อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/3 วันที่ 25 พ.ค. 57
“เมื่อก่อนเวลาพูดเรื่องนี้นายจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่มีจริง แต่ทำไมวันนี้เงียบไป นายเริ่มเชื่อแล้วใช่ไหม”“ผมยอมรับว่าผมเริ่มลังเล”
วนิษายิ้มเศร้าๆ “ไหนๆฉันก็จะบวชแล้ว นายจะบอกฉันได้รึยังว่านายเป็นใคร”
“ผม”
โจอึกอัก วนิษารีบพูดตัดคอ
“ขอร้องนะ อย่าบอกนะว่าความจำเสื่อมอยู่”
“เอาเป็นว่า วันที่คุณบวช ผมจะบอกความจริง จะได้อโหสิกรรมกันไปเลย”
“ได้ ฉันจะรอ”
“ฉันมีอีกคำถาม อยากถามนาย”
“ครับ”
“นายอยากให้ฉันบวชไหม”
“ความรู้สึกของผมน่ะเหรอ”
โจย้อนถาม วนิษาพยักหน้า
“ถ้าคุณบวช ผมต้องบอกความลับของผม แถมผมยังตกงานอีกด้วย ถ้าคุณไม่บวช ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ผมไม่อยากให้คุณบวช”
“เพราะไม่อยากบอกความลับ แล้วก็ไม่อยากตกงาน แค่นี้เองเหรอ”
“ครับ”
วนิษาฝืนยิ้ม “ก็ดี ฉันจะบวช”
วนิษาลงจากรถ โจมองตาม แววตาเจ็บลึกๆพอกัน
“คุณวนิ คุณบวชหรือไม่บวช ยังไงเราก็ต้องจากกันอยู่ดี”
โจมองตาม จนวนิษาเข้าลิฟต์ไป พอหันกลับมา ก็เจอหนุงหนิงมาเกาะข้างๆกระจกรถ แนบหน้ากับกระจกจนหน้าตาดูบิดเบี้ยว
“เฮ้ย”
โจตกใจร้องลั่นไม่เป็นภาษา หนุงหนิงกระพริบตาปริบๆ ทำท่าให้เขาลดกระจกลง
โจปรับความรู้สึกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆลดกระจกลง
“เห็นหน้าเค้าแล้วดีใจมากเลยเหรอตะเอง”
“ตกใจเกือบตาย นี่เธอเป็นนักฆ่ารับจ้างได้เลยนะหนุงหนิง จู่ๆโผล่มาเกาะกระจกแบบนี้ ถ้าเป็นคนแก่หัวใจวายตายแน่ ไม่มีหลักฐานให้เอาผิดด้วย สนใจรับจ็อบไหม เงินดีนะ”
“ไม่เอา กลัวเขาไม่ตายแต่จะไล่ปล้ำฉันแทนอ่ะ”
โจขำ “จับปล้ำมัดตราสังข์ผูกสายสิญจน์ให้น่ะสิไม่ว่า”
“แหม แซวสาวเก่งนะเนี่ย ฮิๆ เอาเถอะ เรื่องส่วนตัวของเราสองคนไว้ทีหลังนะ คุยเรื่องงานก่อนนะคะคุณนักสืบ”
โจอ้าปากค้าง
“คุณยายเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ฉันรู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด ถึงฉันจะอึ๋ม ฉันก็มีสมองนะยะ”
“ตกลงเธอมาหาฉันมีเรื่องอะไร”
หนุงหนิง เอียงหน้ามากระซิบ
“คุณยายอยากพบคุณ ท่านรออยู่แถวนี้แหละ”
คุณยายรางค์กับโจ นั่งคุยกันอยู่ที่ร้านไอติมใกล้ๆ คอนโดของวนิษา
“ขอโทษนะที่ทำลับๆล่อๆแบบนี้ อยากคุยแบบเห็นหน้าแต่ไม่อยากให้วนิษารู้เรื่อง”
“คุณยายมาหาผมแบบนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นดีเหมือนกัน”
คุณยายวรางค์หัวเราะ
“ก็เป็นเรื่องภารกิจลับๆอ่ะนะ คนอื่นอาจจะตื่นเต้นแต่เธอคงจะชินอยู่แล้วล่ะ”
“ลองบอกมาก่อนสิครับว่าเรื่องอะไร”
คุณยายวรางค์ ถอนหายใจ
“บอกตรงๆว่าฉันไม่เห็นด้วยที่วนิจะบวช แต่ฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะไปขัดขวางอะไรเขาได้”
“ทำไมล่ะครับ” โจแปลกใจ
“เราบวชเพื่อแสวงหาการหลุดพ้น เราบวชเพราะเราเห็นแล้วว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้เรา
มัวเมาลุ่มหลง เราบวชเพราะเราในศรัทธาในพระธรรมของพระพุทธเจ้า เราไม่ได้บวชเพื่อหนีปัญหา”
“คุณยายไม่เห็นด้วยที่คุณวนิจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีทั้งสามของเธอเหรอครับ”
คุณยายวรางค์ พยักหน้า
“ที่ผ่านมาวนิษาทำบุญมากมายให้บรรดาสามีของเธออยู่แล้ว คำว่าบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลน่ะ
เป็นเพียงข้ออ้าง เธอแค่จะใช้วัดเป็นที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอกที่เธอกลัวและไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป”
“หลายคนก็ทำแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ แต่พวกเขาจะไม่ได้พบความสุขสงบอะไรหรอก การบวชแบบนั้นเป็นแค่การหลอกตัวเอง”
“ผมเห็นด้วยกับคุณยายครับ”
คุณยายวรางค์ ฟังคำตอบของโจ ด้วยความแปลกใจ
“ผมเป็นเด็กวัดครับ แบบที่คุณยายพูดผมเห็นมามากแล้ว”
“ฉันไม่อยากให้วนิษาเป็นแบบนั้น”
“แล้วคุณยายจะให้ผมทำอะไร”
“ล้มงานบวชของวนิษาซะ”
โจหัวเราะเบาๆ
“ยากไปมั้งครับ ในเมื่อตอนนี้ใจเขาอยากบวชเต็มแก่ ส่วนผมก็เป็นแค่คนขับรถ คุณยายจะให้ผมทำยังไงเหรอครับ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเก่ง เอางี้ถ้าเธอทำสำเร็จ ฉันมีค่าจ้างให้”
วรางค์หยิบกล่องกระดาษเล็กๆออกมา เปิดฝากล่องให้โจดู
“นี่มัน”
คุณยายวรางค์ปิดฝากล่อง
“เธอคงเข้าใจความหมายของมันดี ฉันไม่ได้เชียร์เธอ แต่ฉันให้โอกาสเธอ”
“ผมยอมรับว่าคุณยายดูไม่ผิด แต่คุณยายเก็บมันไว้เถอะครับ ผมมีฉายาโจตัวซวย ใครเป็นนายจ้างผมน่ะ ซวยตลอด”
“ฉันไม่เชื่อแล้วก็ไม่กลัว ฉันให้เธอทำงานฉันก็ต้องมีค่าจ้างให้ ตกลงเธอจะรับงานนี้ไหม”
โจเงียบไป
“ช่วยวนิด้วยเถอะนะ นายดาว”
โจนิ่งเงียบ พลางคิดถึงคำพูดของวนิษา
“ก็ดี ฉันจะบวช”
สีหน้าวนิษาดูเศร้ามาก
โจตัดสินใจ “ขอผมคิดดูก่อนนะครับ”
โจกลับมาถึงบ้าน แล้วก็เอาแต่นั่งเงียบ จนป๋องทนไม่ได้
“พี่กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ถ้าวนิษาเป็นกาลกิณี เป็นผู้หญิงกินผัว ก็ถือว่าเธอเป็นฆาตกรทางอ้อม การบวชก็ถือเป็นการชดใช้ให้เหยื่อ ถือว่าทำถูกต้องแล้ว แต่ถ้าวนิษาไม่มีดวงกินผัว การตายของผัวสามคนก็ไม่เกี่ยวกับวนิษา ดังนั้นบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลก็ถือว่าไม่ถูกต้อง”
“แต่เราพิสูจน์เรื่องดวงไม่ได้นี่ครับ”
“ไม่แน่” โจพูดอย่างมั่นใจ “เช่นถ้าฉันหาหลักฐานได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการฆาตกรรม เป็นฝีมือของคน เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดวงอีกต่อไป”
“แต่จนป่านนี้เราก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องฆาตกรรม”
“ตอนนี้ฉันถึงลังเลว่าดวงกินผัวมีจริง แต่ว่าถ้าดวงกินผัวมีจริง โจตัวซวยก็มีจริง แต่ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะคนที่มีพระคุณที่สุดในชีวิตของฉัน คนที่เป็นครูที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของฉัน บอกฉันว่าโลกนี้ไม่มีโจตัวซวย”
“หมายถึงหลวงพ่อเหรอครับ”
โจ พยักหน้า
“ใช่ ท่านย้ำสอนฉันมาตั้งแต่เด็กๆ จนฉันรู้สึกว่า ถ้าฉันเชื่อเรื่องนี้ฉันจะเป็นคนเนรคุณต่ำช้าสามานย์ไปทันที”
“แล้วพี่จะเอายังไงครับ” ป๋องย้อนถาม
“เฮ้อ สับสนมากเลยว่ะ”
โจถอนหายใจ พลางหยิบหนังสือบนโต๊ะมาเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือเรื่อง “ตรวจกรรมระดับนาโน โดย เม้ง จิตทิพย์”
“หมอนี่อาจจะแก้ปัญหาให้เราได้”
“เม้ง จิตทิพย์ พี่จะไปหาเขาเหรอ”
โจพยักหน้า
ออฟฟิศของ อ. เม้ง ซึ่งเป็นตึกแถวคูหาเดียว ค่อนข้างเรียบร้อย ดูทันสมัย ไม่มีของแปลกๆอะไรมาก มีเพียงโต๊ะหมู่บูชาและพระพุทธรูปธรรมดา แต่มีหนังสือเยอะมาก
อ. เม้งเปิดประตูเข้ามาในออฟฟิศ โจกับป๋องที่ซุ่มรออยู่ รีบหยิบหน้ากากไอ้โม่งมาสวม โจรีบปราดเข้าประกบ ขณะที่ป๋องไปปิดประตู แขวนป้าย CLOSED
“ถ้าไม่อยากตายอย่างี่เง่า”
อ. เม้งพยักหน้า โจรีบผลักลงไปนั่งที่โซฟา
“นี่ปืน 9 มม. กระสุนหัวอ่อน ถ้าฉันยิงแกระยะแค่นี้ หัวกระสุนจะพุ่งเข้าไปป่นกระดูกของแกจนเละ แล้วพุ่งออกอีกด้าน พร้อมกับตีคว้านเนื้อของแกหลุดออกมาด้วยแผลเท่ากำปั้น เข้าใจมั้ย”
อ. เม้งหน้าเสีย โจพูดเสียงเข้ม
อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7/3 วันที่ 25 พ.ค. 57
ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพลละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ