@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 20 พ.ค. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 20 พ.ค. 57

สาวิตรี ทวยเทพ นารถนรินทร์และใบตองพากันคิกคัก คิดว่านาคินทร์แอบปิ๊งปานตะวันชัวร์ ยกเว้นอัครินทร์ที่มองๆ พี่ชายแบบไม่ 100%
นาคินทร์ถามปานตะวัน “ตกลงรับทำงานนี้นะครับ”

ปานตะวันมองคนนู้นคนนี้ เห็นทุกคนจ้องรอคำตอบ ก็ถอนใจเฮือก คิดนิดนึงก่อนจะ..ตอบเบาๆ “ก็ได้ค่ะ”
นาคินทร์ตาวาวด้วยความพอใจ นารถนรินทร์ดีใจมาก สาวิตรีและทวยเทพก็พลอยดีใจด้วย ส่วนอัครินทร์
ยังมองๆ อย่างไม่แน่ใจ


นาคินทร์โพล่งขึ้น “ถ้างั้นเดี๋ยวทานข้าวเสร็จเราจะได้เซ็นสัญญากันเลย”
ทุกคนในบ้านหันขวับไปมองนาคินทร์อย่างงงๆ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องสัญญาว่าจ้างมาก่อน ปานตะวันยิ่งงงกว่าใคร “สัญญา??..ต้องเซ็นสัญญาด้วยเหรอคะ??”
ปานตะวันมองหน้านาคินทร์ ทุกคนบนโต๊ะก็มองนาคินทร์เป็นตาเดียว
“ครับ..ทุกคนที่มาทำงานให้เราต้องเซ็นสัญญา 1 ปี เหมือนกันหมด”
อัครินทร์หันขวับมองนาคินทร์ นาคินทร์ยิ้ม “เพื่อเป็นหลักประกันให้กับทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับคุณ เป็นหลักประกันว่าจะไม่ถูกเลิกจ้างก่อนกำหนด ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องค่าจ้าง ส่วนทางเราก็มั่นใจได้ว่าคุณจะอยู่ทำงานจนครบ 1 ปี จริงๆหรืออาจจะนานกว่านั้น”
ปานตะวันหลบตาทันที ทุกคนหมดข้อสงสัย..มองตากันวุ๊งวิ๊งว่านาคินทร์ปิ๊งปานตะวันชัวร์ ยกเว้นอัครินทร์นั่งนิ่ง มองนาคินทร์ที่กำลังมองปานตะวัน ปานตะวันถอนใจเฮือก ตกกะไดพลอยโจนไปแล้วเรา นาคินทร์สมใจ!!

ในครัว บ้านไกรตระกูล สาวิตรีจัดของหวานอย่างตั้งใจ มีใบตองคอยช่วย
อัครินทร์ยืนคิดอยู่ข้างๆ “ผมว่าวันนี้พี่คินเค้าแปลกๆ นะครับคุณแม่”
“แน่นอนจ้ะ..คนกำลังมีความรักก็มักจะเป็นเช่นนี้แหละ” สาวิตรีคิกคักกับใบตอง
“ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ”
“อ้าว..ไม่ใช่เรื่องนั้น แล้วมันเรื่องไหนจ๊ะ..ลูกหมอ?”
“ก็เรื่อง..สัญญาไงครับ ทำไมพี่คินถึงบอกคุณตะวันว่าต้องเซ็นสัญญา ในเมื่อที่ผ่านมาพยาบาลกี่คนต่อกี่คนที่ผมติดต่อมาดูแลยัยนารถ ก็ไม่เคยต้องเซ็นสัญญาเลยซักคน”
สาวิตรีอึ้งไป ก่อนจะยิ้ม “ความรักมักจะทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง บางทีพี่คินเค้าอาจกลัวว่าหนูตะวันจะทำงานอยู่กับเราไม่นาน พี่คินก็เลยเอาเรื่องสัญญามาอ้าง นี่!! ลูกหมอ วันๆ ตรวจคนไข้ยังไม่เครียดพออีกเหรอจ๊ะ ยังจะมาคิดมากเรื่องพี่คินเค้าทำไม แม่ว่าดีออกที่เห็นพี่คินแคร์หนูตะวันขนาดนี้ เพราะแม่นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นเค้าแคร์ผู้หญิงคนไหนอีกแล้วนับจากเสียหนูกนกไป - - จริงมั๊ยใบตอง”
ใบตองชื่นอกชื่นใจ “จริงค่ะ..คุณผู้หญิง”
“แต่ผม”
สาวิตรีไม่สนใจ “ขึ้นโต๊ะเลยเร้ว..แม่ใบตอง”
“ทันทีค่ะ”
สาวิตรีจะเดินออกแล้วชะงัก หันมาบอกอัครินทร์ “นี่!! ทางที่ดีนะ แม่ว่าเราน่ะเจียดเวลาตรวจคนไข้ไปหาแฟนกะเค้าซักคนสิจ๊ะจะได้เข้าใจพี่คินเค้าดีขึ้น ฮิฮิ” สาวิตรีเดินลั้นลาออกไป
ใบตองตามมากระซิบ “จะได้ซึ้งค่ะ”
ใบตองวิ่งจู๊ดออกไป สีหน้าอัครินทร์ ไงวะ??

มุมพักผ่อนบ้านไกรตระกูล นาคินทร์วาง ‘สัญญา’ ลงตรงหน้าปานตะวันที่นั่งอึ้งๆ อยู่ นาคินทร์ยื่นปากกามาให้ ยิ้ม “เซ็นได้เลยครับ..สัญญาระหว่างเรา”
ปานตะวันค่อยๆ รับปากกามา “ต้องเซ็นวันนี้เลยเหรอคะ”
“ผมอดทนรอไม่ไหวแล้วล่ะครับ”
นารถนรินทร์ไม่รู้อะไรก็แซว “อุ๊ย..ขนาดนั้นเลยเหรอพี่คิน”
ปานตะวันก็พลอยเขินไปด้วย
“เซ็นเลยค่ะ..พี่ตะวัน”
“ไม่ทันไร เรียก ‘พี่’ เลยเหรอยัยนารถ”
นารถนรินทร์แหย่พี่ “เอ๊า! ไม่ดีเหรอคะพี่คิน” นารถนรินทร์พูดกับปานตะวัน “ขออนุญาตนะคะพี่ตะวัน..หวังว่าคงไม่รังเกียจน้องนารถคนนี้นะคะ?“
ปานตะวันผ่อนคลาย เอ็นดู “ไม่ค่ะ..ดิฉัน”
“พี่ค่ะพี่..พี่ตะวัน”
ปานตะวันจะดีเหรอ มองหน้านาคินทร์ๆ ยิ้มให้ ปานตะวันอ้อมแอ้ม “คือ..พี่เองก็มีน้องสาวคนนึง อายุน่าจะประมาณคุณนารถล่ะค่ะ”
“โห..เรียก ‘คุณ’...หมดกัน!! เรียกน้องนารถหรือนารถเฉยๆ ก็ได้ค่ะพี่ตะวัน”
“ไม่เหมาะมั๊งคะ”
นาคินทร์โพล่งขึ้น “เซ็นซะทีสิ!!” ปานตะวัน และนารถนรินทร์หันขวับมองนาคินทร์ นาคินทร์รู้สึกตัว “ดึกแล้ว..ยัยนารถ..ชวนคุณ..ไม่ใช่สิ..ชวนพี่ตะวันเค้าคุยอยู่นั่น หรือคุณอยากจะเอาสัญญากลับไปอ่านก่อนมั้ยครับ...ถ้าไม่ไว้ใจ”
ปานตะวันสะดุ้ง “อ๋อ..ไม่ค่ะ..ไม่เป็นไร”
นาคินทร์หยิบปากกาส่งให้อีกรอบ “ถ้างั้น..เซ็นเลยนะครับ”
ปานตะวันค่อยๆ รับปากกามาเซ็นชื่อบนเอกสาร สองแผ่นตรงหน้าโดยไม่ได้อ่านรายละเอียด เพราะนาคินทร์คอยจัดแจงรีบให้เซ็นๆ ซะ นาคินทร์มองด้วยสายตาสมหวังสุดๆ ก่อนจะรับปากกามาเซ็นต่อทั้งสองแผ่น นาคินทร์สูดลมหายในเต็มปอดด้วยความชื่นใจ
นาคินทร์ยื่นให้นารถ “ยัยนารถ..เซ็นเป็นพยาน”
นารถนรินทร์ยิ้มแฉ่ง “ด้วยความยินดีค่ะ” นารถนรินทร์เซ็นชื่อ
สาวิตรีโผล่เข้ามาพร้อมใบตองและขนม “มาแล้วจ้า ขนม....ฝีมือหม่ามี้เอง หนูตะวันชิมหน่อยนะจ๊ะ”
“คุณแม่..เซ็นเป็นพยานอีกคนนะครับ”
“เซ็นอะไรนะ?”
“สัญญาของพี่ตะวันค่ะ รีบเซ็นเลยคุณแม่ เดี๋ยวพี่ตะวันเปลี่ยนใจ”
สาวิตรีรีบคว้ามาเซ็น “อ้าว! งั้นต้องเซ็นเลย นี่ๆ..เสร็จแล้วจ้ะ”
นาคินทร์คว้ากระดาษ 2 แผ่นหมับใส่ซอง เสร็จแล้วก็ดึงปานตะวันให้ลุกขึ้น “เรียบร้อย!! กลับได้แล้ว”
ปานตะวันงง ทุกคนงง อัครินทร์เดินมาหยุดยืนมองพี่ชาย
“อ้าว..ทำไมจู่ๆ จะรีบกลับซะล่ะตาคิน”
“นั่นสิคะ นารถยังอยากคุยกับพี่ตะวันอยู่เลย”
“ดึกแล้วครับ” นาคินทร์บอกกับปานตะวัน “กลับนะครับ”
ปานตะวันงงๆ “ค่ะ”
“ผมไปส่งคุณตะวันนะครับคุณพ่อคุณแม่..สวัสดีครับ”
นาคินทร์สวัสดีพ่อแม่ ทำให้ปานตะวันต้องรีบสวัสดีลาทุกคน นาคินทร์เดินนำปานตะวันออกไป ปานตะวันต้องรีบเดินตามออกไป
สาวิตรีนึกได้ “อ้าว..เดี๋ยวจ้ะหนูตะวัน...ขนมแม่ล่ะ?! ว้า! อุตส่าห์ทำสุดฝีมือเลย”
“เออ..ตาคินนี่มันก็แปลก มาเร็วไปเร็ว - - พิก๊ล”
“เอ..ใบตองว่าคุณคินคงอยากจะชิ่งไปจู๋จี๋กับคุณตะวัน 2 ต่อ 2 รึเปล่าค้าาาา?!”
สาวิตรีตาโต “เออ..จริงด้วยสิ ฮิฮิฮิ”
ทุกคนคึกครื้นกัน ยกเว้นอัครินทร์ “แปลก..พี่คินแปลกมาก” อัครินทร์ยังงงพี่ชาย

ทางเดินหน้าห้องปานตะวัน นาคินทร์เดินนำมาตามทางจนถึงหน้าประตูห้องปานตะวัน
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง” ปานตะวันลอบๆ มองนาคินทร์ที่หน้านิ่งๆ “คุณนาคินทร์เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ?”
นาคินทร์รู้สึกตัว ฟอร์ม ยิ้ม “อ๋อ... .ก็..ช่วงนี้งานเยอะ อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ต้องถือว่าโชคดี” นาคินทร์ยกแขน 2 ข้างขึ้นยันประตูห้องไว้โดยมีปานตะวัน อยู่ในอ้อมแขน “ที่มีคุณตะวัน”
ปานตะวันอึกอัก เก้อเขินที่ตกอยู่ในวงแขน เหมือนโดนล็อคล้อมกรอบไว้ “ยังไงคะ..ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
นาคินทร์จ้องตา ก้มหน้ามาใกล้ “ได้พบคุณ ได้ไปดูหนังกับคุณ ได้พาคุณไปทานข้าวที่บ้าน ที่สำคัญ คุณรับปากจะดูแลยัยนารถน้องสาวของผม แค่นี้ ผมก็หายเหนื่อย”
ปานตะวันทำอะไรไม่ถูก นาคินทร์ค่อยๆ ก้มหน้ามาใกล้อีก ปานตะวันตัดสินใจก้มตัวลอดใต้แขนนาคินทร์หลุดออกมายืนตัวลีบ “ดึกแล้ว..คุณกลับเถอะค่ะ”
นาคินทร์อมยิ้ม “โอเค.ครับ..ผมกลับก่อน..แล้วพรุ่งนี้ ผมจะมารับคุณ”
ปานตะวันงง “มารับ?? มารับฉัน..ไปไหนคะ??”
นาคินทร์ตาใส “อ้าว..แย่จัง นี่ผมไม่ได้บอกคุณหรอกเหรอครับว่า คุณจะต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านผมด้วย”
“อะไรนะคะ??? ฉันต้องย้ายไปอยู่บ้านคุณ?? ทำไมล่ะคะ??”
“ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย คุณได้เห็นและคุยรายละเอียดกับยัยนารถแล้วก็น่าจะทราบว่ายัยนารถต้องได้รับการดูแลทั้งภารกิจประจำวัน ทั้งกายภาพบำบัดอย่างใกล้ชิด พยาบาลพิเศษทุกคนที่ผ่านมาก็ต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านผมเพื่อดูแลยัยนารถตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกันหมด”
ปานตะวันนิ่งอึ้ง นาคินทร์ยิ้ม “ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผมจะเป็นนายจ้างจอมโหด คุณพักผ่อนได้ ลาหยุดได้เพราะยังมีคุณแม่กับแม่บ้านช่วยดูแลแทนชั่วคราว”
“เรืองนั้นฉันเข้าใจค่ะ ทำงานหนักแค่ไหน ฉันไม่ห่วง แต่เรื่องที่จะต้องย้ายไปอยู่”
“รังเกียจเหรอครับ?”
“มะ..ไม่ใช่ค่ะ แต่.” ปานตะวันอึดอัด หาเหตุผล จริงใจ “ดิฉันเป็นห่วงเดือนน่ะค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต เรา 2 คนพี่น้องไม่เคยต้องอยู่ห่างกันเลย ฉันไม่อยากทิ้งน้อง”
นาคินทร์ตามมายืนคร่อมท่าเดิม ประหนึ่งจะล็อคไว้ให้ได้ เธอต้องอยู่ในกรงของฉัน “ใครบอกว่าทิ้ง?! คุณเดือนโตแล้วนะครับ เก่งมากซะด้วย คอนโดฯที่อยู่นี่ก็ปลอดภัย ที่สำคัญเธอทำงานที่บริษัทของผม รับรองได้ว่านายนัคจะดูแลเธออย่างดีที่สุด”
ปานตะวันอึ้ง “แต่ว่า”
“ยัยนารถไม่ยอมรับใครง่ายๆ ผมแปลกใจและก็ดีใจมากที่เค้าชอบคุณ. เหมือนผม” นาคินทร์ทำตาหวาน
ปานตะวันอึ้ง อาย รีบตัดบท “ขอฉันคุยกับเดือนก่อนได้มั้ยคะ?”
นาคินทร์ยิ้ม รู้ว่าไม่น่าจะมีปัญหา “ได้สิครับ ตามสบาย อ้อ!” นาคินทร์ควักซองสัญญาออกมาให้ “คู่สัญญา..ให้คุณเก็บไว้ฉบับนึง”
ปานตะวันรับมา “ค่ะ”
นาคินทร์ยื่นหน้ามาใกล้ “นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้ผมจะมารับนะครับ”
นาคินทร์จ้องตาปานตะวันที่หลบตาวูบวาบ นาคินทร์แอบตาวาว สมใจ ก่อนจะค่อยๆ เดินจากไป
ปานตะวันมองตาม ใจหวั่นวูบวาบ กอดสัญญาไว้แนบอก ถอนใจเฮือก

ที่ผับหรู นัครินทร์เดินลั้นลาเข้ามาท่ามกลางสาวๆ กิ๊วก๊าวประมาณว่าขาประจำคุ้นเคย ประกายเดือนเดินเข้ามาหยุดชะงัก “เอ๊า! มายืนเคารพธงชาติอะไรตอนนี้?? เข้ามาสิคู้ณ”
นัครินทร์ปรี่เข้าไปลากแขน ประกายเดือนสะบัดพรืด “เนี่ยนะ..ดินเนอร์ของคุณ?”
“ก็เออไง..เดี๋ยวไปสั่งข้าวข้างในไงฮะ จะเอาอะไรล่ะ ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว สเต็ก ซูชิ ซาซิมิ สปาเก็ตตี้ ได้หมดอ่ะ มากับใครให้มันรู้มั่ง มาเร็ว!!”
ผู้คนขวักไขว่เดินกระแทกประกายเดือน จนเจ้าตัวต้องเดินตามที่นัครินทร์เรียกจนไปนั่งที่ประจำของนัครินทร์ ประกายเดือนทิ้งตัว บ่นอุบ “หาที่กินที่มันเงียบๆ กว่านี้ไม่ได้รึไง? หูจะแตก!!!”
“เปิดหูเปิดตาซะบ้างสิฮะคุณ เป็นเลขาฯผม..ขอร้อง อย่ามาทำตัวป้า”
“คุณว่าใครป้า????”
นัครินทร์ไม่ตอบ มองประกายเดือนแล้วก็ส่ายหน้าขำ ประกายเดือนเคือง พนักงานชายปรี่มาทักทายอย่างซี้ “หวัดดีค้าบป๋า” พนักงานมองประกายเดือน “โห..งวดนี้หมวยมาเลย จากไหนครับ? ฮ่องกง? รึเมืองจีน?”
“เฮ้ย!! พูดอะไร?? มองหน้าฉันแล้วพูดงี้หมายความว่าไง?”
พนักงานชายสะดุ้งโหยงขำ “โอ๊ย...เห็นพามาแต่ละคนอินเตอร์ฯ นานาชาติทั้งนั้น คราวนี้นิยมไทยเหรอป๋า? แหม..ดุซะด้วยนะเจ๊”
“ใครเจ๊แก??”
นัครินทร์หัวเราะชอบใจ “ไปๆๆ ไอ้เปี๊ยก...หิวแล้ว..จัดมาเหมือนเดิม..ชุดใหญ่!!
“ค้าบพ้ม!!”
นัครินทร์บอกกับประกายเดือน “คุณล่ะ...เอาอะไรดี?”
ประกายเดือนสะบัด “ฉันไม่หิว!!! แล้วฉันก็จะกลับ!!!”
พนักงานชายขำ “อ้าว..เคลียร์กันก่อนนะคับป๋าค้าบ ลงตัวเมื่อไหร่ค่อยเรียกผม”
“เป็นไรของคุณ?”
ประกายเดือนลุกขึ้น “ฉันจะกลับ!!!”
นัครินททร์คว้าข้อมือไว้ “เดี๋ยวสิ!!!”
ทันใดนั้น เคที่และวีวี่ต่างก็พุ่งพรวดเข้ามาจากคนละมุม มองนัครินทร์แล้วร้องเรียกลั่นพร้อมกันอย่างดีใจ“นัคกี้ // โอปป้า!”
นัครินทร์ชะงัก มอง “เฮ่ยยยย!!”
เคที่และวีวี่ ก็ตกใจ หันมองหน้ากัน ตาโต
“นังกิมจิเน่า??”
“นังฝรั่งดองก๊ะ?!”
ว่าแล้วสองคนก็พุ่งสุดตีนวิ่งเข้ามาหานัครินทร์ นัครินทร์ร้องจ๊าก เพราะ 2 นางนานาชาติโดดตัวลอยโถม

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 4 วันที่ 20 พ.ค. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ