@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7-8 วันที่ 16 ต.ค. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7

วีกิจพามุนินทร์ไปซื้อของทะเลสดๆที่ตลาด บอกว่าจะโชว์ฝีมือทำอาหารให้เธอชิมเป็นมื้อเย็น มุนินทร์มองชายหนุ่มเลือกปลาด้วยความทึ่ง ลองเลือกบ้าง ชายหนุ่มร้องห้าม ส่งปลาที่เลือกแล้วให้แม่ค้า หญิงสาวมองเขาหน้ามุ่ย

“ทำไมต้องเป็นคุณเลือกด้วยล่ะ”

“ก็ตัวที่ตาเลือกมันไม่สดแล้ว ปลาแช่น้ำแข็งมาตั้งแต่เช้าหาสดยาก ตัวที่ผมเลือกนี่แหละสดที่สุดแล้ว”

“แล้วคุณดูยังไง”

“ก็เหมือนดูสาวไงฮะ ตาต้องใส เหงือกต้องแดง ลูบเกล็ดแล้วเรียบลื่น นุ่มชื้น ถึงจะเรียกว่าสด”

“มองไปทางอื่นได้ไหมคะ ฉันไม่ใช่ปลา”

มุนินทร์แกล้งทำหน้าบึ้ง วีกิจยิ้มกว้างประจบ หญิงสาวอดไม่ได้ หัวเราะตาม สบายใจอย่างบอกไม่ถูก สองหนุ่มสาวเลือกซื้อของทะเลสดต่ออย่างสนุกสนาน



วีกิจพาหญิงสาวไปล้างมือที่ก๊อกน้ำ ชายหนุ่มจับมือเธอช่วยล้างให้อย่างทะนุถนอม ทั้งสองประสานสายตากัน รู้สึกดีต่อกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ooooooo

รัชนกลืมตาขึ้นมาอย่างสมใจ ขยับตัวพิงพนักเตียงมองไปทางห้องน้ำ ยิ้มมีแผน หยิบเข็มกลัดบนหัวเตียงปักลงบนนิ้วชี้อย่างไม่ลังเล เลือดไหลซึมออกมา เธอค่อยๆจรดนิ้วกับผ้าปูเตียง จัดท่าทางซบหน้ากับฝ่ามือ ส่งเสียงสะอึกสะอื้น

ประสิทธิ์ชัยออกมาจากห้องน้ำ ตกใจเห็นรัชนกร้องไห้ เขาเดินไปหาเห็นรอยหยดเลือดบนที่นอน มองเธอด้วยความภูมิใจ แต่ก็แอบกังวลเพราะเข้าใจว่าหญิงสาวไม่ประสาเรื่องแบบนี้ รัชนกแสร้งตัดพ้อประชดประชัน ชายหนุ่มตามไม่ทันใจอ่อนยวบ ปลอบประโลมเสียงอ่อน

“โธ่...คุณนก อย่าร้องไห้เลยนะฮะ เพราะผมรักคุณนกมาก”

“รักหรือคะ รักแล้วทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย”

“ผมผิดเองที่อดใจเอาไว้ไม่ไหว ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง”

รัชนกแสร้งร้องสะอื้นหนักกว่าเดิม ประสิทธิ์ชัยโอบกอด ลูบผมปลอบโยน

“ไม่มีอะไรต้องกังวล เชื่อผม...ผมไม่มีวันหลอกคุณ”

“ค่ะ...คุณจะไม่หลอกลวงนก” รัชนกยิ้ม แววตาเย้ยหยันสะใจ

ประสิทธิ์ชัยพารัชนกไปทานบาร์บีคิวหน้าบังกะโลที่พัก หญิงสาวยังตีหน้าเศร้าเสียดายพรหมจรรย์ กังวลใจเพราะกลัวศักดิ์ชายรู้ ประสิทธิ์ชัยพยายามปลอบ สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะรับผิดชอบ ศักดิ์ชายโทร.เข้ามา บอกว่าจะค้างที่เกาะเพราะปริมเมามาก ประสิทธิ์ชัยดีใจออก นอกหน้าจะได้อยู่กับรัชนกสองต่อสองอีกคืน รัชนกแอบยิ้มเยาะ...

ด้านวีกิจกับมุนินทร์ช่วยกันทำบาร์บีคิวที่ริมหาดหน้าบังกะโล หญิงสาวมองชายหนุ่มปรุงอาหารด้วยความทึ่งและเพลิดเพลิน เล่าให้เขาฟังว่าเธอไม่มีความสามารถเรื่องทำกับข้าวเลย ชายหนุ่มหยิบอาหารทะเลที่สุกแล้วใส่จานให้ เธอรับขึ้นมาชิมแล้วทำตาโต ชมว่าอร่อยมาก วีกิจยิ้มเขิน ดีใจที่หญิงสาวชอบสิ่งที่เขาทำ

หลังอาหารค่ำแสนอร่อย วีกิจกับมุนินทร์ย้ายมานั่งคุยกันที่ระเบียงหน้าบังกะโล ชี้ชวนกันดูดาวอย่างมีความสุข หญิงสาวนั่งเหม่อ นึกถึงเรื่องของตัวเองกับแฝดน้องขึ้นมา รู้สึกสลดใจ

“บ้านฉันที่เพชรบูรณ์นะคะ คืนเดือนมืดจะเห็นดาวเต็มไปหมดทั้งท้องฟ้า แต่ฉันแทบไม่เคยอยู่เห็นมันเลย มีอะไรมากมายที่ฉันคิดไว้ว่าจะทำ แต่กลับปล่อยให้มันล่วงเลยไป จนในที่สุดก็สายเกินไป”

วีกิจยิ้มปลอบใจ บอกให้เธอเขียนสิ่งที่อยากทำและค่อยๆทำไปทีละอย่าง คงไม่มีอะไรสายเกินไปอีก หญิงสาวซาบซึ้งใจ ประทับใจการมองโลกในแง่ดีของเขา สบายใจขึ้นมาก ชายหนุ่มเริ่มหาว เธอมองยิ้มๆ ไล่ให้เขาไปนอน วีกิจเดินกลับไปที่ระเบียงหลังส่งหญิงสาวเข้าห้องแล้ว สูดลมหายใจเข้าปอดอย่างมีความสุข...

เช้าวันรุ่งขึ้น...มุนินทร์ตื่นด้วยความสดชื่น เดินออกจากห้องพัก แว่วเสียงฮัมเพลงจากห้องครัว วีกิจกำลังทำอาหารเช้าให้เธอ หญิงสาวรับมาชิม บอกเขายิ้มๆ

“ลาออกจากกระทรวงเถอะค่ะ มาช่วยฉันเปิดร้านอาหารดีกว่า ฉันลงทุน คุณเป็นพ่อครัว”

“อย่าพูดเล่นนะครับ ผมเอาจริงนะ” วีกิจมองหน้าเธอจริงจัง

“ตอนนี้พูดเล่นก่อนค่ะ รอให้ฉันมีทุนก่อน ฉันจะให้คุณร่วมหุ้นกับฉันแน่ๆ”

“แค่หุ้นส่วนร้านอาหารเหรอครับ ผมไม่ได้เก่งแค่ปรุงอาหารนะ ผมยังเก่งในการปรุงรส...”

มุนินทร์มองหน้าเขานิ่ง วีกิจยิ้มเขิน หน้าแดงก่ำ หลบตา

“ปรุงรสชาติชีวิตมั้งครับ”

วีกิจหัวเราะเขินๆ มุนินทร์มองเขาด้วยความเอ็นดู ปลื้มที่เขาจีบ แต่ก็แอบเศร้าเพราะคิดว่าเขาหลงรักน้องสาวเธอต่างหาก ถ้าเขารู้ว่าเธอไม่ใช่มุตตา เขาคงจะหมดรักเธอเหมือนที่เคยเป็นมา

มุนินทร์แต่งตัวสวยเตรียมกลับกรุงเทพฯ เดินมาเจอวีกิจหลับรอที่เก้าอี้ยาวหน้าบ้านพัก เธอลอบมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน นั่งลงข้างๆ มองไปข้างหน้าอย่างทอดถอนใจ ค่อยๆเอนตัวพิงร่างเขา ทันใดนั้นเอง...

ชายหนุ่มกระชับร่างของเธอให้เบียดกับร่างเขาทั้งที่ยังหลับอยู่ เธอหันไปมองคิดว่าเขาแกล้งหลับ แต่พบว่าเขาหลับจริงๆ แอบยกมือถือถ่ายรูปคู่กับเขา ยิ้มน้อยๆสุขใจได้อยู่ในอ้อมกอดเขา ทั้งอบอุ่นและสบายใจ...

ooooooo

นพนภานัดประพงส์มาที่บ้าน หน้าตาเธอยังคงมีรอยช้ำ บอกให้เขาส่งลูกน้องไปช่วยงานสำคัญ ประพงส์ยิ้มรับ นึกรู้ว่าเป็นงานประเภทไหน

ต้องเห็นประพงส์ นึกสนุกแต่งตัวด้วยชุดเซ็กซี่เปิดเนื้อหนังดักรอเขาหน้าบ้าน ขอให้เขาไปส่งที่โรง– เรียนกวดวิชา ต้องขยับตัวยั่วยวนมาเฟียหนุ่ม ประพงส์ หน้านิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร ต้องถามเรื่องที่เขาคุยกับนพนภา

“คุณแม่วางแผนการอะไรอีกคะนี่ คงไม่ใช่เรื่องส่งคนไปจัดการกับเมียน้อยอีกนะคะ”

“เรื่องของผู้ใหญ่น่าปวดหัวออกครับ อย่าไปสนใจเรื่องของผู้ใหญ่เลย”

“ต้องไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ”

“ผมรู้ครับ”

ประพงส์ซ่อนรอยยิ้ม ขับรถสวนกับรถเจนภพที่หน้าปากซอย เจนภพมองมาเฟียหนุ่มเขม็ง ประพงส์

ยิ้มนิดๆ ค้อมศีรษะให้ ต้องมองพ่อด้วยความสะใจ เจนภพเริ่มเครียด

เจนภพเดินเข้าบ้านด้วยความหงุดหงิด แขวะเมียเสียงเข้มที่ปล่อยให้ต้องไปกับพวกมาเฟีย ไม่รักษาหน้าผัวที่เป็นข้าราชการ นพนภาไม่สนใจ เหยียดยิ้มตอกกลับ

“แต่ฉันเป็นแม่ค้า ต้องรู้จักคนทุกประเภท ไม่ใช่เลือกลูกท่านหลานพระยาอยู่”

“แล้วยายต้องน่ะเป็นสาวแล้วนะ คุณปล่อยให้ไปกับผู้ชายได้ยังไง”

“ทำไม กลัวมันโดนปล้ำเหรอ กลัวมันไปปล้ำใครเข้าดีกว่า เพราะว่าเลือดพ่อมันแรง พล่านไปหมดทั้งตัวแล้ว!”

เจนภพมองเมียอย่างระอาที่ชอบพูดแดกดันตนกับต้อง ต่อยืนฟัง ยิ้มสะใจ...

เจนภพไม่อยากอยู่บ้านเพราะยังเคืองเมียไม่หาย แวะไปหาวีกิจ เห็นชายหนุ่มนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูรูปคู่กับมุตตาในจอคอมพิวเตอร์ รู้สึกหึงแต่พยายามข่มไว้

“ไง นายกิจ เมื่อคืนไปไหนมา”

“จะเป็นไรไหมฮะ ถ้าผมจะบอกว่าผมไปกับตา”

“แกเสนอตัวเป็นเพื่อนปลอบใจเขาก็ดีแล้ว ไง... ปลอบใจกันถึงใจดีไหมล่ะ”

“ถ้าอาภพอยากถามว่าผมมีอะไรกับตาหรือเปล่า คำตอบคือเปล่า เพราะผมตั้งใจจะเป็นเพื่อนที่ดี ส่วนเรื่องอื่น...ก็แล้วแต่อนาคต”

“ฉันหวังว่าแกคงจะรู้ว่าอะไรควรจะเล่น อะไรควรจะจริง”

“สำหรับผมคงไม่มีอะไรเล่นๆหรอกฮะ เพราะแม่สอนให้ผมให้เกียรติผู้หญิงทุกคน”

“แต่แม่แกก็น่าจะสอนด้วยว่า ผู้หญิงไม่ได้มีเกียรติเท่ากันทุกคน”

“ก็คงใช่ฮะ เพราะผู้ชายเองก็ไม่ได้มีเกียรติเท่ากันทุกคนเหมือนกัน!”

วีกิจโกรธอาแต่ข่มไว้ เจนภพหน้าตึง ฝากหลานไปบอกหญิงสาวให้กลับไปจัดการเรื่องเอกสารลาออก ด้วย...

ooooooo

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 8

เอกสารลาออกมาถึงมือมุนินทร์หลายวันถัดมา เมื่อเธอนัดเจอกับวีกิจที่ร้านกาแฟหรูเพื่อเอาอัลบั้มรูปที่ถ่ายด้วยกันที่ชายทะเล วีกิจมองหญิงสาวในลุคใหม่ที่เปรี้ยวและเนี้ยบไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจดเท้าอย่างตื่นตะลึง ลุกพรวดต้อนรับ มุนินทร์ยิ้มนิดๆ

“ตา...ผมจำเกือบไม่ได้ เชิญนั่งฮะ”

“แปลว่าดีหรือไม่ดีคะ”

“ดีสิฮะ ดีมากๆเลยด้วย...แต่คุณดูแปลกไปจริงๆ เหมือนเป็นคนละคนเลย”

“มุตตาคนเดิมไม่มีอีกแล้วล่ะค่ะ”

“ผมเคยสัญญาไว้ว่าจะเป็นเพื่อนคุณตลอดไป”

“แม้ฉันจะอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ก็...อย่าสัญญาเลยค่ะ”

มุนินทร์พลิกดูภาพที่เขาถ่าย ชมเปาะว่าเขาถ่ายภาพได้ดีเหมือนมืออาชีพ วีกิจยิ้มเขินบอกว่าเพราะ

นางแบบโพสท่าเก่งมากกว่า มุนินทร์ยิ้มชอบใจ สบายใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้คุยกับเขา

วีกิจบอกให้เธอเซ็นเอกสารลาออกที่แจงจิตฝากมาด้วย เพราะมันเป็นเรื่องเงินเดือนเดือนสุดท้ายของ

มุตตา มุนินทร์เซ็นให้เพื่อตัดปัญหา แอบชะงักเพราะกลัวเซ็นชื่อผิด ชายหนุ่มไม่ทันสังเกต เก็บเอกสารลงกระเป๋า หญิงสาวบอกว่ามีนัดต่อกับลูกศร เขาขอตัวกลับสวนกับลูกศรที่เพิ่งมาถึง ลูกศรมองตามยิ้มหวาน หันมาทำตากรุ้มกริ่มใส่เพื่อน

“เจอกันอีกแล้ว ยิ่งเห็นชัดๆก็ยิ่งน่ารัก แล้วเมื่อไหร่จะแนะนำให้ฉันรู้จักซะที เสียมารยาทจริง”

“เขาคงเป็นเพื่อนฉันได้อีกไม่นานหรอก”

“ทำไมจ๊ะ จะอัพเกรดขึ้นมาเป็นแฟนเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก”

“แล้วทำไมจะต้องมาตัดญาติขาดมิตรกันล่ะ”

“เพราะสักวันหนึ่ง ฉันกับเขาอาจจะเป็นศัตรูกันน่ะสิ”

ลูกศรขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดแปลกๆ ของเพื่อน มุนินทร์นั่งเหม่อ สับสนในหัวใจ ไม่รู้ว่าควรจะเจอเขาอีกหรือตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่จะรู้สึกผูกพันกับเขามากไปกว่านี้...

มุนินทร์แวะไปเดินเล่นดูของที่ตลาดโต้รุ่งแถวหอพักก่อนกลับบ้าน เธอหยุดดูรถเข็นกาแฟโบราณ มองคนขายใช้กระบวยด้ามยาวตักน้ำเทใส่ถุงกาแฟด้วยใบหน้ายิ้มๆ นึกถึงตอนสมัยเด็ก หญิงสาวหมุนตัวกลับ ชนชายชุดดำที่สวมแว่นดำพรางหน้าตา เขามองหน้าเธอก่อนทัก

“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า”

มุนินทร์คิดว่าเป็นมุกจีบ บอกปัดว่าเขาคงจำผิดและขอตัวแยกออกไป ชายชุดดำมองตาม แววตาเข้มขึ้น แสยะยิ้มเหี้ยม

มุนินทร์เดินมาเจอกับพร สาวใหญ่ถามถึงชายชุดดำที่หญิงสาวยืนคุยด้วย บอกว่าคุ้นๆรูปร่างและท่าทางแต่ยังนึกไม่ออก มุนินทร์คิดว่าเป็นพวกชีกอ พรไม่ใส่ใจจะถามต่อ ชวนหญิงสาวเดินดูของ

มุนินทร์คิดหนักเรื่องวีกิจ เธอนั่งดูภาพน้องสาวที่ถ่ายคู่กับเขาเมื่อปีก่อน เทียบกับภาพเธอที่ถ่ายคู่กับเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เริ่มรู้สึกว่าห้ามใจไม่ให้คิดถึงเขายากขึ้นทุกที หรือว่าเธอจะมีใจให้เขาแล้วจริงๆ แต่มันจะเป็น ไปได้หรือ ในเมื่อคนที่เขารักน่าจะเป็นมุตตาไม่ใช่เธอ!

ooooooo

มุนินทร์ตัดสินใจยุติเรื่องราวของเธอกับวีกิจเพราะกลัวใจตัวเองจะถลำลึกไปกว่านี้ หญิงสาวจัดการเก็บข้าวของของน้องสาวและตัวเองลงกล่อง ติดต่อยกเลิกการเช่า บอกทุกคนที่หอว่าต้องย้ายเพราะที่ทำงานใหม่อยู่ไกล พร ฤดี และศรียืนมองหญิงสาว กรอกเอกสารอย่างใจหาย

“แหม...คนสวยนี่มันโชคดีหลายชั้นจริงๆ ออกปุ๊บได้งานใหม่ปั๊บ” พรเปรยยิ้มๆ

“ไม่เหมือนหนู ถ้าทนป้าโขกสับไม่ไหว คงต้องออกไปแคะขนมครก” ศรีพูดปลงๆ

“นี่นังศรี ต่อให้หล่อนสวย แต่โง่ดักดานเหมือนเดิมก็คงต้องไปแคะขนมเหมือนกันล่ะย่ะ” ฤดีแขวะ

“หรือไม่ก็ถูกเขาหลอกไปแคะ เอ๊ย...ไปขายมาเลย์” พรเสริม

“ความสวยไม่ใช่โชคดีเสมอไปหรอกค่ะ บางที...มันคือคำสาปต่างหาก” มุนินทร์พูดเสียงขื่น

ประสิทธิ์ชัยนัดเจอวีกิจและกริบที่ผับ วีกิจยังไม่มา กริบเลยถือโอกาสอัพเดตสถานการณ์ของวีกิจกับมุตตา

“ตอนนี้เด็กไอ้กิจถูกอามันทิ้งแล้ว ยายนี่ยูเทิร์นมาหาไอ้กิจเฉยเลย ไอ้หอกนี่ก็รับล้างชามหน้าตาเฉย”

ประสิทธิ์ชัยเล่าด้วยความเซ็ง กริบไม่ห่วงนักเพราะเชื่อว่าวีกิจน่าจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองได้ หันมาถามเรื่องประสิทธิ์ชัยกับรัชนกบ้าง บอกให้พาหญิงสาวมาแนะนำ ให้รู้จัก ประสิทธิ์ชัยพูดถึงแฟนสาวอย่างชื่นชมหลงใหล

“เขาไม่เที่ยวกลางคืนเว้ย รายนี้เด็กดี บริสุทธิ์ผุดผ่อง ยิ่งกว่าน้ำค้างกลางหาว ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย”

“ถ้าเด็กดีจริงแล้วมาหลงลมเอ็งได้ไงวะ เอ็งฟันแล้วทิ้งมากี่รายแล้ว”

ประสิทธิ์ชัยแอบเคืองที่เพื่อนแขวะ บอกว่าเขาไม่คิดหลอกลวงรัชนก แต่ก็ไม่คิดถึงขั้นแต่งงานเพราะคงลำบาก แม่เขาไม่ชอบลูกสะใภ้ยากจน กริบพยักหน้ารับ เขารู้จักแม่ของเพื่อนดี

“เห็นว่าแม่เอ็งเล็งลูกสาวคุณหญิงวิจิตราให้เอ็งไม่ใช่เหรอ แล้วจะทำยังไงกับหนูนก”

“ก็แต่งสิวะ รวยขนาดนั้น ถึงไม่สวยก็พอหลับหูหลับตาได้ ส่วนเรื่องนก...ทำไมข้าต้องมีเมียคนเดียวด้วยวะ ของดีก็ต้องแบ่งๆ กันใช้สิ”

“เออดี เลวเสมอต้นเสมอปลาย”

กริบส่ายหน้าระอาความเจ้าชู้ของเพื่อน วีกิจเดินยิ้มเข้ามาพอดี ประสิทธิ์ชัยรีบกระซิบไม่ให้พูดเรื่องลูกสาวคุณหญิงวิจิตราเพราะขี้เกียจฟังวีกิจบ่น

วีกิจอยากช่วยมุตตาหางานใหม่ เขาถามกริบเรื่องสมัครงานที่ธนาคาร โทร.เรียกหญิงสาวออกมาเจอ มุนินทร์ กำลังเก็บของที่ห้อง รับปากออกมาอย่างงงๆ

วีกิจเดินไปรับหญิงสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวเข้ามาในผับ ประสิทธิ์ชัยมองลุคใหม่ของเธอด้วยความทึ่ง กริบมองหญิงสาวอย่างพินิจ จำได้ว่าที่เคยเจอเธอที่ธนาคาร หญิงสาวไม่ได้มีบุคลิกและท่าทางแบบนี้

“คุณตา...วันนี้สวยร้อนแรง แสดงว่าการลาออกจากกระทรวงเป็นเรื่องดี ทำให้คุณสวยขึ้น” ประสิทธิ์ชัยทักยิ้มๆ

“ขอบคุณกระทรวงค่ะ” มุนินทร์ตอบขำๆ

วีกิจแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกริบ บอกว่าเป็นเพื่อนที่จะช่วยเธอหางานใหม่ มุนินทร์มองกริบนิ่ง กริบประหม่านิดๆ บอกว่ามีตำแหน่งประชาสัมพันธ์ธนาคารว่างอยู่ หญิงสาวยิ้ม ดวงตามีแววเศร้าขึ้นวูบหนึ่ง

“ประชาสัมพันธ์หรือคะ ตอนนี้ฉันอยากทำแผนก... ตัดสัมพันธ์มากกว่า”

มุนินทร์พูดยิ้มๆ แต่แววตาหวั่นไหว กริบแอบมองเห็น ลอบดูเธออย่างครุ่นคิด วีกิจไม่รู้เรื่อง มัวแต่กังวลที่หญิงสาวต้องตกงานต่อ วีกิจเสนอตัวไปส่งเธอที่บ้าน มุนินทร์ปฏิเสธเพราะไม่อยากอยู่ใกล้เขาให้ใจว้าวุ่น

“พูดเหมือนคุณไม่อยากให้ผมเทกแคร์คุณอีกแล้ว...มุตตา”

“รู้ไหม บางครั้งฉันก็อยากให้คุณเรียกฉันว่านินมากกว่า”

“นิน...นินจาน่ะเหรอฮะ ไม่เห็นเพราะเลย ชื่อมุตตา เป็นชื่อที่เพราะที่สุดแล้ว ผมเพิ่งรู้ว่ามุตตาแปลว่าไข่มุก”

มุนินทร์เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ซ่อนน้ำตาที่รื้น ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผลุนผลันออกไป วีกิจเห็นท่าทางแปลกๆ ตามไปดูแต่ไม่ทัน หญิงสาวขึ้นแท็กซี่ออกไปแล้ว

ooooooo

กริบคาใจเรื่องท่าทีของมุตตาที่ผับ เขานั่งดูวีกิจจัดเรียงภาพของหญิงสาวในคอมพิวเตอร์ พิจารณาแต่ละภาพอย่างพินิจ คิดว่ามันแปลกๆ เหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล เขาหันไปถามเพื่อนเสียงเคร่ง

“มุตตาไม่เห็นมีอะไรตรงกับที่แกพูดถึงเลยสักอย่าง...เรียบร้อย อ่อนต่อโลก ขี้อาย พาฝัน แต่ที่ข้าเจอทั้งเข้มแข็ง ฉลาด เชื่อมั่นเหมือนสาวนอก ยังไงกันวะ”

“ฉันก็เคยแปลกใจ แต่ก็เข้าใจว่าตาโดนรังแกมามาก กลับจากบ้านที่เพชรบูรณ์เลยปฏิวัติตัวเองให้แกร่งขึ้น”

“อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น จะบอกให้นะ ฉันเคยเจอมุตตาครั้งหนึ่งที่ธนาคาร ไม่ใช่บุคลิกนี้เลยสักนิด เหมือนเป็นคนละคน หรือว่าจะเป็นคนละคนจริงๆวะ”

วีกิจบอกว่าคิดมากไป กริบติดใจ บอกให้เพื่อนเอาภาพของหญิงสาวมาเรียงต่อกัน เขามองภาพมุตตาเมื่อปีที่แล้วเปรียบเทียบกับมุตตาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอย่างตั้งใจ ฟันธงว่าเป็นคนละคนแน่นอน วีกิจยังไม่เชื่อ มองเพื่อนขำๆ คิดว่าเพื่อนเพ้อไปเอง

มุนินทร์พบสมุดบันทึกของน้องสาวที่ซอกตู้ขณะเดินเช็กรอบๆห้องเป็นครั้งสุดท้าย หญิงสาวหยิบขึ้นมาเปิดดูก่อนลากกระเป๋าออกจากห้องไป แปลกขับรถมาช่วยลูกขนของ มองสัมภาระของลูกสาวคนเล็กอย่างสะเทือนใจ

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7-8 วันที่ 16 ต.ค. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ