@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร [แก้ไข]ตอนที่ 11/2 วันที่ 7 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 11/2 วันที่ 7 ต.ค. 55

กรรณนรีเหลียวไปมอง แม้จะโกรธ แต่ก็นึกสงสารสรวง พยายามคุมอารมณ์
“คะ”
“ฉันจะไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด จนกว่าเธอจะมีหลักฐานมาให้ฉันดู”
สรวงขับรถออกไป กรรณนรียืนนิ่ง ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือ จับมือถือแน่น ท่าทางหนักใจ
ส่วนที่ด้านในบ้าน เกริกเอามือกุมหน้าอก สีหน้าเจ็บปวดมาก กาวินทร์เดินลงมาจากบนบ้านเห็นเข้าก็ตกใจ
“พ่อ” รีบก้าวยาวๆ เข้ามาประคอง
กรรณนรีเข้ามาเห็นตกใจ “พ่อ” รีบเข้ามาประคอง “พ่อนั่งก่อนจ้ะ” กรรณนรีรีบเดินเอาหยิบยามาให้
เกริกรับยากินก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“กาว...กาวยังติดต่อกับคุณสรวง”
“กาว...” กรรณนรีพูดไม่ออก
เกริกหน้าหม่น “ลูกรักเค้า”
กรรณนรีน้ำตาซึมแข็งใจบอก “ไม่แล้วค่ะพ่อ เราแค่...มีงานต้องคุยกัน”
เกริกไม่โกรธและเข้าใจ “พ่อไม่เชื่อ...พ่อรู้....ความรักห้ามกันลำบาก...เหมือนที่แม่...รักท่านอารักษ์ ไม่ได้รักพ่อ” เกริกโผเผลุกขึ้นเดินออกไป
กาวินทร์จะเข้าไปช่วย
“ไม่ต้อง....พ่อไปเอง”
เกริกบอก ก่อนจะเดินเศร้าเข้าห้อง แล้วร้องไห้อยู่คนเดียว ไม่ได้โกรธลูก แต่น้อยเนื้อต่ำใจ คิดไปเองว่าสรวงกำลังจะพากรรณนรีไปจากชีวิตอีกคน




สองพี่น้องหน้าหม่น ไม่ต่างกัน กาวินทร์เอ่ยขึ้นก่อน นึกเสียใจขึ้นมาอีก
“แค่พ่อเห็นกาวกับคุณสรวง..พ่อยังแย่ขนาดนี้...แล้วถ้าพ่อเห็นรูปอุบาทว์ของพี่ พ่อคง...”
กรรณนรีตาวาวขึ้นมาอย่างโกรธแค้นชิงชัง “เพราะคุณหญิงสุดา”
กาวินทร์ตาวาวโรจน์โกรธไม่ต่างกัน “ใช่! เพราะคุณหญิงสุดา...เราต้องหาวิธีทำให้เค้าหยุดเร็วที่สุด”
กรรณนรีหยิบมือถือออกมา กาวินทร์มองงงๆ
“มีอะไร”
กรรณนรีบอก “ทุกครั้งที่ออกไปหาเค้า....กาวจะแอบอัดคลิปเอาไว้”
กาวินทร์ยิ้ม “งั้นพี่รู้แล้วว่าจะทำให้คุณหญิงสุดาหยุดยังไง”

กรรณนรีมองกาวินทร์ด้วยความอยากรู้
สรวงกลับถึงบ้าน เดินเข้ามามองหน้าสุดาที่นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างคลางแคลงใจ สุดาถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“สรวงหายไปไหนมาทั้งคืนลูก”
“ไปกับหนูศุภาวีร์ของคุณแม่มาครับ” สรวงบอก
สุดามองอย่างตกใจ สีหน้าเริ่มระแวง “แล้วมันว่ายังไง”
“แล้วคุณแม่คิดว่าเค้าจะว่ายังไงล่ะครับ”
สุดาหยั่งเชิง ด่ากลบเกลื่อน “มันก็คงจะออดอ้อนสรวง เหมือนที่มันออดอ้อนคุณพ่อ”
“เค้าไม่ได้ออดอ้อนผมหรอก..เพียงแค่แสดงความจริงใจกับผม”
“มันเปิดเผยอะไร?”
สรวงยิ้มมีเลศนัย “ความลับครับคุณแม่...ความลับของผมกับเค้าแค่...สองคน”
พูดเท่านั้นสรวงก็เดินจากไป ทั้งคำพูดและสายตาของสรวงทำให้สุดาหนาวๆ ร้อนๆ อารักษ์เดินมา สุดาเดินตรงดิ่งไปหาทุบตีอารักษ์พัลวัน อารักษ์โวยลั่น
“เป็นบ้าอะไรอีกล่ะคุณ”
“ผู้หญิงของคุณพาลูกฉันไปค้างทั้งคืน จะไม่ให้ฉันบ้าได้ยังไง”
อารักษ์ตกใจหน้าซีด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งขึ้นมา

กรรณนรีอยู่กับกาวินทร์ เสียงมือถือดัง กรรณนรีรับมาดู ทำหน้ายุ่ง
“พี่แก้ว..นายอารักษ์โทร.มา”
“รับเลย..มันจะมาไม้ไหนก็คุยอย่างที่เราเตี๊ยมกันเอาไว้”
“ค่ะ” กรรณนรีทำหน้าเชิดมั่นใจก่อนรับสาย “ค่ะท่าน” พร้อมกับเปิดสปีกเกอร์ให้กาวินทร์ฟังด้วย
อารักษ์โมโห คาใจกับคำพูดของคุณหญิงสุดา แต่ไม่กล้าดุ “หนูไปกับนายสรวงมาเหรอ”
กรรณนรีตกใจแต่ปรับน้ำเสียงและสีหน้า “ค่ะ”
อารักษ์โกรธ “ทำไมหนูทำกับฉันอย่างนี้”
“ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน? หนูก็มีสิทธิ์คบใครก็ได้นี่คะ” กรรณนรีบอก
“แต่ไม่ใช่นายสรวง” อารักษ์ขึ้นเสียง
สรวงยืนด้านหลังมองอารักษ์ สังเวชใจ กรรณนรีตอบกลับมา
“งั้นท่านก็ต้องทำตามข้อเสนอของหนู”
“หนูต้องการอะไร”
สรวงทำสีหน้าอดสูใจ สะบัดหน้าเดินออกไป กรรณนรีกับกาวินทร์หันไปยิ้มให้กัน

ภายในร้านอาหาร สองคนนั่งอยู่ด้วยกัน อารักษ์มีสีหน้าท่าทางว้าวุ่นใจ กลัวกรรณนรีโกรธ ขณะที่กรรณนรีนั่งหน้าเชิด คอตั้ง เหมือนเป็นต่อ บอกว่า
“อย่างที่หนูเคยเรียนท่านน่ะค่ะ...ถ้าท่านบอกว่าไม่มีอะไรกับคุณหญิงสุดาแล้วจริงๆ ท่านต้องยอมให้หนูเข้าไปอยู่ในบ้าน”
อารักษ์นิ่วหน้า “แต่หนูก็รู้..ว่าฉันยังไม่หย่ากับคุณหญิง”
“ก็หย่าสิคะ”
“ฉันอยากหย่าใจจะขาด แต่คุณหญิงไม่ยอม”
“งั้น..ถ้าจะให้หนูเชื่อ หนูต้องได้เห็นกับตา ว่าท่านหยุดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับคุณหญิงแล้วจริงๆ นั่นคือ..หนูจะเข้าไปอยู่ในบ้านของท่าน”
อารักษ์นิ่งคิดประเดี๋ยวเดียว ก่อนตัดสินใจ “ได้...ถ้าเป็นความต้องการของหนู ฉันยอม”
กรรณนรียิ้มร้ายออกมาอย่างพอใจ

ภาพิศอยู่ในห้องโถงที่คฤหาสน์ คุยสายกับสุดา
“จริงๆ น้องอยากบุกไปบ้านนังศุภาวีร์มากเลยค่ะ แต่ไม่รู้จัก...คุณหญิงพี่พอจะรู้จักบ้านมันรึเปล่าคะ”
สุดายิ้มสาใจ ได้ทีแดกดัน “พี่ไม่ไปรู้จักให้เป็นเสนียดหรอกค่ะ..แต่ถ้าคุณน้องจะไปตามหาพี่ก็ไม่ห้ามนะคะ...คนพื้นเพเดียวกัน อาจจะจูนกันติดก็ได้”
ภาพิศโมโหเหน็บกลับ “เหมือนกับที่น้องกับคุณหญิงพี่จูนกันติดน่ะเหรอคะ”
สุดาโมโหเหมือนกัน “แค่ชั่วคราวเท่านั้นล่ะค่ะ.... เพราะยังไง พี่ก็เหนือกว่าคุณน้อง ตรงที่ถือทะเบียนเอาไว้อยู่ดี...” ยั่วโทสะ “แค่นี้นะคะ....ท่านกลับมาหาพี่แล้ว”
สุดาวางสายไปอย่างโมโห ภาพิศเองก็โมโหเหมือนกัน

ในขณะที่สุดาเดินลงบันไดมาจากชั้นบน เห็นอารักษ์ ยืนอยู่ที่ประตูตรงหน้าห้องโถง ผายมือเชื้อเชิญใครบางคนพูดเสียงหวาน “เข้ามาสิจ๊ะหนู”
สุดาทำหน้างง เอียงหน้าเหล่มองว่าใครกัน จังหวะนั้นกรรณนรีในชุดสวยและเซ็กซี่เดินเข้ามา
สุดาตาโตตกใจ “นังกรรณรี” รีบเดินรี่เข้ามาหา “คุณพามันเข้ามาทำไม”
อารักษ์รีบบอก “หนูศุภาวีร์จะเข้ามาอยู่ที่นี่”
สุดาตกใจแทบช็อก! “อยู่ที่นี่..หมายความว่ายังไง”
กรรณนรียิ้มเย้ย ฉอเลาะเล่นหูเล่นตากับอารักษ์ “หนูจะเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านอริยะวรรตอีกหนึ่งคน ใช่มั้ยคะท่าน”
อารักษ์ยิ้มอย่างชอบใจ “จ้ะ”
อารักษ์เดินพากรรณนรีเข้าไปด้านในชั้นบนของบ้าน สุดามองตามตกใจแทบสิ้นสติ
สรวงนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ เสียงโทรศัพท์ดัง สรวงรับ
“ครับคุณแม่”
สุดาโทร.จากบ้านในอาการร้องไห้ คร่ำครวญ “สรวง..รีบกลับมาบ้านนะลูก...คุณพ่อ...คุณพ่อพานังศุภาวีร์เข้ามาอยู่ในบ้าน”
สรวงตื่นตะลึง ตกใจ และคาดไม่ถึง
อารักษ์พะเน้าพะนอ เอาอกเอาใจสุดขีด พากรรณนรีเดินเข้าไปในห้องนอนสวยหรู บนชั้นสองของคฤหาสน์ ที่สั่งจัดเตรียมเอาไว้แล้ว

“นี่...ห้องที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้หนู...ถูกใจหรือเปล่า”
กรรณนรียิ้มหวานใส่จริต น้ำคำออดอ้อนเต็มที่ “ไม่ว่าจะห้องไหน แค่หนูได้เข้ามาอยู่ที่นี่ ..หนูถูกใจหมดค่ะ”
“หนูนี่น่ารักจริงๆ” อารักษ์แทบละลาย ยกมือหมายจะเชยคาง
กรรณนรีขยับตัวออกห่างระวังแจ อารักษ์หน้าเสีย ทอดเสียงอ้อน
“จนป่านนี้แล้ว..หนูยังหวงเนื้อหวงตัวกับฉันอีกเหรอ”
“ก็เป็นสิ่งที่ท่านชอบไม่ใช่เหรอคะ?..เพราะถ้าหนูง่าย..ท่านคงไม่ชอบ” กรรณนรีเล่นหูเล่นตา
อารักษ์ยิ้มกว้าง มองด้วยความหลงใหล สีหน้าพอใจมาก “โอเค...งั้นฉันจะรีบจัดการเรื่องทุกอย่าง ตามที่หนูต้องการ หนูจะได้ตามใจฉันซะที”
กรรณนรียิ้มหวาน “ด้วยความยินดีค่ะ”
อารักษ์จับมือกรรณนรีมากุม “แต่ระหว่างที่ฉันไม่อยู่...หนูคิดถึงฉันบ้างนะ ฉันจะได้มีกำลังใจทำงาน และมีกำลังใจทำทุกอย่างเพื่อเรื่องของเรา”
กรรณนรียิ้มแทนคำตอบ

ขณะเดียวกันสุดาเดินหน้าคว่ำไปมา ยืนแทบไม่ติดที่ พอเห็นอารักษ์เดินลงมา สุดาก็ปรี่เข้าไปด่า ไม่ไว้หน้า
“คุณนี่มันเลวเกินผู้เกินคนจริงๆ กล้ามาก ที่เอามันมาเหยียบหน้าฉันถึงนี่น่ะ”
“เหยียบหน้าที่ไหน คุณน่ะชอบคิดไปเอง บ้านออกกว้าง เดินทั้งวันก็ไม่สวนกันอยู่แล้ว” อารักษ์ว่า
“พามันออกไปจากบ้านเดี๋ยวนี้” สุดาพูดแทบเป็นตวาด
อารักษ์จ้องหน้าคาดโทษ “นอกจากจะไม่เอาออกแล้ว คุณยังต้องดูแล ถ้าผมกลับมาจากต่างประเทศแล้วไม่เห็นหนูศุภาวีร์ ผมจะเหมาทันทีว่าเป็นคุณ...” มือถือดังขัดขึ้นก่อน อารักษ์กดรับ “ จะไปเดี๋ยวนี้แล้ว ไม่อยู่บ้านนานหรอก รำคาญ” อารักษ์พูดค้างไว้เท่านั้น เดินออกไปเร็วรี่
“คุณ..คุณอารักษ์”
สุดากำมือกำไม้แค้นใจมาก

กรรณนรียืนอยู่ มองไปรอบๆ ห้องอย่างระแวดระวัง แต่ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังโครมคราม ปังๆๆ ตามด้วยเสียงสุดาตะโกน
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะนังกรรณนรี เปิด”
กรรณนรีค่อยๆ เดินมาแต่ไม่ส่งเสียงตอบโต้ สุดาทุบอีกอาการโมโหมาก
“แกลองดีกับฉันใช่มั้ย?” ทุบเสียงดังโครม
เว้นสักพักกรรณนรีก็เปิดประตูออก แล้วกระชากประตูเหวี่ยงอย่างแรง ร่างของสุดาเซหลุนๆ ถลาเข้ามาแทบล้มลงไปกอง
สุดาเหลียวขวับ “นังกรรณนรีแกแกล้งฉัน”
กรรณนรียิ้มยั่ว “กรุณาเรียกฉันว่าหนูศุภาวีร์ เหมือนอย่างที่คุณหญิงตั้งให้ค่ะ”
“แกทำแบบนี้ แสดงว่าแกอยากลองดีกับฉันใช่มั้ย แกท้าทาย ให้ฉันปล่อยคลิปใช่มั้ย”
กรรณนรีไม่หวาดหวั่น แถมยังท้าทาย “ก็ปล่อยสิคะ...” ว่าพลางเดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋าถือ “เพราะฉันก็มีคลิปที่คุณหญิงข่มขู่ฉันเหมือนกัน”

กรรณนรีเปิดคลิปมือถือ เสียงของสุดาขู่คำรามกรรณนรี ดังก้องไปทั้งห้อง สุดาหน้าซีดเผือด กรรณนรีบอกเสียงแข็ง
“คุณหญิงคงลืมไปว่าฉันเป็นนักข่าว เรื่องหลักฐานฉันแน่นเสมอค่ะ” กรรณนรีเปลี่ยนท่าทีเป็น
เหนื่อยใจ “รู้ไว้นะคะ..ที่ฉันยอมทำตามคำสั่งคุณหญิง ก็เพราะฉันอยากให้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดมันจบลงซะที”
สุดามองอย่างไม่เข้าใจ “มันจะจบได้ยังไง ในเมื่อเธอเองกำลังสุมไฟให้มันแรงขึ้น เธอกำลังแย่งท่านอารักษ์ไปจากฉัน”
“ฉันไม่มีวันแย่งท่านอารักษ์ไปจากคุณหญิง สิ่งที่ฉันต้องการคือทำให้แม่เลิกกับท่านอารักษ์ แม่จะได้พ้นจากสภาพทรมานอย่างนี้ซักที ที่สำคัญฉันต้องรักษาใจพ่อ ใจพี่ ใจคุณสรวง คุณสรวงจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่าคุณหญิง บังคับให้ฉันทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เลิกกดดันฉัน...แล้วฉันจะทำตามคำสั่งคุณหญิงต่อไป นั่นคือ ทำให้ท่านอารักษ์เลิกเด็ดขาดจากคุณภาพิศ”
กรรณนรีเปิดประตูออกกว้าง เป็นเชิงไล่ สุดาจำต้องเดินออกไป แต่ทันทีที่ประตูปิดลง สุดาก็หันขวับกลับไปมองอย่างอาฆาต
“ทำยังกับฉันจะเชื่อน้ำหน้าแก...แกสองคนแม่ลูก ต้องตีกันต่อไป”

ด้านภาพิศ อยู่ที่สปากับแฉล้ม สองคนกำลังนวดตัวเบาๆ และภาพิศกำลังคุยโทรศัพท์กับสุดา
“อะไรนะคะ...ท่านอารักษ์พานังเด็กนั่นเข้าไปอยู่ในบ้าน”
“ใช่ค่ะคุณน้อง....มารยามันเยอะจริงๆ ฮึ! คงได้เชื้อมาจากแม่มาแหงๆ มันถึงได้กำเริบขนาดนี้...ได้คืบไม่พอ จะเอาศอก” สุดาอยู่ที่คฤหาสน์ หลอกด่าโดนที่ภาพิศไม่รู้ตัว
“น้องอยากรู้จริงๆ ว่าพ่อแม่มันเป็นใคร? จะบุกอาละวาดให้ถึงบ้านเลย ดูสิ…พ่อแม่มันหน้าตาแบบไหน ถึงได้ปล่อยให้ลูกเที่ยวแย่งสามีชาวบ้านW
สุดายิ้มสะใจ ด่าอีกดอก “งั้นคุณน้องส่องดูที่กระจกก่อนก็ได้นะคะ อย่างน้อยก็ได้เห็นเงาของผู้หญิงที่เที่ยวแย่งสามีคนอื่นเหมือนกัน”
ภาพิศตาลุกวาว เจ็บใจที่โดนด่า “งั้นในฐานะเมียหลวง คุณหญิงพี่ก็จัดการมันเลยแล้วกันค่ะ ทำเหมือนที่เคยทำกับฉัน”
“ไม่ได้ ท่านขู่พี่ไว้ ถ้ามันเป็นอะไร ท่านเอาพี่ตาย”
“งั้น...น้องจะจัดการมันเอง คุณหญิงพี่จะตายก็เรื่องของคุณหญิงพี่..ดูแลตัวเองแล้วกัน”
ภาพิศวางโทรศัพท์ สุดาหัวเราะชอบใจ

“คงคิดว่าแน่ล่ะสินังภาพิศ ที่แท้แกน่ะมันโง่...โง่ๆ”
ไม่นานนักสองคนเดินออกมาที่หน้าสปาหรู ภาพิศหน้าเครียดไม่สบายใจ โกรธขึ้งขึ้นมา

“ฉันไม่เข้าใจเลย ท่านจะหลงเด็กนั่นอะไรนักหนา”
แฉล้มทำหน้าเบื่อหน่าย “คุณเอ๊ย! แค่นี้ก็ไม่รู้อีกเหรอ? เหตุผลง่ายๆ นั่นเด็กนั่นทั้งสาว
ทั้งสวย คนแก่จีบเด็กๆ มันก็กระชุ่มกระชวยทั้งนั้นล่ะ ที่สำคัญ…”
ภาพิศมองตาขวางรอฟัง “อะไร”
แฉล้มยิ้มพรายสมกับเป็นแม่เล้าไฮโซ “ต้องยังไม่ได้ชัวร์...แล้วเวลาที่ผู้ชายยังไม่สมใจคุณก็รู้...ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ คนโบราณเค้าถึงได้สอนนักหนาให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวใครที่ปล่อยตัวง่ายๆ ก็โดนทิ้งง่ายๆ” ยิ้มเยาะ “แสดงว่านังเด็กนั่น ฉลาดไม่เบา”
ภาพิศทำตาขวางใส่อีก “ต่อให้มันฉลาดยังไง ก็ไม่มากเกินฉันหรอก....ฉันจะทำให้คุณสรวงโกรธ จนไม่มองหน้ามันเลย คอยดู”
ภาพิศยิ่งโกรธแค้นชิงชังกรรณนรีมากขึ้นอีก

สรวงขับรถมาบนถนนเส้นหนึ่งด้วยความเร็วสูง ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทันทีที่รู้ว่ากรรณนรีเข้าอยู่บ้าน เพราะมัวแต่ใจลอย จู่มีเด็กวิ่งเล่นออกมาริมถนน สรวงเบี่ยงรถหลบกระทันหัน รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางอย่างแรง

เสียงโทรศัพท์สายในดังลั่นบ้าน สุดากดรับ
“คุณหญิงสุดาค่ะ...” นิ่งฟัง “อะไรนะคะ...ตาสรวงขับรถชน”
กรรณนรีที่เพิ่งเดินลงบันไดมาได้ยินเข้าพอดี ใจสั่นหน้าซีดเผือด นึกเป็นห่วงสรวง

ขณะเดียวกันภาพิศเดินมาที่หน้าสำนักพิมพ์สตาร์อินเทรนด์ ด้วยท่าทางร้อนใจ พอจะเดินตรงเข้าไปด้านใน รปภ.เข้ามาถาม
“ประทานโทษครับ ติดต่อฝ่ายไหนครับ”
“ฝ่ายบันเทิง สังคม สตรีค่ะ”
“ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ครับ” รปภ.บอก
ภาพิศหน้านิ่วคิ้วขมวด ถามอย่างร้อนใจ “งั้นพอจะรู้มั้ยคะ บ้านของก้างอยู่ที่ไหน”
รปภ.ทำท่าคิด “ก้าง..ที่นี่ไม่มีคนชื่อก้างนี่ครับ”
ภาพิศโมโห “มีสิ...ก็เค้าเคยไปสัมภาษณ์ฉันอยู่เลย”
ขณะนั้นจ๋าเดินโทรศัพท์หน้ายุ่งเข้ามา คุยเรื่องประเด็นข่าวกำลังฮอต พร้อมกำชับว่า
ต้องตามให้ได้ รปภ. เห็นจึงรีบบอกภาพิศ
“นั่นคุณจ๋า..หัวหน้ากอง เดี๋ยวผมถามให้”
รปภ.เดินไปหา จ๋าไม่ได้มอง ก้าวฉับๆ เข้าไปคุยงานไปแบบไม่สนใจใครเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยบอกคุณจ๋า..ว่าฉันขอที่อยู่ของหนูก้าง” เปิดกระเป๋า “อ้าว! ฉันลืมนามบัตร”
“จดไว้ก็ได้ครับ” รปภ.ยื่นกระดาษโน้ตตรงโต๊ะให้
ภาพิศจดเบอร์โทร.ยื่นให้ “ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นภาพิศก็เดินออกไป ท่าทางฉุนๆ หงุดหงิด และดูไม่สบอารมณ์

ภาพิศเดินหน้างอไปที่รถ เสียงมือถือดัง ภาพิศรับ แฉล้มชวนคุยตามประสาขาเม้าท์
“ว่าไงคุณ..วันนี้ทำอะไรบ้าง”
“ฉันมาสำนักพิมพ์นังก้าง”
แฉล้มตกใจ “เฮ้ย! คุณไปทำไม”
“ก็มาตามหาบ้านมันน่ะสิ คอยดูนะ รู้เมื่อไหร่ ฉันจะบุกให้ถึงบ้านมันเลย”
“ตาย! ฉันแค่โทร.มาคุยตามประสา ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องแซบเวอร์..เบาเบา
หน่อยเถอะ คุณท้องอยู่นะ” แฉล้มเตือน
“ยิ่งท้องฉันก็ยิ่งต้องทำ เพื่อปกป้องลูกของฉัน...” ภาพิศเสียงเครือนึกสะท้อนใจ “ฉันจะไม่
ยอมพลาดเหมือนคราวที่ฉันทิ้งกาวกับแก้วมา” พลางลูบท้อง “ลูกของฉันคนนี้ต้องได้ทุกอย่าง”
“โอเค! ถ้าคุณยังตั้งใจจะไปตบนังศุภาวีร์ ฉันจะไปตบช่วย...”
“ขอบใจ...ฉันรู้ที่อยู่มันเมื่อไหร่ จะบอกคุณทันทีเลย”
ภาพิศวางสายขึ้นรถทันที
ส่วนแฉล้มถอนหายใจ “เมียหลวง เมียน้อย เมียเก็บ นางเล็กๆ แซ่บเวอร์กันทุกคน ถ้า
นุดีรู้บ้านนังเด็กนั่นอยู่ไหน แหลกแน่!”

ทางด้านรปภ. วิ่งไปดึงที่คั่นประตูออก กระดาษโน้ตปลิว จ๋าเดินมาพอดี
“คุณจ๋า...ตะกี้มีคนฝากโน้ตไว้ครับ” มองหา..แต่ไม่เห็นแล้ว
“ไหน”
รปภ.มองหาพื้น แต่ก็ไม่มี ปลิวอยู่ในจุดที่ไม่เห็น “ตะกี้ยังเห็นอยู่เลย หายไปไหนก็ไม่รู้”
“งั้นเค้าบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร”
“โทษทีครับ เค้าไม่ได้บอก ผมเองก็ลืมถาม รู้แค่มาถามถึงที่อยู่คนชื่อก้างผมก็บอกเค้าไปแล้วว่าที่นี่ไม่มีคนชื่อก้าง เค้าก็ไม่เชื่อ”
“หรือจะเป็นกาว”
จ๋าครุ่นคิด

ส่วนกรรณนรีเดินไปเดินมาร้อนใจอยู่ในบ้านอารักษ์
“คุณสรวง.. คุณอย่าเป็นอะไรนะคะ”
กรรณนรีร้อนใจ ไล่กดมือถือ เห็นเป็นเบอร์มะยม กรรณนรีทำท่าชั่งใจ แต่ไม่กล้า ครั้นพอจะกดชื่อนิค ก็ไม่กล้าอีก สุดท้ายเลยได้แต่ถือมือถือเอาไว้ ร้อนรุ่มในใจ

***

เวลาเดียวกันที่ด้านหน้าสปา สองเกลอมาทำคอลัมน์แนะนำร้าน นิคเก็บภาพขณะที่มะยมเขียนจดบันทึกข้อมูล
“ถ่ายรูปสวยๆนะโว้ยนิค....ไม่ได้สัมภาษณ์ธรรมดา เค้าจ้างให้เราทำแอดด้วย”
“โอเค...แต่สปาเค้าสวย ถ่ายยังไงก็สวยโว้ย” นิคเคาะหัวมะยมเล่นเบาๆ
มะยมจะตีคืน มือถือดังรีบกดรับเพราะเป็นเบอร์จ๋า “คะพี่จ๋า”นิ่งฟัง ก่อนจะทำหน้าตาตื่นเต้น “คุณสรวง..ขับรถชน ค่ะ...มะยมจะรีบเช็คข่าวว่าอาการคุณสรวงเป็นยังไง”
มะยมรีบวางสาย

ช่วงค่ำวันนั้นสุดากับสุขหฤทัยช่วยประคองสรวงที่บาดเจ็บเล็กน้อยเข้ามาในโถงกลางบ้าน สุขหฤทัยเอ่ยขึ้น
“นี่ถ้าสรวงเป็นอะไร ฤทัยต้องขาดใจตายแน่ๆเลยค่ะ”
“แม่ก็เหมือนกัน....เฮ้อ! จริงๆ ลูกน่าจะนอนพักที่โรงพยาบาลให้หมอเค้าดูอาการซักคืนนะลูก
“ผมอยู่รพ.ไม่ได้หรอกครับ..ร้อนใจ
กรรณนรีเดินลงมาจากด้านบนด้วยความเป็นห่วง สรวงเงยหน้าขึ้นไปมอง สองคนสบสายตากันอย่างเจ็บปวด ทรมาน สรวงโกรธ กรรณนรีแสนเป็นห่วง สุดามองแบบไม่กล้าหือ สุขหฤทัยพูดกับสรวงแต่จงใจเหน็บแนมถากถางกรรณนรีทุกคำ
“ก็เพราะร้อนใจนี่ไงคะ...สรวงถึงได้ขับรถชน ทั้งๆที่...คนบางคน ไม่สมควรที่สรวงจะให้ค่าเลยด้วยซ้ำ”
สุดาตัดบท “ไปพักผ่อนเถอะลูก ไม่ต้องสนใจ ก็แค่เห็บหมาตัวหนึ่ง มันอยากจะอยู่ก็อยู่
ไป”
สองคนพยุงพาสรวงเดินผ่านหน้ากรรณนรีไป สรวงไม่ชายตาแลสักนิด หน้าบึ้งตลอดเวลา กรรณนรีแอบตามมาห่างๆ อย่างหวงๆ

สุขหฤทัยประคองสรวงลงบนเตียง สุดาเอ่ยขึ้น
“แม่รู้ว่าสรวงเจ็บ สรวงโกรธมากที่คุณพ่อทำอย่างนี้”
“โทษคุณพ่อฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกค่ะ มันต้องเป็นเพราะนังนั่นขอให้คุณพ่อพาเข้ามา ไม่งั้นผู้ชายที่ไหนจะบ้าพาเมียน้อยเข้ามาอยู่กับลูกกับเมีย” สุขหฤทัยพ่นตามประสาสาวปากไว
“มันคงอยากให้แม่อกแตกตาย” สุดาว่า
“แล้วมันก็จะฮุบทั้งคุณพ่อ ทั้งสมบัติของสรวง อย่าไปยอมนะคะคุณหญิงแม่”
“อยู่แล้ว แม่ไม่มีทางยอม”
สรวงรำคาญ รีบตัดบท “ผมอยากพักผ่อน”
“อย่าเพิ่งสิคะ...ฤทัยยังไม่ได้คุยกับสรวงเลย”
“คุณคุยกับคุณแม่ต่อได้เลย ผมจะพักผ่อน” สรวงหลับตาลง
“อ้าว! หลับแล้วใครจะอยู่กวนสรวงล่ะ”
สองคนหน้างอเดินออกไปแล้ว
สรวงลืมตาขึ้นมา กลุ้มใจต่อ

มะยมกับนิคทำงานเสร็จ พนักงานสปาเดินมาถาม
“เรียบร้อยนะคะ”
“ค่ะ..ขอบคุณมากที่ช่วยอำนวยความสะดวก”
“ยินดีค่ะ...” ยื่นซองที่มีโลโก้สปาให้มะยม “คุณแพรฝากบัตร complimentary ไว้ให้ค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ” พอพนักงานเดินไป มะยมบอกนิค “วันไหนว่างๆ มาด้วยกันนะ”
“ถ้ามาก็มาเป็นเพื่อนแกล่ะ ฉันเคยทำที่ไหนล่ะสปงสปา”
“ว่าแล้วก็คิดถึงกาวนะ...ถ้ามีมัน ฉันก็ไม่ต้องกวนแก”
มะยมหน้าเศร้าลง

ด้านกรรณนรีจะตามขึ้นไปบนห้องสรวง แต่เจอสุดากับสุขหฤทัยที่เดินลงมาต้องรีบหลบ
“นังกรรณรีมันทำเกินบทบาท ส่งคลิปให้พ่อมันดูเลยมั้ยคะ? พ่อมันจะได้หัวใจวาย ตายๆๆไปเลย”
กรรณนรีโกรธจัด สุดาหน้าเจื่อน เลี่ยงไปคุยอย่างอื่น
“ถ้าพ่อมันตายก็ไม่สนุกหรอก..ยุให้มันตีกับแม่มันนั่นแหละสนุกดี”
กรรณนรีมองสุดา รู้ว่าเป็นเพราะอะไร สุดาไม่กล้า แต่ฤทัยกลับทำหน้าง้ำ
“แต่ฤทัยว่าไม่สนุก..ฤทัยไม่เห็นจะได้เล่นอะไรด้วยเลย”
“หนูก็หาทางเล่นงานพี่ชายมันสิลูก...คลิปอุบาทว์อยู่ในมือหนู กลัวอะไร”
สุขหฤทัยยิ้ม “มันก็จริงค่ะ”
กรรณนรีมองตามสองคนอย่างโกรธแค้น

สรวงนอนอยู่ในห้องสรวง อาการบาดเจ็บอยู่ ชายหนุ่มคว้ายาแก้ปวดมากิน ก่อนจะล้มตัวลงนอน
ส่วนที่ด้านหน้าห้อง กรรณนรีค่อยๆ เดินมา ทำท่าจะเคาะประตูแต่ไม่กล้า ขณะที่ด้านในห้อง สรวงนอนไม่หลับ ลืมตาโพลง สีหน้าเศร้าหมอง

และก็ไม่รู้ว่ากรรณนรียืนพิงประตูห้องอยู่อย่างห่วงใย
กรรณนรีกลับเข้าห้อง รีบโทร.เตือนกาวินทร์ทันที

“ทางคุณหญิงสุดา...กาวคิดว่ากาวเอาอยู่...แต่ทางคุณฤทัย..กาวไม่แน่ใจ กาวกลัวว่าเค้าจะเล่นงานพี่แก้วอีก”
กาวินทร์อยู่ที่บ้าน บอกเสียงกร้าว “ไม่ต้องห่วง พี่มีวิธีที่จะจัดการกับเค้า”
กรรณนรีปราม “อย่าทำอะไรรุนแรงนะพี่แก้ว”
กาวินทร์หัวเราะ “เห็นพี่เป็นซาตานเหมือนมดอีกคนรึไง? ไม่ต้องห่วง พี่รู้...วิธีไหนจะเอาชนะใจผู้หญิงได้อยู่หมัด จากแม่เสือกลายเป็นแค่แมวเชื่องๆ หนึ่งตัว
กรรณนรีอยู่ในอาการงวยงง สงสัยไม่เข้าใจ ขณะที่กาวินทร์ยิ้มร้ายมีแผนการในใจ


อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 11/2 วันที่ 7 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager