อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 10/4 วันที่ 28 พ.ค. 57
“เออ..ตานัคนี่ก็น่ารักนะ เห็นพี่คินกับน้องอัคออกไปข้างนอกก็รู้จักเป็นห่วงเป็นใย” สาวิตรีปลื้มที่ลูกชายรักพี่รักน้องนัครินทร์ชะงัก “อะไรฮะ?? ใครห่วงพี่คินกับเจ้าอัคฮะ??”
“อ้าว!! แล้วที่คุณนัคเดินไปเดินมายังกะยามหน้าหมู่บ้านนี่ ถ้าไม่ห่วงคุณคินกะคุณอัค แล้วคุณนัคห่วงใครล่ะคะ“ ใบตองถาม
“ป้าดโธ่เอ๊ย!! ฉันก็ห่วง” นัครินทร์ชะงักกึก มองดีใจเรียกลั่น “คุณพยาบาล!!!!”
ทุกคนหันขวับไปเห็นอัครินทร์เดินเข้ามากับปานตะวัน นัครินทร์พุ่งเข้าไปจับมือถือแขนทันที “คุณพยาบาล!! ได้ข่าวว่าหายไป..หายไปไหนมาฮะ..ผมเป็นห่วงแทบแย่”
ปานตะวันเริ่มมึน มองทุกคนที่มารุมอยู่ตรงหน้าอย่างมึน ๆ
“แล้วนี่พี่คินอยู่ไหนครับ? เดี๋ยวเราคุยกับพี่คินแล้ว”
ปานตะวันหน้ามืดเป็นลมทรุดลงทันที ทุกคนต่างตกใจ สาว ๆ วี้ดว๊าย อัครินทร์รับร่างของปานตะวันไว้ได้ นัครินทร์ปรี่จะเข้ามาช่วยประคองปานตะวัน สาว ๆ จะเข้ามามุง
“ถอยไป!! อย่ามุง!! ถอยไปก่อนครับ แม่ครับ!! ขอแอมโมเนียที่ตู้ยาครับ”
สาวิตรีตกใจเงอะงะ “จ๊ะ ๆ..แอมโมเนีย..ตู้ยา..อยู่ตรงไหนล่ะ ไปสินังใบตอง พาฉันไปเอาแอมโมเนีย!!” สาวิตรีกับใบตองรีบวิ่งออกไป ที่เหลือมองปานตะวันในอ้อมกอดอัครินทร์
ห้องนอนปานตะวัน ปานตะวันหลับอยู่บนเตียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมอง ปรับโฟกัสสายตาสักพักเห็นอัครินทร์นั่งฟุบอยู่ข้างเตียงของตะวัน ตะวันงง ๆ จะลุก อัครินทร์ตื่น “เป็นไงบ้างครับ”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” ปานตะวันจะลุก อัครินทร์ขืนไว้ จับไหล่ให้นอนต่อ
อัครินทร์ยิ้มน้อยๆ ดื้อจริง?? “คุณอ่อนเพลียมากแถมมีไข้ต่ำ ๆ”
“นี่ฉันนอนจนถึงเช้าเลยเหรอคะ?”
“ผมให้น้ำเกลือแล้วก็ยาให้คุณได้นอนพัก”
ปานตะวันฟังนิ่ง หลับตาลงอย่างเพลีย ๆ นาคินทร์เดินมาที่ประตู ชะงัก แอบฟัง ปานตะวันลืมตาอีกครั้ง“ทีนี้พอจะบอกได้รึยังครับว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณ..กับพี่คิน”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์รอฟัง
“อาจจะดูเสียมารยาท แต่ผมมองว่าคุณก็เป็นสมาชิกคนนึงในบ้านไกรตระกูล”
ปานตะวันมองอัครินทร์อย่างซึ้งใจ นาคินทร์ไม่พอใจ “ฉันเป็นแค่ลูกจ้างคนนึงเท่านั้นค่ะ”
“แต่ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ไม่พอใจ
อัครินทร์มองนาฬิกาข้อมือ “ผมต้องไปทำงานแล้ว ไว้คุณสบายใจเมื่อไหร่เราค่อยคุยกันก็ได้ครับ อ้อ! น้ำเกลือคงจะหมดตอนเย็น ๆ ผมสั่งใบตองให้คอยมาดูแลคุณแล้ว”
“ไมได้ค่ะ..แล้วใครจะดูแลคุณนารถ”
อัครินทร์ยิ้ม “ไม่ต้องห่วง.. คุณแม่จัดการได้ครับ”
ปานตะวันรู้สึกผิด “ฉันนี่แย่จริง ๆ ..กลายมาเป็นภาระของพวกคุณ”
อัครินทร์แตะมือเบา ๆ เป็นการปลอบใจ นาคินทร์เห็นยิ่งไม่พอใจหนัก “อย่าคิดมากครับ พักผ่อนให้แข็งแรงเร็ว ๆ –ทั้งร่างกายและจิตใจ จะได้มาช่วยดูแลยัยนารถ”
ปานตะวันฝืนยิ้ม “ขอบคุณค่ะ..คุณอัค” อัครินทร์แตะหลังมือปานตะวันเบา ๆ แล้วเดินออกไป ปานตะวันเศร้า ค่อย ๆ หลับตาลง สักพักรู้สึกว่ามีคนมานั่งตรงที่อัครินทร์ก็ลืมตาขึ้น
“มีอะไรคะ..คุณอัค คุณนาคินทร์!!!” ปานตะวันจะลุกพรวดพราด
นาคินทร์รีบกดไหล่ปานตะวันลงกับเตียงอย่างแรง “หายใจเข้าออกเป็น ‘คุณอัค’ เลยนะ”
ปานตะวันเสียงแข็ง “ต้องการอะไรอีก? คุณต้องการอะไรจากฉันอีก”
“เยอะ!! ผมต้องการอีกเยอะ!!”
ปานตะวันมองอย่างไม่อยากเชื่อ “บอกฉันซะทีได้มั้ยว่าฉันไปทำอะไรให้คุณโกรธแค้นถึงขนาดนี้”
“ยังไม่ถึงเวลาที่จะรู้ ตอนนี้รู้ไว้อย่างเดียวว่า อย่าคิดจะเล่นชู้กับนายอัคหรือผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น”
ปานตะวันตาโต โกรธ เงื้อมือจะตบ “คุณ!!”
นาคินทร์รับมือไว้ กดลงกับเตียง โถมหน้าไปใกล้ “นอกซะจากผมจะเรียกใช้บริการ!!”
ปานตะวันตกใจ เสียใจ สะอื้นโฮ “คุณ!! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะหยาบคาย ใจร้ายขนาดนี้”
“เชื่อซะเถอะ..เชื่อซะ..ว่าโลกนี้ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียวที่ใจร้ายได้”
“ใจร้าย?? ฉันไปใจร้ายอะไรกับคุณ?? คุณนาคินทร์!!!”
นาคินทร์มองหน้า “ร้ายที่สุดก็ตรงที่ทำเป็นไม่รู้นี่ล่ะ”
ปานตะวันมึนไปหมดแล้ว หลับตาร้องไห้อย่างไม่รู้จะไปต่อยังไง นาคินทร์มองสะใจก่อนจะลุกไป
“ฉันจะลาออก!!!”
นาคินทร์ชะงัก หันมามอง ไม่สะทกสะท้าน
“ฉันจะลาออก!!! ฉันจะหาเงินมาชดใช้คุณให้ได้!!!”
นาคินทร์ค่อย ๆ เดินกลับมาอย่างใจเย็น ก้มลงพูดกับปานตะวัน ส่ายหน้า ยิ้มๆ “คุณไม่ลาออกหรอก ผมรับรอง..ว่าคุณจะไม่กล้าลาออก.. เด็ดขาด!!!”
ปานตะวันตะลึง “ทำไม?? คุณจะทำอะไร??”
นาคินทร์ยิ้มๆ ก้มลงจะจูบลา ปานตะวันสะบัดหน้า ผลักหน้านาคินทร์จนหัน นาคินทร์ชะงัก ยิ้มน้อย ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ปานตะวันตะโกนถาม “คุณนาคินทร์!! คุณจะทำอะไร?? คุณจะทำอะไร???” ปานตะวันร้องไห้สะอื้นแทบหมดแรง
ตอนเช้า ที่ห้องชงกาแฟ บริษัท KTK ประกายเดือนกำลังชงกาแฟ ใกล้ ๆ มีมอลลี่กำลังเม้าท์เมามันส์กะลูกกอล์ฟ
ลูกกอล์ฟตกใจเว่อร์ “อุ๊ต๊ะ!! ไม่จริงงงงง..มันไม่จริงใช่มั้ยเจ๊มอลลี่???”
“จริ้งงงงง!! อีนังลูกเกดฝ่ายการเงินมันมาร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายใจจะขาดน้ำตาแทบเป็นสายเลือดกับฉันเมื่อวานนี้ มันบอกว่าผัวมันมีอีหนู”
ลูกกอล์ฟตกใจเว่อร์ “มีอีหนู!!!”
“4 คน!!!”
ลูกกอล์ฟตกใจเว่อร์ “4คน!!!”
“ท้องทั้ง 4!!!”
“ท้องทั้ง 4!!!”
“2 ใน 4 มาดักตบมัน!!!”
“ดักตบ!!!”
“1 ใน 4 ขู่จะสาดน้ำกรด!!!”
ลูกกอล์ฟหน้าละห้อย “สาดน้ำกรด!!! โถ..ยังโชคดีอีก 1 ที่เหลือนางไม่ร้าย”
“ไม่ร้ายบ้านแกสิ นางว่านางจะเอาปืนมายิงกบาลมัน!!!”
“ร้ายที่สุด!!!”
“ที่ร้ายกว่าก็คืออีผัว”
“ยังไง??”
“ไม่ช่วยแถม ยังกระทืบซ้ำ”
“นรก!!”
“ไถเงินเมียจะเอาไปเล่นบอล”
“อสูรกายชัด ๆ!!! เออ.ว่าแต่นังลูกเกดมันมาเล่าให้เจ๊ฟังเพื่อ..??”
“มันอยากให้พาไปหาหมอแมวแม่นมว๊ากกก”
“ใครวะ..หมอแมวแม่นมว๊ากกก?”
“ไอ้โง่!! ก็หมอดูเบอร์มือถือที่เจ๊ไปดูมาไง นังลูกเกดมันอยากให้เจ๊พาไป มันอยากจะเปลี่ยนเบอร์มันมั่งเผื่อชีวิตจะดีขึ้น”
ประกายเดือนที่ชงกาแฟ ไม่ได้ร่วมวงสนทนาพูดขึ้น “เปลี่ยนผัวท่าจะดีกว่ามั้ง?!!”
ลูกกอล์ฟตกใจ ”จริง!! เย้ย!!..ฟังอยู่ด้วยเหรอเนี่ย??”
“ก็ไม่ได้อยากจะฟังหรอกค่ะ แต่เม้าท์ดังมากถึงไม่ฟังก็ได้ยิน”
“เออแต่ก็จริงอย่างคุณเลขาฯน้องเดือนเค้าว่านะ เจ๊มอลไปบอกนังลูกเกดให้มันเปลี่ยนผัวเฮอะ..เวิร์คกว่า
มอลลี่ตบปากลูกกอล์ฟ หันมาคุยกับประกายเดือน “นี่แน่ะ!! นี่ ๆๆ คุณเลขาฯน้องเดือนคะ กล้าดียังไงคะถึงได้มาลบหลู่ดูถูกหมอแมวแม่นมว๊ากกกของพี่มอลลี่?!”
“ไม่ได้ดูถูกนะคะ ก็แค่พูดเรื่องจริง”
“เรื่องจริงก็คือหมอแมวแม่นมว๊ากกกของพี่มอลลี่ท่านแม่นมว๊าก ๆ ถ้าไม่แม่นจริงพวกดารา ไฮโซไม่แย่งคิวกันจนจะตบกันตายขนาดนี้หรอกค่ะ ที่สำคัญนะคะท่านก็ได้ดูเบอร์ให้พี่แล้ว เปลี่ยนเบอร์ให้พี่แล้วด้วย ส้าธุ!! เฮงเฮงเฮง”
มอลลี่พนมมือไหว้ท่วมหัว หันมาลืมตาจ๊ะกับคุณจามจุรีที่ยืนตาวาวท้าวสะเอวอยู่ตรงหน้า “แว๊กกกกก!!!
“เฮง รึ เฮงซวยมิทราบ???”
“แฮ่!! ทารุณสวัสดิ์ เอ๊ย! อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเจเจ”
“งานการไม่ทำ เอาแต่เม้าท์ เปลี่ยนเบอร์แล้ว--อยากเปลี่ยนงานด้วยมั้ยยะ..แม่สมรศรี?!!”
“เปลี่ยนเบอร์อย่างเดียวพอค่ะ ช่วงนี้งานหายาก ขอตัวไปทำงานก่อนค่ะ” มอลลี่ และลูกกอล์ฟ รีบวิ่งจู๊ดออกไป
“ประกายเดือน..”
“หนูไม่ได้มาเม้าท์นะคะ หนูแค่...”
“ ก็ไม่ได้ว่าอะไร จะมาบอกว่าท่านประธานเรียก”
ประกายเดือนเลิกคิ้วสงสัย “ท่านประธานเรียก??”
ที่ห้องทำงานนาคินทร์ นาคินทร์นั่งมองภาพวาดของกนกอยู่สายตาเศร้า ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตู สายตานาคินทร์เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว “เชิญครับ”
ประกายเดือนเปิดประตูเข้ามา นาคินทร์หันมาพูดคุยด้วยสีหน้าปกติ “นั่งก่อนสิครับ”
ประกายเดือนยกมือไหว้ “ขอบคุณค่ะ ท่านประธานมีธุระอะไรให้เดือนรับใช้เหรอคะ?”
นาคินทร์ยิ้ม “โห..พูดจาซะทางการเลย ผมไม่มีอะไรให้คุณเดือนรับใช้หรอกครับ แค่อยากเชิญคุณเดือนไปทานข้าว”
“ทานข้าว??”
“เย็นนี้ ที่บ้านผม”
ประกายเดือนมอง งง ๆ
“ไม่ต้องงงครับ ไม่มีอะไรพิเศษ แค่ผมคิดเองว่าตั้งแต่คุณตะวันไปอยู่ที่บ้านผม คุณ 2 คนพี่น้องก็ยังไม่เคยได้เจอกันเลย..ใช่มั้ยครับ?”
ประกายเดือนตาวาวดีใจ “ใช่ค่ะ..ตะวันไม่ยอมทิ้งงานออกมาเลย เอ่อ..คือสารภาพนะคะว่า เดือนเคยชวนตะวันให้ออกมาเจอกันบ้าง แต่ตะวันไม่ยอม เห็นมั้ยคะ.. ตะวันเป็นคนดีมาก ท่านประธานเลือกคนไม่ผิด..คือหมายถึง..เลือกพยาบาลไม่ผิดคนน่ะค่ะ”
นาคินทร์ยิ้มเย็นๆ “แน่นอนครับ..ยังไงก็ต้องเป็นคุณตะวัน..ไม่ผิดคนแน่ ๆ”
ประกายเดือนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็ยิ้ม คิดภูมิใจแทนพี่สาว
“ก็เพราะอย่างนี้ ผมคิดว่าคุณ 2 คนพี่น้องจะต้องคิดถึงกันมาก ที่สำคัญ ผมเป็นห่วงกลัวว่าคุณตะวันจะเครียด”
“โห..น่ารักที่สุดอ่ะ..อุ่ย!.ขอประทานโทษค่ะท่านประธาน”
นาคินทร์ยิ้ม ๆ แบบไม่เป็นไรไม่ถืออ“งั้นโอเคนะครับ เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านผม ไปพร้อมผมเลย”
“โอเคค่ะ..โอเคมาก ๆ เลยค่ะ” ประกายเดือนยกมือไหว้ “ขอบพระคุณค่ะท่านประธาน ถ้างั้นเดือนรีบไปทำงานนะคะ”
นาคินทร์ยิ้ม ๆ “ครับ..เชิญครับ”
ประกายเดือนรีบออกไป นาคินทร์มองตามก่อนจะพอใจ เหลือบมองลูกเหล็กบนโต๊ะแล้วจับมาปล่อยกระทบกันไป-มา นาคินทร์นั่งมองลูกเหล็กอย่างพอใจ
ห้องนอนปานตะวัน ปานตะวันนั่งหลังพิงหัวเตียง สายน้ำเกลือยังอยู่ ปานตะวันนั่งคิด ปานตะวันสะดุ้งเมื่อสาวิตรีถือถาดถ้วยซุปเข้ามาพร้อมกับใบตองเข็นนารถนรินทร์เข้ามาด้วย
ปานตะวันขยับตัว “คุณแม่...”
“ไม่ต้อง ๆ..ตามสบายจ๊ะหนูตะวัน แม่ทำซุปไก่ตุ๋นมาให้ อ้าว! แล้วนี่ลุกขึ้นมานั่งทำไม? ทำไมไม่นอนพัก”“ตะวันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขอบพระคุณคุณแม่มากนะคะ” ปานตะวันยกมือไหว้
“หายเร็ว ๆ นะคะพี่ตะวัน นารถอยากลงน้ำจะแย่อยู่แล้ว”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 10/4 วันที่ 28 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ