@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7 วันที่ 15 ต.ค. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7 วันที่ 15 ต.ค. 55

มุนินทร์พูดเสียงเรียบ นัยน์ตาเหมือนมีน้ำตาคลอ แต่สีหน้ายังนิ่งเฉย หมุนตัวออกจากห้องไป

มุนินทร์เก็บของของน้องสาวลงกล่อง แจงจิตยืนกอดอกดูอยู่ ทิพอาภาน้ำตาร่วง อรพิมยืนฮึดฮัดอย่างขัดใจ วีกิจยืนเกาะโต๊ะหน้าเศร้า หญิงสาวยกกล่องพร้อมออก แจงจิตเดินมาขวาง พูดเสียงเรียบ

“มุตตา ฉันเองน่ะ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ฉันว่าก็ดีแล้วถ้าเธอจะไปให้พ้นจากมนุษย์เห็นแก่ตัวพวกนี้เสียที”

“พี่แจงจิตคะ พี่เคยเตือนให้ฉันทำอะไรที่ถูกต้อง”

“ใช่ เพราะฉันไม่อยากเห็นเธอทำผิดอีก”

“ค่ะ แต่คนเราบางทีก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราทำหรือกำลังทำ มันถูกหรือผิด”



“ใช้สติ ใช้ปัญญาใคร่ครวญสิ แล้วเธอจะรู้เอง”

มุนินทร์พยักหน้ารับ มองหน้าเลขาสาวใหญ่ด้วยความซาบซึ้งใจ...

วีกิจตามมาส่งหญิงสาวที่หอ มุนินทร์นั่งคนเครื่องดื่มอย่างปลอดโปร่งใจ ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่ง หนักใจและเป็นกังวลแทนจนแทบไม่แตะต้องเครื่องดื่มตรงหน้า มุนินทร์อ่านท่าทางเขาออก พูดยิ้มๆ

“มาห่วงฉันทำไมนักหนา ฉันยังไม่ห่วงตัวเองเลย”

“ใช่ ช่วงสองสามวันนี้คุณไม่ห่วงตัวเองเลย”

“อย่ากลุ้มใจแทนฉันเลยค่ะ ฉันอยู่ได้ มนุษย์เราทุกคนควรเกิดมาที่จะอยู่ค่ะ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อพ่ายแพ้”

มุนินทร์มองตรงไปข้างหน้า โล่งใจนิดๆที่สะสางเรื่องของแฝดน้องได้ ชายหนุ่มมองหน้าเธอ ยิ้มบางๆดีใจที่หญิงสาวเข้มแข็งขึ้นกว่าที่เขาคิด ความประทับใจในมุตตาคนใหม่มากขึ้นอีกโดยไม่รู้ตัว...

ooooooo

ต้องแช็ตอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นัดแนะกับเพื่อนไปเอายาไอซ์ หน้าเครียดเพราะคราวนี้ต้องจ่ายเงินแล้วรวมทั้งหนี้เก่า เธอรับปากเพื่อนส่งๆ เพราะอยากได้ยา

นพนภาเปิดประตูพรวดเข้ามา ต้องสะดุ้ง รีบปิดหน้าจอแช็ต ต่อว่าแม่ที่ไม่เคาะประตู นพนภามองลูกสาวอย่างจับผิด แขวะว่าถ้าเคาะก่อนคงไม่เห็นอะไรดีๆ

“ฉันล่ะอ่อนใจกับแกจริงๆ เอาอย่างต่อมันบ้างสิ วันๆมันวาดรูป เล่นกีฬา อ่านหนังสือหาความรู้ ไม่หมกมุ่นเรื่องกามอย่างแกหรอก”

“แม่แน่ใจนะว่าลูกชายแม่ไม่หมกมุ่นเรื่องกาม ลองเข้าไปเช็กในคอมมันดูสิคะ เผื่อเจออะไรดีๆ”

นพนภาลังเลแต่ยังทำไม่สน ค้อนลูกสาวตาคว่ำ บอกว่าจะไปดูต่อที่ห้อง ต้องมองตามแววตาเย้ยหยัน

นพนภาติดใจที่ต้องพูดถึงต่อ แอบย่องไปดูลูกชาย มองเห็นลูกชายสวมเสื้อกล้ามแช็ตกับเด็กหนุ่มเปลือยอก โชว์กล้ามโตที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นพนภาสงสัยตัดสินใจส่งเสียงถาม ต่อสะดุ้งเฮือก รีบบอกว่าคุยกับเพื่อนชื่อก้อง เป็นครูสอนยิมที่ชอบเรื่องเพาะกายเหมือนกัน นพนภาโล่งใจ มองลูกชายอย่างรักใคร่ ต่ออึกอัก เสถามแม่ว่าทำไมยังไม่นอน นพนภาบอกว่านอนไม่หลับเพราะพ่อยังไม่กลับบ้าน ต่อมองแม่อย่างปลงระคนเห็นใจ

“ทำไมแม่ไม่ทำใจบ้างล่ะฮะ แม่ก็พอรู้ว่าพ่อเขาเป็นอย่างนี้เข้าสายเลือดไปแล้ว”

“แล้วจะให้แม่ยอมแพ้อีหน้าด้านพวกนี้หรือ ไม่มีทาง แม่ไม่มีวันแพ้ใคร แม่จะตีมันให้แพ้ในสามวันเจ็ดวัน”

“แล้วพ่อก็มีใหม่อีก”

ต่อค่อนแคะพ่อ แววตารังเกียจล้ำลึก นพนภาอึ้ง ถอนใจเบาๆ

“มีผัวผิดคิดจนตัวตาย ต่อดูเอาไว้นะลูก อย่าเป็นคนสำส่อนบ้ากามไม่รู้จักจบเหมือนพ่อ”

“แม่รู้เอาไว้เลยนะฮะ ต่อขยะแขยงคนพวกนี้ ต่อไม่มีวันเป็นพวกสำส่อนแบบนี้เด็ดขาด”

“ต่อน่ะได้เลือดแม่ ไม่เหมือนนังต้อง ดูเหมือนจะเอาเลือดพ่อมาเต็มตัว ดูมันคันเหลือเกิน”

นพนภาอดแขวะต้องไม่ได้ ได้ยินเสียงรถแล่นมา นึกรู้ว่าเป็นเจนภพ ลุกพรวดไปดู ลืมลูกเสียสนิท

นพนภารีบร้อนลงบันไดแต่ไม่ทันใจเพราะข้อเท้ายังบาดเจ็บ มองหน้าผัวอย่างเอาเรื่องที่กลับบ้านช้า ถามเสียงเขียวว่าไล่มุตตาออกหรือยัง เจนภพหน้าเครียด บอกว่าหญิงสาวลาออกเอง เขาไม่ได้ไล่ นพนภางุ่นง่านเดินขากะเผลก ยังไม่ไว้ใจ มองผัวตาวาว

“แล้วมันยื่นใบลาออกหรือยัง เดี๋ยวเผลอมันก็เผยอหน้ามาบานแบะอยู่ที่กองอีก”

“เขาลาออกไปแล้วก็ช่างเขาเถอะ อย่าไปสนใจนักเลย”

“ฉันสนใจ ฉันอยากรู้ว่ามันออกไปหากินอยู่ซ่องไหน สันดานใจง่ายแบบนี้ คงไม่แคล้วหรอก ไม่เป็นหมอนวด ก็ไปเป็นนังเมียน้อย เอ๊ะ...หรือที่มันรีบออกเพราะไปนอนแบะให้คุณเลี้ยง”

“ว่าเข้าไป ผมไม่มีปัญญาหรอก”

เจนภพหน้าเครียด บอกเสียงเซ็งให้ห่วงวีกิจดีกว่า เห็นอาลัยอาวรณ์ตามไปส่งกันถึงบ้าน

“หึงนังมุตตาล่ะสิ ถึงได้พาลนายกิจ ถ้าอยากเลี้ยงเมียน้อยก็เอาเงินเดือนคุณเลี้ยงมันให้พอ อย่าใช้เงินกงสี อย่ามาก่อหนี้ให้ฉันอีก”

นพนภาเดินกะเผลกไปคว้ากระเป๋าสตางค์ของเจนภพ หยิบบัตรเครดิตตัดครึ่งฉับ เจนภพอึ้ง ต้องกับต่อโผล่มาดู ต่อยิ้มอย่างสะใจ เจนภพกับนพนภาทะเลาะกันใหญ่โต ต่อลงมาประคองแม่กลับขึ้นห้อง ต้องเดินมาหาพ่อ นัยน์ตาเศร้า บอกว่าอยากคุยกับพ่อ เจนภพอารมณ์ยังกรุ่นขอผลัดไปวันหลัง ต้องน้อยใจ มองพ่อน้ำตาคลอ...

ooooooo

บรรยากาศที่แผนกมุตตาเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ตั้งแต่วันที่หญิงสาวยกของออกไป วีกิจมาทำงานหน้าเศร้า ยังเสียใจแทนเธอ ปริมมองด้วยความหมั่นไส้ พูดจาแดกดัน วีกิจนิ่ง ไม่ตอบโต้อะไร

ประสิทธิ์ชัยชวนเพื่อนในแผนกไปเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะได้บัตรที่พักมาฟรี รัชนกแสร้งตีหน้าซื่อ บอกว่าต้องขออนุญาตพี่ชาย ตรงข้ามกับปริมที่ดี๊ด๊าขอไปด้วย พอได้ยินวีกิจปฏิเสธ ปริมอดแขวะเขาไม่ได้

“น่าเสียดายนะคะ คุณกิจน่าจะไปด้วยกัน เวลาเราทำอาหารกินจะได้มีคนคอยล้างชาม เพราะเห็นถนัด ล้างชามให้ชาวบ้านนัก”

“ของบางอย่างมีค่าฮะ ถึงต้องแปดเปื้อนไปบ้าง ก็ยังล้างออกและมีค่าเหมือนเดิม แต่ของบางอย่าง ต่อให้ไม่เปื้อนอะไร แต่เนื้อแท้มันสกปรก ใช้น้ำยาฟอกขาวก็ล้างไม่ออก ต้องปาทิ้งสถานเดียว”

ปริมหน้าม้าน อ้าปากค้าง วีกิจจ้องเธอนิ่ง รัชนกเหลือบตาดูด้วยความสะใจ...

เจนภพกับสรรค์แอบหนีเมียไปเที่ยวคลับคาราโอเกะ แอ๋ว ภรรยาสรรค์โทร.มา ขณะที่สองหนุ่มรื่นรมย์กับบรรยากาศและสาวเสิร์ฟหน้าตาจิ้มลิ้ม เจนภพเครียดแทนเพื่อน คว้ารีโมตปิดเพลง สรรค์หน้าระรื่นกดรับสาย โกหกเมียหน้าตายว่ายังทำงานอยู่แล้วกดวางสาย หันมายิ้มแววตาเจ้าเล่ห์ โชว์โปรแกรมในมือถือ บอกว่าใช้ดัดแปลงเสียงในโทรศัพท์หลอกให้เมียตายใจ เจนภพมองด้วยความทึ่ง สรรค์ยิ้มกริ่ม เปลี่ยนมาถามเรื่องมุตตา เจนภพถอนใจ

“ก็คงเลิก ตายังสาวยังสวย น่าจะเริ่มต้นใหม่ได้ไม่ยาก”

“นี่กัดฟันพูดหรือเปล่าวะ เด็กหลงเอ็งซะขนาดนั้น ถึงขนาดตบเมียเอ็งปากแตก แปลว่าเด็กมันลุยแล้วนะเว้ย”

“ลุยกับพ่อเอ็งสิ เขาทำเย็นชา ไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ วันก่อนข้าปล้ำจูบ แม่คุณเอาน้ำแข็งราดเป้าข้าเฉยเลย”

สรรค์หัวเราะเสียงดัง ขำเพื่อนโดนเมียน้อยแก้เผ็ด เจนภพหน้าเซ็ง บอกว่าตอนนี้หล่อนหันกลับไปหาวีกิจ สรรค์เอะใจ ถามเพื่อนว่าแน่ใจหรือว่าเจ้าหล่อนไม่ได้แกล้งประชดยั่วให้หึง เจนภพมีความหวังขึ้นมาทันที เข้าใจท่าทีของหญิงสาวตลอดหลายวันที่ผ่านมา ยิ้มอย่างหมายมาด เริ่มคิดแผนในใจ...

มุนินทร์ไปไถ่สร้อยทองของน้องสาวคืนมาจากโรงรับจำนำ พรเดินมาคุยเรื่องคลิปที่หญิงสาวตบนพนภาตกบันไดกลางกระทรวง ยิ้มสะใจ

“ดีแล้ว อย่าไปยอมมันง่ายๆ เราน่ะเสียทั้งตัว เสียทั้งใจ แถมยังต้องมาเสียงานอีก”

“ตาเสียอะไรมากกว่านั้นค่ะ”

มุนินทร์หน้าเศร้าขึ้นมาวูบหนึ่ง ถอนใจเบาๆ พรไม่ทันมอง บอกว่าเสี่ยเจ้าของคาเฟ่ฝากมาทวงหนี้ มุนินทร์พยักหน้ารับรู้ พรบอกให้ชักดาบ ค่าที่เสี่ยเคยลวนลามมุตตาจนต้องวิ่งหนีกระเซอะกระเซิง หญิงสาวแววตา

กร้าวขึ้น ชวนพรไปหาเสี่ยคืนนี้เลย พรมองหน้าหญิงสาวงงๆ

“ไปทำไม ไปใช้หนี้มันหรือ”

“ค่ะ...ใครก่อหนี้ไว้ คนนั้นก็ต้องชดใช้ไงคะ”

มุนินทร์ตั้งใจแต่งหน้าจัด สวมเสื้อผ้าเซ็กซี่เปิดหน้านิดแหวกหลังหน่อยไปหาเสี่ยจอมหื่นกับพร เสี่ยมองหญิงสาวตาพราว ยิ้มถูกใจในความสวยยั่วยวนแปลกตา

กว่าที่เจอกันครั้งก่อน เขายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย บอกว่าไม่ต้องรีบคืน มุนินทร์ยื่นเงินสามหมื่นให้ มองด้วยความสมเพช

“ยังไงก็เอาคืนไปเถอะค่ะ ฉันไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันกลัวเวลาจ่ายดอก คนบางคนมันไม่เอาดอกเป็นเงิน มันจะเอาเป็นอย่างอื่น”

มุนินทร์มองเสี่ยนิ่ง แววตาเย้ยหยัน เสี่ยยิ้มหวานประจบ ใช้มุกเดิมบอกพรไปหยิบกระเป๋าที่เคาน์เตอร์ด้านนอก พรไม่ยอมไป มุนินทร์ยิ้มมีประกายตาประหลาด บอกให้พรออกไปเอาของ เธอดูแลตัวเองได้ เสี่ยเริ่มลวนลามเธอด้วยสายตาทันทีที่ลับร่างพร แววตาหื่นอย่างเห็นได้ชัด

“หนูนี่สวยจริงๆ อยู่ใกล้หนู มันสปาร์กเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต ยิ่งแต่งตัวแบบนี้เหมือนท้าพิสูจน์”

มุนินทร์แกล้งทิ้งสายตา ยิ้มหวานยั่วยวน เสี่ยมองหญิงสาวด้วยความหลงใหล

“เงินสามหมื่นไม่ต้องเอามาคืนหรอก เสี่ยจ่ายให้หนูเดือนละห้าหมื่นเลย จะเอาอะไรอีกก็บอกมา เสี่ยจัดให้”

“เอาคอนโดฯริมน้ำ แหวนเพชรเจ็ดกะรัต แล้วก็เบนซ์เจ็ดร้อยดีไหมคะ”

เสี่ยหน้าเจื่อนเล็กน้อย บอกว่าหญิงสาวล้อเล่นแน่ๆ เริ่มลูบไล้ต้นขาเธอเบาๆ มุนินทร์ยิ้มเหี้ยม ล้วงเครื่องช็อตไฟฟ้าออกจากกระเป๋าจี้ลงบนพุงเสี่ยสุดหื่น เขาร้องเสียงหลง ล้มลงไปชักกระตุกบนพื้น มุนินทร์ลุกขึ้นมองด้วยสายตาวาววับ หยิบเงินโยนลงบนพุงเสี่ย บอกว่าหมดหนี้หมดสินกันแล้ว พรกลับเข้ามามองภาพตรงหน้าตาโต

ooooooo

วีกิจยอมรับว่าคิดถึงมุตตา หญิงสาวในมาดใหม่ทำให้เขาใจเต้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ความรู้สึกฉันเพื่อนเหมือนค่อยๆเลือนไป ความหวั่นไหวเริ่มเข้ามาแทน เขาไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่แผนก จับเจ่าดูทีวีที่บ้านกับสร้อยคำ นั่งมองมือถืออย่างลังเล สุดท้ายก็ทนไม่ไหว กดเบอร์มุตตา

มุนินทร์เพิ่งกลับจากลุยเสี่ยที่คาเฟ่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนฟ้าสาง งัวเงียตื่นมารับโทรศัพท์จากวีกิจ ชายหนุ่มได้ยินเสียงอู้อี้รู้สึกผิด เธอบอกให้เขามารับตอนเที่ยง จะชวนไปข้างนอก หญิงสาววางสายไปแล้ว วีกิจหน้าบาน ตาเป็นประกาย ดีใจวิ่งพล่านไปรอบบ้าน สร้อยคำเพิ่งออกจากครัว ถามบัวเด็กรับใช้ ว่าลูกชายเธอตื่นเต้นดีใจอะไรนักหนา บัวบอกว่าได้ยินเขาพูดโทรศัพท์กับมุตตา สร้อยคำหนักใจขึ้นมาทันที...

ประสิทธิ์ชัยมารับรัชนกที่คอนโดฯ เจอชายหนุ่มหน้าตาดีเปิดประตูรับ หน้าเหวอ พูดตะกุกตะกักว่ามีนัดกับรัชนก ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม แววตามีเลศนัย บอกให้เข้าไปรอข้างใน รัชนกลากกระเป๋าออกมาจากห้องพอดี แนะนำประสิทธิ์ชัยให้รู้จักกับศักดิ์ชาย พี่ชายของเธอ ประสิทธิ์ชัยโล่งแต่ยังวางหน้าไม่ถูก

ศักดิ์ชายทำเป็นซักไซ้ว่ามีใครไปเที่ยวกับน้องสาวบ้าง รัชนกบอกว่ามีแค่ประสิทธิ์ชัยกับปริม เพื่อนรุ่นพี่ที่แผนก ไปดำน้ำและตกปลาที่ทะเล ประสิทธิ์ชัยอยากเอาใจสาว กลั้นใจชวนชายหนุ่มไปด้วยกัน ศักดิ์ชายตอบรับ รัชนกแสร้งดีใจออกนอกหน้า ประสิทธิ์ชัยหน้าเจื่อนเหมือนอยากร้องไห้เต็มแก่ รัชนกขอตัวไปจัดกระเป๋าให้พี่ชาย ศักดิ์ชายเหยียดยิ้ม นัยน์ตามีแววประหลาด

“อ้อ...นก...เตรียมถังตกปลาอันใหญ่ไปด้วยนะ คราวนี้เราอาจจะตกได้ปลาตัวโต”

“ค่ะ ให้ปลาฮุบเหยื่ออย่างที่เคยนะคะ”

สองพี่น้องยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ประสิทธิ์ชัยไม่ทันมองเพราะมัวแต่เซ็ง

ปริมนั่งรออยู่แล้วที่ล็อบบี้คอนโดฯ ตั้งท่าจะแขวะรัชนกกับประสิทธิ์ชัยเหมือนเคย โทษฐานที่ให้รอนาน แต่พอเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีเดินตามเพื่อนทั้งสองมาด้วย ก็เปลี่ยนเป็นตาค้างแทน รัชนกยิ้มเยาะ มองอย่างรู้ทัน แนะนำพี่ชายให้รู้จัก ศักดิ์ชายยิ้มหวานหว่านเสน่ห์เต็มที่ ปริมเคลิ้มเดินตามติด ประสิทธิ์ชัยมองตามอย่างเหนื่อยใจระคนเอือมระอา...

ด้านมุนินทร์กับวีกิจไปเที่ยวทะเลที่ชายหนุ่มเคยมากับมุตตาและเพื่อนๆ ทั้งสองเดินเล่นริมหาด ยิ้มให้กันอย่างสุขใจ วีกิจหยิบกล้องมาถ่ายภาพหญิงสาว เธอโพสท่าให้อย่างเต็มใจ ไร้วี่แววเขินอายเหมือนเคย เขามองหญิงสาวผ่านเลนส์ ประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“ปีหนึ่งแล้วนะฮะ ที่เรามาที่นี่กันคราวก่อน”

“หรือคะ” มุนินทร์นิ่งคิด น้องสาวเธอเคยมาที่นี่อย่างนั้นหรือ...

“แต่วันนี้อากาศเป็นใจ ไม่มืดฟ้ามัวหม่นเหมือนครั้งก่อน ตาก็ดูร่าเริง ไม่เหมือนกับ...”

“ไม่เหมือนคนที่เพิ่งโดนไล่ออกจากงานใช่ไหมคะ ที่จริงฉันก็เครียดนะคะ ถึงต้องชวนคุณมาเที่ยวไกลถึงนี่ไงคะ”

“ผมชอบทะเลฮะ มันอิสระดี”

“ฉันชอบภูเขามากกว่า มันท้าทายให้ปีนขึ้นไปสูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้”

“ยิ่งสูงยิ่งหนาวนะครับ”

“ฉันทนได้ค่ะ”

วีกิจมองท่าทีมุ่งมั่นของหญิงสาวด้วยความประทับใจ พึงใจกับมาดใหม่ของเธอมากกว่าแปลกใจ...

สองหนุ่มสาวเดินไปเรื่อยๆ ถึงร้านอาหารริมทะเล วีกิจชวนคุยเรื่องมุตตา บอกว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอ นอกจากเรื่องมีไร่ดอกไม้ที่เพชรบูรณ์และมีพี่สาวหนึ่งคน มุนินทร์อึ้งเล็กน้อย ถามเสียงเรียบว่ามุตตาเคยพูดถึงพี่สาวด้วยหรือ วีกิจบอกว่าเคยพูดไม่กี่ครั้งและเขาก็จำไม่ค่อยได้

“เหมือนคุณเคยบอกว่าคุณกับพี่สาวไม่มีอะไรเหมือนกัน”

“หรือคะ ใช่ค่ะ เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลย”

“คุณเคยบอกว่าพี่สาวคุณทำโทที่เมืองนอก ส่งเงินกลับบ้านเป็นล้าน แล้วก็เป็นลูกคนโปรดของพ่อแม่”

มุนินทร์ยิ้มขื่น แววตาเศร้า นึกถึงน้องสาวขึ้นมาจับใจ

“แล้วตาเป็นลูกชังหรือคะ ไม่จริงหรอกค่ะ”

“อ้าว...ก็คุณเล่าเองนี่ฮะ”

“ที่จริงแล้วเราสองคนพี่น้องถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ

ทั้งคู่ต่างหากค่ะ เราเป็นคู่แข่งกัน แย่งความรักจากพ่อกับแม่ คุณคงนึกไม่ออก พี่กับน้องคอยประชันแข่งขันกัน”

วีกิจบอกว่าเข้าใจดี ลูกๆของเจนภพกับนพนภาก็ถูกเลี้ยงแบบผิดๆเหมือนกัน ทะเลาะตบตีกันทุกวัน มุนินทร์ถอนใจเบาๆ นั่งเหม่อดูทะเล

ooooooo

ประสิทธิ์ชัยเพิ่งรู้ตัวว่าคิดผิดที่ชวนศักดิ์ชายมาเที่ยวด้วย นั่งหน้าบูดมองรัชนกกับปริมเล่นน้ำทะเลกับศักดิ์ชายอย่างร่าเริง สนิทสนมเกินเหตุ ปริมร้องกรี๊ดกร๊าดจนน่าหมั่นไส้

ศักดิ์ชายพาสองสาวมาพัก ชวนประสิทธิ์ชัยไปตกปลา ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะเหม็นหน้า ปริมเสนอตัวขอไปด้วย ศักดิ์ชายยิ้มมีเลศนัย บอกว่าจะไปกับปริม ฝากประสิทธิ์ชัยให้ดูแลรัชนกแทน ประสิทธิ์ชัยหน้าบาน มองรัชนกด้วยสายตาเจ้าชู้ รัชนกแกล้งค้อน แต่แอบมองชายหนุ่มด้วยแววตาเชิญชวน

ประสิทธิ์ชัยชวนรัชนกดื่มค็อกเทลสีสวยจนหญิงสาวหน้าแดงก่ำ ประคองเธอกลับไปนอนที่ห้อง รัชนกแกล้งบ่นปวดศีรษะ ขยับตัวให้ชายกระโปรงเลิกสูงเห็นขาขาว ประสิทธิ์ชัยกลืนน้ำลาย รีบลุกไปเร่งแอร์ รัชนกหรี่ตามองตามหลัง ดวงตามีประกายเจ้าเล่ห์ ไร้วี่แววเมา ค่อยๆถอดเสื้อออกทิ้งลงข้างเตียง ประสิทธิ์ชัยหันกลับมามองหญิงสาวด้วยความตกตะลึง ถลาเข้าไปหาเหมือนต้องมนต์...

ขณะที่ประสิทธิ์ชัยสมหวัง วีกิจกับมุนินทร์ก็มีช่วงเวลาดีๆที่ชายทะเลด้วยกัน ทั้งสองเดินเล่นริมหาดตลอดบ่าย ถ่ายรูปคู่กัน มีเด็กชายชาวบ้านเจ้ากี้เจ้าการจัดท่าและถ่ายรูปให้ วีกิจขยับชิดหญิงสาวอย่างเกรงใจ มุนินทร์เหลือบตามองยิ้มๆ แกล้งโอบเอวและเอียงศีรษะบนไหล่เขา วีกิจเขินหน้าแดง เด็กชายบอกให้ทำท่าซารางเฮโย วีกิจหน้าแดงก่ำบอกว่าพอแล้ว เด็กชายฉีกยิ้มคืนกล้องให้วีกิจแล้ววิ่งออกไป มุนินทร์ทำหน้างง ถามเขาว่าอะไรคือท่าซารางเฮโย

“คุณตาไม่รู้จักจริงๆหรือฮะ ไม่น่าเชื่อเลย ก็คือท่าที่เขาจะยืนเอาหัวชน ยกมือขึ้นเหนือหัวมาต่อกันเป็น...”

“รูปหัวใจหรือคะ น่ารักดีิออกค่ะ ทำไมคุณไม่ยอมถ่ายล่ะคะ”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วน่ะสิฮะ”

“แต่บางทีคุณก็ดูเด็กนะคะ”

“ผมแก่กว่าคุณตั้งเกือบปีนะฮะ”

“รู้ไหมคะ คนเรานี่แปลกจัง ผู้หญิงน่ะกลัวใครว่าแก่ แต่ผู้ชายจะกลัวใครว่ายังเด็กอยู่”

มุนินทร์ยิ้ม ขำท่าทางหงุดหงิดนิดๆที่โดนหาว่าเด็กของชายหนุ่ม...รู้สีกดีกับเขาขึ้นเรื่อยๆ

วีกิจพามุนินทร์ไปซื้อของทะเลสดๆที่ตลาด บอกว่าจะโชว์ฝีมือทำอาหารให้เธอชิมเป็นมื้อเย็น มุนินทร์มองชายหนุ่มเลือกปลาด้วยความทึ่ง ลองเลือกบ้าง ชายหนุ่มร้องห้าม ส่งปลาที่เลือกแล้วให้แม่ค้า หญิงสาวมองเขาหน้ามุ่ย

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 7 วันที่ 15 ต.ค. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ