ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนอวสาน(1) วันที่ 10 พ.ค. 57
"ผมไม่เชื่อ ว่าเค้าจะขอเลิกกับผมเพียงเพราะว่าเค้ากลัว""พ่อก็ไม่เชื่อ ว่าผู้หญิงอย่างหนูเมเปิ้ลจะกลัว"
"แต่เค้ายืนยันกับผมอย่างนั้น"
"แล้วแกก็ยอมให้เค้าไป อย่างนั้นรึ"
"ปล่อยไปก่อนครับ เดี๋ยวจะไปคิดบัญชีทีหลัง ผมจะไปเค้นเอาความจริง มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เค้าพูดออกมาอย่างนั้น นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณเมเปิ้ลต้องการจริงๆหรอก"
"แล้วจะรออะไร"
"เวลาที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อไม่เคยปล่อยให้แม่โกรธพ่อ ข้ามคืนเด็ดขาด ต้องรีบเคลียร์ ไม่อย่างนั้นผู้หญิง ซึ่งมีธรรมชาติ ชอบจินตนาการ มักจะคิดไปไกล ใหญ่โต จนยากที่จะแก้ไข อะไรก็เกิดขึ้นได้ในระหว่างที่เราไม่เจอเค้า ไม่แน่นะ เค้าโกรธแกมากๆ ไม่เห็นแกตามไปง้อ อาจจะตัดสินใจแต่งงานกับเกย์คนนั้นเพื่อประชดไปเลยก็ได้"
กฤษฎารีบวิ่งออกไปทันที เดโชมองตามยิ้มๆ ตามไป
น้ำฟ้าเดินมา โสนเดินมาจากอีกทางหนึ่ง เห็นน้ำฟ้าแล้วแปลกใจ
"อ้าว...หนูฟ้า ป้าคิดว่าหนูกลับกรุงเทพไปแล้วซะอีก ยังอยู่เหรอลูก"
"ยังมีเรื่องเป็นห่วงอยู่ค่ะ"
"เรื่องอะไร สปาที่รีสอร์ตก็โอเคแล้วนี่ หรือว่าเรื่อง...ตากฤษ"
น้ำฟ้ายิ้มรับ
"ไม่ต้องห่วงหรอก แม่นั่นบอกเลิกตากฤษแล้ว หนูสบายใจได้แล้วน่ะ"
"หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนกฤษ อยากให้กฤษสบายใจเร็วๆ"
"โถ...หนูฟ้า จะมีใครรักลูกชายป้าเหมือนที่หนูรักได้อีกมั้ย"
น้ำฟ้ายิ้มอาย
"ว่าแต่ว่า...หนูรู้มั้ยว่าทำไมแม่ขิงแก่นั่นถึงได้ยอมถอยทัพกลับไปง่ายๆแบบนี้ ไอ้ที่บอกว่า กลัว ไม่อยากเจ็บมากไปกว่านี้ มันไม่น่าจะใช่"
"เค้าอาจจะคิดได้ขึ้นมาจริงๆก็ได้นะคะคุณป้า พวกสาวแก่อ่อนไหวจะตายไปค่ะ"
"นั่นสินะ เออ ป้าไปก่อนนะ มัดใจตากฤษให้ได้ไวๆนะจ๊ะ ป้าเอาใจช่วย เค้าอยู่ทางโน้นแน่ะ ไปสิ"
"ขอบคุณค่ะคุณป้า"
โสนออกไปทางหนึ่ง น้ำฟ้ายิ้มกริ่ม เดินไปอีกทาง
ภายในห้องเก็บอุปกรณ์ ณัฎฐาลินีเซ็งอยู่กับความเงียบ ก่อนจะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวข้างหลัง หันไปมอง วายุบุตรกำลังเล่นฮูลาฮูป พลิ้วมาก เธออึ้ง....
"ไง เก่งป่ะ"
"เอวอ่อนเชียวนะ"
"ไวด้วยนะ"
"อะไรไว"
"ก็ต้องเหวี่ยงไวๆไง เหวี่ยงช้า ห่วงก็ตก คนเล่นฮูล่าฮูปเก่งๆมันก็ต้องทั้งอ่อน ทั้งไว คิดมากอีกแล้วสิเนี่ย"
เธฮไล่ทุบวาเขาเลย
"ก็เป็นคนอย่างนี้ จะไม่ให้ฉันคิดมากได้ไง"
"โอ๊ย! เจ็บ โอ๊ย"
"สองแง่สามง่าม ทะลึ่งลามกตลอดเวลาที่อยู่กับฉัน ผู้ชายดีๆ ไม่เจ้าชู้ที่ไหน เขาเป็นกัน หา"
"โอ๊ย"
เป้กับวลัยที่แอบฟังอยู่หน้าห้อง ถึงกับผงะ ตกใจเพราะเสียงโอ๊ยของวายุบุตร
"พี่เป้คะ...คุณวายุบุตรร้องโอ๊ยค่ะ"
ทั้งคู่เอาหูแนบฟังต่อไป ภายในห้อง เธอยังไล่ตี เขาจับมือเธอเอาไว้ แล้วบิด
"ฟังผมก่อนสิ"
"อ๊าย"
เป้และภัทรวลัยผงะอีกครั้ง
"วลัยคะ...ลินีร้องอ๊ายค่ะ"
"ตกลง...เค้าแค่คุยกันด้วยคำพูด หรือมีการใช้ท่าทางประกอบ การพูดด้วยคะ"
"การสื่อสารที่ดี มันต้องใช้ทั้งสองอย่างค่ะ"
ภายในห้อง...วายุบุตรล็อกแขนของเธอเอาไว้
"ฉันเจ็บนะ"
"ผมก็เจ็บนะ เวลาที่คุณไม่สนใจจะฟังผม" เขากระซิบข้างหูอ่อนโยนแผ่วเบา "ลินี...ผมสัญญานะ ผมจะรักคุณ ทนุถนอมคุณ จะดูแลคุณและแม่คุณอย่างดีที่สุด ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีตมันจะไม่เกิดขึ้นอีก"
เธอชะงัก
"คุณรู้อะไรมา"
"กุ๊งกิ๊งเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว ว่าแม่ของคุณต้องป่วย เพราะอะไร"
เธฮทั้งอึ้ง ว้าวุ่นใจ สับสน
"คุณเขียนจดหมายบอกผมเอง ว่าผมทำให้คุณรู้แล้วว่าผู้ชายไม่ได้เลวเหมือนกันทุกคน ผมยังพิสูจน์ตัวเองให้คุณเห็นไม่พออีกเหรอลินี ว่าผมแตกต่าง หรือว่าผมยังไม่ดีพอ บอกผมสิ ว่าต้องทำยังไงอีก ผมทำได้ทุกอย่างและผมจะไม่มีวันถอดใจไปจากคุณ"
เธออึ้ง ใจอ่อนลงเรื่อยๆ ในอ้อมกอดของวายุบุตร
น้ำฟ้าเดินตามหา เจอกฤษฎาถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินมาจากทางหนึ่งอย่างเร่งรีบ เธออึ้ง ตกใจ รีบวิ่งไปดักทางเอาไว้
"กฤษ จะไปไหน"
"มีอะไรค่อยคุยกันนะฟ้า เรารีบ"
"รีบไปไหน"
"เราจะไปหาคุณเมเปิ้ล"
เขาแยกตัวไปทันที น้ำฟ้าร้อนใจ ยังไงก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขาไป เธอรีบตามไปทันที
ณัฎฐาลินีน้ำตาซึม ใจอ่อนให้กับวายุบุตร
"ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี คนดีที่ไม่เคยป่าวประกาศบอกใคร คุณคือผู้บริจาคนิรนามคนนั้น คนที่บริจาคเงินให้มูลนิธิมาตลอดหลายปี ผ.อ.บอกฉัน"
"ผมแค่อยากทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง"
"แล้วคนดีอย่างคุณ แน่ใจเหรอ ว่าจะไม่ยอมถอดใจจากฉัน"
"ผมแน่ใจ"
"ฉันอาจจะไม่ได้เป็นคนรักที่ดี ฉันอาจจะดูแลใครไม่เป็นคุณอาจจะต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของฉันทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจในอนาคต ยังจะแน่ใจอยู่มั้ย"
"ยังยืนยันคำเดิม"
วายุบุตรคลายอ้อมกอดลง จับเธอให้หันหน้ามา มองตาอย่างลึกซึ้ง
"ยอมรับรักผมแล้วใช่มั้ย"
"ยัง"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"คุณยังคงไม่ทิ้งลาย อย่ามาโกหก!”
"หือ? เอามาจากไหน ว่าผมยังไม่ทิ้งลาย"
"กอดกับใครที่สุสาน! ไหนบอกว่าถอดเขี้ยวเล็บแล้วไง แล้วชะนีคนนั้นเป็นใคร หา ตอบ"
"เค้าเป็นเพื่อนเก่าผม"
"มาทำไม! ตอบ"
"ผมขายกิจการทั้งหมดให้เค้าไปบริหารต่อ "
"ขายทำไม! ตอบ"
"ก็คุณไม่ชอบ ผมก็ไม่ทำ ผมขายจะได้มีเงินเอาไปทำอย่างอื่น"
"ทำอะไร ตอบ"
"ยังไม่รู้ คุณช่วยผมคิดสิ ก็คุณเป็นอนาคตภรรยาผม ก็ต้องมาช่วยผมใช้เงิน"
"แฟนก็ยังไม่ใช่ อย่ามาข้ามช็อตใช้คำว่าอนาคตภรรยา"
"ไม่ใช่แฟน แล้วเป็นอะไร! เป็นแม่มั้ย"
"ประชดเหรอ"
"ไม่ได้ประชด"
"ประชด นี่แน่ะ!”
เธอหยิกวายุบุตรที่พยายามหลบเลี่ยง
ภัทรวลัยและเป้ยังแอบฟังอยู่ที่ประตู
"โอ๊ย!”
ทั้งคู่ผงะ ตามมาด้วยเสียงประตูสะเทือนโครม ภัทรวลัยและเป้ผงะอีกรอบ
"ฆ่ากันตายแล้วมั้งคะวลัย"
"เอาไงดีคะพี่เป้"
"เปิดสิคะ"
"งั้น..ไปค่ะ" ภัทรวลัยตั้งท่าจะวิ่งหนี
"ไม่ใช่! พี่หมายถึงให้เปิดประตู"
"อ้าว...ก็เปิดสิคะ กุญแจอยู่ที่พี่เป้อ่ะ"
เป้รีบไขกุญแจ เปิดประตูทันที ภาพที่ปรากฏคือ วายุบุตรยืนยิ้มกว้างอยู่ เธอยืนมองค้อนเขาอยู่ ทั้งภัทรวลัยและเป้งง และอึ้งไป
"ยังมีชีวิตอยู่ดีกันใช่มั้ยคะ"
"ดีที่สุดครับ ผมได้แม่มาเพิ่มอีกคนหนึ่งแล้ว"
"คุณวายุบุตร"
ภัทรวลัยและเป้อมยิ้ม ที่เห็นณัฎฐาลินีเข่นเขี้ยวใส่วายบุตร นั่นหมายความว่า ทั้งคู่ลงเอยด้วยดี
น้ำฟ้ามาแย่งกระเป๋าจากกฤษฎา
"เราไม่ยอมให้กฤษไป ทำไมกฤษไม่มีศักดิ์ศรีเลย เค้าบอกเลิกแล้วก็ไม่ยอมเลิก จะไปตื้อเค้าทำไม ในเมื่อเค้าหมดใจ"
"แต่เรายังไม่หมด และเราก็เชื่อว่าคุณเมเปิ้ลก็ยังไม่หมด"
"แต่คุณเมเปิ้ล ไม่มีทางคืนดีกับกฤษ เพราะถ้าเค้าทำอย่างนั้นเราจะ.." น้ำฟ้าชะงักไป
"จะ ..อะไร?”
น้ำฟ้ารู้ว่าตัวเองพลาดที่หลุดปากออกไป
"อะไรฟ้า? จะอะไร"
น้ำฟ้าตกใจ สะดุ้ง ที่กฤษฎาตะคอกใส่
โสนตกใจ เมื่อเดโชบอกว่า ลูกชายจะไปกรุงเทพฯ
"ตากฤษจะไปง้อยัยขิงแก่ที่กรุงเทพ"
"ใช่จ๊ะ"
"แล้วทำไมคุณไม่ห้าม"
"ผมไม่กล้าห้ามหรอก กลัวข้ามหน้าข้ามตาคุณ"
"โอ๊ย! มีผัวกับเค้าก็ขี้กลัวไปหมด น่าเบื่อ ฉันห้ามเอง"
โสนวิ่งออกไปทันที เดโชถอนใจ อมยิ้ม...รู้สึกดี ตามโสนออกไป ช้าๆ ไม่รีบ ท่องกลอนไปชิลๆ
"ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่ หวนคิดถึงเจ็บกายฯ"
กฤษฎาไล่บี้ถามน้ำฟ้า
"ตอบเรามาเดี๋ยวนี้นะฟ้า ฟ้าไปรู้อะไรที่เราไม่รู้"
น้ำฟ้าพยายามแก้ตัว
"เราไม่ได้รู้อะไรเลยสักหน่อย"
"อย่ามาโกหก! ฟ้าไปพูดอะไรกับคุณเมเปิ้ล"
"เรา..เอ่อ"
"ตอบเรามาเดี๋ยวนี้"
โสนเดินเข้ามาพอดี
"บอกให้ตอบมาเดี๋ยวนี้"
"เราจะฆ่าตัวตาย"
กฤษฎาอึ้ง โสนที่กำลังจะเข้าไปถึงกับชะงัก
"เราบอกเค้าว่าถ้าเค้าไม่เลิกกับกฤษ เราจะฆ่าตัวตาย จะให้ทำเป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพื่อให้เค้าเห็นว่าเรายอมตายดีกว่าจะเสียกฤษไปให้เค้า เราก็จะทำ ทำโดยไม่เสียดาย ชีวิตตัวเอง ได้ยินมั้ย...เรายอมตาย"
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนอวสาน(1) วันที่ 10 พ.ค. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ