@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4/2 วันที่ 20 พ.ค. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4/2 วันที่ 20 พ.ค. 57

ว่าแล้วสองคนก็พุ่งสุดตีนวิ่งเข้ามาหานัครินทร์ นัครินทร์ร้องจ๊าก เพราะ 2 นางนานาชาติโดดตัวลอยโถม
เข้าใส่ยังกะนักวิ่งชิงกันพุ่งเข้าเส้นชัยยังไงยังงั้น “อย่าาาาา!!!”
“แอร๊ยยยยย!!”

ผลก็คือ ทั้ง 3 คนกองอยู่กับพื้น โดยเคทีและวีวี่ยังยื้อแย่งจะครอบครองนัครินทร์กันชุลมุน
“ฉันมาก่อน”
“ฉันมาก่อนนะก๊ะ”
นัครินทร์พยายามจะคลานมุดหนีแต่ก็โดน 2 สาวดึงมายื้อแย่งกันต่อไป
ประกายเดือนยืนมองส่ายหน้า ขำ สะใจ “ดินเนอร์ให้สนุกนะก๊ะ...โอปป้า!!! ฮิฮิฮิ” ประกายเดือนทำท่าซารังเฮโย ก่อนจะเดินออกไป
“เฮ้ย!! คุณจะไปไหน กลับมาก่อน มาช่วยผมก่อนนนนนน”
นัครินทร์ยังอยู่ในเงื้อมมือ 2 สาว น่าสงสาร


คอนโดปานตะวัน ปานตะวันเพิ่งอาบน้ำเสร็จใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วค่อยๆ เดินมาที่เตียง ยืนมองชุดสวยที่นาคินทร์ซื้อให้ที่วางแผ่อยู่ ปานตะวันค่อยๆ นั่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนิดนึง ถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน สายตาเหลือบไปเห็น “ซองสัญญา” วางอยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆ หยิบมามอง แล้วแกะออกอ่านดูเรื่อยๆ ซักพักเริ่มเอ๊ะ! ขมวดคิ้ว“ว่าด้วยรายละเอียดกรณีการผิดสัญญา” หน้าปานตะวันงงๆ
เสียงนาคินทร์ “ในกรณีที่ฝ่ายนายจ้างผิดสัญญา เช่น ตัดสินใจเลิกว่าจ้างก่อนถึงกำหนดที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุด ผู้ถูกว่าจ้างจะได้รับเงินเดือนที่เหลืออยู่ เช่น หากว่าจ้างได้เพียง 3 เดือนและต้องการเลิกจ้าง นายจ้างจะต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินสองล้านเจ็ดแสนบาทให้ฝ่ายลูกจ้างทันที 9 เดือน x 300,000 บาท(สามเท่าของเงินเดือน)”
ปานตะวันอึ้งๆ ก่อนจะอ่านต่อ “ในทางกลับกัน..หากฝ่ายลูกจ้างผิดสัญญาและขอลาออก ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดจะต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นสามเท่าของเงินเดือนให้กับฝ่ายนายจ้าง เช่น หากทำงานได้เพียงหกเดือนและลาออกจะต้องจ่ายเงินหนึ่งล้านแปดแสนบาท 6 เดือน x 300,000 (สามเท่าของเงินเดือน) เป็นค่าเสียหายทันที”
ปานตะวันอึ้ง!! เผลอปล่อยสัญญาค่อยๆ ปลิวร่วงหลุดมือ นั่งงงก่อนจะรู้สึกตัวรีบหยิบสัญญามาอ่านใหม่อีกรอบ “หากทำงานได้เพียงหกเดือน และลาออกต้องจ่ายเงินหนึ่งล้านแปดแสนบาท 6 เดือน x 300,000 (สามเท่าของเงินเดือน) เป็นค่าเสียหายทันที!!!”
ปานตะวันอึ้ง “อะไรกันเนี่ย...ทำไมคุณนาคินทร์ไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อนเลย”
ปานตะวันยังมึน ส่วนนาคินทร์ขับรถสีหน้าอิ่มเอมใจในชัยชนะที่รออยู่ข้างหน้า

ที่คอนโดปานตะวัน ประกายเดือนเปิดประตูลั้นลาเข้ามาพร้อมถุงก๋วยเตี๋ยว “ตะวันนนน..หมี่เกี๋ยวหมูแดงมาแล้วจ้าาาาาา” ประกายเดือนชะงักเห็นเงียบผิดปกติ ค่อย ๆ เดินหา “ตะวัน..ตะวัน..ว๊าย!!!”
ประกายเดือนผงะเงิบเพราะหันมาป๊ะปานตะวันที่ยืนประชิดอยู่ด้านหลัง “เฮ้อ! ตกใจหมดเลยตะวัน ทำไมมายืนเงียบ ๆ อยู่”
ประกายเดือนพูดไม่ทันจบ ปานตะวันก็โผเข้ากอดประกายเดือนแน่น ประกายเดือนอึ้งไปซักพัก ผละออกมองหน้าพี่สาว “มีอะไรตะวัน?! ใครทำอะไรตะวัน??”
ปานตะวันมองหน้าน้องสาว หนักใจ ประกายเดือนมองเห็นสัญญาที่อยู่ในมือพี่สาว ก็มองแล้วถาม “อะไรน่ะ?!” ไม่รอให้ตะวันตอบ ประกายเดือนก็กระชากสัญญามาดูเอง“เดี๋ยว..เดือน!!”
ประกายเดือนอ่านตาโต “สัญญาว่าจ้าง?! อะไรกันน่ะตะวัน”
ปานตะวันมองหน้าน้องสาวหนักใจพูดไม่ออก

ที่บ้านไกรตระกูล อัครินทร์เข็นรถเข็นให้นารถนรินทร์กินลมชมจันทร์เล่นเพลิน ๆ แต่ไม่ได้ระมัดระวัง เข็นไปชมโครม“ว๊าย!! พี่อัค!!”
“เฮ๊ย!! โทษ ๆ .. โทษทีนารถ”
“ตกลงขาน้องจะหายมั้ยเนี่ย ของเก่ายังไม่ทันหาย พี่ชายจะทำน้องหักใหม่อีกรอบซะแระ?!”
“โทษที พี่มองไม่เห็น”
“มองไม่เห็นรึว่าไม่ได้มอง?! พี่อัครู้ตัวป่ะคะว่าวันนี้ใจลอยผิดปกติ”
“เหรอ? พี่อ่ะนะ ใจลอย?!”
นารถนรินทร์พยักหน้าคอนเฟิร์ม “ฮื่อ!!! พี่อัคน่ะแหละ ใจลอยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังทานข้าวเย็นกับพี่คินทร์กับพี่ตะวันเสร็จ”
อัครินทร์อึ้ง นารถนรินทร์รีบถาม “พี่อัคว่าพี่ตะวันสวยมั้ยคะ?”
อัครินทร์ตอบซื่อๆ “อือ..ก็สวยดี”
“นั่นไง!! แอบปิ๊งพี่ตะวันแน่ๆ อย่านะ..อย่าคิดแย่งพี่ตะวันของพี่คินทร์เด็ดขาดไม่งั้นน้องจะฟ้องคุณพ่อคุณแม่จริง ๆ ด้วย”
อัครินทร์ขำๆ “เฮ้ย!! ยัยนารถ พี่ยังไม่ได้คิดอะไรเลย ถามมาว่าสวยมั้ย พี่ก็ตอบว่าสวยดีแล้วไง เนี้ย?! พี่ไม่ใช่พี่นัคนะ เห็นใครก็จะจีบเค้าไปหมด”
นารถนรินทร์จ้องตา “แน่นะ?!!”
อัครินทร์ขำ “ก็เออสิ!! นี่!! เป็นไรเยอะเนี่ย??”
“ก็..แหม..น้องสงสารพี่คินนี่ ตั้งแต่พี่กนกตายพี่คินก็ไม่ยอมรักใครชอบใคร ไม่รู้จะทำร้ายหัวใจตัวเองไปทำไม แต่วันนี้..พี่ตะวันกำลังจะทำให้พี่คินกลับมาเป็นพี่คินคนเดิม น้องก็ต้องแบ็คสุดพลังสิคะ”
“อืมม์..แต่พี่ว่ามันแปลก ๆ”
“แปลกยังไงคะ?”
“มัน..เร็วไป”
“โห่!! พี่อัค ใครเค้าจะช้าเหมือนพี่อัคล่ะคะ? จนป่านนี้ยังไม่เคยพาสาวเข้าบ้านเลยซักคน”
“นี่..จำไม่ได้เหรอนารถ สมัยพี่คินจีบกนกก็ช้านะดูแล้วดูอีก เฝ้าแอบมองอยู่ตั้งหลายปี ไม่เห็นจะจู่โจมเหมือนครั้งนี้”
นารถนรินทร์คิดตามนิดนึง “ไม่ต้องเลย อิจฉาพี่คินแน่ ๆ ไม่ต้องห่วงค่ะพี่อัค ไว้ลุ้นคู่พี่คินกับพี่ตะวันสำเร็จเมื่อไหร่ รับรองว่าน้องจะจัดให้พี่อัคเป็นคู่ต่อไปทันที แต่ตอนนี้ขอให้เลิกอิจฉาพี่คินแล้วหันมาร่วมมือกับน้องลุ้นพี่ตะวันก่อน โอเคป่ะ?!”
“ดราม่าละยัยนารถ พี่จะไปอิจฉาพี่คินเค้าทำไม? แต่..ไม่รู้สิ..พี่ว่า..ทุกอย่างมันรวดเร็วเกินไปจริงๆ”

ที่คอนโดปานตะวัน ประกายเดือนเงยหน้าขึ้นจากสัญญา ทำตาโต “เร็วเกินไป? ตรงไหน..ตะวัน?!!”
“ก็จู่ ๆ จะให้พี่ย้ายเข้าบ้านเค้าเลยภายในพรุ่งนี้ อย่างนี้มันไม่เรียกว่าเร็วเกินไปเหรอ เดือน?!”
ประกายเดือนส่ายหน้า “โนๆๆ เค้าไม่เรียกว่าเร็วเกินไป แต่ต้องเรียกว่า “ปิ๊งรักสายฟ้าแลบ” จ้า” ประกายเดือนทำหน้าทะเล้น “เจอะปุ๊บปิ๊งปั๊บจับตัวเข้าบ้านทันทีจ้า”
ประกายเดือนคิกคัก ปานตะวันไม่ขำด้วย “เดือน!! ยังจะมาทำเป็นเรื่องตลก!! นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะ”
ประกายเดือนหน้าซีเรียส “ถูก!! ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่งานนี้ท่านประธานเค้าเอาจริง!!! ฮ่าๆๆๆ”
ปานตะวันเสียงเข้ม “เดือน!! ตั้งแต่เล็กจนโต เรา 2 คนไม่เคยต้องแยกจากกันแบบนี้”
ประกายเดือนอึ้งไปนิดนึง “โธ่..ตะวัน”
“ตั้งแต่พ่อแม่ตาย พี่ไม่เคยทิ้งให้เดือนต้องอยู่คนเดียว”
“อืมม์..เค้ารู้” ประกายเดือนปลอบใจ
“แต่นี่มันเป็นงานและอีกอย่าง เค้าก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วเค้าโตแล้วนะตะวัน”
“เดือนไม่คิดถึงพี่เหรอ?”
ประกายเดือนหลุดขำ “คิดถึงสิทำไมจะไม่คิดถึง แต่คิดถึงกันเราก็โทร.หากัน มาเจอกันได้นี่ แหมทำยังกะทุกวันนี้เราตัวติดกัน 24 ชม. งั้นแหละจริงมั้ย”
“แต่พี่เป็นห่วงเดือน”
“ไม่ต้องเป็นห่วง บอกแล้วไงเค้าโตแล้ว แล้วเค้าก็เก่งมากด้วย ตะวันสอนเค้ามาจนน้องสาวคนนี้เก่งมาก ไม่ต้องห่วง โอเคมั้ย? 1 ปีแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หมดสัญญาแล้ว ว่าแต่ตะวันเหอะ หมดสัญญาแล้วจะกลับมาหาเค้ารึว่าจะอยู่ยาวกับท่านประธานเลยก็ไม่รู๊???”
“บ้า...เออ..แต่พี่ว่า..สัญญานี่มันโหดมากนะเดือน ถ้าพี่ทำงานให้เค้าได้ไม่ครบปีพี่จะโดนปรับตั้งเกือบ 2 ล้าน”
“โอย...ไม่ครบปีเนี่ยนะ?! ตะกี้เพิ่งบอกไง ไปแล้วจะไปลับไม่กลับมาหาน้องนุ่งรึเปล่ายังไม่รู้เล๊ยยย”“เดือนนนน”
“คิดมากน่ะตะวัน เงินเดือนขนาดนี้ โบนัสก้อนใหญ่ แถมคอนโดอีก 1 ห้องอย่างหรูซะขนาดนี้ ที่สำคัญ.. นายจ้างหล่อรวยเทพ ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว เหอะนะๆๆตะวัน ขยันๆ ทำงาน รีบทำให้น้องสาวท่านประธานเดินได้เร็ว ๆ ชาตินี้ขอให้ลูกช้างได้เห็นเงินล้านให้เป็นบุญตาซักครั้งสาธุ!!!”
ปานตะวันแววตาสดใสขึ้น อยากเห็นน้องมีความสุข
“นะ ๆๆ”
ปานตะวันยิ้มน้อยๆ ตัดสินใจ “พี่จะตั้งใจเต็มที่..ครบ 1 ปี เมื่อไหร่ เรา 2 คน พี่น้องจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก..นะ..เดือน”
“เย้ !!!” สองคนโผกอดกัน ทั้งที่ยิ้มแต่แอบมีน้ำตาซึมเพราะแอบคิดถึงกันอยู่

ที่เรือนหอนาคินทร์และกนกวลี รถนาคินทร์แล่นเข้ามาจอดนิ่งที่หน้าเรือนหอของ นาคินทร์นั่งจ้องนิ่ง
นาคินทร์นึกถึงภาพในอดีต ตอนที่นาคินทร์พากนกวลีในชุดเจ้าสาว มาหยุดยืนหน้าบ้าน กนกวลีหน้าตาตื่นเต้นดีใจ “ชอบเรือนหอของเรามั้ยครับ?”
“พี่คินทร์..บ้านหลังนี้เหมือนกับบ้านที่เราเคยไปเที่ยวกันที่เขาใหญ่แล้วกนกบอกว่าอยากให้เรือนหอของเราเป็นแบบนี้ พี่คินทร์..กนกไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากนกจะได้อยู่บ้านในฝันกับพี่คินทร์จริง ๆ ด้วย”
“ต้องได้สิครับ นับจากนี้ไปหน้าที่ของพี่คินทร์ก็คือจะต้องทำความฝันทุกอย่างของกนกให้เป็นจริง” กนกวลีปลื้มสุด ๆ โผกอด “พี่คินทร์!!!”
นาคินทร์กอดตอบ “เราเข้าไปดูบ้านของเรากันนะครับ”
“ค่ะ”
นาคินทร์ช้อนตัวกนกวลีเดินเข้าไปในบ้าน

นาคินทร์นั่งหน้าเศร้าอยู่ในรถ ซักพักนาคินทร์ค่อย ๆ ลงจากรถปิดประตูแล้วเดินเข้าบ้านไป นาคินทร์ค่อย ๆ เปิดประตู ยืนมองไปทั่ว ๆ บ้าน ทุกอย่างในบ้านยังคงสภาพเดิม เหมือนใหม่แต่ไร้ชีวิตชีวา นาคินทร์ค่อย ๆ ก้าว
เข้ามาก่อนจะเดินไปผลักประตูห้องนอนที่เคยอุ้มเจ้าสาวเข้าไป แล้วนึกถึงตอนที่ตัวเองอุ้มกนกวลีในชุดเจ้าสาวเข้าห้องอย่างยิ้มแย้มมีความสุข
นาคินทร์กลืนความรู้สึกขมขื่น กวาดตามองกระเป๋าเสื้อผ้า รูปคู่ 2 คน ยิ้มชื่นที่หัวเตียง ก่อนที่นาคินทร์จะทรุดลงนั่งบนเตียงแล้วหงายลงนอนนิ่ง สายตาเหม่อลอยมองเพดาน “กนก..พี่คินทร์สัญญา..แก้แค้นให้กนกสำเร็จเมื่อไหร่พี่คินทร์จะกลับมาอยู่กับกนก..ที่นี่ตลอดไปนะครับ”
น้ำตานาคินทร์ค่อย ๆ ไหล นาคินทร์หลับตาลง ข่มความรู้สึกที่ยังเจ็บปวดอยู่ไม่รู้ลืม

เช้าวันใหม่ บริเวณส่วนกลางชั้นผู้บริหาร จามจุรีเดินตรวจตรา รับไหว้พนักงานอยู่จนมาถึงปาริฉัตรที่นั่งประจำที่อยู่ที่โต๊ะแล้ว ปาริฉัตรยกมือไหว้ จามจุรีรับไหว้ “สวัสดีค่ะคุณจามจุรี”
“ไหว้พระจ๊ะ..มาเช้าตามเคยนะ เฮ้อ! นี่ถ้าพนักงานคนอื่น ๆ โดยเฉพาะแม่สมรศรีกับอีตาลูกกอล์ฟจะมาเช้าเหมือนเธอบ้างก็คงจะดีนะจ๊ะ..ปาริฉัตร
สองคนส่งเสียงแปร๋น ก่อนจะเดินแด๊ะแด๋เข้ามา
“เจริญพรอะไรให้ญาติโยมแต่เช้าเชียวคะคุณเจเจ”
“คุณพระ” จามจุรีมองนาฬิกา “เป็นไปได้ยังไง? มาสายไปแค่ 15 นาที ปกติต้องครึ่ง ชม. เป็นอย่างน้อยไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
“ถูกกกกกกค่ะ!!” มอลลี่ผลักหัวลูกกอล์ฟ “ก็อีนังลูกกอล์ฟเนี่ยสิ กลัวจะอดกินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋หน้าบริษัท เลยปลุกมอลลี่มาเข้าคิวซื้อแต่เช้า”
มอลลี่หาวหวอดใหญ่ “ห๊าววว!! ขอไปงีบนิดนึงนะคะ หน้าจะได้เฟรช” มอลลี่สั่งลูกกอล์ฟ “เก็บไว้ให้ฉันด้วยล่ะแก น้ำเต้าหู้ 1 ปาท่องโก๋ 2 ตื่นมาฉันจะกิน”
จามจุรีสวน พูดขึ้นพร้อมกัน “หน้าจะได้เฟรช!!!”
“ตามนั้น!!!” พูดจบมอลลี่ก็สะบัดตูดออกไป
“แฮ่..ขอโทษนะครับ กะจะซื้อมาฝากคุณเจเจกะน้องฉัตร แต่มีคนต่อคิวยาวมากกกกกก เกรงว่าซื้อมาเยอะแล้วคนหลัง ๆ อดกิน จะบาปกรรม แฮ่..เลยไม่ได้ซื้อมาเผื่อนะครับ สวัสดีครับ” พูดจบลูกกอล์ฟก็ม้วนตัวออกไป จามจุรีส่ายหน้า ถอนใจเฮือก
“มนุษย์หนอ!” จามจุรีบอกกับปริฉัตร “ท่านประธานเซ็นเอกสารเมื่อวานรึยังจ๊ะ”
ปาริฉัตรหน้าจ๋อยๆ “ยังเลยค่ะ”
“อ้าว.. ไม่เป็นไร ถ้างั้นช่วยเข้าไปเตือนให้หน่อยนะจ๊ะ ต้องรีบใช้”
ปาริฉัตรจ๋อย ๆ แอบหน้าตึง “คือ..ท่านประธานยังไม่มาค่ะ”
“อะไรนะ? ท่านประธานยังไม่มา??? เป็นไปได้ยังไง ตั้งแต่ทำงานมา ท่านประธานไม่เคยมาทำงานสายเลยแม้แต่วันเดียว”
ปาริฉัตรแอบงอน “เมื่อวานก็กลับออกไปเร็วด้วยค่ะ”
“หา??..ว่าไงนะ??..นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?!”
“คุณจามจุรี!! คุณจามจุรี!!!”
จามจุรีสะดุ้งโหยง “คะ??คะ??คะ??”
จามจุรีหันไปเห็นเป็นนัครินทร์ บนหน้ามีรอยเล็บขีดข่วนเห็นได้ชัดทั้ง 2 แก้ม เดินหน้านิ่ว อารมณ์เสีย จ้ำๆๆ เข้ามา จามจุรีตกใจมาก ขยี้ตา

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4/2 วันที่ 20 พ.ค. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ