@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค. 57

“ผมให้คุณ” โอย..หวานเหลือเกิน หวานละลาย ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ค่อย ๆ เอามือข้างที่แตะปากตะวันโน้มคอตะวันเข้ามาใกล้แล้วจะจุ๊บปาก ปานตะวันเกือบจะเผลอเคลิ้ม แต่สะดุ้งผลักนาคินทร์ออกได้ซะก่อน

นาคินทร์ยิ้มขำๆ ปานตะวันค้อนขวับ ก้มหน้างุด อายที่สุด นาคินทร์ยิ้ม แล้วค่อย ๆ ออกรถ ปล่อยให้ปานตะวันใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เคลิ้ม หวานน้ำตาลขึ้นอยู่อย่างนั้น
ที่เพิงร้านขนมหวานริมข้างทาง รถนาคินทร์เบี่ยงเข้ามาจอดเทียบหน้าร้าน นาคินทร์รีบลงมาเปิดประตูให้ตะวันลงมา สองคนยืนคุยข้าง ๆ รถ ปานตะวันมองๆ “ร้านนี้น่ะเหรอคะ”


“ใช่..เห็นเป็นเพิงอย่างนี้อร่อยมากเลยนะ ตอนพวกเราเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่จะพาไปเที่ยวทะเลทีไรต้องแวะทานลอดช่องน้ำกะทิที่ร้านนี้ก่อน ยัยนารถถึงได้ติดใจตั้งแต่เล็กจนโต”
ปานตะวันฟังแล้วพยักหน้าตามหงึก ๆ
“ทำไมครับ? คุณรังเกียจเหรอครับ?”
“อะไรกันคะ? คนอย่างฉันน่ะเหรอคะจะรังเกียจ ชาตินี้ไม่มีปัญญาจะขับรถเป็น ชม. เพื่อมาทานลอดช่องน้ำกะทิถึงนี่ซะด้วยซ้ำ”
นาคินทร์ยิ้ม “แต่วันนี้ผมพาคุณมาแล้ว”
ปานตะวันต้องหลบตาหวานที่นาคินทร์มองมา
“มาถึงแล้ว คุณต้องชิม แล้วจะติดใจ..ไป !!” นาคินทร์ถือโอกาสดึงมือปานตะวันไปที่เพิง มีหม้อขนมอยู่ 3-4 หม้อ “ขอลอดช่องทานที่นี่ 2 ถ้วย เอากลับบ้าน 10 ถุงครับ”
“ลอดช่องหมดแล้วจ้า”
“ห๊า?!” นาคินทร์และปานตะวันพูดพร้อมกัน หันมองหน้ากัน
“โห..คุณยายคะ..เราอุตส่าห์มาตั้งไกลตั้งใจจะมาซื้อลอดช่องอย่างเดียวเลยนะคะเนี่ย” ปานตะวันนึกถึงนารถนรินทร์ “มีเหลือซักถุงมั้ยคะ ถุงเดียวก็ยังดี”
นาคินทร์มองปานตะวันว่าเป็นห่วงนารถนรินทร์จริงหรือ
คนขายมองปานตะวันแล้วมองนาคินทร์ยิ้ม ๆ “หมดเกลี้ยงเลยจ๊ะแม่หนู มีแฟนใหม่แล้วเรอะพ่อหนุ่ม?”
นาคินทร์อึ้ง
“ไม่ใช่นะคะ คุณเค้าเป็นเจ้านายหนูค่ะ”
นาคินทร์วูบๆ คิดถึงกนกขึ้นมาจับใจ
“อ้าววว!! โทษที” คนขายหยิบขนมอื่นใส่ถุงให้ 3 ห่อ “งั้นเอาขนมไปนะ ยายให้ อุตส่าห์เป็นลูกค้าประจำมาแต่ไหนแต่ไรอ่ะ ! แม่หนูห่อนึง พ่อหนุ่มห่อนึง อีกห่อฝากไปให้แฟนพ่อหนุ่มด้วยนะ จริงสิ วันนี้ไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่พามาด้วย?”
นาคินทร์ชะงัก ปานตะวันอึ้งๆ เพิ่งจะเคยได้ยินว่า ‘มีแฟนแล้ว’ นาคินทร์จุก พูดลำบากยากเย็น “ขอบคุณครับ..ผมเกรงใจ..ไม่ดีกว่า” นาคินทร์พูดจบก็รีบเดินกลับไปขึ้นรถเลย
ปานตะวันงง “คุณนาคินทร์ ขอบคุณนะคะ..หนูไปก่อนนะคะ” ปานตะวันพูดจบก็วิ่งจู๊ดขึ้นรถ
นาคินทร์ออกรถเอี๊ยดไปอย่างเร็ว

นาคินทร์ขับรถเร็ว หน้านิ่ง ปานตะวันหวาดเสียว “คุณนาคินทร์คะ..ขับเร็วเกินไปแล้วนะคะ”
นาคินทร์ไม่พูดไม่จา ยังขับเร็วอยู่ ปานตะวันมองถนน “นี่คุณจะไปไหนคะ ทำไมไม่..”
ไม่ทันได้ถามต่อเพราะนาคินทร์เหยียบคันเร่งซะจนปานตะวันตัวแข็งหลังติดเบาะ พูดไม่ออก

ที่ริมทะเล นาคินทร์เดินดุ่ม ๆ อย่างเร็วไปหยุดยืนที่ริมทะเล จ้องมองออกไปไกลสุดสายตา ปานตะวันวิ่งตามเข้ามาหยุดยืนมองอยู่ห่าง ๆ อย่าง..เอาไงดี?? นาคินทร์ยังยืนมองทะเลอยู่
นาคินทร์นึกถึงตอนที่ตัวเองและกนกวลีมาเที่ยวทะเลด้วยกัน ทั้งคู่กอดรัดยิ้มแย้มกันริมทะเล
เสียงคนขายขนมก้องเข้ามาในหู “ฝากไปให้แฟนพ่อหนุ่มด้วยนะ..ไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่พามาด้วย”
นาคินทร์นึกถึงตอนที่กนกหักรถหลบในคืนอุบัติเหตุ
“ไม่!! กนกวลีต้องไม่ตาย!! กนกวลีต้องไม่ตาย!!” นาคินทร์พุ่งกอดศพกนกวลีแน่น “มัน ไอ้คนที่มันวิ่งตัดหน้ารถเมียผม มันอยู่ที่ไหน??”
นาคินทร์สีหน้าโกรธจัด หันหลังกลับขวับไปเจอหน้าปานตะวันทื่ยืนอยู่ใกล้ด้านหลัง ปานตะวันสะดุ้งเมื่อเห็นสีหน้านาคินทร์ “เอ่อ..คุณ..เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
นาคินทร์จ้องมองปานตะวัน คิด ดับอารมณ์ ถอนใจเฮือก จ้องมองหน้าปานตะวัน พูดเสียงเรียบ ๆ
“เมื่อ 2ปีก่อน ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรักที่สุด..แต่แล้วเค้าก็ต้องมาจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ”
นาคินทร์เล่าด้วยน้ำเสียงแอบสั่นเครือ ปานตะวันฟังแล้วรู้สึกสงสารจนตัดสินใจเอื้อมมือไปบีบต้นแขนของนาคินทร์เบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ
“เสียใจด้วยนะคะ ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณดี”
นาคินทร์เลิกคิ้ว ถาม “คุณเข้าใจดี”
ปานตะวันพยักหน้าหงึกๆ “ค่ะ..การสูญเสียคนที่เรารักมันเจ็บปวด ทรมาน และอ้างว้างแค่ไหน ฉันเข้าใจดี”
นาคินทร์มอง...รอฟังต่อ ปานตะวันถอนใจเฮือก “ฉันเองก็สูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปพร้อม ๆ กันเพราะอุบัติเหตุ ตั้งแต่ฉันยังเรียนไม่จบ”
นาคินทร์ตาวาว..’อุบัติเหตุ’
“ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของฉันมันก็เปลี่ยนไป”
นาคินทร์พยักหน้าหงึก ๆ
“ผมเองก็เหมือนกัน..ชีวิตของผมมันก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน”
นาคินทร์มองหน้าปานตะวัน..นึกในใจ..เพราะคุณ!! ปานตะวันไม่รู้เรื่อง มองหน้านาคินทร์ตาแป๋ว นาคินทร์มองหน้าปานตะวัน กลืนอารมณ์ไว้ ก่อนจะบอก
“ช่างเถอะ..ถึงยังไง เขาก็ไม่มีวันจะกลับมาหาผมได้อีกแล้ว อีกอย่าง..ถ้าผมไม่เสียเขาไป ผมก็คงไม่มีโอกาสได้พบคุณ”
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ค่อย ๆ ยกมือขึ้นลูบแก้มปานตะวัน “รู้มั้ยครับ..ปานตะวัน? คุณคือดวงตะวันที่ชุบชีวิตและหัวใจที่เจ็บปวดอ้างว้างของผมให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง”
นาคินทร์กลืนเลือดในทุกคำพูด ซึ่งก็คุ้มแสนคุ้มเพราะดวงตากลมโตของปานตะวันมองหน้าเขาอย่างตื่นตะลึง นาคินทร์ส่งแววตาจริงใจสุดฤทธิ์ “จากใจครับ” นาคินทร์เอามืออีกข้างจับมือปานตะวันมาแตะไว้ที่อกซ้าย “ผมพูดจากหัวใจ”
ปานตะวันเคลิ้ม เบาหวิว “คุณนาคินทร์”
นาคินทร์ใช้มือข้างที่จับแก้มปานตะวันอยู่ค่อย ๆ โน้มคอปานตะวันมาใกล้ ก่อนจะค่อย ๆ จูบหน้าผาก จมูก และ..ปาก คราวนี้ปานตะวันเคลิ้มตาม เพราะเริ่มมีใจไปกับนาคินทร์ซะแล้ว สองคนค่อยๆ ผละออกมาจ้องมองตากันหวาน ท่ามกลางท้องทะเลสวยงาม

ในห้องสัมมนาโรงพยาบาล อัครินทร์ยังยืนบรรยายอยู่ที่เดิม หันไปเห็นพราวพรรณรายนอนฟุบหลับอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมก็ถอนใจเฮือก แล้วเดินไปยืนมองใกล้ๆ “คุณ..ตื่น”
พราวพรรณรายขยับเล็กน้อย อัครินทร์สะกิด “คุณ..มานอนอะไรตรงนี้??”
พราวพรรณรายหลับหูหลับตา เอามือโบกปัดไปมา พราวพรรณรายงัวเงีย “อย่ามายุ่ง!!”
“จะตื่นไม่ตื่น???”
พราวพรรณรายเงยหน้าขึ้น พูดทั้งที่หลับตางัวเงีย “หึ้ย!! หนวกหู!!”
“หนวกหูใช่มั้ย?!!”
อัครินทร์พูดจบก็ใช้สองมือช้อนหน้าพราวพรรณรายขึ้นมาจูบอย่างรุนแรง พราวพรรณรายตื่นทันที เบิกตาโพลง ร้องอู้อี้ ๆ แต่อัครินทร์ยังไม่ยอมปล่อยยังจูบอยู่อย่างนั้น

ความจริง พราวพรรณรายละเมอทำปากจู๋เหมือนกำลังโดนจูบแล้วก็ส่ายหน้าไปมาประมาณ ขัดขืน ส่งเสียงอู้อี้แบบอย่านะ ๆ ซักพัก
“คุณ!!! คุณ!!!”
พราวพรรณรายสะดุ้งเฮือกจากความฝันปากยังจู๋อยู่ ลืมตามอง ต๊กกะใจ เห็นอัครินทร์ก้มจ้องอยู่ใกล้ ๆ
“เป็นไรเนี่ย??”
พราวพรรณรายตกใจสุดขีด หันไปมองรอบ ๆ ทุกคนมองเป็นตาเดียว ขำ ๆ ซุบซิบ “ว๊าย!!” พราวพรรณรายอายมาก ยกกระเป๋ามาบังหน้า “ว๊าย!! มองไร?? เป็นอะไรมากป่ะ??”
“คุณนั่นแหละ เป็นไรเยอะ??? นอนหลับในห้องบรรยายไม่พอ ยังฝันบ้า ๆ บอ ๆ อีกฝันอะไรของคุณครับ?”
พราวพรรณรายสะดุ้ง รู้ได้ไงวะ? “ฝัน?? ฝันอะไรของคุณหมอคะ? ใครฝันคะ? รู้ได้ไงคะ?”
“ฝันว่าจูบกับใคร?”
พราวพรรณรายเผลอ แก้ตัวปากคอสั่น “ก็จูบกับ...ว๊าย!! จูบเจิบอะไรกับใครคะ? ไม่มี๊!! บ้าแล้ววว!!”
อัครินทร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เดินกลับไปที่เดิม “เอาล่ะครับทุกคน..ตกลงว่าไม่มีใครสงสัยอะไรนะครับ ถ้างั้นผมขอจบการบรรยายในวันนี้แต่เพียงเท่านี้ เพราะถ้าผมยังไม่ยอมจบ อาจจะหลับกันหมดทั้งห้องเหมือนกับคุณคนนั้น”
อัครินทร์มองไปที่พราวพรรณราย ทุกคนขำกันครืน พราวพรรณรายอ๊ายอายอีก
“โอเค.ครับ สวัสดีครับทุกคน”
ทุกคนลุกขึ้นแยกย้ายกันทันที อัครินทร์ก้มหน้าก้มตาเก็บของพอเงยขึ้นมองไปที่พราวพรรณราย ก็ไม่เห็นอยู่ตรงเก้าอี้นั้นซะแล้ว อัครินทร์ส่ายหน้า “ง่วงมากสิเจ๊” อัครินทร์เก็บของเดินออกไป

ลานจอดรถโรงพยาบาล พราวพรรณรายที่นั่งซุ่มมองอัครินทร์ที่กำลังเดินมาไกล อยู่ในรถที่ลานจอดรถ พราวพรรณราย ตาโต รีบคว้าโทรศัพท์มากด สายตาจ้องมองอัครินทร์ที่กำลังเดินอยู่ไกล ๆ ตลอดเวลา
ปานตะวันนั่งในรถนาคินทร์ สะดุ้งมือถือดังก็หยิบมารับ พูดเบาๆ “ว่าไงพิงค์”
“ให้ทาย!! ตอนนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?” ตาพราวพรรณรายยังจ้องอัครินทร์ตลอด
“ใครจะไปรู้?”
พราวพรรณรายชะเง้อมองอัครินทร์ที่เดินถึงรถ กำลังจะขึ้นรถ “เรากำลังจะขับรถสะกดรอยตามคุณหมอหล่อโฮกที่เล่าให้ตะวันฟังไง”
“อะไรนะ?? เป็นเอามากแล้ว อย่าไปยุ่งเลยพิงค์”
“ไม่ทันแล้ว แค่นี้ก่อนนะจ๊ะเพื่อนเลิฟ..เลิฟยูว์ว์ว์ว์!!”
พราวพรรณรายวางหู พุ่งรถตามอัครินทร์
“พิงค์!! พิงค์!!” ปานตะวัน วางสาย
“มีอะไรรึเปล่าครับ? ใครโทรมา?”
“เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะ เพื่อนฉันเอง”
“เพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิง??”
ปานตะวันแอบค้อน “พิงค์ค่ะ..พิงค์ สีชมพู..ผู้ชายหรือผู้หญิงดีคะ?”
นาคินทร์กวนหน้าตาย “ไม่รู้..ผู้อะไรไม่รู้..หึงไว้ก่อน”
ปานตะวันเลิกคิ้ว “คุณมีสิทธิ์อะไรมาหึงฉันคะ?”
“อยากให้มีมั้ยละ??”
ปานตะวันค้อน พูดไม่ออก นาคินทร์อมยิ้ม ขับรถต่อไป ปานตะวันสายตาเปี่ยมสุข

บนถนนในกรุงเทพฯ พราวพรรณรายขับรถสะกดรอยตามอัครินทร์มาเรื่อย ๆ ซักพักติดไฟแดงจ่ออยู่หลังรถอัครินทร์ พราวพรรณรายย่น ๆ คอ เอาหน้าหลบ กลัวอัครินทร์จะมองเห็นทางกระจกหลัง ปากก็บ่นไป
“ก็ถามดี ๆ ว่ามีแฟนรึยัง? ทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมบอกนี่ยะ ก็เลยต้องตามดูถึงบ้านว่ามีเมียแล้วรึยัง??”พราวพรรณรายชะเง้อมอง ๆ ไปข้างหน้าแล้วเบะปาก “หนอย..คิดว่าเจ๋งนักเหรอ ถึงได้กล้าหือกับสาวสวยรวยและเก่งมว๊ากอย่างพิงกี้ พราวพรรณรายคนนี้!!!”
พูดจบพราวพรรณรายก็ทุบโคร้มลงบนแตรรถเสียงดังลั่นสนั่นจนอัครินทร์สะดุ้งเฮือก มองกระจกหลังยิ่งตกใจเมื่อเห็นเป็นพราวพรรณรายก็เลยหันขวับไปมองด้านหลัง อัครินทร์ตกใจ
“เฮ้ย!! อย่าบอกนะว่ายัยเจ๊นั่นขับรถตามเรามา???”
พอดีไฟเขียว อัครินทร์เลยออกรถเอี้ยดอย่างรวดเร็ว พราวพรรณรายพุ่งตาม “แย่แล้ว!! สงสัยเป้าหมายจะรู้ตัวซะแล้ว โธ่เอ๊ย!! ยัยพิ้งนะยัยพิ้ง!!”
สองคนขับรถตามกันมาติด ๆ อัครินทร์นึกสนุก “นี่เอาจริง ๆ เหรอเจ๊?? ได้เลย..จัดให้!!”
อัครินทร์พุ่งเร็วแถมมีซิกแซกซ้ายขวากะจะมุดจะหนี พราวพรรณรายเหล่ “แน่ะ!! เล่นกะใครไม่เล่น ไม่รู้ล่ะสิว่ากำลังเล่นอยู่กะเจ้าแม่ฟอร์มูล่าวัน?? ได้สิจ๊ะ จัดให้!!”
พราวพรรณรายพุ่งจี้ตามติด รถสองคันไล่จี้ไล่ตามกันอย่างระทึก

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 7 วันที่ 24 พ.ค. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ