@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13 วันที่ 31 พ.ค. 57

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13 วันที่ 31 พ.ค. 57

ภาคย์กำลังจะเดินออกไป แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจ หันมาพูดกับวนิษา
“คุณวนิษาครับ ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ขอให้บอกเลยนะครับ อ้อ แล้วอีกอย่าง ผมเห็นด้วยกับคุณครับ”
ภาคย์จะเดินออกไป วนิษาอดเรียกไว้ไม่ได้

“คุณเห็นด้วยเรื่องอะไรคะ”
“ดวงกำหนดชีวิตเราไว้แล้วครับ”
“ทำไมคุณพูดอย่างนั้นล่ะคะ”
ภาคย์ดูลังเลนิดนึง “เรื่องมันยาวน่ะครับ”


“ฉันอยากฟังค่ะ”
ภาคย์แอบยิ้มสมใจ

“ปลายฝนบอกว่าคุณวนิษาไม่อยู่ที่บ้านครับ โทรเข้ามือถือก็ไม่มีสัญญาณ”
ป๋องวางสาย พลางหันมาบอกโจ ที่นั่งหน้าเครียดอยู่
“คงปิดมือถืออยู่ ฉันเป็นห่วงเขาว่ะ”
“ลองโทรไปที่บ้านคุณยายเขารึยังครับ”
“โทรไปแล้ว แต่สายไม่ว่างซักที”

โจถอนหายใจ สีหน้ากังวล
ในชณะที่วนิษากำลังนั่งคุยอยู่กับภาคย์

“มันเริ่มตั้งแต่ตอนผมเป็นเด็กๆ ที่โรงเรียนพานักเรียนไปทัศนศึกษา เกิดรถคว่ำ มีทั้งคนตาย
และบาดเจ็บ ปรากฏว่ามีผมเพียงคนเดียวที่ไม่เป็นอะไรเลย แล้วก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกสองสามครั้ง แม่ผมเลยเอะใจพาผมไปหาหมอดูคนหนึ่ง เขาบอกว่าผมมีดวงปรมะ”
“ยังไงเหรอคะ” วนิษาถามด้วยความสนใจ
“พูดง่ายๆว่ามันเป็นดวงแกร่งครับ อุบัติเหตุ โชคร้าย หรือความซวยอะไรก็ตาม จะไม่สามารถทำอันตรายกับผมได้เลย”
“มีดวงแบบนี้ด้วยเหรอคะเนี่ย”
“ครับ แต่หมอดูบอกว่ามันมีเงื่อนไขด้วย ผมต้องทำตัวอยู่ในศีลในธรรม ถ้าไปก่อกรรมทำเข็ญหรือทำความเลว ดวงแกร่งนี้ก็จะหายไปในที่สุด”
“แล้วตอนนี้ดวงแกร่งยังแกร่งอยู่ไหมคะ”
ภาคย์หัวเราะเบาๆ

“คงเจือจางบ้างแล้วมั้งครับ วันก่อนที่สู้กับโจรที่ตลาด ผมยังได้แผลติดตัวมาเลยจริงๆ แล้วผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้หรอกครับ อยากลองของดูซะด้วยซ้ำ แต่โดยพื้นฐานผมก็เป็นคนปฏิบัติธรรม เข้าวัดเข้าวา เลยไม่มีโอกาสก่อกรรมทำเข็ญอะไรมาก แล้วอีกอย่าง พอผมใช้ชีวิตแบบมีสติอยู่ตลอด โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุ หรือโชคร้ายมันก็ไม่ค่อยมี สรุปว่าไม่รู้เหมือนกันว่าดวงปรมะที่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“แต่ฉันเชื่อค่ะ” วนิษาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทำไมล่ะครับ”
“ถ้าโลกนี้มีคนที่มีดวงโชคร้าย สร้างความวิบัติให้กับคนใกล้ชิด ก็คงจะมีคนที่มีดวงแข็งแกร่ง ที่โชคร้ายนั้นทำอะไรไม่ได้ เพื่อรักษาความสมดุลไงคะ”
“ก็คงเป็นอย่างนั้นมั้งครับ”
ภาคย์แอบยิ้มเจ้าเล่ห์

จากนั้นวนิษาก็ออกมาส่งภาคย์ที่หน้าบ้าน ท่าทางมีความสุข จนภาคย์ขับรถออกไป ในขณะที่ โจจอดรถซุ่มดูอยู่
“ก็ดูมีความสุขดีนี่นา หึ มีความสุขมากซะด้วย ไอ้โจเอ๊ย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
โจหัวเราะเยาะตัวเอง ก่อนที่จะขับรถออกไป

โจมารอวนิษาที่ล็อบบี้คอนโด วนิษาออกมาจากลิฟต์เดินมาหา โจฝืนยิ้มให้
“สวัสดีครับ”
“รู้แล้วใช่ไหมว่าเมื่อวานฉันตบคุณเรื่องอะไร”
โจหน้าจ๋อย “ครับ ผมต้องขอโทษคุณด้วยที่โกหกคุณ”
“เอาเถอะ ฉันรู้ว่าคุณหวังดี ถือว่าให้แล้วกันไป แต่ครั้งหน้าอย่าโกหกฉันอีก”
โจรับคำ วนิษายื่นกุญแจรถให้
“ไปเอารถมาได้แล้ว”
โจรับกุญแจมา เดินออกไปที่ประตูด้านหลัง แต่แล้วก็หมุนตัวเดินกลับมาสีหน้าคับข้องใจ
ไคุณวนิ ผมมีเรื่องข้องใจอยากจะถาม ทำไมคุณหายโกรธผมง่ายจัง เมื่อวานตบผมซะหัวแทบหลุด วันนี้ดูลั้นลา เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
วนิษายิ้มอย่างอารมณ์ดี “ใช่ ฉันอารมณ์ดี เพราะฉันได้เจอใครบางคน”
“ใครกันน้อ มีอิทธิพลกับคุณได้ขนาดนี้”
“คุณไม่รู้จักเขาหรอก”
“พอจะบอกผมได้ไหมครับว่าเขามีอะไรดีที่ทำให้คุณเปลี่ยนไป”
วนิษาไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม “คุณรู้จักดวงปรมะไหม”
โจส่ายหน้า
“ดวงแกร่งที่คนโชคร้ายอย่างคุณหรือฉันทำอะไรเขาไม่ได้ เขาทำให้ฉันรู้ว่าโลกนี้มีดวงแบบนี้อยู่ ถ้าโชคดี ฉันอาจได้เจออีกหลายคน เรื่องนี้แหละที่ทำให้ฉันหายโกรธคุณ การที่คุณโกหกว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงกินผัวน่ะ
ทำให้ฉันดีใจได้แค่ชั่วคราว แต่ดวงปรมะนี่สิ คือคำตอบที่แท้จริงของชีวิตฉัน”
“คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตคุณ? อีกแล้วนะคุณวนิ”
“อะไรอีกแล้ว” วนิษาย้อนถาม
“คุณพูดเรื่องคู่โดยไม่พูดเรื่องความรักอีกแล้ว”
“ตอนที่คุณหลอกฉันสำเร็จว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงกินผัว คุณรู้อะไรมั้ย มันทำให้ฉันคิดเรื่องความรักขึ้นมา แต่พอความจริงเปิดเผยทั้งหมดมันคือเรื่องโกหก ฉันก็เลยเลิกคิด ฉันมีความรักไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากให้ผู้ชายที่ฉันรักต้องมาตายเพราะฉันอีก”

วนิษามองหน้าโจ เหมือนจะบอกอะไรบางอย่างจากก้นบึ้งหัวใจ โจอึ้งไป พูดอะไรไม่ออก
โจจอดรถ ที่หน้าร้านอาหาร พลางลงมาเปิดประตูให้วนิษา ในขณะที่ภาคย์ขี่บิ๊กไบ๊ท์มาถึงพอดี

“สวัสดีครับคุณวนิษา”
“สวัสดีค่ะคุณภาคย์”
โจแอบจับลังเกตมองมองภาคย์ไม่วางตา
“คุณภาคย์มาเร็วจังเลยนะคะ อีกตั้งครึ่งชั่วโมง”
“ที่ผมมาเร็วเพราะตื่นเต้นน่ะครับ ที่จะได้ทานข้าวกลางวันกับคุณวนิษา”
โจแค่นหัวเราะ แอบพูดคนเดียว “เน่าว่ะ”
ภาคย์พูดต่อ “แต่ผมก็ดีใจนะครับ ที่คุณวนิษาก็มาเร็วเหมือนกัน”
วนิษาหัวเราะเขินๆ ขณะที่โจอึ้งไป
“โห มุกสองชั้นนี่หว่า”
ภาคย์ยิ้มให้ พลางผายมือเชิญวนิษาให้เดินเข้าร้านไป โจมองตามไป
“ไม่ธรรมดา แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เชื่อไอ้ดวงปรมะของแกหรอก”

“ไปสืบมาให้ละเอียดเลยนะ ไอ้คนชื่อภาคย์ มันเป็นใคร มาจากไหน ดูประวัติอาชญากรรม
ดูการเข้าออกของเงินในบัญชีย้อนหลังไปสามปี ดูว่ามันมีชื่อมันในแบล็กลิสต์อะไรบ้างไหม”
โจสั่งการกับป๋อง ท่าทางเครียด
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับคดีที่เรากำลังทำนะครับ พี่โจ พี่อย่าเอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาปน
กันสิ”
“ไอ้ป๋อง บังอาจมากนะ”
โจลุกขึ้นเดินมาหาป๋อง พลันประตูบ้านก็เปิดผลัวะ โจกับป๋องหันไป ก็เห็นซูซี่แต่งหญิงแบบจัดเต็ม ปากแดงแจ๊ด ยิ้มปากกว้าง พลางชูสองแขนเข้ามา
“หวัดดีหนุ่มๆ”
โจกับป๋องร้องด้วยความตกใจ
“ฉันเอง”
โจถอนหายใจ “ซูซี่ ขอโทษ คือผมยังไม่ชินหน้าคุณซักทีน่ะ”
“เดี๋ยวก็มานอนกอดทั้งเช้าทั้งเย็นซะเลย จะได้คุ้นหน้าไม่มีลืมเลยดีมั้ย”
โจฝืนหัวเราะ “แล้วเป็นไงบ้าง มีอะไรให้ช่วยครับ”
“ไม่มีจ้ะ แค่จะมาขอบคุณพวกเธอ ฉันเอาคลิปนั่นให้ตำรวจดูแล้ว ฉันรอดแล้ว ฉันจะได้กลับไปใช้ชีวิตได้แบบคนปกติได้แล้ว ขอบคุณมากนะโจ”
ซูซี่กางแขนเหมือนตอนเข้ามาแล้วเข้ามากอดโจแน่น โจยิ้มรับไม่ว่าอะไร ป๋องหัวเราะ ซูซี่ปล่อยมือจากโจหันมามองป๋อง
“ขอบคุณเธอด้วยนะป๋อง”
ซูซี่ผละจากโจเข้ามากอดป๋อง
“ไม่ต้องครับ บอกว่าไม่ต้อง”
ป๋องพยายามผลักแต่ผลักไม่ออก ซูซี่กอดจนหนำใจค่อยปล่อยมือ หยิบซองบัตรเชิญออกมาทั้งคู่
“ในฐานะที่เธอสองคนเป็นผู้มีพระคุณของฉัน ก็เลยจะมาเชิญเธอสองคนไปงานเปิดร้านใหม่ด้วย”
“ร้านใหม่?” โจแปลกใจ
“ก็ร้านเดิมนั่นแหละ แต่ตอนนี้ร้านเป็นของฉันแล้ว สถาพรเขาทำมรดกยกร้านนี้ให้ฉัน”
“อ้อ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 13 วันที่ 31 พ.ค. 57

ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
ละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ