@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 19 วันที่ 2 พ.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 19 วันที่ 2 พ.ย. 55

มะยมมองนพในอาการตื่นตกใจ นิคมองภาพตรงหน้า แล้วผละออกไปปะปนกับไทยมุง และมะยมก็ไม่เห็นนิค มะยมบอกนพ
“ขอมะยมอยู่คนเดียวค่ะ”
นพพยักหน้าเดินคอตกออกไป มะยมปิดประตูห้องร้องไห้โฮ สับสนเหลือเกินแล้ว
ท่ามกลางแดดเปรี้ยง นิคเดินมาตามฟุธบาท เห็นรถผ่านหลายต่อหลายคัน แต่นิคไม่ขึ้น เดินไปเรื่อยเปื่อย เสียงนพดังก้อง
“พอกันซักที ผมไม่ได้รักคุณอีกแล้ว คนที่ผมรักคือมะยม ได้ยินมั้ยคนที่ผมรักคือมะยม”
นิคว้าวุ่น และรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด

ทางด้านมะยมเดินเศร้ามาตามทาง เสียงของนพ ดังก้องในหัว
“ยิ่งคุณทำกับผมอย่างนี้...ผมก็ยิ่งรักมะยม...ขอร้อง...อย่าตามรังควานชีวิตผมอีกเลย
มะยมสบสันหนัก เสียงนพดังขึ้นมาอีก



“ผมขอโทษ..ขอโทษจริงๆมะยม แต่ผมก็ยังยืนยัน ว่าผมรักคุณ...”
มะยมหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ตีกันให้วุ่น ก่อนจะลืมตาขึ้นมา
ดวงตาเด็ดเดี่ยวเหมือนคนคิดอะไรได้

คืนนั้นสุดาเดินออกมารับลมด้านนอก ดวงหน้ายิ้มละไม สรวงเดินมาเอาผ้าคลุมไหล่ผืนสวยมาห่มให้ สุดาถามสรวงท่าทางปกติ
“แม่ได้ข่าวว่าพ่อจะแต่งงาน”
สรวงชะงัก ไม่รู้สุดาจะมาไม้ไหน สุดาถามต่อ
“ทำไมสรวงไม่บอกแม่ล่ะลูก หรือกลัวว่าแม่จะทำใจไม่ได้....” ยิ้มแย้มท่าทีปกติ “แม่ไม่เป็นไรแล้ว พ่ออยากมีใคร ก็ให้เค้ามีไป แต่ที่แม่อยากพูดกับสรวง เห็นรึยังว่ากรรณนรีเป็นคนยังไง สุดท้ายเงินก็ซื้อได้ เหมือนกับแม่ของมัน”

สุดายิ้ม ขณะที่สรวงอึ้ง ตระหนักชัดถึงความความรู้สึกเกลียดชังที่แม่มีต่อกรรณนรีกับภาพิศ เหมือนสองคนนั้นเป็นแค่ขยะ
แฉล้มรู้เรื่องก็หัวเราะร่าบอกภาพิศอย่างอารมณ์ดี
“คุณเชื่อฉันรึยังล่ะ คนอย่างพี่เกริก จะคิดจะทำอะไร เค้าต้องคิดอย่างถ้วนถี่ มีเหตุผล สุดท้ายเจ้าบ่าวของกาวก็เป็นคุณสรวง”
“ท่านอารักษ์บอก ที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะกลัวคุณหญิงสุดาไม่ยอม”
แฉล้มฟังแล้วอดหนักใจไม่ได้ “เฮ้อ! ทำยังกับจะปิดคุณหญิงสุดาได้อย่างนั้นล่ะฉันล่ะกลัวจริงจริ๊ง”
“ก็ลองนังคุณหญิงสุดามันทำอะไรลูกฉันสิ...ฉันจะฆ่ามันให้ตาย...ถึงนาทีนี้แล้วกาวต้องมีความสุข ลูกสาวฉันต้องมีความสุข”
ภาพิศบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวและเฉียบขาด ดวงตามีแต่รอยยิ้ม เมื่อนึกถึงกรรณนรี

เช้าวันต่อมามะยมเดินเข้ามาในออฟฟิศ กรรณนรีหันไปเห็น
“มะยม”
มะยมยิ้มอย่างเข้มแข็ง กรรณนรีเข้ามาสวมกอดมะยมแน่น
“โอเคมั้ย”
“โอเคสิ... ในเมื่อฉันไม่ได้อะไรผิด ทำไมฉันต้องแคร์”
กรรณนรีมองมะยม ส่งกำลังไปให้ มะยมจับมือกรรณนรียิ้มแย้ม
“เราต่างหากเป็นคนให้คุณค่าตัวเองไม่ใช่คนอื่น...ต่อให้ใครจะมองว่าฉันเป็นเมียน้อย แต่ถ้าความจริง มันไม่ใช่ ฉันก็ไม่แคร์”
“แล้วเรื่องของแกกับคุณนพ จะเอายังไง”
นิคเดินเข้ามาพอดี และได้ยิน นิคหยุดฟัง ขณะที่มะยมว่าต่อ
“พ่อฉันเคยมีเมียน้อย และแม่ฉันก็ทุกข์ใจมาก แล้วทำไมฉันต้องไปโยนความทุกข์ให้ผู้หญิงคนนั้นด้วยล่ะกาว เค้าจะเลิกกันหรือไม่เลิก ไม่เกี่ยวกับฉัน สิ่งที่เกี่ยวกับฉันคือ ฉันจะไม่เข้าไปเป็นมือที่สามของใครอย่างเด็ดขาด”
กรรณนรียิ้มกว้าง “เจ๋งมากเลยเพื่อน”
กรรณนรีกอดมะยมอีก สองคนยิ้มแย้ม นิคยืนยิ้มเหมือนกันรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ก่อนที่นิคจะเดินมากอดมะยม
“เจ๋งมากว่ะมะยม”
มะยมยิ้มรับ นิคกอดให้กำลังใจ แต่สายตาที่นิคมองมะยมยามนี้ มันไม่ใช่สายตาที่เพื่อนมองเพื่อนอย่างเคยแล้ว

ตกค่ำวันนั้น สามเกลอเดินมาที่ริมน้ำ ท่าทางมีความสุข และสบายใจ นิคอยู่ตรงกลางกอดคอสองสาว
“นี่...หมดเรื่องเลวร้ายต่างๆแล้ว แกก็ควรเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานได้แล้วนะกาว”
มะยมเห็นด้วย “จริงด้วย..อย่าลืมวันนั้น คุณสรวงต้องหล่อที่สุด และแกก็ต้องสวยที่สุด”
“ถึงไม่ใช่วันแต่ง คุณสรวงก็หล่อที่สุดในสายตาฉันอยู่แล้ว”
มะยมกับนิคทำหน้าเซ็ง ทำนองแซวว่าเป็นเอามาก สามคนกอดกัน หัวเราะใส่กันอย่างมีความสุข จังหวะนั้นมือถือกรรณนรีดัง
“คุณสรวง” กรรณนรีตื่นเต้น มะยมกับนิคมองหน้ากันแล้วอี๋...อิจฉา
กรรณนรีกดรับ “คะคุณสรวง”
มะยมแย่งมือถือมาเปิดสปีกเกอร์โฟนแล้วยืนฟัง ยิ้มขำกับนิค

สรวงยืนยิ้ม มองท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ที่หน้าบ้านพัก ขณะคุยกับกรรณนรี
“ว่าไงจ๊ะว่าที่เจ้าสาวของผม”
“คุณสรวงล่ะคะ”
“พร้อม....พร้อมจะเข้าห้องแล้ว”
มะยมกะนิค ทำท่ากิ๊วก๊าว กรรณนรีเขินอาย รีบร้อง
“คุณสรวง..พูดอะไรน่าเกลียด”
“น่าเกลียดตรงไหน? ก็ผมจะเข้าห้องจริงๆ นี่...จะรีบนอน พักผ่อนเยอะๆ วันงานจะได้หน้าใสๆ เป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุด สำหรับคุณไง”
กรรณนรียิ้ม มะยมกับนิคร้อง “ว้า” ผิดหวังที่สรวงไม่ได้ยิงมุกทะลึ่งต่อ
“เอ๊ะ..หรือตะกี้คุณคิดไปถึงไหนต่อไหน” สรวงแซวยิ้มตาหยี
กรรณนรีค้อนลมแล้ง “คิดอย่างคุณสรวงล่ะค่ะ...จะรีบเข้าห้อง” กรรณนรีทำหน้าทะเล้น “นอน...พักผ่อนเยอะๆ จะได้สวยๆ สมกับเป็นเจ้าสาวของคุณ”
สรวงยิ้มแป้น “ขอบคุณมากนะกรรณนรีที่อยู่ด้วยกัน....ถึงผมจะไม่ได้เซอร์ไพร้ส์ขอคุณแต่งงานเหมือนเจ้าบ่าวคนอื่นๆ แต่ผมก็มีความรักให้คุณ...และจะอยู่เคียงข้างคุณไปจนตาย...ผมรักคุณ”
“ฉันก็รักคุณค่ะคุณสรวง” กรรณนรีวางสายยิ้มแก้มแทบแตก
“แฮปปี้เอ็นดิ้งซะที” มะยมว่า
สามคนมองหน้ากัน ยิ้มอย่างเป็นสุข

ด้านสรวงยืนยิ้มอยู่ จนสุดาเดินออกมาตาม สรวงรีบทำหน้าปกติ สุดาถาม
“ดึกแล้วยังไม่นอนล่ะลูก”
“ยังไม่ง่วงครับ”
สุดาดักคอ “ไม่ต้องคิดมากเรื่องนะ แม่ไม่ได้เป็นไร พ่อเค้าอยากจะทำอะไรก็ปล่อยเค้า อ้อ! วันงานถ้าสรวงทำใจได้ จะไปร่วมงานแม่ก็ไม่ว่า...ปล่อยแม่ให้อยู่บ้าน แม่อยู่คนเดียวได้ สบาย”
สุดายิ้มแย้มเหมือนว่าไม่มีอะไรจริงๆ สรวงยิ่งมอง ยิ่งสงสารแม่

เวลาเดียวกันภายในห้องพักของโรงแรมหรู อารักษ์ดื่มกินอย่างมีความสุข โดยมีหญิงสาวมาดูแล
“วันนี้ท่านดูมีความสุขจัง”
“ลูกชายจะแต่งงาน...”
“อ้อ...” สาวนางนั้นยิ้มยั่วๆ “เลยมาฉลองความโสดแทนลูกชาย” เอามือทำปู่ไต่อารักษ์
อารักษ์หัวเราะสุขใจ จับคางหญิงสาวหยอกเอิน “หนูนี่รู้ใจฉันจริงๆ เย..มา..งั้นมาช่วยฉันฉลอง จัดหนักๆ เลยนะจ๊ะคนสวย”
อารักษ์ดึงหญิงสาวมากอดแล้วล้มตัวลงบนเตียง ผ่านเรื่องเลวร้ายมาหนักหนา ใครว่าอารักษ์จะเปลี่ยน จนถึงตอนนี้ความเป็นผู้ชายเจ้าชู้ก็ฝังลึกอยู่ในสันดาน

ชุดสวยๆ มากมาย ที่ภาพิศนำมาลองสวม เพื่อเตรียมใส่ไปร่วมงานแต่งกรรณนรีกับสรวง โดยให้แฉล้มดูชุดแล้วชุดเล่า ภาพิศดูตื่นเต้นใบหน้าเปื้อนยิ้มสดใส ถามแฉล้มไปมาด้วยคำถามเดิมๆ
“ชุดนี้สวยมั้ยคุณ...”
“โอ๊ยย.. ไม่ต้องลองแล้ว คุณน่ะใส่ชุดไหนก็สวย...นี่ลองยังกับจะเป็นเจ้าสาวซะเอง” แฉล้มแซว
“ก็ฉันอยากสวยที่สุดในวันแต่งงานลูกนี่...”
“คุณจะสวยที่สุดได้ยังไง วันนั้นคนที่สวยที่สุดต้องเป็นหนูกาวสิ เพราะหนูกาวคือเจ้าสาว”
“ฉันอยากให้ถึงวันงานเร็วๆ จัง ตื่นเต้น”
“อีกไม่กี่วันก็ถึงแล้ว...ใจร่มๆ ไปนวดหน้านวดตัวดีกว่า จะได้สวยสมกับเป็นแม่เจ้าสาว”

ภาพิศยิ้มปลื้มดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า สุขใจในความสุขของกรรณนรี
ทางด้านสุขหฤทัยเดินหน้างอง้ำอยู่ที่บ้าน
“ยัยกรรณรียังเป็นเจ้าสาวได้..แล้วฉันล่ะ”
สุขหฤทัยนิ่งคิด หยิบมือถือ กดโทร.หากาวินทร์

เวลานั้นมาลินีนั่งทานข้าวอยู่กับกาวินทร์ ท่าทีกาวินทร์เป็นปกติ ไม่ได้เอาอกเอาใจมาลินีเป็นพิเศษเหมือนคนเป็นแฟนกันและมีอะไรกันแล้ว
มาลินีมองกาวินทร์ พูดอย่างน้อยใจ “มดยังไม่มีชุดไปงานแต่งกาวเลยค่ะ”
กาวินทร์กินข้าวปกติ พูดโดยไม่ได้มอง “มดจะใส่อะไรมาก็ได้ง่ายๆ”
“พี่แก้วไม่อยากเห็นมดสวยเหรอคะ”
“จะสวยทำไมมดไม่ได้เป็นเจ้าสาวนี่”
“มดรู้ค่ะ...แต่มดก็อยากสวยในสายตาพี่แก้วบ้าง...? มดอยากเป็นเจ้าสาว”
คราวนี้กาวินทร์สำลักข้าว เพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ มาลินีเห็นท่าทางกาวินทร์ก็เลยถาม
“ทำไมพี่แก้วทำท่าแบบนี้ล่ะคะ”
“พี่ยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน”
มาลินีใจหายวาบ “พี่แก้ว”
เสียงมือถือดังขัดขึ้นก่อน กาวินทร์เห็นเป็นเบอร์สุขหฤทัย ก็มองหน้ามาลินีท่าทีอึกอัก มาลินีชำเลืองมองเห็นเบอร์สุขหฤทัยก็น้ำตาไหลริน บอกเสียงกลั้นสะอื้น
“เพราะพี่แก้วรักคุณฤทัยไม่ใช่มด”
“อะไรของมด” กาวินทร์งง
“วันที่มดไปหาพี่แก้ว มดได้ยินค่ะ พี่แก้วบอกรักคุณฤทัย....แต่ที่มดไม่พูดเพราะอยากให้พี่แก้วเคลียร์ตัวเอง..พี่แก้วรู้ตัวเอง ว่ามดคือภรรยาพี่แก้ว”
มาลินีลุกเดินออกไป กาวินทร์มองตามงงๆ
“ประสาท...”กดรับสาย “มีอะไรคุณ”
“ก็...คิดถึง...หรือว่านายไม่คิดถึงฉัน”
“ใช่..ผมไม่ได้คิดถึงคุณ” วางสายทันที
สุขหฤทัยงงเป็นไก่ตาแตก
“ไม่ได้คิดถึงฉัน หมายความว่ายังไง? วอนหาเรื่องซะแล้วนายแก้ว”
สุขหฤทัยโกรธจัด

คืนนั้น ที่ห้องจัดงานแต่งของโรงแรม เห็นทีมงานมาจัดแต่งสถานที่ โดยมีอารักษ์ลงทุนคุมงานแต่งด้วยตัวเอง เดินกำกับโน่นนี่ วุ่นวาย เหงื่อซ่ก แต่สีหน้าและแววตาอารักษ์ดูมีความสุขมาก
สุขหฤทัยเดินมามอง คิดในใจ
“พี่ชายเธอรนหาที่เองกรรณนรี”

สมหญิงถามสุขหฤทัยเสียงหลง ท่าทีตกอกตกใจ
“อะไรนะ...ลูกจะบอกคุณหญิงสุดา เรื่องคุณสรวงจะแต่งงานกับนังกรรณนรี”
สุขหฤทัยยิ้มย่อง “ค่ะ”
“ก็ดี..บอกเลยลูก...เรื่องวุ่นๆ จะได้จบๆ ไม่งั้นปล่อยถึงวันแต่ง ตายแน่ๆ”
“ฤทัยจะบอกวันแต่งเลยต่างหาก ให้คุณหญิงมาอาละวาด สนุกดี”
สุขหฤทัยตาเขียวปั๊ด โกรธ และหมั่นไส้ที่ถูกกาวินทร์หยาม

เวลาต่อมา ภาพิศกำลังแต่งตัว แต่งหน้าสวย ดวงหน้าอิ่มเอิบ ส่วนที่โรงแรมจัดงานกาวินทร์กำลังคุมเกริกแต่งตัวหล่อ ชนิดหล่อที่สุดในชีวิต ท่าทางเกริกเขินๆ เก้ๆ กังๆ เพราะไม่เคย
“พ่อแต่งอย่างนี้จะดีเหรอลูก”
“ดีสิครับพ่อ...นอกจากคุณสรวง วันนี้พ่อก็ต้องหล่อเหมือนกัน”
“แก้วก็หล่อ”
“ก็หล่อสิครับ งานแต่งน้องผมนี่”
สองคนพ่อลูกหัวเราะอย่างมีความสุข

ที่บ้านแฉล้มภาพิศเดินแต่งตัวสวยเจิด เดินออกมา แฉล้มกำลังหยอกเย้ากับลูกสาวภาพิศ
“โอ้โหคุณ..สวยจัง...อย่างนี้ค่อยสมหน่อยที่ลุกมาแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่”
ภาพิศหัวเราะ “เว่อร์ตลอดเลยคุณ” เดินมาหาลูกอุ้ม “แม่ไปงานแต่งพี่กาวก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่มา....” หันมาพูดกับแฉล้ม “ฝากลูกด้วยนะคุณ”
แฉล้มอุ้มลูกของภาพิศไว้ ภาพิศเดินออกไป ก่อนจะหันหน้ามาถาม ท่าทางเศร้าสร้อย
“ถึงลูกจะไม่ยอมรับฉัน..แต่ฉันไม่ผิดใช่มั้ยคุณแฉล้มที่จะไปแสดงความยินดีกับลูก”
“ไม่ผิดหรอก...ไม่ว่ายังไง คุณก็คือแม่ของลูกอยู่ดี” แฉล้มยิ้มให้กำลังใจ
ภาพิศยิ้มขื่นเดินออกไป

ภายในห้องแต่งตัวเจ้าสาวที่โรงแรม ช่างแต่งหน้า และช่างผม กำลังเสริมสรวยให้กรรณนรี ซึ่งอยู่ชุดไทย สีเหลือบทองขับผิวสีขาวผ่องของกรรณนรี จ๋า มะยม และนิค มองกรรณนรีตะลึง
“สวยมากกกก วันนี้กาวสวยที่สุด”
นิคบอก “คุณสรวงเห็นต้องตะลึงแน่ๆ”
“นั่นน่ะสิ เพื่อนสวยมากก สวยจริงๆ สวยจนอยากเห็น เจ้าบ่าวจะหล่อขนาดไหนเนี่ย” มะยมแซว
“ว่าไง...อยากเห็นเจ้าบ่าวหรือเปล่ากาว” จ๋าถาม
กรรณนรีไม่ตอบแต่พยักหน้าอย่างอายๆ

สรวงอยู่ในชุดสูทเจ้าบ่าวหล่อเนี้ยบ อารักษ์ชมไม่ขาดปาก
“วันนี้ลูกพ่อหล่อมากๆ หล่อที่สุดเลย”
สรวงยิ้มแป้น “คุณพ่อก็หล่อครับ”
อารักษ์หัวเราะชอบใจ “หล่อยังไงก็ไม่เท่าเจ้าบ่าว...” เบาเสียงลง “แล้วแม่...ว่าอะไรหรือเปล่า”
สรวงหน้าเศร้าทันที “เมื่อเช้าก่อนออกมา แม่บอกให้พ่อมีความสุข....ผมสงสารแม่...ถ้าแม่รู้ความจริง ผมกลัวแม่จะโกรธ”
“ค่อยขอโทษแม่..แต่ถึงตอนนั้นลูกกับกาวก็เป็นสามีภรรยากันแล้วล่ะ พ่อไม่ห่วงอะไรแล้ว”
สรวงซาบซึ้ง “ขอบคุณครับพ่อ...ที่ทำเพื่อผม”
“ก็สรวงเป็นลูกพ่อนี่ลูก...พ่อรักสรวง”
อารักษ์กอดสรวง.. นพยืนมองอยู่บอกอย่างยินดี
“พี่ดีใจด้วยนะสรวง”
“ขอบคุณมากครับพี่นพ”
สรวงกอดนพขอบคุณ
สุขหฤทัยกับสมหญิงยืนมองอยู่ที่ด้านหลัง

ขณะที่สมหญิงกับสุขหฤทัยเดินออกมาด้วยกัน สุขหฤทัยยิ้มร้ายก่อนหยิบมือถือออกมา
ส่วนที่บ้านอริยวรรต สุดาในชุดทะมัดทะแมงเดินรดน้ำต้นไม้ท่าทางเบิกบานมีความสุข
มือถือดัง สุดารับสาย “ว่าไงจ๊ะฤทัย”
“วันนี้คุณหญิงแม่ไม่มางานเหรอคะ”
สุดายิ้ม “ไม่รู้จะไปดงคนบาปทำไม? สู้อยู่บ้านรดน้ำต้นไม้ยังดีซะกว่า”
“แต่คุณหญิงแม่ต้องมานะคะ”
สุดาชะงัก “ทำไมลูก”
“ก็คนที่จะแต่งงานกับยัยกรรณนรีคือสรวง ไม่ใช่คุณพ่อค่ะ”
“สรวงจะแต่งงานกับนังกรรณนรี”

สุดาตกใจแทบล้มทั้งยืน ดวงหน้าซีดเผือด แต่นัยน์ตาวาวโรจน์ มือที่จับมือถือเกร็งแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน
เกริก กาวินทร์ พากรรณนรีในชุดแต่งงานสวยงามเฉิดฉายเดินออกมา ในจังหวะที่ภาพิศเดินเข้ามา สองฝ่ายเผชิญหน้ากัน

“นุดี”
ภาพิศยิ้ม “วันนี้กาวสวยเหลือเกิน แม่มาแสดงความยินดีกับลูก นี่จ้ะกาว...ของขวัญ”
ภาพิศเปิดกล่อง หยิบสร้อยเพชรเลอค่ายื่นให้ กาวินทร์ และเกริก ยืนอึ้ง ไม่มีคำพูดใดๆ หลุด
ออกมาซักคำ เกริกตอบแทน
“ขอบใจมากนุดี...”
ภาพิศกลั้นน้ำตา “สมบัติชิ้นเดียวที่เป็นของแม่จริงๆ...แม่ขอสวมให้ลูกได้มั้ย”
กาวินทร์ กับกรรณนรีมองหน้ากันอึ้งๆ เกริกพยักหน้าให้กรรณนรี
“ให้แม่สวมให้ลูก”
กรรณนรีค่อยๆ หันหลังให้ ภาพิศสวมสร้อยให้น้ำตาไหลริน กรรณนรีน้ำตารื้นแต่ข่มไว้บอกเสียงแผ่วๆ
“ขอบคุณค่ะ”
กาวินทร์กับ เกริก พากรรณนรีเดินไป ภาพิศเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ
“แม่เจ็บ...แม่ปวด ที่วันนี้ไม่ได้อยู่ในฐานะแม่ของเจ้าสาว...แต่มันก็ยังไม่เจ็บปวดเท่ากับที่ลูกรังเกียจ ลูกไม่ยอมรับว่าแม่คือแม่”
สามพ่อลูกหันมามอง ภาพิศฝืนยิ้มให้
“แต่ไม่เป็นไร แม่เข้าใจจ้ะ..แม่จะทำทุกอย่าง จนกว่าแก้ว กับกาวจะให้อภัย”
กาวินทร์และ กรรณนรีมองหน้าภาพิศ ดวงตาอ่อนลง ท่ามกลางภาวะอึดอัดมะยมวิ่งมา
มะยมยกมือไหว้ภาพิศ “กาว ท่านอารักษ์ให้มาตาม...ได้ฤกษ์แล้ว”
เกริก พา กาวินทร์ กับกรรณนรีเดินออกไปพร้อมมะยม ภาพิศยืนน้ำตาไหลยิ้มปลื้ม

บรรยากาศของงานแต่งงาน หรูหรา และอลังการ บุญยิ่งซึ่งวันนี้อยู่ที่ต่างประเทศโทร.มายินดีกับอารักษ์
“ดีใจด้วยว่ะที่สรวงแต่งงาน ทีแรกฉันตกใจหมด นึกว่าแกจะแต่งเองซะแล้ว”
อารักษ์ทำท่ากระซิบยิ้มๆ “ต้องสับขาหลอกกันนิดนึง บอกตามตรงว่ากลัวเมียว่ะ”
“ไม่เป็นไรมั้ง เนื้อแท้คุณหญิงสุดาก็เป็นคนดี อีกหน่อยเห็นหน้าหลานก็หายโกรธแล้ว” บุญยิ่งว่า
อารักษ์หัวเราะ “หวังว่าฉันจะมีชีวิตอยู่จนถึงวันนั้นนะ บอกตรงๆ กลัวว่ะ”
สองคนหัวเราะกันสนุกสนานไม่ได้ถือเป็นจริงเป็นจัง ขณะที่บุญยิ่งบอก
“ขอให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดีนะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปร่วมงาน ติดต่อหาที่เรียนให้ภรตยังไม่เสร็จเลย”
“ไม่เป็นไร กลับมาเมื่อไหร่ค่อยฉลองกัน”
“โอเคๆ ฝากแสดงความยินดีกับสรวงด้วยแล้วกัน”
“โอเค...แล้วเจอกัน” อารักษ์บอก
อารักษ์กับบุญยิ่งวางสาย มาลินีเดินมาคนเดียว ท่าทางเด๋อๆ ด๋าๆ ตัดรับภาพ
อีกมุม สุขหฤทัยเดินมากับสมหญิง สุขหฤทัยเห็นมาลินีก็ชะงักคิดแค้นอยู่ในใจ
“นังมด! กะจะมาอ่อยแก้วล่ะสิแก”
สุขหฤทัยเดินตามมาลินีเข้าไป

มาลินีเดินอย่างหงอยๆ เข้าไปข้างในคนเดียว โดยไม่เห็นใครที่รู้จัก สุขหฤทัยตามมาเยาะเย้ย
“ถ้าฉันเป็นเธอฉันไม่มาหรอก”
มาลินีมองมาด้วยความสงสัย ฤทัยมองยิ้มเยาะ
“เพราะฉันคงทำใจไม่ได้...ที่ไม่มีคนสนใจ ขนาดแก้ว...ก็ยังไม่มาให้เธอเห็นหน้า”
มาลินีเชิดไม่ยอมแม้ในใจจะเจ็บปวดเพราะคิดว่ากาวินทร์รักสุขหฤทัย
“ดิฉันมาแสดงความยินดีกับกาว ไม่ได้มาหาพี่แก้ว”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 19 วันที่ 2 พ.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager