@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ต.ค. 55

เกริกเดินถือถาดขนมออกมา สองพี่น้องแกล้งหันมาหยอกล้อ เล่นหัวกัน แวบแรกที่มองพ่อ กรรณนรีสงสารจับใจ พอเกริกหันมามอง กรรณนรีก็ทำหน้ายิ้มแย้มปกติ
ส่วนที่ด้านนอกภาพิศกับแฉล้มเดินมาแอบเกาะรั้วมองดู เห็นภาพสามคนพ่อลูก หยอกล้อกันอย่างมีความสุข ภาพิศสะเทือนใจร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด และเสียใจ ขณะที่แฉล้มยังคงพยายามปลอบ
“คุณดูสิ ครอบครัวคุณ...ลูกคุณเค้าอบอุ่นมีความสุขกันขนาดไหน”
ภาพิศสะท้อนใจ “ใช่...เค้ามีความสุข..มีความสุขกันจริงๆ แม้จะไม่มีฉัน”
“นั่นประไร...เพราะงั้น...คุณอย่าทำให้เค้ามีคุณ...พร้อมกับคำว่า แม่ขี้คุกเลย”
ภาพิศหันไปมองแฉล้ม แฉล้มพยักหน้า

จังหวะนั้นสองป้าขาเม้าท์เดินมาจากอีกมุมเห็นเข้าพอดี
จักจั่นบุ้ยใบ้ “นั่นนุดีนี่...”
ตั๊กแตนท้วง “ตอนนี้เค้าเป็นคุณภาพิศ”
จักจั่นแปลกใจ “ก็คนเดียวกันนั่นแหละ...เอ๊ะ! หมู่นี้มาทำไมบ่อยๆ”
ตั๊กแตนพูดเป็นนัย “หรือว่า...” สองป้ามองหน้ากัน



ไม่นานนัก ในขณะที่เกริกกำลังตัดแต่งต้นไม้ที่หน้าบ้าน ยินเสียงเกริกถามขึ้นเสียงดัง
“ว่าไงนะ นุดีกับฉันจะคืนดีกัน”
“อ้าว ไม่งั้นแล้วนุดีจะมาทำไมบ่อยๆ” จักจั่นตั้งข้อสังเกต
“วันนั้นเราสองคนก็เห็น” ตั๊กแตนว่า
จักจั่นผสมโรง “วันนี้เราสองคนก็เห็น”
“แต่ฉันไม่เห็น” เกริกบอก
“ก็ไปดูซิ” จักจั่นพยักเพยิด

เกริกมองไปยังหน้าบ้านด้วยแววตาสงสัย ก่อนจะเดินออกไปดู โดยมีสองป้าตามติดด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เกริกเดินออกไปที่หน้าบ้านด้วยท่าทีสงสัย มีสองป้าเดินตามหลังคอยบอก จักจั่นชี้ไปตรงจุดที่เห็นภาพิศกับแฉล้มยืนอยู่เมื่อครู่นี้

“โน่นไง.. ตะกี้ฉันกับป้าตั๊กแตน เห็นนุดียืนอยู่ตรงนั้น”
เกริกเดินไปมองหา “ไม่เห็นมี”
ตั๊กแตนเสริม “เค้าอาจจะกลับไปแล้วก็ได้มั้ง”
“ก็แล้วถ้าเค้าจะมาหาฉัน...เค้าจะกลับไปทำไม” เกริกท้วง สีหน้าไม่เชื่อ
จักจั่นเคลิ้ม เหมือนเห็นด้วย...มองมาทางตั๊กแตน
“เออ..นั่นสิ...ถ้ามาหาพ่อเกริกแล้วนุดีจะรีบกลับทำไม”
ตั๊กแตนชักลังเล “ไม่รู้...ฉันก็ไม่ใช่นุดี”
สองป้ามองหน้ากัน สรุปชงเอง แล้วก็งงเอง ขณะที่เกริกหน้าเคร่ง

เกริกกลับเข้าบ้าน หยิบมือถือ กดเบอร์โทร.ออก พลางรำพึงเบาๆ
“ทำไมนุดีไม่เข้ามา”
เกริกกดเบอร์ภาพิศที่เม็มไว้ พอจะกดโทร.ออกแต่ชะงัก
“หรือสองป้าจะตาฝาด” ในที่สุดตัดสินใจไม่โทร.วางมือถือลงที่เก่า

ด้านภาพิศเดินร้องไห้ตรงไปยังรถพร้อมกับแฉล้ม ท่าทางภาพิศยังเสียใจ แค้นใจ
“ฉันรู้ว่าคุณเสียใจ แค้นใจ แต่คุณก็ต้องยอมรับ ว่าคุณก็มีส่วนผิดที่ไปทำลายครอบครัวคุณหญิงสุดาเค้า เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธ จะแค้น จะเอาคืน” แฉล้มว่า
ภาพิศท้วงอย่างมีอารมณ์ “แล้วเอาลูกฉันมายุ่งด้วยทำไม”
“เพราะเค้าแค้นคุณไงล่ะ วิธีไหนที่จะทำให้คุณเจ็บแสบที่สุดเค้าก็ต้องทำ..นี่เค้ายังเลือกใช้วิธีที่จะแก้แค้นคุณอย่างแยบยล ถ้าคุณอยากจะเอาคืนเค้า ทำไมไม่ทำอย่างเค้าบ้างล่ะ”
ภาพิศนิ่ง คิดตาม “ใช่...ถ้าฉันเดินเข้าไปจิกหัวตบ หรือฆ่าเค้าตาย...มันก็ง่ายเกินไป…”
แฉล้มยิ้มได้ที่ภาพิศเริ่มมีสติ และคิดออก ขณะที่ภาพิศพูดต่อด้วยสีหน้าดุดัน แววตาวาววับร้ายกาจ
“ฉันจะทำอย่างเค้า...ทำเป็นไม่รู้...แล้วย้อนแผนเอาคืน ให้มันแสบสันต์ที่สุดนังสุดา มันต้องกระอักเลือดตาย”
กุนซือแฉล้มดีดนิ้วเป๊าะ “นั่นล่ะ ใช่เลย”

สองคนแวะมาที่บ้านอริยะวรรต เพื่อบอกเล่าแผนกำจัดกรรณนรี สุดาย้อนถามเสียงดัง พร้อมรอยยิ้มดีใจ
“ว่าไงนะคะคุณน้องคิดแผนที่จะกำจัดนังศุภาวีร์ได้แล้ว”
ภาพิศปั้นหน้าหัวเราะ “อย่าเรียกว่ากำจัดเลยค่ะ แค่หลอกมันมาตบเล่นๆ เบาๆ แต่คุณหญิงพี่ ต้องช่วยน้องด้วยนะคะ”
สุดายิ้มพอใจ “จะให้พี่ช่วยยังไง ว่ามาเลยค่ะว่ามาเลย”
ภาพิศแกล้งพูดให้สุดางง พร้อมแอ๊กติ้งประกอบ
“ก็...น้องจะแกล้งทำเป็นมีเรื่องกับคุณหญิงพี่ให้นังศุภาวีร์มันเห็น พอมันเห็นเราสองคนมีเรื่องกัน นังนั่นมันชอบแอ๊บนางเอก มันต้องเข้ามาช่วย..พอมันมาช่วยนะคะ..น้องก็จะเข้าไปยืนข้างหลังนังศุภาวีร์ ตบคุณพี่ผ่านมัน..ส่วนคุณหญิงพี่ก็ตบมันผ่านน้อง”
สุดางวยงง “อะไรนะคะพี่งง...พี่ไม่เข้าใจ”
“คุณหญิงพี่กินปลาน้อยก็อย่างนี้ล่ะคะ” ภาพิศหลอกด่าว่าสุดาโง่
แฉล้มได้ที ร่วมผสมโรง “จะกินตอนนี้ก็คงไม่ทัน...งั้นคุณภาพิศก็ซ้อมให้คุณหญิงดูสิคะ...จะ
ได้เข้าใจง่ายๆ”
ภาพิศเห็นงาม “ก็ดีนะคะ...ซ้อมกันเลยนะคะคุณหญิงพี่”
สุดารับแบบงงๆ “ก็ดีค่ะ”
“ฉันเป็นศุภาวีร์ให้ค่ะ โอเค.นะคะ” แฉล้มว่า
ภาพิศไม่รอคำตอบของสุดา “โอเคค่ะ”
พูดจบภาพิศก็กระชากคุณหญิงสุดาตบอย่างแรง ตบแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เป็นการตบเอาคืน และระบายความแค้นในใจ
คุณหญิงสุดาร้องสุดเสียง ทั้งเจ็บ ทั้งตกใจ ไม่คิดว่าจะตบจริง แฉล้มแกล้งสวมบทเป็นกรรณรี เข้าไปห้ามตามแผน
แฉล้มร้องห้าม “หยุดค่ะ หยุด”
ภาพิศแผดเสียงใส่ “ไม่ใช่เรื่องของแก แกอย่ามายุ่ง” ผลักแฉล้มออก ตบสุดาอีกฉาด
สุดาร้องลั่น “โอ๊ยย..เจ็บ..พี่เจ็บ”
แฉล้มจับสุดาไว้ เอาตัวมาขวาง แต่ร้อง “อย่าค่ะ อย่าทะเลาะกัน”
“ไม่หยุด” ภาพิศผลักแฉล้มออก ตบสุดาอีกฉาด
สุดาร้องลั่น เอะใจขึ้นมา “โอ๊ย! นี่เธอตบฉันจริงนี่หว่า ภาพิศ”
พูดจบสุดาก็กระโจนเข้าหาภาพิศ ตบเอาคืน แฉล้มร้องกรี๊ดๆ แต่ล็อกตัวสุดาให้ภาพิศตบ
แฉล้มแอ๊บเสียงตกอกตกใจ แต่สีหน้าจริงจัง “อย่าค่ะคุณ อย่า”
กลายเป็นว่าแฉล้ม ล็อกสุดาให้ภาพิศตบอย่างเมามัน สุดาร้อง
“พวกแกสองคนรุมฉัน” สุดาออกแรงผลัก แล้ววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

ภาพิศกับแฉล้มมองหน้ากันยิ้มสะใจ แฉล้มนั้นยิ้มขำๆ แต่ภาพิศยิ้มร้ายดวงตาอาฆาต สองคนตามไป
สุดาวิ่งหนีเตลิดเปิดโลงออกมาทางสระว่ายน้ำ แหกปากตะโกนลั่นให้คนช่วย

“ช่วยด้วยๆๆ”
ภาพิศกับแฉล้มวิ่งตามมาจนทัน แล้วแอ๊บใส่ ทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอีก
“คุณหญิงพี่จะวิ่งหนีทำไมคะ”
“ก็เธอสองคนรุมตบฉัน” สุดาแว๊ด สีหน้าหวาดหวั่นตลอดเวลา
ภาพิศตีหน้าใสซื่อ พลางบอก “น้องคงอินมากไปหน่อย”
สุดาอึ้ง “อิน”
แฉล้มรีบเสริมให้ดูน่าเชื่อถือ “ค่ะ คงจะอินกันน่ะค่ะ....เหมือนอย่างที่ฉันเคยอ่านข่าว นางเอกกับตัวร้าย เกิดอินกันขึ้นมา เค้าก็ตบกันกระจาย กลางกองถ่ายละครเลยนะคะ”
“กันพลาด เราลองซ้อมกันอีกทีนะคะคุณหญิงพี่” ภาพิศเอ่ยขึ้น
ภาพิศกับแฉล้มกรูกันเข้ามาจะจับตัวสุดาอีก สุดาส่ายหน้าวิ่งหนี กรีดร้องสุดเสียง
“ไม่เอา..ไม่เอา ฉันไม่ซ้อม แอร๊ยย”
ร่างของสุดาเสียหลัก โงนเงนไปมามาก่อนจะร่วงตกลงสระน้ำลงไป สองคนสะใจ แกล้งร้องอุทาน พยายามกลั้นหัวเราะ
“คุณหญิงพี่” / “คุณหญิง”
สุดาตีน้ำร้องกรี๊ดๆ จังหวะนั้นสาวใช้วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“คุณหญิง”
สุดาโกรธตะโกนด่าภาพิศ กับแฉล้ม “แกจะไปไหนก็ไป ไป๊”
คนใช้ตกใจจะวิ่งไป สุดาเรียกไว้
“แอร๊ยยย..แกจะไปไหน ช่วยฉันก่อน”
สาวใช้งง ภาพิศกับแฉล้มแอบมองหน้ากันด้วยความสะใจ ส่วนสุดาได้แต่ร้องกรี๊ดๆ อย่างขัดใจ ทั้งเจ็บ ทั้งอาย

ภาพิศกับแฉล้มเดินหัวเราะออกมาหน้าคฤหาสน์ แฉล้มสอพลอขึ้นทันที
“ถ้าคุณเอาปืนมายิงยัยคุณหญิง โป้งเดียวมันก็จอด คุณเองก็ติดคุก แต่พอคุณใจเย็นๆ เห็นมั้ยคุณกระหน่ำตบมันได้ตั้งหลายที
“ฉันจะใช้วิธีนี้แหละ ทบดอกทบต้นไปเรื่อยๆ มันทำอะไรลูกฉัน ฉันจะเอาคืนมันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า”
ดวงตาภาพิศวาววับ อาฆาตแค้นสุดาเหลือแสน

คืนนั้น กรรณนรียืนถือสร้อย ทอดอารมณ์อยู่ริมน้ำ นึกน้อยใจ เสียใจ ที่ภาพิศจดจำสร้อยที่เคยให้พ่อไม่ได้ กรรณนรีร่ำไห้ บอกตัวเองในใจ “เราต้องอยู่กับปัจจุบันกาว
กรรณนรีปาดน้ำตาเก็บสร้อยเดินออกมา

ในขณะที่กรรณนรีเดินเศร้ามาตามทาง กำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่แล้วกรรณนรีต้องชะงัก เมื่อเห็นสรวงรออยู่
“คุณสรวง”
เบื้องแรกสรวงตั้งใจมาดักรอกรรณนรีถามเรื่องสุดา แต่พอเห็นน้ำตากรรณนรี ก็ใจหายวาบ นึกห่วงขึ้นมา
“เธอร้องไห้มีเรื่องอะไร”
กรรณนรีหลบตาซ่อนหน้า “ไม่มีค่ะ...”
“ฉันรู้ว่าเธอมี....เราควรจะเปิดใจคุยกันได้หรือยังกรรณนรี”
กรรณนรีมองสรวงสีหน้าครุ่นคิด

ที่ริมน้ำแห่งนั้น สองคนเดินไปเรื่อยๆ บรรยากาศเศร้าหม่น ต่างคนต่างทุกข์ใจ กรรณนรีเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“ถ้าเป็นเรื่องของฉันเอง ฉันพร้อมจะบอกคุณทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นี่มันเกี่ยวกับคนอื่น มันเกี่ยวกับพี่ชายฉัน...” กรรณนรีค้างคำไว้แค่นั้น
สรวงต่อคำให้ “เกี่ยวกับแม่ฉัน...” เว้นไปนิดก่อนจะถาม เริ่มใจเสีย “เธออยากจะพูดอย่างนี้ใช่มั้ย”
กรรณนรีนิ่งงัน ท่าทางอึดอัดลำบากใจมาก ก่อนบอกออกไป “คุณอาจจะเกลียดฉัน แต่ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม” น้ำตาคลอ “ฉันรักคุณ....รักจนยอมเจ็บ ยอมปวด เพราะฉันไม่อยากให้คุณเจ็บแม้แต่นิดเดียว”
สุดท้ายกรรณนรีก็เลือกเดินหนีไปโดยไม่ยอมบอกความจริง
สรวงใจหายคว้าเอาตัวกรรณนรีมากอดไว้อย่างโหยหาและอาวรณ์
“แต่สิ่งที่เธอกำลังทำ มันยิ่งทำให้ฉันเหมือนเป็นคนโง่..โง่อยู่คนเดียว ที่ไม่รับรู้เรื่องอะไร เธอรู้มั้ยว่าฉันเจ็บ”
กรรณนรีพูดทั้งน้ำตา “แต่ฉันเจ็บกว่า...ที่จะต้องทนทำเหมือนตัวเอง...โง่...โง่อยู่ตลอดเวลา” พร้อมกันนั้น กรรณนรีค่อยๆ ปลดมือสรวงออก “เหมือนอย่างที่ฉันเคยบอกคุณค่ะ หลักฐานทุกอย่าง
มันอยู่ที่แม่คุณ” กรรณนรีเดินออกไปเร็วรี่
สรวงนิ่ง อึดอัด “หลักฐานอยู่ที่แม่ฉัน แต่ความทุกข์ ความเจ็บปวดทุกอย่างมันอยู่ที่ฉัน ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยกรรณรี”
กรรณนรีเดินออกไปภายในเจ็บปวด รวดร้าว สรวงเองก็เจ็บพอกัน

กรรณนรียืนร้องไห้อยู่ในบ้าน กาวินทร์ถามออกไปอย่างหงุดหงิด
“มีโอกาสแล้ว ทำไมกาวไม่บอกคุณสรวงไปเลย เค้าจะได้รู้ว่าแม่เค้าเลวแค่ไหน”
“กาวไม่อยากให้คุณสรวงเจ็บ”
“แต่กาวต้องเจ็บ”
“กาวยอม”
กรรณนรีร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น
“ทำไมกาวต้องทำขนาดนี้”
“เพราะกาวรักคุณสรวงพี่แก้ว...กาวรักคุณสรวง”
กรรณนรีโผเข้ากอดพี่ชายเต็มแรง กาวินทร์กอดกรรณนรีแน่น เข้าใจถึงความรู้สึกของน้องสาวทีมีต่อสรวง
“กาวรักคุณสรวง แต่กาวเกลียดคุณหญิงสุดา กาวคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง”
“จัดการให้คุณสรวงรู้ความจริงให้เร็วที่สุด นั่นล่ะคือการแก้ปัญหา”

กรรณนรีมองหน้าพี่ชาย กาวินทร์มองน้องสาวส่งกำลังใจให้
วันต่อมา สุดานั่งคุยอยู่กับสุขหฤทัยตรงห้องโถงในคฤหาสน์ สาวแสบสุขหฤทัยตกใจแกมขำจนเผลอหลุดหัวเราะออกมา

“อะไรนะคะ นังภาพิศ นังแฉล้มมันรุมตบคุณหญิงแม่จริงๆ”
สุดาหงุดหงิดที่สุขหฤทัยขำ กระเง้ากระงอดใส่ “ก็ใช่น่ะสิ แล้วฤทัยจะหัวเราะทำไม”
“ฤทัยขำน่ะสิคะ...นึกว่าจะมีแต่ในละคร...ที่ไหนได้..ชีวิตจริงก็มีแอบอิน ตบกันกระจาย”
“แต่แม่เจ็บนะฤทัย...นี่ยังเจ็บอยู่เลย...แม่ต้องหาทางเอาคืนพวกมันแบบเนียนๆ ฤทัยช่วยแม่ด้วยนะ..ถ้านังสองแม่ลูกนั่นกระเด็นไปจากชีวิตแม่...แม่จะให้ตาสรวงแต่งงานกับฤทัย”
สุขหฤทัยลังเล ไม่ดีใจ แต่สุดาเข้าใจผิด
“น่าใจเย็นๆ ถึงตาสรวงจะไม่เต็มใจ แม่ก็จะให้ตาสรวงแต่งงานกับหนูแน่นอน สะใภ้ของอริยะวรรต มีหนูเพียงคนเดียว”

สุขหฤทัยเดินออกมาหน้าบ้าน หน้าตาไม่สดใส ได้แต่ถามตัวเอง
“ทำไมเราไม่ดีใจเลย...” สุขหฤทัยนิ่งคิด...แล้วหยิบมือถือขึ้นมา มองดูอย่างชั่งใจ ก่อนจะกดมือถือหากาวินทร์ ซึ่งเวลานั้นอยู่ที่บริษัท
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ออกมาหาฉันหน่อยสิ”

สองคนนัดเจอกันที่สวนดอกไม้สวยงามแห่งหนึ่ง กาวินทร์เดินเคียงมากับสุขหฤทัย ครู่หนึ่งกาวินทร์ถามด้วยเสียงอ่อนหวานแววตาอ่อนโยนรักใคร่
“สบายใจรึยังครับ”
สุขหฤทัยยิ้มแย้ม สีหน้าพอใจ “ฮื่อ!! ดีขึ้นมากเลย ขอบใจมากนะ”
“บอกแล้วไง อะไรที่ทำให้คุณสบายใจได้...ผมจะทำ”
กาวินทร์หยอดหวาน สุขหฤทัยมองมาอย่างซาบซึ้งใจ กาวินทร์ไม่ได้สนใจถามเรื่องราวรกใจ มีแต่หมั่นเติมความหวานใส่ใจสาวแสบอย่างเดียว

กาวินทร์ขี่จักรยาน พาสุขหฤทัยชมสวนดอกไม้ พอเหนื่อยสองคนมานั่งปิกนิก
จังหวะหนึ่งกาวินทร์เอาดอกไม้ทัดหู แซมผมให้ สุขหฤทัยรู้สึกดีและประทับใจมาก เป็นความอ่อนโยนอบอุ่นและอาทร ที่หล่อนไม่เคยได้รับจากสรวง

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager