อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 6 วันที่ 23 พ.ค. 57
บนโต๊ะที่วางรูปถ่ายในสมัยและงานต่างๆ มีรูปหนึ่งที่ซีดกว่าเพื่อน ด้านหลังเขียนว่า “สำนักงานนักสืบ สมยศ” เป็นรูปคอปบร้าตอนหนุ่มถ่ายกับพนักงานออฟฟิศประมาณ 7-8 คน หนึ่งในพนักงานนั้นมีโจในวัยหนุ่มอยู่ด้วยเพื่อเร่งทำงานแข่งกับเวลา โจให้ปลายฝนช่วยสังเกตวนิษาเวลาอยู่ในห้องด้วยกัน เขาบอกป๋องว่าตอนนี้ตนมีคนจับตาวนิษาตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเธอคิดเตรียมการเพื่อฆ่ากริช ยังไงเราก็ต้องรู้ ไม่มีทางพลาดแน่ สั่งป๋องพรุ่งนี้ไปหาปลายฝนถามว่าเธอเห็นวนิษามีพิรุธอะไรบ้าง
เมื่อป๋องไปพบปลายฝนเธอบอกว่าไม่มีอะไรผิดสังเกตเลย แต่ระหว่างเดินออกมาด้วยกัน ก็เจอตี๋อ้วนที่พาลูกน้องตามล่าป๋องอยู่ ตี๋อ้วนสั่งลูกน้องให้จัดการเลย ย้ำให้เอาแค่ร้องไห้แงๆก็พอ
ลูกน้องตี๋อ้วนสองคนรุมกันเข้าเล่นงานป๋อง ปลาย–
ฝนช่วยปกป้องบอกตี๋อ้วนว่าถ้าชอบตนจริงก็อย่าทำให้ตนเสียใจ ตี๋อ้วนสั่งลูกน้องหยุดแล้วเดินร้องไห้แงๆ พาลูกน้องกลับไป
“พ่อแม่มันเลี้ยงมายังไงของมัน จะกลับมาอีกไหมเนี่ย” ป๋องมองตี๋อ้วนอย่างสมเพช “ผมดีใจมากที่คุณรักผมขนาดนี้ ผมก็...ผมก็...รู้สึกแบบเดียวกับคุณ” ปลายฝนถอนใจพึมพำว่า
“เฮ้อ...โล่งอก ในที่สุด” ป๋องยิ้มรับ “ครับ...ในที่สุด” แล้วจับมือปลายฝน เธอปล่อยให้ป๋องจับ แต่มองป๋องแปลกๆ
ooooooo
วนิษาถูกหม่อมจันเรียกให้ไปช่วยจัดการพวกแม่ค้าพ่อค้าในตลาดที่กำลังรวมตัวเรียกร้องอะไรบางอย่าง หม่อมจันขอโทษที่ต้องวานวนิษาไปจัดการเพราะหญิงจุ๋มกับพจน์ไม่เอาเรื่อง
วนิษาไปถึงตลาดก็ถูกแม่ค้าออกมาด่าทอสำนักงานตลาดเสียๆหายๆ กระทั่งจะทำร้ายวนิษา โจยิงปืนขึ้นฟ้าและใช้ความสามารถพิเศษล็อกแป๋วตัวการไว้เป็นตัวประกันขู่ว่าถ้าไม่ยอมเจรจากันดีๆ แม่ค้าแป๋วจะได้รับอันตราย
เมื่อแม่ค้าพ่อค้ายอมเจรจา วนิษาจึงให้ตัวแทนเข้าไปเจรจาในที่ทำการสำนักงานตลาด ถามว่ามีปัญหาอะไรถึงต้องมาต่อสู้กันอย่างนี้ แม่ค้าบอกว่าเพราะทางตลาดจะไล่พวกตนออกและจะขึ้นค่าเช่าให้คนใหม่เข้ามาขายแทน วนิษาบอกว่าทางตลาดไม่มีนโยบายนี้เลย แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเอาบันทึกที่ประชุมให้ดู พวกแม่ค้าพ่อค้าเชื่อจึงยอมสลายการชุมนุม
โจมองวนิษาอย่างชื่นชมความสามารถในการแก้ปัญหาของเธอ แต่พอแก้ปัญหาแม่ค้าเสร็จ โจกลับถูกเรียกไปเล่นงาน ถามอย่างเอาเรื่องว่า เอาปืนมาจากไหน ท่าทางชำนาญการใช้ปืนมาก นอกจากนี้ทักษะการต่อสู้ ไหวพริบในการเอาตัวรอด การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ชำนาญคล่องแคล่ว ถามว่าเหล่านี้ไปฝึกมาจากไหน ดักคอว่าอย่าอ้างว่าความจำเสื่อมเด็ดขาด
วนิษาขู่จนโจบอกว่าปืนนั้นตนเจอที่รถเธอในวันเอารถไปล้างสีดูดฝุ่น คาดว่าเป็นของเสี่ยป๊อก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ถามนั้นตนไม่รู้จริงๆ ว่าไปฝึกมาจากไหน มันเป็นทักษะติดตัวมาเหมือนอ่านหนังสือกินข้าวอะไรทำนองนั้น ตนอาจเป็นหน่วยสืบราชการลับก็ได้ ตนไม่รู้จริงๆ วนิษาพูดขู่ๆ ว่า “อีกไม่นานฉันต้องรู้ให้ได้ว่านายเป็นใครกันแน่”
โจทำท่าจะทวงปืนคืนแต่พอเห็นวนิษามองหน้าโจจึงทำเฉย เดินตามเธอออกไปเงียบๆ
ooooooo
วนิษาเอาปืนกระบอกนั้นไปให้ปฐมดู ปฐมไม่แน่ใจว่าเป็นของตั่วเฮียหรือเปล่าเพราะตั่วเฮียมีปืนหลายกระบอกและเป็นไปได้ที่ตั่วเฮียจะซ่อนไว้ในที่ที่เขารู้เพียงคนเดียวเท่านั้น
วนิษาสรุปว่า ถ้าอย่างนั้นที่นายดาวพูดก็เป็นความจริง ปฐมทักท้วงทันทีว่าเปล่า มันเป็นสิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ว่าจริงหรือไม่ วนิษาบอกว่าแต่ที่เขาช่วยตนนั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอน ถามปฐมว่า “มีทางไหนที่เราจะสืบเรื่องของเขาได้ไหม”
“หมอนั่นไม่มีหลักฐานอะไรเลย มีแต่ตัวตนของเขาเท่านั้น ถ้าเราโชคดีอาจมีใครบางคนที่รู้จักเขาโผล่มาทักเขาต่อหน้าเรา เราถึงจะรู้ว่าเขาเป็นใคร”
“ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย” ปฐมฉวยโอกาสเสนอให้ไล่โจออกเลย “จนถึงนาทีนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย จะไปไล่เขาออกได้ไง...” วนิษาหงุดหงิดบ่นว่าไม่รู้จะทำอย่างไรกับเขาดี ปฐมสังเกตสีหน้าเธอ รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ติงเบาๆว่า
“ดูตั่วเจ๊จะให้ความสำคัญกับเขามากเกินไปแล้วนะครับ” พอวนิษาถามว่าหมายความว่ายังไง ปฐมก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร เป็นแค่คำเตือนเท่านั้น พูดแล้วเดินผละไป วนิษามองงงๆ
ooooooo
ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง พวกพ่อค้าแม่ค้าที่ชุมนุมมานั่งคุยกับพจน์ด้วยท่าทางจ๋อยๆอย่างคนทำงานไม่สำเร็จ
“เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้” พจน์จิกมองทุกคน พวกแม่ค้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนถูกจับเป็นตัวประกันพวกตนกลัวเพื่อนได้รับอันตรายเลยต้องยอม ถูกพจน์ด่าว่า “อย่ามาแก้ตัวเลย ไม่อยากฟัง กระทืบไม่ได้ก็ไม่ต้องกระทืบ แค่เอาทุเรียนตบหน้าเปรี้ยงเดียวให้ยัยวนิษาเป็นแผล แค่นี้มันก็ต้องเลื่อนพิธีแต่งงานแล้ว ยัยแป๋ว แกทำแผนการฉันเสียหายหมดรู้ตัวไหม”
ด่าแล้วพจน์ไล่จะไปไหนก็ไป พอพวกแม่ค้าทวงค่าเหนื่อย พจน์ก็โยนให้อย่างเสียไม่ได้ แล้วไล่ให้รีบๆ ไปเสียเห็นหน้าแล้วโมโห พอพวกแม่ค้ารับเงินไปแล้ว แอบหันด่าพจน์...
“ไอ้ชั่ว มาทำเสียงดัง เปลือกทุเรียนน่ะเอามาตบหน้าคนอย่างแกดีกว่า”
ส่วนพจน์นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว พึมพำลำพัง “อย่างนี้คงต้องหาวิธีอื่นแทน”
ooooooo
งานแต่งงานของกริชกับวนิษามาถึงแล้ว บรร-ยากาศคึกคักอลังการสมกับงานของเศรษฐีร้อยล้าน
ระรินอยู่กับเพ็ญแขที่มุมหนึ่งของงาน เธอบอกแม่อย่างลำพองใจว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน
โจหลบอยู่ในกลุ่มแขกที่มาร่วมงาน เขาจับตาดูทุกอย่างคุยกับป๋องผ่านบลูทูธถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยใช่ไหม ส่วนทางตน เรียบร้อย ไม่มีพิรุธอะไรเลย
ปฐมอยู่อีกด้านหนึ่ง มองไปรอบงาน แล้วมองไปทางวนิษาบ่นอย่างเสียความรู้สึกว่า...
“คุณไม่น่าทำแบบนี้เลย...ตั่วเจ๊”
หลังจากพิธีสวมแหวนให้เจ้าสาวแล้ว กริชมาหาโจที่ล็อบบี้สั่งให้ไปรับเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสมรสมา โจเกี่ยงว่าตนไม่ว่าง กริชขู่ว่าถ้าไม่ไปก็จะไล่ออก โจเลยต้องไป แต่แอบโทร.บอกป๋องว่าตนต้องออกจากที่นี่ไปพักหนึ่งให้ป๋องจับตาดูวนิษาให้ดีด้วย
ระหว่างที่โจคุยโทรศัพท์กับป๋องเดินผ่านพจน์ที่กำลังให้อะไรกับหญิงคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้โจอยู่ แต่โจไม่ได้สนใจ
ooooooo
กริชโทร.บอกคอปบร้าว่า ตนส่งคนขับรถของเจ้าสาวไปรับจะได้ไม่มีใครสงสัย พอดีระรินเดินมา กริชรีบตัดสาย
ระรินถามกริชว่าแผนแก้เคล็ดราบรื่นดีไหม กริชบอกว่าเรียบร้อยดี เกือบทุกอย่างที่ใช้ในพิธีนี้เป็นของปลอมทั้งนั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอมกำลังจะมา “คนนี้เก่งมาก พลิ้วราวกับนักแสดง แนบเนียนสุดๆเลยครับ” กริชอวดอย่างมั่นใจ
โจไปถึงสำนักงานเขต พอเห็นคอปบร้า เขาสะดุ้งเฮือก รีบเอาแว่นกันแดดดำมืดมาใส่ ทำเป็นหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านแล้วดัดเสียงถามว่า “คุณประกิต เจ้าพนักงานจดทะเบียนสมรสใช่ไหมครับ” พอคอปบร้ารับว่าใช่ โจก็เชิญขึ้นรถ
แต่ในจังหวะคอปบร้าเผลอ โจต่อยเปรี้ยงเข้าเต็มกราม คอปบร้าหมดสติทันที โจรีบขับรถไปที่ตึกร้าง เอาน้ำราดให้รู้สึกตัว พอฟื้นคอปบร้ารู้ว่าถูกมัดอยู่ก็โวยวาย “เฮ้ย...ปล่อย แกทำแบบนี้ทำไมวะ”
“บอกมาซิ คุณปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ทำไม” โจดัดเสียงถาม คอปบร้าปากแข็งว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ โจเอามีดออกมาบอกว่าถ้าโกหกอีกจะตัดหู พลันคอป–
บร้าก็ร้องเสียงดัง
“ไอ้โจ!! แก...ไอ้โจตัวซวย ฉันจำแกได้แล้ว!”
ooooooo
ที่สำนักงานนักสืบสมยศในอดีต สมยศเป็นพ่อของคอปบร้า เวลานั้นโจไปสมัครเป็นนักสืบ คอปบร้าพยายามกีดกัน แต่สมยศรับโจไว้ทั้งที่เพิ่งทดลองงานไม่ถึงเดือน
“เธอเก่งมาก เป็นนักสืบมืออาชีพได้แล้ว เธอน่าจะเป็นนักสืบที่เก่งที่สุดในบริษัทนี้ด้วยซ้ำ” คอปบร้าค้านว่าอย่ารับโจมาทำงานเลย “ทำไม คอปบร้า อย่าบอกนะว่าแกอิจฉา เลิกได้ไหมไอ้นิสัยอิจฉาคนอื่นของแกเนี่ย แกกับโจก็รุ่นเดียวกันมีดีคนละอย่าง ควรจะเป็นเพื่อนกันร่วมกันทำงานมากกว่าเป็นศัตรูกัน”
“เรื่องนั้นผมไม่สนหรอก แต่ผมไปสืบประวัติไอ้โจมาแล้ว ไอ้โจมันเป็นประเภทเข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด ก่อนจะมาทำงานกับพ่อ มันทำงานมาตั้งหลายที่แล้ว ทุกๆที่เหมือนกันหมด คือเข้าไปที่ไหน ที่นั่นก็บรรลัย เจ๊งมั่ง เกิดอุบัติเหตุมั่ง เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว ฉันพูดผิดรึเปล่าวะไอ้โจ”
โจนิ่งเงียบตลอด
“ขนาดคนแถวบ้านยังตั้งฉายาให้แกเลย พวกฉันควรจะเรียกแกแบบนั้นด้วยไหม ว่าไงวะ ไอ้โจตัวซวยดีไหมพวกเรา” พนักงานคนอื่นๆพากันหัวเราะขำ แต่สมยศดุคอปบร้าว่าไร้สาระ ตนจะรับโจเข้าทำงาน คอปบร้าบอกว่าเดี๋ยวพ่อก็ซวยหรอก สมยศบอกว่า ไม่กลัว
ไม่ทันสิ้นเสียงสมยศ มีเสียงระเบิดตูม! แม่บ้านวิ่งออกมาร้องบอกอย่างตื่นตระหนกว่าไฟไหม้ห้องครัว รีบหนีเร็ว ทุกคนพากันวิ่งหนีแม้ในยามคับขัน คอปบร้าก็ยังไม่วายหันมาด่าโจว่า
“เห็นไหม ไม่ทันขาดคำเลย เพราะแกไอ้โจ
ตัวซวย” โจโต้ว่าเพราะคอปบร้าต่างหาก เขาเป็นคนสุดท้ายที่เข้าครัวแล้วปิดแก๊สไม่สนิท “ไม่! ฉันปิดสนิทแล้ว!”
“อย่าเพิ่งเถียงกัน ออกไปกันก่อน” สมยศเร่ง แต่พอวิ่งออกไปอึดใจเดียว สมยศก็วิ่งกลับเข้าไปเพื่อเอาแผ่นดิสก์ แต่เขาวิ่งเข้าไปไม่ทันไร ก็เกิดเสียงระเบิดตูมอีก คอปบร้าจะวิ่งเข้าไปดูพ่อ โจรั้งไว้ ถูกคอปบร้าตวาดด่า
“ปล่อยฉัน! เพราะแกไอ้โจตัวซวย! ปล่อยฉัน!!”
ooooooo
คอปบร้าโทษว่าโจทำให้พ่อตนตาย ทำให้บริษัทโดนไฟไหม้ ด่าว่า เพราะแก “ไอ้โจตัวซวย” โจไม่ยอมโทษว่าคอปบร้านั่นแหละที่ลืมปิดแก๊ส แถมยังเป็นคนทำให้คนในวงการเรียกตนว่า “โจตัวซวย” อีกด้วย แล้วโจก็ตัดบทว่า ไม่อยากพูดเรื่องที่ผ่านมาตอนนี้ ตนอยากรู้ว่า คอปบร้าปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่จดทะเบียนทำไม
คอปบร้าไม่ยอมบอก ให้ตายก็ไม่บอก โจนิ่งไปอึดใจ ถามคอปบร้าว่า “แกเชื่อจริงๆหรือว่าฉันคือตัวซวย” คอปบร้ายืนยันว่าใช่ เพราะโจไปเข้าแก๊งไหนหัวหน้าก็ตายหมด โจเลยทิ้งไม้ตายว่า ถ้าอย่างนั้นตนจะขังเขาไว้ที่นี่แล้วจะไปสมัครงานที่ปั๊มน้ำมันแม่เขาที่รังสิตลองดู
ไม้นี้เอาอยู่! คอปบร้ายอมรับว่าตนรับแผนการของกริชมา แล้วเล่าให้ฟัง โจสมเพชกริชที่ทำเป็นแมนที่แท้ปอดแหก ถามว่าเขาเชื่อเรื่องงมงายแบบนี้ด้วยหรือ
“เชื่อสิวะ ในเมื่อโลกนี้มีโจตัวซวย ทำไมจะมีผู้หญิงกินผัวไม่ได้”
“งั้นฉันจะพิสูจน์ให้พวกแกเห็นว่าโลกนี้ไม่มีผู้หญิงกินผัว แล้วก็ไม่มีโจตัวซวยด้วย” โจเดินออกไป บอกคอปบร้าว่า “ถ้างานแต่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คืนนี้ฉันจะมาปล่อยแก”
คอปบร้าที่ถูกมัดกับเสา ปากถูกมัดจนได้แต่ดิ้นขลุกขลักร้องอู้อี้ๆ
ooooooo
ที่งานแต่ง...กริชร้อนใจเพราะจะได้เวลาจด ทะเบียนแล้วแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่มา
ทันใดนั้น โจพาเจ้าหน้าที่เข้ามา กริชชะงักเพราะไม่ใช่ประกิตหรือคอปบร้าที่ตนติดต่อไว้ โจบอกว่าประกิตไม่ว่างจึงให้อดิเรกเพื่อนเขามาแทน
การจดทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อย!
คอปบร้าพยายามเขี่ยมีดโกนจิ๋วที่ซ่อนอยู่ใต้เข็มขัดออกมาตัดเชือกที่มัดออกทีละนิด...ทีละนิด...
พอคู่บ่าวสาวเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสเสร็จ
คอปบร้าก็มาถึงพอดี เขามองเข้าไปเซ็งจนบอกไม่ถูกที่มาห้ามไม่ทัน! เขาหาโอกาสดักพบกริชในห้องน้ำ กระซิบขอโทษที่ตนมาไม่ทัน กริชถามว่าเขาส่งเพื่อนมาแล้วไม่ใช่หรือ?
“หมอนั่นมันไม่ใช่เพื่อนผม ผมเดาว่านั่นเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริง!” กริชแทบช็อกถามว่าเกิดอะไรขึ้น! “ความผิดของคุณเองที่ส่งไอ้โจตัวซวยไปรับผม คนขับรถของเจ้าสาวคุณนั่นแหละมันคือไอ้โจตัวซวย เรารู้จักกันมานานแล้ว”
โจตัวซวย ถึงคราวซวย ถูกกริชเรียกให้ไปดูรถ แต่ที่แท้หลอกให้ไปเคลียร์กับคอปบร้า
โจกับคอปบร้านั้นกุมไต๋รู้กึ๋นกันดี ต่างไม่มีใครยอมใคร กริชถามโจว่ามาสืบอะไร โจบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา กริชต่อยท้องโจจนตัวงอ ตวาด “ฟังนะ ไอ้สิบแปดมงกุฎ”
“แกนั่นแหละฟังฉัน...แกต้องปล่อยฉัน ไม่งั้น
ฉันจะบอกให้วนิษารู้ว่าแกวางแผนทุเรศๆอะไรไว้มั่ง” กริชเย้ยว่าคิดหรือว่าวนิษาจะเชื่อ “ฉันอัดเสียงตอนคุณคุยกับไอ้คอปบร้าไว้” โจวางมาดเข้มอย่างเป็นต่อ จนทั้งกริชและคอปบร้าหน้าเสีย พอฝ่ายนั้นขอดู โจก็ทำเป็นกดหา กริชโมโหด่าคอปบร้าว่าโง่
“อย่ามาด่าผมนะ อย่าลืมว่าถ้าผมโกรธ ผมแฉคุณได้นะ” คอปบร้าขู่
“เฮ้ย คอปบร้า ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะแบล็กเมล์นายกริช เรียกเงินเพิ่มว่ะ” โจโพล่งขึ้น คอปบร้านิ่ง กริชกลัวห้ามลั่น
“อย่านะเว้ย ฉันให้เงินตามที่แกเรียกร้องไปแล้วแต่แกทำงานล้มเหลว ปล่อยให้ไอ้โจพาเจ้าหน้าที่ตัวจริงมาให้ฉันเซ็นสมรสของจริง แผนแก้เคล็ดของฉันพังหมด แกยังจะมีหน้ามาแบล็กเมล์ฉันอีกเหรอ”
คอปบร้าโต้กริชว่าตนยังไม่ได้พูดสักคำว่าจะแบล็กเมล์เขา พลันโจก็ร้องดีใจบอกว่าเจอแล้วเป็นวีดิโอด้วย ชัดแจ๋วเลย แล้วโจก็เปิดให้ดูเห็นหน้าคอปบร้ากับกริชชัดแจ๋วอยู่ในจอพร้อมคำสนทนาชัดเจน...
“เฮ้ย คอปบร้า ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะแบล็กเมล์นายกริช เรียกเงินเพิ่มว่ะ” เสียงโจดังขึ้น
“อย่านะเว้ย ฉันให้เงินตามที่แกเรียกร้องไปแล้ว แต่แกทำงานล้มเหลว ปล่อยให้ไอ้โจพาเจ้าหน้าที่ตัวจริงมาให้ฉันเซ็นสมรสของจริง ทำแผนแก้เคล็ดของฉันพังหมด แกยังจะมีหน้ามาแบล็กเมล์ฉันอีกเหรอ” เสียงกริชฉุนเฉียว
ทั้งคอปบร้าและกริชอึ้ง เมื่อรู้ว่าถูกโจหลอกอัดเมื่อกี๊นี้เอง! คอปบร้าจะยิงโจทิ้ง ถูกโจยกมือห้ามบอกว่าตนเอาคลิปลงยูทูบไปแล้ว ถ้าตนตายตำรวจก็จะเริ่มสืบจากข้อมูลพวกนี้ก่อน โจยิ้มเยาะพูดเย้ยว่า
“สงสารพ่อแกจริงๆ ที่มีลูกโง่ๆอย่างแกเนี่ย”
คอปบร้าใบ้กินสนิท กริชถามโจว่าแล้วจะเอายังไงให้ว่ามา
“แทนที่เราจะมาสาวไส้ให้กากิน คุณกับผม เราช่วยกันเก็บไส้ให้กันและกันดีกว่า คุณไม่แฉผม ผมก็ไม่แฉคุณ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ผมเป็นคนขับรถให้คุณวนิษาต่อไป คุณก็เป็นสามีของวนิษาตามที่คุณต้องการ” โจยื่นหมูยื่นแมว
กริชเงียบไม่ถึงอึดใจก็ตอบตกลง โจยกแม่โป้งชมว่าเยี่ยม แล้วทั้งสองก็จับมือแสดงความพอใจกัน
แต่พอเข้าไปในล็อบบี้ คอปบร้าติงกริชว่าไม่น่าไปตกลงเลย มันไว้ใจไม่ได้ กริชพูดอย่างหมายมาดว่า
“รอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน ฉันจะแฉมัน ถึงเวลาแกเป็นพยานให้ฉันด้วยแล้วกันว่าคลิปนั่นน่ะถ่ายหลอกๆ”
“แล้วทำไมต้องรอให้ผ่านคืนนี้ล่ะครับ” คอปบร้าหงุดหงิด
“อย่างน้อยที่สุด ให้ฉันได้ทำหน้าที่สามีโดยสมบูรณ์ก่อนสิ ดูซิเจ้าสาวฉันสวยขนาดนั้น แค่คิดถึงคืนนี้ฉันก็แทบอดใจไม่ไหวแล้ว ฉันไม่พร้อมที่จะเสี่ยงกับอะไรทั้งนั้น...รอพรุ่งนี้ก่อน”
คอปบร้าพึมพำเซ็งๆ “ไอ้บ้ากาม” กริชแว่วๆ ถามว่าอะไรนะ “เปล่า ผมจะบอกว่าตามใจคุณแล้วกัน ผมไปล่ะ”
ooooooo
ในห้องจัดเลี้ยง...ได้เวลาที่ระรินจะเริ่มแผนของตัวเองแล้ว เธอทำทีไปกระซิบกระซาบกับนักข่าวว่าได้กลิ่นตุๆ อะไรไหม เรียกความสนใจแล้วอ่อยว่า
“เขาเม้าท์กันว่า...” พูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วย้ำกับนักข่าวว่า “อย่าบอกนะคะว่ามาจากระริน ไม่งั้นระรินตายแน่ๆ” พวกนักข่าวทั้งสัญญาสาบานกันแข็งขัน ระรินลดเสียงให้ตื่นเต้น “คือเจ้าบ่าว คุณกริชน่ะ เขากลัวดวงกินผัวของวนิษาน่ะค่ะ เขาเลยจ้างพวกสิบแปดมงกุฎมาเป็นเจ้าหน้าที่จากเขต จดทะเบียนปลอมๆขึ้น เพื่อแก้เคล็ดน่ะค่ะ” พูดแล้วยุ “ระรินได้ยินมาอย่างนั้น จริงไม่จริงพวกพี่ก็ไปสืบดูนะคะ”
พวกนักข่าวสุมหัวกันก่อนพากันวิ่งไปยังเป้าหมาย ระรินจับตาดูอยู่ เห็นความกระหายข่าวของนักข่าวก็พูดสะใจ...
“เยส! ยัยวนิษา คราวนี้แกต้องช้ำในตายแน่ๆ ดีไม่ดีถึงขั้นกระอักเลือดกลางงานเลยล่ะ ฮิๆๆ” แล้วตัวเองก็ตามไปดูผลงาน
นักข่าวเจาะข่าวทันที ถามกริชกับวนิษาว่า ได้ข่าวว่ามีการแก้เคล็ดดวงกินผัวของเจ้าสาวด้วยการจ้างพวกสิบแปดมงกุฎปลอมมาเป็นเจ้าหน้าที่จดทะเบียนสมรส ดิเรกฉุนขาด เอาหลักฐานมาแสดงว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริง เอาบัตรประจำตัวมายืนยันจนพวกนักข่าวพูดไม่ออก
กริชปลอบใจวนิษาว่าอย่าไปใส่ใจเลย วนิษายิ้มหวานพูดกับนักข่าวสบายๆว่า
“ขอบคุณพี่สื่อมวลชนทุกคนนะคะที่ช่วยตรวจสอบข่าวลือให้ ถ้าไม่ได้พวกพี่ๆ ข่าวนี้ก็คงลือกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ ดีแล้วค่ะจะได้จบ”
พวกนักข่าวหน้าแตก กำลังจะถอยทัพก็ถูกกริชเรียกไว้ถามว่า “พวกคุณไปเอาข่าวลือนี้มาจากไหน”
อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 6 วันที่ 23 พ.ค. 57
ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพลละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ