชิ “มาค่ะ!! อยากร้องนักใช่มั้ย?? แต่ถ้าคุณวางไมค์เมื่อไหร่--ต้องเซ็นสัญญาทันทีนะคะ โอเคมั้ย”
“โอเค้!!!”
“คุณ?”
ประกายเดือนยักคิ้วให้เชิ่ด ๆ เริ่ด ๆ ก่อนจะปรี่ไปประชันไมค์กับทาเคชิ นัครินทร์เกาหัวแกรก ๆ
ปานตะวันนั่งชิลด์มองวิวทิวทัศน์ยามค่ำอยู่ริมสระน้ำ สักพักเริ่มรู้สึกเย็นๆ นาคินทร์ค่อยๆ เอาผ้าคลุมไหล่มาห่มให้อย่างนุ่มนวล
ปานตะวันหันมอง “ขอบคุณค่ะ”
“ทำไมมานั่งข้างนอกครับ ยิ่งดึกอากาศจะยิ่งเย็น”
“ถ้างั้น..เดี๋ยวจะดึกมากเกินไป..กลับกันเถอะค่ะ”
“กลับ?? หมายความว่ายังไงครับ??”
“อ้าว..ก็หมายความว่า เราน่าจะกลับกันได้แล้วนะคะ ดึกป่านนี้ คุณนารถคงจะคอยฉันแย่แล้ว”
“ยัยนารถจะคอยคุณได้ยังไง ก็เค้าเองเป็นคนบอกให้ ผมพาคุณมาพักผ่อน”
“แต่..นี่ฉันก็พักผ่อนพอแล้ว”
นาคินทร์ส่ายหน้าน้อย ๆ ยิ้ม ๆ “ยังไม่พอหรอกครับ..มันยังน้อยไป”
ปานตะวันผุดลุกเลย “ไม่ล่ะค่ะ..ฉันอยากกลับแล้ว”
นาคินทร์ลุกขึ้นขวาง “ผมยังไม่อยาก”
ปานตะวันขยับตัว นาคินทร์รวบเอวไว้ จ้องตาจริงใจ “ผมเฝ้ารอคอยวันนี้มาตั้งนาน รอคอยที่จะพาคุณมาที่นี่อยู่กับผมอีกซักนิดได้มั้ยครับ”
ปานตะวันเจอสายตาเว้าวอน น้ำเสียงออดอ้อนของนาคินทร์ก็อดใจอ่อนไม่ได้
นาคินทร์ค่อย ๆ เอามือปัดผมที่หน้าผากปานตะวัน “ตั้งแต่คนรักของผมจากไป ผมไม่เคยเฝ้ารอที่จะได้พบผู้หญิงคนไหน..นอกจากคุณ”
ปานตะวันเลิกคิ้วมอง..งง ๆ “ทำไมคะ..ทำไมต้องเป็นฉัน?”
นาคินทร์ยิ้มน้อยๆ “ฟ้าคงจะลิขิตไว้..ให้ต้องเป็นคุณ”
ปานตะวันเจอคำหวานและสายตาทะลวงใจของนาคินทร์เข้าไปก็ถึงกับเคลิ้ม นาคินทร์ไม่ปล่อยโอกาสทอง ค่อยๆ โน้มตัวลงจูบหน้าผากปานตะวันเบา ๆ เมื่อเห็นปานตะวันไม่ขัดขืนก็โน้มลงจะจูบปาก แต่ปานตะวันเอี้ยวตัวหลบเขินๆ ผลักนาคินทร์เบาๆ แล้วหลุดออกจากอ้อมกอดของนาคินทร์ได้
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 9/2 วันที่ 26 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ