@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 4 วันที่ 18 พ.ค. 57

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 4 วันที่ 18 พ.ค. 57

ระหว่างทางกลับ โจถามซูซี่ว่าคิดอย่างไรกับสถาพร ซูซี่ยอมรับว่าตนชอบสถาพรแต่สถาพรไม่ได้ชอบตน ที่เขาโอบตนในวันสอนตำส้มตำนั้นทำเพื่อรั้งตนไว้เท่านั้น เพราะถ้าตนลาออกต้องกระทบกิจการของเขาแน่ เพราะตนมีฝีมือจนได้รับรางวัลครกทองคำรับประกัน โจเลยเอ่ยปากว่า “งั้นว่างๆ ตำให้ผมกินหน่อยสิครับ”

“ได้สิ วันไหนว่างๆ ฉันไปตำให้เธอกินที่บ้าน ถ้าไม่อร่อยให้เหยียบเลย”

กลับถึงบ้านโจโยนสากทองเหลืองที่หยิบติดมือมาถามป๋องว่าจำไอ้นี่ได้ไหม พอป๋องจำได้ โจวิเคราะห์ให้ฟังว่า


“ตอนนั้นเราคาดว่าอาจเป็นเคล็ดลับทำให้ซูซี่ตำส้มตำได้อร่อย แต่วันนี้ตอนที่ฉันถามเขาเรื่องส้มตำ เขาไม่พูดถึงไอ้สากนี่ซักกะแอะ แม้กระทั่งตอนที่บอกว่าจะตำให้ฉันกินเขาก็บอกว่าได้เลยให้มาตำที่บ้านก็ได้ ถ้าไม่อร่อยให้เหยียบ หมายความว่า สากหนักๆอันนี้ไม่เกี่ยวกับเคล็ดลับความอร่อยเลย”

แต่โจกลับบอกว่าปัญหาเรื่องสากนี้เอาไว้ก่อน ตอนนี้มีเรื่องใหม่ต้องทำ แล้วโจก็เอาโบรชัวร์ใบนั้นให้ป๋องดูบอกว่าหยิบมาจากโต๊ะเครื่องแป้งของเมียสถาพร มันเป็นสถาบันลดความอ้วนด็อกเตอร์แพรว ป๋องถามว่ามันคืออะไรหรือ?

“อะไรไม่รู้แต่ฉันเดาว่าเมียสถาพรอาจจะอยู่ที่นี่ เราต้องไปสืบดูว่าเขาอยู่ที่นี่จริงไหม ถ้าจริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ออกมา??”

ooooooo

ที่หน้าโรงภาพยนตร์ที่มีการจัดรอบกาล่ารายได้เพื่อการกุศล ระรินกำลังถูกสื่อรุมถ่ายรูปและสัมภาษณ์

นักข่าวถามว่าวันนี้ฉายเดี่ยวหรือพระเอกหายไปไหน? ระรินยิ้มระรื่นตอบว่าตัวไม่ได้ติดกันต้องมีห่างกันบ้าง ตนชวนแล้วแต่กริชติดธุระไม่ว่าง

ไม่ทันสิ้นเสียงระริน กริชก็ควงวนิษาเข้ามาในงาน บรรดานักข่าวฮือกันไปทางนั้น ทิ้งระรินยืนมองค้างอย่างโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้น

วนิษาติงกริชว่าไหนบอกว่าไม่มีนักข่าว เขาบอกว่าถ้าเธอไม่สบายใจจะหลบไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวตนจัดการเอง วนิษาจึงขอตัวแยกไป แต่เจอนักข่าวอีกกลุ่มดักไว้ทำให้เธอต้องเดินกลับมายืนเผชิญหน้านักข่าวกับกริช นักข่าวถามว่ามาด้วยกันหรือ ทั้งสองคนบอกว่าเจอกันโดยบังเอิญที่ลานจอดรถเลยเดินมาด้วยกัน

ระรินแก้หน้า ทำทีถามกริชว่าไหนว่าจะไม่มา จะมาเซอร์ไพรส์ตนใช่ไหม กริชทักว่าเธอมาด้วยหรือ ระรินหัวเราะระริกบอกว่ากริชตลกอีกแล้ว พอกริชขอตัวจะไปกับวนิษา ระรินก็ควงแขนหมับบอกว่าน้องๆ นักข่าวอยากได้รูปคู่ แล้วโพสท่าคลอเคลียสนิทสนมให้นักข่าวถ่ายรูป

กริชแอบมองเห็นวนิษาเดินออกจากงานไปคนเดียว เขารีบตามไปขอกลับด้วยคนเพราะรถตนยังซ่อมไม่เสร็จ พอกริชขึ้นรถวนิษา นักข่าวก็วิ่งตามถ่ายรูปกันเกรียว เสร็จแล้วกลับมาถามระรินที่ยังยืนเหวออยู่ว่า ไม่เข้าไปดูหนังหรือ อีกคนดักคอว่าอย่าบอกนะว่ารอกริช เพราะกริชขึ้นรถไปกับวนิษาแล้ว

ระรินอึ้ง เหวอ นักข่าวคนนั้นสะกิดช่างภาพให้เก็บภาพหน้าเหวอของระรินไว้ทันที

ระหว่างกริชนั่งรถวนิษาไปนั้น เขาพยายามเผยความในใจกับเธอด้วยภาษาดอกไม้สวยงามเหมือนพระเอกในละคร ถูกวนิษาเตือนว่า อย่ารีบร้อนนักเลย ให้อะไรๆมันมีเวลาของมันบ้างดีกว่า ส่วนโจก็ฮึดฮัดๆ แกล้งด่ารถคันหน้าบ้าง รถคันข้างๆบ้าง ประชดกริชไปตลอดทาง แม้วนิษาจะรู้ทันแต่ก็เอาผิดโจไม่ได้

วันรุ่งขึ้น ขณะระรินกับเพ็ญแขเข้าสปาเห็นพวกพนักงานกำลังรุมกันดูข่าวบันเทิงในแท็บเล็ต เป็นข่าวของระรินพอดี มีรูปสองรูป รูปหนึ่งระรินยืนรอกริชอยู่หน้าโรงหนัง อีกรูปกริชกำลังขึ้นรถวนิษาไปด้วยกัน บรรยายภาพไว้ว่า

“ภาพเหตุการณ์ขณะระรินรอกริช แต่กริชแอบแว้บไปขึ้นรถวนิษาออกจากงาน งานนี้ต้องบอกว่า จ๋อยลื่น เสียบ ส่วนใครจะจ๋อย จะลื่น จะเสียบ วิเคราะห์กันเองนะค้า”

เพ็ญแขโมโหบอกว่าจะไปตบวนิษาให้หน้าแหกถึงท้ายทอยเลย ระรินบอกแม่ว่า

“ใจเย็นค่ะ เก็บมือไว้ก่อน ตอนนี้นอนนวดให้สบายๆ จะได้มีสติคิดว่าต้องตอบโต้มันยังไงถึงจะสาสมกับความแสบของมัน ยัยวนิษา”

ooooooo

ปฐมยังไม่ไว้ใจโจ แอบติดตามสอดส่องการเคลื่อนไหวและหาหลักฐาน กระทั่งเข้าไปดูในห้องพักของโจบนดาดฟ้า แต่นอกจากไม่ได้อะไรแล้ว ยังถูกโจจับได้ว่ามีคนเข้ามาที่ห้องตนเพราะเครื่องหมายที่ทำไว้อยู่ผิดที่

โจรู้ตัวว่าถูกปฐมจับตาดู เขาโทรศัพท์นัดป๋อง ปฐมขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปไม่ให้คลาดสายตา แต่ปฐมก็ไม่พ้นสายตานักสืบของโจ เขารู้ตัวว่าถูกมอเตอร์ไซค์ตาม เขาจึงทำทีหยุดไปฉี่แล้วเดินผ่านปฐมไปที่รถขับออกไป ปฐมมองตาม...

โจเปลี่ยนไปใช้บ้านป๋องเป็นที่ทำงานสองสามวันเพื่อหลอกให้ปฐมตายใจ ป๋องเอาโบรชัวร์ใบนั้นออกมารายงานว่า

“ที่พี่ให้ผมไปสังเกตการณ์ ที่นี่เป็นสถาบันลดความอ้วนเอกชนที่รับเฉพาะผู้หญิง เข้มงวดพอสมควร อยู่ดีๆเขาคงไม่ให้เราเดินไปหาเมียสถาพรง่ายๆหรอก โจจึงให้ป๋องเจรจากับป้าเขาให้ช่วย โดยให้ป้าของป๋องแต่งทองเต็มตัวส่วนโจก็ปลอมตัวทำเป็นคนรักที่พาแฟนมาลดความอ้วนเพื่อเตรียมแต่งงาน

ระหว่างที่ไปคุยกับพีอาร์นั้น โจทำเป็นเหม็นกลิ่นส้มตำปูปลาร้า พีอาร์จึงเดินไปดูว่ากลิ่นมาจากไหน โจฉวยโอกาสนั้นพลิกแฟ้มหาชื่อเมียของสถาพร จนพบว่าเธออยู่ห้อง 4B พอพีอาร์คนนั้นกลับมา โจบอกว่าช่างเถอะกลิ่นจางไปแล้ว

ooooooo

เมื่อพีอาร์พาป้ากับโจเดินไปแนะนำสถานที่ ป้าเกิดปวดท้องกะทันหัน พีอาร์จึงต้องรีบพาไปห้องน้ำ โจขอยืนรอตรงนั้น

พอพีอาร์พาป้าไป โจก็เดินหาห้อง 4B จนเจอ เห็นเมียสถาพรซึ่งอ้วนตุ๊นั่งหน้าละเหี่ยอยู่หน้าจานผักต้มกองเล็กๆ บอกพนักงานว่าไม่อยากกินให้เอาไปเสีย

โจเข้าไปแสดงตัวทันทีว่าตนเป็นนักสืบเอกชนชื่อโจ มีเรื่องอยากถาม ศุปราณีเมียสถาพรไล่ว่าเขาเป็นผู้ชายเข้ามาได้ยังไง โจจึงเอาอาหารที่ซ่อนไว้ในพุงปลอมออกมาให้ดูล้วนแต่เป็นของโปรดของศุปราณีทั้งสิ้น เธอมองตาค้างน้ำลายสอ โจเก็บทุกอย่างเข้าถุงบอกว่า “มันจะเป็นของคุณถ้าคุณตอบคำถามผม” เอากล้วยแขกชิ้นหนึ่งให้กินก่อน ศุปราณีกินคำเดียวหมด

“โอเค ได้สติแล้วนะ คุณศุปราณี ผัวคุณตายทั้งคนทำไมคุณยังมาอยู่ในสถาบันลดความอ้วน”

ศุปราณีโพล่งออกมาเป็นชุดว่าตนเลิกรักไปนานแล้ว เขาเป็นเพียงผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง ทำไมตนต้องเสียเวลาด้วย โจทำเวลาเต็มที่ถามว่าแล้วทำไมเธอถึงบอกตำรวจว่าซูซี่คือฆาตกร

“ผัวฉันไม่เคยเป็นโรคหัวใจมันแข็งแรงอย่างกับม้าจะหัวใจวายตายได้ไง” โจถามว่าทำไมถึงคิดว่าซูซี่ฆ่า? “อันนี้เป็นความลับของคดีนะ ตำรวจตรวจพบสารพิษในเลือดของสถาพร คนที่จะวางยาพิษก็มีแต่ยัยซูซี่เท่านั้นแหละ”

โจถามว่ายาพิษอะไร ศุปราณีบอกว่าตนไม่รู้แล้วเร่งให้เอาอาหารให้ตนได้แล้ว โจยังเล่นแง่ถามต่อว่าแล้วครกกับสากที่ซูซี่ใช้ตำส้มตำเป็นครกกับสากอะไร ศุปราณีบอกว่าก็ครกไม้กับสากธรรมดานี่แหละ แล้วทวงของกิน พอโจส่งให้ก็กินอย่างหิวกระหาย

ooooooo

ระรินวางแผนเล่นงานวนิษาอย่างเจ็บแสบ วันนี้ไปดักพบกริชที่สปอร์ตคลับบอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับเขาและวนิษาจะมาคุย กริชถามว่าเกี่ยวกับข่าวบันเทิงนั่นใช่ไหม

ระรินบอกว่านั่นก็ด้วย แล้วพูดอ้อนๆ “คุณกริชอย่าเพิ่งเข้าใจระรินผิดนะคะ สื่อเขาเสี้ยมให้เราทะเลาะกัน แต่ระรินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย” เธอบอกว่ากลัววนิษาจะเข้าใจผิดตามที่สื่อเสี้ยมจึงอยากจะมาขอคุยกันสามคนต่อหน้า อ้างว่า “เดี๋ยวเขาจะโกรธระรินแล้วพลอยโกรธคุณกริชไปด้วย”

เมื่อกริชเห็นด้วย ระรินอาสาหาสถานที่ให้ จะหาบรรยากาศดีๆ มานั่งคุยกันชิลๆ

วนิษามาที่ห้างสรรพสินค้าที่กำลังมีงานเปิดตัวหนังสือ พอเจอกับกริชเธอชวนเข้าไปในงานเลย กริชบอกให้รอเพื่อนอีกคนเดี๋ยวคงมา ครู่เดียวระรินก็มาถึง เธอทักทายกริชและวนิษาอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสบอกว่าพอรู้จากกริชว่าวนิษาจะมาด้วยตนเลยรีบบึ่งรถมา

กริชพูดออกตัวกับวนิษาว่า ระรินขอร้องไม่ให้บอกว่าเธอจะมากลัววนิษาจะหนีกลับไปก่อน วนิษาพูดหน้านิ่งๆว่าไม่เป็นไร ระรินจึงเริ่มแผนของตนทำทีพูดเรื่องข่าวบันเทิงว่ากลัววนิษาจะเข้าใจผิด ตนจึงอยากเคลียร์กับวนิษาและแสดงความจริงใจ

เมื่อพากันเดินมาถึงบริเวณงานเปิดตัวหนังสือพ็อกเกตบุ๊ก “ตรวจกรรมระดับนาโนโดย เม้ง จิตทิพย์” โดยมีเม้งนั่งแจกลายเซ็นอยู่ ที่แท้ “เม้ง จิตทิพย์” ก็คือ “เม้ง หมอดูแม่นมาก” ที่เคยทำนายวนิษาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนว่าจะเป็นคนกินผัวนั่นเอง!

แต่เมื่อมาเป็น “เม้ง จิตทิพย์” เม้งก็มีลูกเล่นแพรวพราว เปิดประมูลการทำนายครั้งแรกเริ่มต้นที่ 1 แสนบาท ทำเอาบรรดาผู้ที่เข้าแถวรอดูหมอถอยกรูดไปตามกัน

ระรินเสนอสองแสน กริชกระซิบถามเธอว่าเขาดูแม่นมากขนาดนั้นเลยหรือ ระรินบอกว่า “ที่สุดค่ะโดยเฉพาะเรื่องความรัก” กริชจึงเสนอสามแสน และในที่สุดเขาก็เป็นผู้ชนะการประมูล

เม้งทำนายทายทักว่ากริชมาถูกทางแล้ว เขาไม่เหมาะ กับการทำธุรกิจหรือการเกษตรแต่เหมาะกับงานศิลปะ เม้งทำนายแต่สิ่งดีๆ ของกริชอีกมากมายแล้วบอกเขาว่า

“นี่แค่คำทำนายเบื้องต้น คุณอยากรู้ละเอียดด้านไหนเชิญถาม” กริชจึงถามเรื่องความรัก เม้งเพ่งกระแสจิตแล้วลืมตาบอกว่า “สดใสสวยงามเหมือนฟ้าสีครามในฤดูหนาว มั่นคงเหมือนขุนเขาตระหง่าน อาจจะติดเลือกมากหน่อย แต่หากรักแล้วจะรักเลยไม่เปลี่ยนแปร ดวงชะตาดีจริงๆ” แล้วเอะใจเชยคางกริชดูไฝใต้คางเขาแล้วทำท่าตกใจ “ไม่ได้การแล้ว ไฝใต้คางเม็ดนี้เหมือนรูรั่วใต้ท้องเรือ รูเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เรือลำใหญ่จมได้” ถามว่ามีรูปผู้หญิงคนนั้นไหม กริชชี้วนิษาที่กำลังเดินดูหนังสืออยู่ เม้งมองตามพลางเอ่ย

“หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า สง่าดั่งพญาหงส์ เอ๊ะ...” เม้งเพ่งหน้าวนิษาแล้วลุกจากโต๊ะไปหยุดตรงหน้าเธอเพ่งมองวนิษายิ้มให้ แต่เม้งกลับหน้าซีดเผือดเหงื่อแตกพลั่ก วนิษาถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เม้งไม่ตอบแต่กลับมาดึงกริชพาเดินไปด้านหลัง เข้าไปในห้องเก็บของกระซิบบอกกริช

“คุณต้องเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ห้ามยุ่งด้วยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณอาจตาย เรื่องนี้ผมพูดมากจะไม่ดี แต่คุณต้องเชื่อผม ถอยออกมาเสียก่อนที่รูรั่วของคุณจะกลายเป็นโพรงใหญ่และทำให้เรือของคุณจมลงในพริบตา อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนั้น เธอถูกลิขิตจากสวรรค์แล้วว่าให้เป็นสตรีอาถรรพณ์เป็นอันตรายกับฝ่ายที่รักเธอ เธอคือผู้หญิงกินผัว งานแต่งงานของเธอจะจบลงที่งานศพตลอดไป!”

กริชหน้าซีดมองผ่านไหล่เม้งไป เม้งเอะใจหันมองเจอวนิษามายืนฟังตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครรู้ เธอหมุนตัวเดินออกไปทันที กริชรีบตามไป ผ่านระรินที่ยืนยิ้มพอใจอยู่ กริชมองเธออึดใจ ก็โพลงว่า

“ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงยิ้มพอใจอย่างนี้”

“เก็บคำตอบไว้ในใจเถอะค่ะ ฉันรู้ว่าอาจารย์แม่นจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่คนชนะการประมูลไม่ต้องมาวิเคราะห์ฉันหรอก” พูดแล้วระรินเดินออกจากร้านไปช้าๆ

ooooooo

วนิษาเดินหนีไปยืนน้ำตาคลอ คำทำนายของเม้งยังตามทำร้ายจิตใจเธอ เจอโจที่กำลังยืนดูหนังสืออยู่ เขาตกใจเมื่อเห็นเธอร้องไห้

พอดีกริชเดินตามวนิษามาทัน โจเชื่อว่ากริชต้องทำอะไรเธอแน่ๆ เลยพรวดเข้าไปขวางจนมีเรื่องกัน วนิษาเข้าไปห้ามบอกโจว่าไม่เกี่ยวกับกริช เธอขอโทษกริชแล้วชวนโจกลับ กริชมองงงๆ ระรินรีบเข้ามาทักทายอย่างเป็นห่วงมากว่า

“คุณกริช เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ทำไมคุณเป็นอย่างนี้คะ”

ส่วนวนิษาพอเดินออกมาก็บอกโจว่าให้พาไปที่ไหน ก็ได้ที่กว้างๆ ไม่มีคน...ทะเล ภูเขา ที่ไหนก็ได้”

โจคิดรอบคอบประสานักสืบว่าตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วนรถติดแน่ เขาตัดสินใจพาเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าที่ไม่มีทั้งรถและผู้คน แล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัว ครั้งแรกเสกกลีบกุหลาบสีเหลืองโปรยปรายลงมา เสกอีกทีกลีบกุหลาบหลากสีก็โปรยปรายลงมารอบตัวเธอราวเวทมนตร์ วนิษาตะลึงกับความสวยงาม ลืมความทุกข์ตรอมไปในพริบตา ถามทึ่งว่าเขาทำได้อย่างไร

“อันนี้ความลับของมายากลครับ” โจอำ วนิษาไม่เซ้าซี้ เธอขอบใจยิ้มๆ “ยินดีครับ อย่าลืมโบนัสตอนสิ้นปีด้วยนะครับ” โจลูกเล่นให้บรรยากาศคลายเครียดแถมอาจโชคดีด้วย

“อย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พวกที่บ่อนฟังนะ” วนิษากำชับ โจพยักหน้า “จริงๆ ฉันก็ไม่อยากอ่อนแอแบบนี้หรอก แต่ทุกครั้งที่โดนตอกย้ำเรื่องดวงกินผัวเนี่ย ฉันต้องหวั่นไหวแบบนี้ทุกทีเลย”

“ทุกคนย่อมมีบาดแผลในชีวิตครับ บางคนอาจจะโชคร้ายที่มันเป็นแผลสดตลอดกาล โดนแซะนิดหนึ่งก็เจ็บปวดรวดร้าว” เธอถามว่าแล้วมันจะไม่มีวันหายหรือ? โจพูดลอยๆว่า แล้วใครจะบอกได้ แต่พอเธอถามว่าแล้วเขามีแผลอะไรบ้างไหม โจรับว่าตนก็มีแผลของตัวเองแต่ไม่ยอมบอก อ้างว่าความจำเสื่อม

“ถ้าความจำหายเสื่อมล่ะ จะบอกฉันได้ไหม”

“ถ้าผมหายจากความจำเสื่อม ถึงตอนนั้นคุณอาจจะเกลียดผมก็ได้”

“นี่นายดาว ไม่ว่าตัวจริงนายจะเป็นใครก็ตาม ฉันคงไม่เกลียดนายหรอก” วนิษาหัวเราะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

โจฝืนยิ้ม เห็นวนิษาชมวิวสีหน้าแช่มชื่นมีรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า แต่โจกลับยิ่งเศร้า...

ooooooo

คืนนี้ ป๋องกลับมาก็มองหาแท็บเล็ต ถามโจว่าเห็นไหม โจชี้แท็บเล็ตที่เขานั่งดูอยู่ ป๋องเข้าแย่งทันทีโวยว่ามาแอบดูของส่วนตัวกันได้ไง

โจถามว่าป๋องเป็นแฟนกับปลายฝนแล้วหรือ ป๋องสะบัดเสียงใส่ว่ายุ่งน่ะ โจไม่สนใจแนะว่าให้ตีซี้ไว้แล้วแอบถามเธอว่ารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับวนิษาบ้างไหม เธออาจรู้อะไรที่เป็นประโยชน์กับงานของเราบ้างก็ได้ ป๋อง บอกว่าไม่อยากหลอกใช้เขา

“แกก็อย่าคิดว่าแกหลอกเขาสิ คิดว่าชวนคุยเฉยๆ ก็ได้ แต่มีจุดประสงค์คือข้อมูลของแม่เลี้ยงเขา โอเคไหมแบบนี้น่ะ”

ถูกตะล่อมให้มองในอีกมุมหนึ่งแบบนี้ ป๋องก็เงียบไป

กริชพยายามที่จะได้พบกับวนิษาอีก แต่โทร.ไปเธอไม่รับสาย จึงอาศัยที่เคยเป็นลูกศิษย์ในโรงเรียนที่หม่อมจันเคยเป็นผู้อำนวยการ จึงเลียบเคียงถามท่านจนรู้ว่าวันนี้วนิษาจะมา เขาจึงมาดักพบที่วังวาสุวงศ์ เมื่อวนิษามา หม่อมจันบอกว่ากล้วยไม้กำลังออกดอกสวยให้พากันไปเดินเล่นตามสบาย

เมื่อไปเดินในเรือนกล้วยไม้ กริชบอกเธอว่าอยากคุยเรื่องที่อาจารย์เม้งทำนายวันนั้นว่าตนไม่สนใจอาถรรพณ์อะไรทั้งนั้น เธอยังคงเป็นนางฟ้าของตนเสมอ พูดจริงจังว่า

“ไม่ใช่ว่าผมคิดว่าอาจารย์เม้งไม่แม่น แต่ต่อให้แม่นผมก็ไม่กลัว”

เป็นการเปิดใจที่ทำให้วนิษาซึ้งมาก พลันก็เสียบรรยากาศไปหมดเมื่อเสียงโจจามลั่นขึ้น ทั้งสองสะดุ้งเดินอ้อมมาดูข้างหลังถุงปุ๋ย เจอโจกำลังขยี้จมูกจนแดงไปหมด โจหัวเราะแหะๆ บอกว่าตนมาดูว่าที่นี่ใช้ปุ๋ยอะไรกล้วยไม้ถึงได้งามมาก แต่คงแพ้ฝุ่นเลยน้ำหูน้ำตาไหล ถามว่าสองคนเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตนไม่ได้ยินอะไรเลย

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 4 วันที่ 18 พ.ค. 57

ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
ละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศตอนแรกวันที่ 17 พฤษภาคม 2557 ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ