@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 15 ต.ค. 55

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 15 ต.ค. 55

“แต่อย่างน้อยคุณพ่อก็ควรจะนึกถึงความดีของคุณแม่บ้าง ตั้งแต่จำความได้ คุณแม่ดูแลคุณพ่อและปรางอย่างดีมาตลอด แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว คุณพ่อจะทำแบบนี้กับคุณแม่ไม่ได้นะคะ ปรางไม่ยอม ไม่รู้ล่ะ กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ปรางต้องคุยกับคุณพ่อให้รู้เรื่อง”

ปรางทิพย์กล่าวอย่างมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยวเหมือนรัชนีและภคพงษ์ในยามที่จะต้องทำอะไรสักอย่างให้ได้... เมื่อสองแม่ลูกนั่งรถกลับมาถึงบ้าน เป็นเวลาที่สุวิทย์กำลังจะออกไปทำงานพอดี เขาชะงักเล็กน้อยก่อนเดินเลี่ยงไปที่โรงรถ ไม่อยากเผชิญหน้ากับรัชนี

รถตู้ที่นั่งมายังจอดไม่สนิทดี ปรางทิพย์รีบเปิดประตูก้าวลงมา รัชนีตกใจร้องขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ปราง...ระวังลูก”

ปรางทิพย์ไม่ฟัง กลัวไม่ทันสุวิทย์ รีบวิ่งตามไปเรียก “คุณพ่อคะ เดี๋ยวก่อนค่ะ”

สุวิทย์ตรงดิ่งมาที่รถ ใจคอจะหนีหน้าให้ได้ แต่ปรางทิพย์ไม่ยอม เข้ามาขวางไว้

“ถ้าคุณพ่อยังเห็นปรางเป็นลูก คุณพ่อกรุณาหยุดคุยกับปรางสักครู่ได้ไหมคะ”



ปรางทิพย์เสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ สุวิทย์เห็นแล้วใจอ่อนยวบ ค่อยๆหันไปทางรัชนีที่ยืนอยู่ข้างรถตู้...สองสามีภรรยาเผชิญหน้ากันด้วยความอึดอัด ขณะที่ลูกสาวเฝ้ามองอย่างมีความหวัง

ooooooo

สามคนนั่งเผชิญหน้ากันในบ้าน ปรางทิพย์อยู่ตรงกลางระหว่างพ่อและแม่ สีหน้าแต่ละคนบ่งบอกถึงความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะปรางทิพย์ที่ตาแดงๆพร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลา

“คุณพ่อคะ ปรางรู้ว่าปรางเป็นเด็กไม่ควรยุ่งเรื่องผู้ใหญ่ แต่สำหรับเรื่องนี้...ปรางขอพูดในฐานะที่ปรางเป็นลูกได้ไหมคะ คุณพ่ออย่าโกรธคุณแม่เลยนะคะ คุณพ่อยกโทษให้คุณแม่ได้หรือเปล่าคะ คุณแม่รักคุณพ่อมากนะคะ”

“ปราง...อย่าพูดให้คุณพ่อหนักใจเลยลูก” รัชนีปรามลูกเสียงสั่นเครือ

“ไม่ได้ค่ะ ปรางต้องพูด ปรางอยากให้คุณพ่อรู้ว่าคุณแม่เสียใจ และรู้สึกผิดมากแค่ไหน ทุกอย่างที่เกิดขึ้น คนที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือคุณแม่ คุณแม่ยอมบอกความจริงทั้งหมดเพื่อปกป้องปราง ถ้าคุณแม่เห็นแก่ตัวจริงๆจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร และไม่ปกป้องปรางก็ได้ ปล่อยให้ปรางโดนพี่ภัคหลอกไปตลอดชีวิต แต่คุณแม่ไม่ทำ คุณแม่ยอมรับความจริงเพื่อปกป้องปราง คุณพ่อคะ ปรางขอร้อง ยกโทษให้คุณแม่นะคะ”

ปรางทิพย์คุกเข่าอ้อนวอนทั้งน้ำตา...รัชนีกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เข้ามากอดลูกสาว

“พอเถอะลูก ปรางไม่ต้องทำแบบนี้เพื่อแม่ก็ได้ แม่ไม่ใช่แม่ที่ดีพอที่จะได้รับอะไรแบบนี้...พอเถอะนะปราง...ปรางลูกแม่”

สุวิทย์หดหู่กับภาพตรงหน้า ถามขึ้นอย่างคับแค้นใจ “คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง คุณก็รู้ว่าผมรักและไว้ใจคุณมากแค่ไหน”

“รัชรู้ค่ะ...รัชรู้”

“รู้แล้วทำไมถึงหลอกผม โกหก ปิดบังเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง”

“รัชขอโทษค่ะ รัชกลัวว่าคุณจะรับไม่ได้ที่รัชเคยแต่งงานมาแล้ว”

“คุณคิดว่าเรื่องนั้นมันจะทำให้ผมรักคุณน้อยลงหรือไง ทำไม...ทำไมไม่พูดกันตรงๆ คุณทำให้ผมกลายเป็นคนโง่ที่โดนคุณหลอกมาตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน คุณจะให้ผมให้อภัยคุณได้ยังไง คำขอโทษของคุณ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะไว้ใจได้หรือเปล่า”

“คุณพ่อขา...”

“พอได้แล้วปราง...พ่อรักลูก พ่อรักแม่ของลูก แต่พ่อไม่ไว้ใจเขาอีกต่อไป” สุวิทย์ลุกพรวดออกไป ปรางทิพย์ร่ำร้องจะลุกตาม รัชนีรั้งตัวไว้

“ปราง...ไม่ต้องตามไปหรอกลูก มันไม่มีประโยชน์ มันไม่มีประโยชน์แล้วจริงๆ”

“แต่ปรางคิดว่ามีคนคนหนึ่งที่ช่วยเราได้ค่ะ”

ปรางทิพย์นึกถึงภคพงษ์ มุ่งหน้าไปหาเขาที่บ้าน แต่แล้วต้องประหลาดใจกับสภาพหมดอาลัยตายอยากนอนซมโทรมเหมือนคนป่วยของเขา เธอถามสายใจก็ได้คำตอบน่าหนักใจว่า

“ป้าก็ไม่ทราบ รู้แค่ว่าคุณหนูไปหาคุณรสาที่ระยองแล้วก็กลับมาเป็นแบบนี้”

“รสา...พี่รสาที่สวยๆ ที่เป็นอินทีเรียน่ะเหรอคะ”

“ใช่แล้วค่ะ คนนั้นล่ะค่ะ มีอยู่คนเดียวที่ทำให้คุณหนูเป็นไปได้ขนาดนี้”

ปรางทิพย์เดินเข้าไปใกล้ภคพงษ์ที่นอนบนโซฟา ปลุกเท่าไหร่ไม่ยอมตื่น เธอคว้าแก้วน้ำสาดใส่หน้าเขา สายใจร้องว้ายตกใจ พร้อมๆกับภคพงษ์ที่ลุกขึ้นโวยวาย

“เฮ้ย...นี่มันอะไรกัน เปียกไปหมดแล้ว ทำบ้าอะไรฮึ”

“ทำให้ตื่นไงคะ น้องสาวมาเยี่ยมทั้งที ทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีหน่อยสิคะ”

“น้องปราง...” ภคพงษ์อุทาน...หูตาสว่างขึ้นมาทันที

หลังจากนั้น สองพี่น้องนั่งคุยกันตามลำพัง...ภคพงษ์หน้าเศร้าไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองจะส่งผลให้ครอบครัวปรางทิพย์มีปัญหาลุกลามถึงขนาดนี้

“พี่เป็นคนทำลายชีวิตครอบครัวของน้องปรางใช่ไหม”

“ไม่เชิงค่ะ คุณแม่เป็นต้นเหตุ พี่ภัคเป็นคนจุดชนวน และคุณพ่อเป็นคนที่ไม่ยอมรับอะไรเลย เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ ปรางขอบคุณพี่ภัคมากที่ยกโทษให้คุณแม่ คุณแม่รักพี่ภัคมากนะคะ คุณแม่เสียใจมากที่การตัดสินใจในอดีตทำร้ายพี่ภัค คุณแม่เล่าความจริงทุกอย่างให้ปรางฟังด้วยความเสียใจ ปรางไม่เคยเห็นคุณแม่ร้องไห้หนักแบบนี้มาก่อนในชีวิต ตอนนี้ปรางเข้าใจแล้วว่าคุณแม่เจ็บปวดแค่ไหน ตอนที่พี่ภัคแกล้งจีบปราง”

“พี่ขอโทษ...”

“ไม่ค่ะ ปรางไม่ยกโทษให้ พี่ภัคทำให้ปรางต้องเสียใจ พี่ภัคจะต้องชดใช้ค่ะ พี่ภัคจะต้องช่วยปรางคุยกับคุณพ่อ และทำให้คุณพ่อยกโทษให้คุณแม่ให้ได้ ทำให้คนที่ปรางรักสองคนกลับมาคืนดีกันเป็นบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ไถ่บาปที่แกล้งทำให้ปรางรักไงคะ โอเคไหมคะ...พี่ชาย”

“ได้...ถ้ามันทำให้ปรางยกโทษให้พี่ พี่ยินดีช่วยครับน้องสาว แต่ถามหน่อยเถอะ ปรางไม่โกรธพี่เลยเหรอ”

“ตอนแรกก็โกรธนะคะ แต่พอคุณแม่เล่าความจริงให้ฟัง ปรางก็เข้าใจ และเห็นใจพี่ภัค ปรางได้ความรัก ได้ทุกอย่างจากคุณแม่อย่างเต็มที่ แต่พี่ภัคไม่เคยได้อะไรเลย ถ้าปรางเป็นพี่ภัค บางทีปรางอาจจะทำแบบเดียวกันก็ได้ คิดแบบนี้แล้วปรางก็ไม่โกรธค่ะ”

“ขอบใจมาก...ถ้าผู้หญิงคนนั้นเขาเข้าใจพี่ และให้อภัยพี่เหมือนปรางก็คงดี”

“ผู้หญิงคนนั้นของพี่คือ พี่รสาใช่ไหมคะ”

ภคพงษ์นิ่งไม่ตอบ ใช้ความเงียบแทนการยอมรับ เขาคิดถึงรสาจับใจ...ในขณะเดียวกันนั้น รสายังคิดถึงเขาเสมอ เธอลาออกจากงานกลับไปอยู่ระยอง ช่วยงานที่รีสอร์ตของอา แต่เวลาว่างเธอมักจะเหม่อลอย ห้าวแอบเห็นบ่อยครั้งรู้สึกไม่สบายใจ ส่วนชีวินอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ขยันโทร.หารสาอย่างสม่ำเสมอ

“วินไม่ต้องห่วงนะ รสสบายดี ไม่เบื่อ ไม่เหงา แล้วก็ไม่คิดมากด้วย รสก็ช่วยอาพร้อมดูแลลูกค้า แล้วก็ดูแลต้นไม้ในสวนสำหรับงานแต่งงานของเราตามที่วินบอกไว้ ต้นไม้โตขึ้นมากแล้วนะ ทันงานแต่งของเราเดือนหน้าแน่นอน...จ้ะๆ วินไม่ต้องห่วงรสนะ แล้วพรุ่งนี้ค่ำๆเจอกันจ้า”

รสาวางสายพร้อมๆกับถอนใจค่อนข้างดัง ห้าวยืนมองอยู่นานแล้ว ส่งเสียงเข้ามาอย่างรู้ทัน

“ต้องฝืนใจทำเป็นมีความสุขแบบนี้...เหนื่อยมั้ยรส”

รสาชะงักเล็กน้อยก่อนหันไปมองหน้าเขา ยืนยันว่าเธอไม่ได้ฝืนสักหน่อย ห้าวไม่เชื่อ เดินมาเผชิญหน้า

“งั้นก็หลอกตัวเอง”

“พี่ห้าว...จะมาหาเรื่องอะไรรสอีกล่ะ”

“ไม่ได้หาเรื่อง แต่ช่วยหาทางออกจากปัญหามากกว่า”

“ปัญหาอะไร รสไม่มีปัญหาสักหน่อย”

“แล้วที่รสกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายอีกคน แต่คิดถึงผู้ชายอีกคน ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาหรือไง”

รสาสะดุ้งวาบที่ห้าวรู้จริง แต่ก็ยังเฉไฉไม่ยอมรับ “พี่ห้าวคิดไปเองแล้ว รสไม่ได้คิดถึงคนอื่นสักหน่อย”

“หลอกตัวเองไม่พอจะมาหลอกพี่อีกเหรอ พี่บอกตรงๆนะ รสไม่ได้รักไอ้หน้าแหยนั่น ส่วนคนที่รสรักมันก็ทำให้รสเสียใจ...สรุปนะ ยกเลิกงานแต่งแล้วก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองคบกับคนใหม่ๆ อาจจะเจอคนใกล้ตัวที่ใช่ก็ได้นะ”

ห้าวยิ้มแฉ่ง นำเสนอตัวเองเต็มที่ รสามองหน้าเขาอย่างรู้ทัน

“ขอบคุณพี่ห้าวที่เป็นห่วง แต่รสไม่เปลี่ยนใจ จริงที่รสอาจจะคิดถึงใครบางคนไปบ้าง แต่อีกไม่นาน... ความคิดถึงมันก็คงจะหายไป เพราะเขาไม่มีค่ามากพอที่รสจะต้องคิดถึงอีกต่อไป”

รสาพูดด้วยความเด็ดเดี่ยวที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า ห้าวเห็นแล้วก็ส่ายหน้า เป็นห่วงและสงสารเธอ ขณะเดียวกันก็สงสารตัวเองด้วยเหมือนกัน

ooooooo

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 15 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง กำกับการแสดงโดย : พีรพล เธียรเจริญ
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ดำเนินการผลิตโดย : อรพรรณ วัชรพล(โพลีพลัส จัดให้)
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ