@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/3 วันที่ 3 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/3 วันที่ 3 ต.ค. 55 

  สุดาน้ำเสียงเหี้ยม “คาดไม่ถึง อย่างที่พี่บอกเลยใช่มั้ยคะ”
      ใบหน้าภาพิศซีดเผือดราวไข่ต้ม ดวงตาเบิกกว้างราวกับจะถลนออกมา ทั้งเจ็บทั้งปวด
       เสียใจ ผิดหวัง หลากหลายความรู้สึกปนกัน
       “ภาจะไปตบมัน” ถลาจะเข้าไป
       สุดารีบคว้ามือเอาไว้ “อย่าค่ะคุณน้อง ขืนเข้าไปตอนนี้ ตกกระป๋องเร็วกว่าเดิมแน่ๆ” เย้ยหยันอยู่ในที “เหมือนที่ท่านเคยทำกับพี่ ตอนที่หน้ามืดหลงคุณน้องนั่นแหละ”
       มือไม้ของภาพิศที่ถูกสุดากุมไว้อ่อนลงไปทันที มองอารักษ์กับกรรณนรีด้วยความ
       เจ็บปวด แค้นใจ
       ส่วนกรรณนรียังนั่งหน้างอแบบงอนๆ มีอารักษ์นั่งข้างๆ เอาอกเอาใจ
       “น่า..หนูก้าง เลิกงอนฉันได้แล้ว...หนูดูนี่ ฉันซื้อคอนโดหรูให้หนูด้วยน้า”
       อารักษ์ยื่นโบชัวร์คอนโดใหม่หรูให้ดู กรรณนรีไม่มอง นั่งกอดอก อารักษ์ยื่นมือมาแตะ
       “หนูก้าง หันมามองฉันหน่อยนะ” อารักษ์วาดลีลาคนแก่เจ้าชู้จีบเด็ก
       “หนูไม่คุย ไม่มองค่ะ จนกว่าหนูจะได้ใบหย่าของท่าน” ลุกเดินหนีไป

       อารักษ์    รีบตามไป “หนูก้างๆๆ”
       ภาพิศหัวใจปวดหนึบมองตามด้วยสายตาเจ็บใจ สุดายิ้มพอใจ
       ภาพิศเดินร้องไห้ออกมา ทำท่าจะเป็นลม จนต้องเกาะผนังเอาไว้ สุดาเดินตามยิ้มอย่างพอใจ ปราดเข้าไปประคอง พูดดเวยน้ำเสียงเห็นใจ
       “คุณน้องขา อย่าเพิ่งตายนะคะ คุณน้องต้องแย่งท่านคืนมาให้ได้”
       ภาพิศแทบไม่มีแรงจะพูด “แน่นอนค่ะ ยังไงฉันก็ไม่ยอมเสียท่านไป”
       สุดาทำทีเป็นเห็นใจ “แต่มันคงลำบากเหมือนกันนะคะ เพราะแม่ศุภาวีร์ ทั้งสาวทั้งสวย ยิ่งถ้าเทียบกับคุณน้องแล้ว คุณน้องดูแก่ไปเลยล่ะค่ะ”
       ภาพิศหันขวับมามองตาวาววับ “ฉันก็เหมือนขิงล่ะค่ะ ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด..” นัยน์ตาวาวโรจน์ “วิธีของฉัน รับรองไม่ธรรมดา”
     
       สุดาแอบยิ้มเยาะ สายตาดูแคลนว่าไม่มีทางเป็นไปได้
     
       รุ่งเช้าสรวงแต่งตัวเสร็จจะไปทำงาน เสียงโทรศัพท์ดัง สรวงรับสาย เป็นภาพิศโทร.มา
     
       “คุณสรวงคะ...พี่รู้แล้วนะคะ” แววตาวาววับน่ากลัวขณะพูด “ผู้หญิงคนใหม่ของท่านคือใคร”
       สรวงใจเต้นรัว แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นกรรณนรี
       ภาพิศพูดน้ำเสียงอ้อนวอน “คุณสรวงออกมาพบพี่...ได้มั้ยคะ”
     
       ที่ร้านกาแฟภายในห้างยามนั้น ภาพิศร้องไห้ สะอึกสะอื้นทั้งเสียใจจริง และใส่จริตมารยา
       “จริงๆ พี่ไม่อยากรบกวนคุณสรวงเลยนะคะ..แต่มีคุณสรวง มีคุณสรวงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเข้าใจพี่ เห็นใจพี่ถ้าคุณสรวงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
       สีหน้าสรวงสลดลง เข้าใจความรู้สึกภาพิศ ภาพิศมองหน้าสรวง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
       ภาพิศถามเสียงสั่น “อย่าบอกนะคะว่าคุณสรวงรู้จักผู้หญิงคนนั้นแล้ว”
       สรวงนิ่งไปนิดก่อนตอบ “ครับผมรู้แล้ว”
       ภาพิศตกใจ “แล้วทำไมคุณสรวงถึงนิ่งเงียบอยู่ได้ ทั้งๆที่คุณสรวงถูกหักหลัง ถูกทำร้าย”
       “แล้วจะให้ผมทำอย่างไรล่ะครับ ในเมื่อเค้าเลือกทางเดินแบบนั้น ทางที่มีคุณพ่อเป็นคนเสนอ”
       ภาพิศร้องไห้สะอึกสะอื้น “พี่ไม่คิดจริงๆ ว่าหนูก้างจะเป็นคนแบบนี้ เสียดายที่พี่ทั้งรักทั้งเอ็นดู สุดท้ายคนที่พี่ไว้ใจ กลับมาหักหลังทำร้ายพี่เอง” ก้มหน้าร้องไห้ “พี่เสียใจจริงๆ ค่ะคุณสรวง เสียใจจริงๆ” จังหวะนั้นภาพิศแสร้งทำทีเป็นหายใจไม่ออก
       สรวงตกใจ “คุณภาพิศครับ..คุณภาพิศ” รีบเข้ามานั่งใกล้ๆ ทำท่าจะประคอง
       ภาพิศแกล้งเอามือดันออก พูดเสียงแผ่ว “พี่ไม่เป็นไรค่ะคุณสรวง...พี่ไม่เป็นไร...” แผ่วลงอีก “อย่างน้อย หัวใจของพี่ก็ยังเต้นอยู่ พอให้พี่รู้ว่า...คนที่พี่รัก...ทำร้ายพี่เอง”
       จากนั้นภาพิศแกล้งเป็นลมหมดสติซบลงที่อกสรวงอย่างได้จังหวะ สรวงตกใจ บอกคนในร้าน
       “ช่วยด้วยครับคนเป็นลม”
       พนักงานกรูกันเข้ามาเอายาลม เอาพัด ผ้าเย็นมาให้ สรวงเอาผ้าเย็นซับหน้าซับตาภาพิศอย่างห่วงใย
     
       โดยไม่ทันสังเกตว่ามีกล้องมือถือของใครคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้นถ่ายภาพช็อตดังกล่าวเอาไว้
            รุ่งเช้าผู้คนตามสถานที่ต่างๆ อ่านข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ และข่าวออนไลน์ในเน็ต เห็นเป็นรูปสรวงประคองภาพิศ พร้อมพาดหัวหวือหวา สร้างกระแส
     
       หลักฐานคาตาแม่เลี้ยงสาว ลูกเลี้ยงหนุ่ม โอบประคอง ท่าจะโอละพ่อ
       เข้ากันได้ดีเกินคาด ลูกเลี้ยงหนุ่ม-แม่เลี้ยงสาว อย่างนี้มีเฮ
     
       บนดาดฟ้าตึกสูงแห่งนั้น ภาพิศยืนนิ่ง ลมพัดจนผมปลิวไปตามแรงลม ดวงตาที่มองออกไปเบื้องหน้า เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ภาพิศยามนี้ดูราวกับรูปสลักที่น่ากลัว
     
       มะยมนั่งอยู่ชายหาดกับนพ นพดีดกีตาร์ร้องเพลง “ทำไมต้องเธอ” จังหวะหนึ่งมะยมเปิดNotebook เช็คข่าวตามแระสา สีหน้าตกใจ ซีดเผือด
       “มีอะไรครับ”
       มะยมไม่ตอบ เลื่อนคอมพ์ให้นพดู นพอ่านสีหน้าตกใจ
       “จะเป็นไปได้ยังไง นายสรวงกับคุณภาพิศ”
       “หัวข้อข่าวเท่านั้นมังคะ...เรียกให้คนสนใจ แต่อย่างว่าค่ะ..” มะยมพูดเป็นนัย “อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น .....ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน”
       นพเองก็มีความนัยเหมือนกัน ถอนหายใจ “ใช่ครับ...อะไรๆก็เป็นไปได้ ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน มีพบก็มีจาก มีรักก็มีหมดรักเช่นกัน”
       สองคนมองหน้ากัน รู้ดีว่าต่างคนต่างมีเรื่องในใจแน่ๆ แต่ต่างกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม
       “ไปเล่นน้ำดีกว่าครับ”
       “ดีค่ะ”
       สองคนวิ่งเล่น เริงทะเลเหมือนจะเป็นสุข ทั้งที่สีหน้ายังมีร่องรอยของความทุกข์ใจ
     
       สองคนเล่นน้ำ วักน้ำใส่กัน นพ ร้องเพลงฮิต อยากรักต้องไม่กลัว
       “เมื่อเค้าไม่รัก หัวใจก็ช้ำ น้ำตาก็ไหล เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อคนมันไม่ใช่ ก็คงไม่ใช่อยู่ดี ไม่ต้องทู่ซี้ ให้ชีวิตเสียเวลา” นพตะโกนก้อง “ถ้าอยากรัก ต้องไม่กลัวคำว่าเสียใจปวดใจ ก็แค่ขั้นตอนแห่งความรัก และอย่างน้อย ชีวิตนึงก็ได้เคยรู้จักยิ่งเจ็บยิ่งทำให้เราเข้าใจ”
       สองคนหัวเราะสนุกประสานเสียงดังก้อง แต่แล้วมะยมกลับทรุดตัวร้องไห้เสียใจ แบบกลั้นไม่อยู่ นพตกใจมาก
       “คุณมะยม ..คุณมะยม” รีบไปประคอง
       มะยมทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ กลบเกลื่อนความทุกข์ในใจ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
       “แต่คุณ...”
       “ฉัน...ฉัน” มะยมทรุดตัวลงกับพื้นทรายอย่างหมดแรง สะอื้นฮักๆ ออกมา
       นพถามด้วยน้ำเสียงอาทร “คุณเป็นอะไร”
       “กาว..กาวกับท่านอารักษ์” มะยมร้องไห้โฮ
     
       นพมองอย่างงุนงงสงสัย ตกใจ ระคนแปลกใจ
           สองคนอยู่ที่คอนโดสวยหรูหราแห่งหนึ่ง อารักษ์เปิดประตูจะกอดพากรรณนรีเข้าไป แต่กรรณนรีขืนตัวเอาไว้
     
       อารักษ์ยิ้มเอ็นดูพูดเสียงหวาน “เข้ามาสิจ๊ะ นี่ไงคอนโดที่ฉันซื้อให้หนู มันเป็นของหนู”
       กรรณนรีบ่ายเบี่ยงอย่างมีจริต “ไม่เอา..หนูไม่อยากได้คอนโด...” มองออดอ้อน “หนูอยากได้ท่านมาเป็นของหนูคนเดียว”
       อารักษ์แทบละลาย พยายามจะกอดชื่นใจแต่กรรณนรีเบี่ยงตัวออก “ฉันก็บอกแล้วไง...ให้หนูรออีกแป๊บหนึ่งนะคนดี เข้ามาดูคอนโดใหม่ของหนูก่อน ฉันซื้อให้ ตั้งหลายล้านเลยน้า”
       กรรณนรียืนหน้างอ ในใจคิดว่าจะทำยังไงต่อดี อารักษ์แตะมือกรรณนรีเบาๆ
       “มะ..เข้ามาดูคอนโดของหนูเร็ว”
       “คอนโดของหนูใช่มั้ยคะ”
       “ก็ใช่น่ะสิจ้ะ” อารักษ์ยื่นกุญแจชูขึ้นล้อไปมา
       “งั้นหนูขอ” กรรณนรีแบมือขอ อารักษ์อึ้ง “ถ้าท่านไม่ให้แสดงว่าท่านไม่ได้รักหนูจริงๆ”
       อารักษ์จำต้องตามใจ “จ้ะๆๆๆ ฉันให้หนูจ้ะ ฉันเต็มใจให้หนูจ้ะ” ยื่นกุญแจให้
       กรรณนรีรับกุญแจมา “ขอบคุณค่ะ”
       “เข้ามาดูได้รึยัง”
       กรรณนรียิ้มมีจริตเดินผ่านอารักษ์เข้าไปด้านใน พออารักษ์จะตามเข้ามา กรรณนรีก็ดันประตู
       ขวางไว้ อารักษ์หน้าเหลอหลา กรรณนรียิ้ม
       “หนูจะให้ท่านเข้ามาได้..ก็ต่อเมื่อ...ท่านเอาใบหย่าจากคุณหญิงสุดามาให้หนูดูก่อนค่ะ” ปิดประตูทันที
       อารักษ์ทุบประตูเรียก “หนูก้าง..หนูศุ.....ศุภาวีร์ เปิดประตูให้ฉันก่อน”
       กรรณนรีเปิดออกมาอีกครั้ง อารักษ์ยิ้มได้ใจ จะเข้าไป กรรณนรีย้ำคำเดิมอีก
       “หนูบอกแล้วไงคะ...ท่านจะเข้ามาได้ก็ต่อเมื่อ ท่านเอาใบหย่าจากคุณหญิงสุดามาให้หนูดูก่อน สวัสดีค่ะ”
       กรรณนรีปิดประตูล็อกอย่างแน่นหนา ดวงตามีแต่ความเกลียดชัง ขยะแขยง
       ส่วนที่ด้านนอกอารักษ์หัวเสียเป็นอย่างมาก
     
       อารักษ์เดินหน้ามุ่ยขึ้นรถขับกลับไปแล้ว ภาพิศที่นั่งซ่อนตัวอยู่ในรถแอบมอง พอรถอารักษ์ผ่านไปแล้ว ภาพิศจึงก้าวลงจากรถด้วยท่วงท่านางพญา แววตาน่ากลัว
     
       สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องเรือนทุกอย่างในห้องสวยงามและหรูหรา เพียบพร้อมชนิดที่ทั้งชาติกรรณนรีคงหาไม่ได้อีกแล้ว
       กรรณนรีกวาดสายตามองด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ได้มีความชื่นชมหลงใหลอยากได้สักน้อย มันมีแต่ความสลดหดหู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก กรรณนรีทำหน้าไม่พอใจ
       “จะมาทำไมอีก”
       กรรณนรีเดินไปเปิดประตู แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นภาพิศยืนอยู่ตรงนั้น
       “คุณภาพิศ”
       ดวงตาของภาพิศวาววับ สีหน้าเยือกเย็นแต่ดูน่ากลัว
     
       สรวงขับรถอยู่ เสียงมือถือดังสรวงรับ
       “ว่าไง? รู้แล้วเหรอว่าคอนโดที่คุณพ่อซื้ออยู่ที่ไหน?” นิ่งฟัง “ขอบใจมาก”
       สรวงวางสายก่อนจะขับรถไป เป้าหมายคือคอนโดเมียน้อยคนใหม่ของอารักษ์  
     
       ภาพิศกับกรรณนรีมองจ้องหน้ากัน ภาพิศถามน้ำเสียงเย็นชา
       “จะไม่เชิญฉันเข้าไปในห้องหน่อยเหรอ”
       กรรณนรีเสียงสั่น ท่าทีหวาดกลัว “เชิญค่ะ”
       ภาพิศเดินเข้าไปในห้องกวาดสายตามองขมขื่น
       “ห้องสวยดีนะ....สวยมาก สวยจนไม่น่าเชื่อ” กราดตามองทั่วตัวกรรณนรี หัวจรดเท้า น้ำเสียงเหยียดหยาม “ว่าน้ำหน้าอย่างเธอ ท่านจะทุ่มได้ขนาดนี้
       “คุณภาพิศคะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ ฉันอธิบายได้”
       ภาพิศตวัดสายตามองกรรณนรี ก่อนกระชากผมอย่างแรง แววตาเกรี้ยวกราด และน่ากลัว
       “แล้วมันยังไงหรือจ๊ะ ศุภาวีร์...มันยังไง?...ท่านถึงได้ซื้อคอนโดให้เธอ น่ะ...” น้ำเสียงภาพิศสั่นเครือ แต่แววตาดุดันน่ากลัว “เธอตอบฉันมาสิก้าง เธอบอกฉันมา”
       กรรณนรีเจ็บ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับท่านจริงๆ นะคะ”
       “ไม่ได้เป็นแล้วท่านจะซื้อคอนโดเป็นสิบล้านให้เธอนี่นะ ตอแหล” จิกผมแรงกว่าเดิมร้องไห้ “ถ้าเป็นคนอื่น ฉันยังไม่เจ็บ แต่นี่เป็นเธอ เธอทำกับฉันได้ยังไง ก้าง? เธอทำกับฉันได้ยังไง”
       ภาพิศตบหน้ากรรณนรีอย่างแรง เขย่าตัวทั้งโกรธและเสียใจ ก่อนจะผลักออก
       “เสียแรง ที่ฉันไว้ใจ แต่เธอกลับทำร้ายฉัน ทำไมฮึก้าง?ฉันไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เธออดทนรออีกหน่อย เธอก็จะได้เป็นภรรยาของคุณสรวงแล้ว เธอมาเป็นเมียน้อยท่านทำไม? เธอแย่งสามีฉันทำไม”
       ภาพิศกระชากกรรณนรีเข้ามาตบอีก
       กรรณนรีที่นั่งอยู่ที่พื้นพยายามจะจับตัวภาพิศ เพื่ออธิบาย “คุณภาพิศ...คะ..ฉัน”
       ภาพิศสะบัดออก “อย่ามาถูกตัวฉัน” เสียงดังยิ่งขึ้น “ฉันรังเกียจเธอ ฉันขยะแขยงเธอ”
       กรรณนรีร้องไห้ “คุณภาพิศ....ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับท่านจริงๆ นะคะ”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 9/3 วันที่ 3 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager