@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 10/2 วันที่ 28 พ.ค. 57

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 10/2 วันที่ 28 พ.ค. 57

“เพื่อที่คุณจะได้บอกลูกค้าคุณได้เต็มปากว่าฉันบริสุทธิ์ไง เขาจะได้เลิกอคติกับฉันซะที”
“คุณรู้เหรอว่าใครคือลูกค้าผม”
วนิษาพยักหน้ายิ้มๆ “ฉันพอเดาได้”

“แน่ใจเหรอ ถ้าผมพิสูจน์ได้ว่าคุณคือฆาตกรขึ้นมาจริงๆล่ะก็ คุณอาจจะติดคุกนะครับ”
“เริ่มงานพรุ่งนี้”


พูดจบวนิษาก็เดินออกไป ด้วยสีหน้ายังคงเย็นชา ในขณะที่โจยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
โจมารอวนิษาอยู่ที่ล็อบบี้คอนโดแต่เช้า

“อรุณสวัสดิ์ครับ”
วนิษายิ้มให้ “ไง คิดได้รึยังว่าวันนี้จะสืบเรื่องอะไร”
“ผมวางแผนอยู่ทั้งคืน รับรองเด็ดแน่”
“บอกได้ไหม”
“จริงๆผมไม่ควรบอกตอนนี้นะ” โจแกล้งเล่นแง่ “แต่ในเมื่อคุณกล้าถาม ผมก็กล้าตอบ”
“ไหนว่ามาซิ”
โจเริ่มอธิบายอย่างมีหลักการ
“ที่ผ่านมาผมตั้งสมมติฐานว่าคุณคือฆาตกร ผมจึงสืบหาว่าคุณใช้วิธีไหนฆ่าอดีตสามีของคุณ แต่ผมก็ไม่ได้คำตอบซะที ซึ่งนั่นเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือคุณเก่งมาก ฉลาดมาก จนผมตามไม่ทัน”

วนิษายิ้ม “ขอบใจที่ชม”
“แต่เท่าที่ผมรู้จักคุณ คุณไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น”
วนิษาหุบยิ้มทันที “นี่ หาว่าฉันโง่เหรอ”
“เปล่าครับ แค่ไม่ฉลาดพอจะฆ่าคนสามคนโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้”
“แล้วอย่างที่สองล่ะ ดวงกินผัวของฉันเหรอ”
“เรื่องนั้นผมยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียว”
“งั้นเรื่องอะไร” วนิษาย้อนถาม
“คุณไม่ใช่ฆาตกร ฆาตกรคือคนอื่น”
วนิษาอึ้งไปครู่หนึ่ง “ใครมันจะมาตามฆ่าสามีฉันตั้งสามคน”
“ใครบางคนที่แอบหลงรักคุณ”
วนิษา ส่ายหน้า “ไม่มีหรอก”
“คุณอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ อย่างผมไง”
โจเผลอหลุดปาก วนิษาอึ้งไป
“อย่างคุณทำไมเหรอ”
โจรู้ตัว รีบหาทางเบี่ยงประเด็น
“อย่างผม เอ่ออย่างผม ก็เคยมีผู้หญิงแอบชอบ กว่าจะรู้ตัวก็ตั้งนาน”
“หน้าอย่างคุณเนี่ยนะ อืม ก็อาจเป็นไปได้ วันก่อนมีผู้หญิงคนนึงมาหาฉัน ถามว่า”
วนิษายังพูดไม่จบ โจก็รีบแทรกขึ้นมา
“อย่าเพิ่งนอกเรื่องครับ กลับมาที่เรื่องของคุณดีกว่า”
“สมมติว่ามีผู้ชายที่แอบชอบฉันแล้วไง เขาคือฆาตกรเหรอ”
โจส่ายหน้า
“ผมยังไม่ได้สรุป แค่ยกตัวอย่างให้คุณเห็นว่านี่คือแนวทางการสืบสวนอีกมุมของผม”
“เป็นแนวทางการสืบสวนที่มองฉันในแง่ดีมากขึ้น น่าจะสืบแบบนี้ตั้งแต่แรก”
“ก็ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักคุณดีพอนี่นา”
“ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าฉันโง่เกินกว่าจะเป็นฆาตกรคนนั้น”
โจโบกมือปฎิเสธ “เปล่า ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าคุณจิตใจคุณดีเกินกว่าจะเป็นฆาตกรต่างหาก”

วนิษามองโจ ทั้งคู่สบตากัน แล้ววนิษาก็เป็นฝ่ายหลบตาเสียเอง
โจกับป๋องลงจากรถ เดินเข้ามาในบริเวณบ้านที่ปิดไฟมืดอยู่ แต่จู่ๆ โจก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นที่หน้าประตูบ้าน มีร่างคนคนหนึ่งซุกกายอยู่ในเงามืด ป๋องหันมาเห็นก็ชะงัก หลบไปอยู่หลังโจ

เงามืดเปิดไฟฉายส่องหน้าตัวเองจากใต้คาง โจกับป๋องตกใจแหกปากร้องลั่น กอดกันแน่น
ทำเอาซูซี่พลอยตกใจ วิ่งเข้ามากอดด้วย โจกับป๋องยิ่งตกใจ ร้องลั่น โจถีบซูซี่กระเด็นออกไป
“โอ๊ย”
โจได้ยินเสียงร้องก็ชะงัก เดินไปเปิดไฟหน้าบ้าน ขณะที่ป๋องวิ่งหลบไปอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง
“ซูซี่”
“ก็ฉันน่ะสิ ทำไมต้องมาถีบฉันด้วย”
โจถอนหายใจ “ขอโทษที นึกว่าซอมบี้อาละวาด”
“เอาเถอะ นึกว่าซอมบี้ยังดีกว่าผีปอบ”
“แปลว่าเคยมีคนเห็นคุณเป็นผีปอบเหรอครับ” ป๋องหันมาถามบ้าง
“บ่อยไป”
“ถ้าไม่อยากโดนเข้าใจผิด ก็อย่ามาอยู่มุมมืดๆแบบนี้สิครับ”
“ก็ฉันเข้าบ้านไม่ได้นี่นา ก็ต้องทำแบบนี้แหละ”
“แล้วคุณรู้จักบ้านผมได้ไงเนี่ย” โจอดสงสัยไม่ได้
“ก็ไปถามพ่อเธอน่ะสิ”
“เข้าไปคุยกันข้างในก่อนเถอะครับ”
ป๋องพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะนึกว่าบ้านเราเลี้ยงผีกองกอยเอาไว้”
ซูซี่มองค้อนป๋อง “ลูกสาวยายแกน่ะสิผีกองกอย”

“คดีของฉันมีอะไรคืบหน้ามั้ย”
ซูซี่ถามขึ้นทันทีเมื่อทั้งสามคนนั่งล้อมวงคุยกันในห้องรับแขก
“ยังไม่มี ติดอยู่ที่เดิม คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าสถาพรเป็นโรคนอนไม่หลับแล้วต้องใช้ยา”
“ที่ฉันมาหาคุณเนี่ย เพราะคิดขึ้นมาได้ว่า ยังมีอีกที่ที่คุณน่าจะไปดู”
“ที่ไหน” โจถามอย่างกระตือรือล้น
“ที่รถของเขา อาจจะมีหลักฐานบางอย่างอยู่ในรถของเขา ฉันเห็นเก็บของหลายอย่างไว้ที่รถ”
โจพยักหน้า “เดี๋ยวผมไปดูเอง รถเขาอยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้รถจอดอยู่ที่บ้านพี่ชายเขาค่ะ”
“แล้วรู้จักบ้านพี่ชายเขาไหมครับ”
“อยู่ในสลัมที่ได้ชื่อว่าดุที่สุดในกรุงเทพค่ะ” ซูซี่พูดเสียงอ่อยๆ
“สลัมซอยกระดุม?”
“ค่ะ”
โจยิ้ม ในขณะที่ป๋องโวยลั่น
“สลัมซอยกระดุมเนี่ยนะ”
“ยากไปใช่ไหมคะ” ซูซี่ย้อนถาม
“ถามได้ ยากถึงยากที่สุด นักเลงที่นั่นน่ะโคตะระดุเลย”
โจมองป๋องแบบรำคาญๆ “เดี๋ยวผมจัดการเอง ไม่มีปัญหา”
ป๋องแอบมองโจ ท่าทางดูไม่ค่อยเชื่อโจ

เมื่อส่งซูซี่ขึ้นรถแท็กซี่กลับไปแล้ว ป๋องก็อดไม่ได้ที่จะหันมาถามโจ
“เอาจริงเหรอพี่ เรื่องจะบุกเข้าไปในสลัมนั่นน่ะ”
โจมองหน้าป๋อง “ทำไมเหรอ”
“มันเสี่ยงมากนะพี่”
“แกกลัวเหรอ”
ป๋องไม่ตอบ แต่หน้าเหย
“แล้วเราจะช่วยซูซี่ยังไง”
โจย้อนถาม ป๋องถึงกับเงียบไป
“ถ้าแกไม่กล้าก็ไม่เป็นไร ฉันไปคนเดียวได้”

ป๋องยืนเหม่อๆอยู่หลังเคาน์เตอร์ในฟาสต์ฟู้ด ปลายฝนเข้ามายืนข้างหน้า
“รับอะไรดีครับ”
ป๋องทักทาย โดยไม่ทันได้มองหน้า คิดว่าเป็นลูกค้าทั่วไป
“เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย”
ป๋องสะดุ้ง ตื่นจากภวังค์ “ปลายฝน”

“เอ่อ สลัมซอยกระดุมมันเป็นไงเหรอ ฉันไม่รู้จัก”
ปลายฝนถามป๋อง เมื่อนั่งคุยกันอยู่ภายในร้าน
“เป็นสลัมเก่าแก่ของกรุงเทพ ถ้าเธอเป็นคนในสลัมนั้นก็โอเคอ่ะ แต่ถ้าเป็นคนนอกแหยมเข้าไปล่ะก็
มีแต่ตายกับตาย เขาลือกันว่าทุกบ้านในนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย ดังนั้นพอมีคนนอกเข้าไป เขาจะนึกว่าสายตำรวจ ก็จะรุมกระทืบก่อนแล้วค่อยถามว่าเข้ามาทำไม”
ปลายฝนตาโต “ต้องบุกเข้าไปในนั้นด้วยเหรอ”
“ใช่ ฉันยอมรับว่าปอดแหกสุดๆ แต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้พี่โจไปคนเดียว”
“อันตรายของจริงเลยนะเนี่ย”
“เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าทำไมถึงกลุ้ม”
ปลายฝนพยักหน้า “อื้อ ขอฉันไปด้วยคนสิ”
ป๋องถึงกับผงะ
“อะไรนะ จะบ้าเหรอ”
“น่าสนุกดีออก” ปลายฝนสีหน้าเริงร่า
“สนุกกะผีน่ะสิ พวกนั้นน่ะไม่ใช่ตาสีตาสานะ โอกาสโดนจับได้น่ะสูงมาก แล้วถ้าโดนจับได้เละแน่ๆ เธอไม่เข้าใจเหรอไง”

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 10/2 วันที่ 28 พ.ค. 57

ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
ละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ