อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 10/2 วันที่ 27 พ.ค. 57
ประกายเดือนหงุดหงิด มาเปิดแฟ้มให้อย่างเสียไม่ได้ นัครินทร์อมยิ้ม ประกายเดือนต้องก้ม ๆ มาเปิดแฟ้มให้ หน้านัครินทร์แทบจะชนซอกคอประกายเดือน นัครินทร์เซ็นไป ประกายเดือนเปิดแฟ้มไปนัครินทร์เคลิ้มสูดดมเพลิดเพลินมาก ประกายเดือนเอะใจ แว๊ด “ทำอะไรคะ??”
นัครินทร์สะดุ้ง “ทำอะไร? จะทำอะไร? ก็เซ็นเอกสารนี่ไงฮะ??”
ประกายเดือนเหล่ ทันใดนั้นมือถือนัครินทร์ดังขึ้น “ฮาโหล วีวี่..มาเมื่อไหร่ฮะเนี่ย?? พรุ่งนี้เย็น?? โนๆๆ..ผมไม่ว่างอ่ะฮะ”
“ว่างนี่คะ”
นัครินทร์รีบล็อคเอามือปิดปากประกายเดือนไว้แน่น ประกายเดือนดิ้นขลุก ๆ “แค่นี้ก่อนนะฮะ..มีสายเข้า”
ประกายเดือนดิ้นขลุก ๆ นัครินทร์ยอมปล่อย ทำมือชู่ว์ว์ไม่ให้เสียงดัง “แม่มีไรฮะ? โห! ก็ผมงานยุ่งนี่ฮะ.. โอเค ๆ กินก็กินฮะ โอเค..คืนนี้เจอกันฮะ”
นัครินทร์วางหู ประกายเดือนอ้าปากจะด่า นัครินทร์ชี้ “ถ้าวีวี่โทร.มาถาม ห้ามบอกว่าเย็นพรุ่งนี้ผมว่างเด็ดขาด เข้าใจมั้ย”
“แล้วถ้าไม่ใช่คุณวีวี่ล่ะคะ”
“คุณไหน ๆ ก็ไม่ว่างทั้งนั้นแหละ”
“รับทราบค่ะ..ท่านรองฯ” ประกายเดือนรวบแฟ้มเดินออกไป
นัครินทร์มองตาม อมยิ้ม “ใช้น้ำหอมอะไรวะ..ห้อมหอม?!!” นัครินทร์ทำท่าหอมชื่นใจ
บนถนนชานเมือง รถบรรทุกแล่นมาจอดข้างทาง ปานตะวันหวาดระแวงมาก
คนขับรถมองสายตาน่ากลัว “ทำไมลงตรงนี้”
ปานตะวันสะดุ้ง “เอ่อ..ตรงนี้แหละจ๊ะ..ใกล้บ้านแล้ว”
คนขับรถมองไล่หัวจรดเท้า ปานตะวันกลัวมาก คนขับรถขยับตัวถกชายเสื้อขึ้น ปานตะวันตกใจกลัวจะเปิดประตู คนขับรถตะคอก “จะไปไหน??”
ปานตะวันไม่ฟังแล้ว ขยับจะเปิดประตู คนขับรถคว้าแขนปานตะวันไว้
“อย่านะ!!”
“จะรีบไปไหน??” คนขับรถเอามือเหมือนจะล้วงควักปลดซิปกางเกง
“แกจะทำอะไร!! ไอ้บ้า”
ปานตะวันชะงักกึก เพราะคนขับรถควักแบงค์ 20 ยับยู่ยี่ในกระเป๋ายื่นส่งให้ “ไว้กินข้าว”
ปานตะวันอึ้ง น้ำตารื้น แทบไม่เชื่อหู ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“เอาไว้สิ..เผื่อหิว”
ปานตะวันอึ้ง พูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้า น้ำตาหยด “เก็บไว้เถอะค่ะ”
คนขับมอง ปานตะวันค่อย ๆ ยกมือไหว้ “ขอบคุณ..ขอบคุณมากนะคะ..ฉันจะไม่ลืมพระคุณเลย”
คนขับพยักหน้าหงึกๆ “เดินระวังล่ะ..รถมันวิ่งเร็ว ฝนก็จะตก”
ปานตะวันซึ้งใจ พยักหน้าหงึกๆ “ฉันไปนะคะ”
ปานตะวันลงจากรถ ยืนอยู่ข้างทาง รถบรรทุกแล่นออกไป ปานตะวันมองตามจนลับสายตา ไม่อยากจะเชื่อว่าหน้าตาอย่างโจร แต่จิตใจเทวดา ส่วนคนหน้าตาเทพกลับหัวใจซาตาน ปานตะวันสะอื้น ท่ามกลางท้องฟ้าที่เริ่มมีเค้าว่าฝนกำลังจะตก
ตอนกลางคืน บ้านพิงค์ พิงค์กำลังพอกหน้าด้วยครีม
พิงค์พูดไปพอกไป “ก่อนจะแนะนำให้คนไข้ คุณหมอพิงค์ก็ต้องทดลองใช้เองก่อน..แบบนี้!!”
ทันใดนั้นเสียงกริ่งดังขึ้น พิงค์สะดุ้ง “ใครยะ?! ใครมาดึก ๆ ดื่น?!”
พิงค์สีหน้าไม่ไว้ใจ เหลียวหาอาวุธ ก็คว้าไม้กอล์ฟแถวนั้นมาถือไว้แล้วค่อย ๆ ย่องไปเปิดประตู เงื้อไม้กอล์ฟสุดแขนแล้วชะงักกึก ‘ปานตะวัน’ ยืนตัวเปียกอยู่หน้าประตู “ตะวัน!”
ปานตะวันยืนมองนิ่ง
ที่บ้านไกรตระกูล สาวิตรีวางไข่พะโล้ลงบนโต๊ะอาหาร
“ไข่พะโล้..ของโปรดลูกหมอของแม่” อัครินทร์ยิ้ม
ใบตองส่งยำวุ้นเส้นให้สาวิตรีวางลงบนโต๊ะ
“ยำวุ้นเส้น..ของโปรดลูกสาวของแม่” นารถนรินทร์ยิ้ม
“แล้วจานไหนของโปรดของลูกนัคของแม่ล่ะฮะ” นัครินทร์เดินเข้ามากอดเอวแม่ หอมแก้ม
สาวิตรีค้อน “ของโปรดเธอน่ะเหรอ? แม่ทำให้ไม่ได้หรอก เพราะต้องขาวสวยหมวยอึ๋มไม่ใช่เหรอยะ?!! เชิญไปหากินที่อื่นเอาเอง”
“โห่..แม่ฮะ เอาจริง ๆ..เอาจริง ๆ”
“เอาจริง ๆ เหรอ? จำไม่ได้”
“โห่”
“ก็เล่นไม่กลับบ้านกลับช่อง ใครจะไปจำได้ล่ะ”
นัครินทร์ชี้กะเพรา “นี่ไง..จานนี้ของผม?!”
“ใครบอก?? จานนี้ของพี่คินเค้าจ๊ะ..ผัดกะเพรา”
“อ้าววว..นึกว่าของพ่อ?!” ทวยเทพรีบท้วง
“พ่อน่ะ..แค่มองหน้าแม่ก็อิ่มแล้ว”
“โห..ยิ่งเห็นยิ่งหิวสิไม่ว่า”
“หิ้วววว!!!” ลูกๆ และใบตองฟังทวยเทพกับสาวิตรีหวานใส่กัน ก็ทนไม่ได้ ขอแซวหน่อย
สาวิตรีตีทวยเทพเพียะ “บ้า!! พูดอะไรอ่ะพ่อ ไม่เอาละใบตอง ไปตามพี่คินกับหนูตะวันมาทานข้าวได้แล้ว”
“พี่คินบอกว่าไม่ทานค่ะ..ไม่หิว” นารถนรินทร์บอก
“อ้าว” สาวิตรีงง
อัครินทร์มอง ๆ
ใบตองรายงาน “ส่วนคุณตะวันก็ยังไม่กลับมาค่ะ”
สาวิตรีเสียงสูง “อ๊าว?”
อัครินทร์งง ๆ “คุณตะวันไปกับพี่คินไม่ใช่เหรอครับแล้วนี่คุณตะวันไปไหน? ทำไมไม่กลับมาด้วยกัน”
ทุกคนอึ้ง ๆ ยกเว้นนัครินทร์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขา “เอ่อ..คือ..มีอะไรยังไง..ใครช่วยบอกผมมั่งได้มั้ยครับ”
“ทางนี้เลยค่ะ” ใบตองดึงนัครินทร์ ออกไปเม้าท์ด้วยท่าทางยินดีมาก อัครินทร์ยังนึกถึงเรื่องที่ยังคาใ
บ้านพิงค์ ปานตะวันเปลี่ยนชุดมาใส่ชุดชุดคลุมสีชมพูอ่อน ๆ ของพิงค์ มัดผมที่หมาด ๆ ขึ้น ส่วนพิงค์ก็ล้างที่พอกหน้าออกเรียบร้อย พิงค์วางแก้วน้ำอุ่นลงตรงหน้าตะวัน “จิบน้ำอุ่นซะตะวัน”ป
ปานตะวันพยักหน้าหงึก ๆ แล้วก็จิบตามคำสั่ง
“เอาล่ะ..ทีนี้ก็เล่าให้เพื่อนฟังซะทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น” พิงค์จ้องตาคาดคั้นตะวัน
ตะวันหลบตา “คือ..คือ..ไม่มี”
“อย่าบอกว่าไม่มีอะไร!! มายืนตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำอยู่หน้าบ้านเพื่อนดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้แล้วยังจะมาบอกว่า ‘ไม่มีอะไร’ นี่ เพื่อนเป็นหมอผิวหนังนะจ๊ะ กินข้าวกินปลาและผลไม้จำพวกเบอร์รี่เป็นอาหารหลัก ไม่ได้กินหญ้า”
ปานตะวันถอนใจเฮือก
“ตะวันก็งี้ กี่ปี ๆ ผ่านไปก็ไม่เคยเปลี่ยน จะเก็บไปถึงไหนไอ้อารมณ์และความรู้สึกน่ะ เก็บ ๆๆจนมันจะเน่าแล้ว มีอะไรก็พูดก็ระบายระเบิดออกมาบ้าง”
เท่านั้นแหละ ปานตะวันก็ระเบิดปล่อยโฮโผเข้ากอดพิงค์ที่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ปานตะวันร้องไห้โฮๆๆ เหมือนเขื่อนแตก
“เฮ้ยๆๆ ..จะ..จะ..ใจเย็น มะ..มี..มีอะไร..ก็..ค่อย ๆ”
ปานตะวันโฮสะอื้นฮั่กๆๆพิงค์ได้แต่โอบกอดปลอบใจเพื่อน สักพักจนนึกได้ก็จับตัวปานตะวันออกมาจ้องหน้า “ใครทำตะวัน?!!”
ปานตะวันไม่ตอบ ร้องเบาลงได้แต่สะอื้น พิงค์จ้องหน้า “ต้องเป็นผู้ชายบ้านนั้นแน่ ๆ” ปานตะวันไม่รู้จะตอบยังไง ได้แต่ก้มหน้าส่ายหน้า
“ต้องใช่!! ใช่แน่ ๆ!! จะเป็นใครไปไม่ได้” พูดจบพิงค์ก็พุ่งจะไปจัดการ
ปานตะวันร้องเรียก “พิงค์!! ไม่นะพิงค์!! พิงค์ ๆๆ”
ไม่ได้ผล พิงค์ไปซะแล้ว ปานตะวันถอนใจ..แทบหมดแรง..ดวงตาอ่อนล้า รันทดกับชะตาชีวิตตัวเองเหลือเกิน
เคาน์เตอร์บาร์ นาคินทร์นั่งซึมอยู่ กึ่ม ๆ
สักพักอัครินทร์เดินเข้ามายืนมอง “พี่คิน..มันเกิดอะไรขึ้นครับ?”
นาคินทร์มองหน้าอัครินทร์แล้วไม่สนใจ
“พี่หายไปกับคุณตะวัน แต่วันนี้พี่กลับมาคนเดียว คุณตะวันล่ะครับ”
นาคินทร์จ้องหน้า “แกเป็นอะไรกับเค้า..ตาอัค”
อัครินทร์มองตา “ผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณตะวัน แต่ผมเป็นน้องชายพี่”
นาคินทร์ค่อย ๆ เบือนหน้าไป
“พี่คินรู้ตัวมั้ยครับ..ว่าเดี๋ยวนี้พี่เปลี่ยนไปมาก”
นาคินทร์ถามลอยๆ เหมือนไม่สนใจ “เปลี่ยนยังไง”
“ถ้าเมื่อก่อนพี่เป็นสีขาว ตอนนี้พี่ก็เปลี่ยนเป็นสีเทาและผมก็ไม่อยากให้พี่กลายเป็นสีดำ”
นาคินทร์นิ่งไปนิด ก่อนจะขำน้อย ๆ หยัน ๆ “แล้วแกล่ะ..เปลี่ยนเป็นจิตแพทย์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงพูดจาอะไรแบบนั้น”
“ผมก็นึกเสียดายอยู่ นี่ถ้าผมเลือกเรียนจิตแพทย์ซะแต่แรกก็คงจะดี ป่านนี้ผมคงเดาใจพี่คินถูกและก็ช่วยดูแลพี่คินได้มากว่านี้”
นาคินทร์หันขวับ “แกหมายความว่ายังไง” นาคินทร์ผุดลุกขึ้นประจันหน้าน้องชาย “หัวใจฉัน ๆ ดูแลเองได้ แล้วก็ไม่ต้องบังอาจมาเดาใจฉัน เพราะแกไม่มีวันจะเดาใจฉันถูก..ไอ้อัค!!”
พี่น้อง 2 คนยืนจ้องหน้ากันใกล้ ทันใดนั้นมือถืออัครินทร์ดังขึ้น อัครินทร์หันหลังกลับมารับสาย นาคินทร์ทิ้งตัวลงนั่งชิวต่อ
“ฮาโหล”
‘พิงค์ใส่ยับ “นายทำอะไรตะวัน??? อีตาหมอซาดิสต์!!!”
อัครินทร์ตกใจ “ว่าไงนะ??..คุณตะวัน”
นาคินทร์หันขวับ!!
“ก็เออสิ!! นายทำอะไรเพื่อนฉัน? นายใช่มั้ยที่ปล่อยให้เพื่อนฉันตากฝนจนแทบจับไข้? ทำไมถึงใจร้ายอย่างนี้”
อัครินทร์หันไปมองนาคินทร์ นาคินทร์ทำเบือนหน้าไม่สนใจแต่แอบฟัง “คุณตะวันอยู่ที่ไหน”
“ไม่ต้องเลย ฉันไม่มีวันจะให้คนใจร้ายอย่างนายมาเหยียบบ้านฉันเด็ดขาด” พิงค์ตะปบปากตัวเอง “อุ๊บส์!!!”
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 10/2 วันที่ 27 พ.ค. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ