@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15/3 วันที่ 22 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15/3 วันที่ 22 ต.ค. 55

“งั้น...คงเดินเล่นอยู่มังคะ ที่นี่วิวสวย อากาศดี”
“ไม่พูดบ้างได้มั้ย...ฉันรำคาญ”
ภาพิศเสียใจมองมา แววตาเจ็บปวดร้าวราน “ภาต้องพูดค่ะ...ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลยเถิดขนาดนี้”
อารักษ์เยาะหยัน “จะเจ็บปวดอะไรของเธอ ภาพิศ...ก็ในเมื่อฉันบอกเลิกเธอแล้ว..มีแต่เธอที่ไม่ยอมไปซักที”
ภาพิศ เห็นธาตุแท้อารักษ์มากเท่าไหร่ก็ยิ่ง เกลียดชัง “ภาก็อยากไปจากท่านเต็มทีแล้วค่ะ”
อารักษ์ไล่ส่ง “ก็ไปสิ”
“ไปแน่ค่ะ...แต่ท่านต้องฟังความจริงจากปากภาก่อน”

“มะ..อยากพูดอะไรเธอพูดมา...จะได้ไปๆ ซักที” อารักษ์วางท่าหงุดหงิดอย่างน่าเกลียดมาก
“ท่านรู้มั้ยคะ...ความจริงแล้วศุภาวีร์เป็นใคร”
อารักษ์ทำหน้ายียวน “เป็นใคร? ก็เป็นผู้หญิงที่ฉันรัก ฉันอยากได้ไง”
ภาพิศเจ็บปวดเหลือแสน “ไม่ได้นะคะท่าน...ศุภาวีร์คือ...”
สุดาเดินเข้ามาขัดคอ “คุยอะไรกันอยู่คะ”
“เรื่องหนูศุ....นี่...” อารักษ์จับมือสุดามากุมพูดออดอ้อนราวกับเด็กจะเอาของเล่น “คุณหญิง ใจคอผมร้อนรุ่นทุรนทุรายเหมือนกับมีไฟเผา คุณหญิงต้องจัดการให้ผมได้เข้าหอกับหนูศุเร็วๆ นะ”



“ได้สิคะ....” สุดาหันมาทางภาพิศ “นะคะคุณน้องเพื่อท่าน...เราต้องช่วยกัน”
ลึกลงไปในสีหน้าภาพิศมีแต่ความเกลียดชัง คำรามอยู่ในใจ
“ใครทำอะไรลูกฉัน ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลย”
สุดามองจ้อง ภาพิศจำต้องยิ้มเยื้อนไปกับสุดา

ภาพิศเดินหลบมุมมาคุยโทรศัพท์กับกุนซือแฉล้ม ที่อยู่ในห้องพัก
“คุณแฉล้ม..สองผัวเมียวิปริตนั่น ยังไงก็เอาจริง...คุณจัดการตามแผนได้เลย”
“ได้เลยค่ะคุณภาพิศ คุณอย่าเผลอดื่มเครื่องดื่มบนโต๊ะแล้วกัน”
ภาพิศรับคำ “ค่ะ...”

แฉล้มวางสายมองไปที่ตรงมุมห้อง เห็นขวดเครื่องดื่มมึนเมา วางเรียงรายอยู่มากมาย สงครามและการทวงแค้นของภาพิศกำลังเริ่มขึ้น
เวลาเดียวกัน กาวินทร์ นิค มะยม และนพ ทั้งสี่คนเดินมาตามทางในรีสอร์ท แต่ละคนต่างมีอาการไม่สบายใจนัก และดูสีหน้าออกว่าเป็นกังวลกับบรรยากาศที่แสนอึมครึมและเริ่มมาคุ

“เท่าที่ผม สังเกตการณ์ดูก็ไม่เห็นมีอะไร....หรือพี่แก้วว่าไง” นิคเอ่ยขึ้น
กาวินทร์นิ่ง สีหน้าแววตาใคร่ครวญครุ่นคิดหนัก ยังติดใจสงสัยไม่คลายเรื่องที่ภาพิศรู้แล้วว่ากรรณนรีเป็นลูก แต่ภาพิศคิดจะทำอะไรกันแน่
มะยมถามซ้ำ “ว่าไงพี่แก้ว”
“อะไร” กาวินทร์งงๆ
“นิคบอกว่า...เท่าที่สังเกตดู..ก็ไม่เห็นมีอะไรก็ทุกคนก็มาพักผ่อนกันครับ” นพว่า
นิคหมั่นไส้ มองนพตาขวาง “นี่คุณ..คำพูดผม...ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้..ผมพูดเองก็ได้”
มะยมปราม “เฮ้ย! นิค มีมารยาทหน่อย”
“ก็จริงนี่...ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ ทำไมต้องแย่งฉันพูด” นิคเถียง พลางมองจ้องนพ พูดเหน็บ “นี่ไม่ใช่ตลกนะครับ คนหนึ่งชงคนหนึ่งจะได้คอยตบมุขน่ะ”
“ผมขอโทษครับ..ผมเสียมารยาทจริงๆ...แค่อยากมีส่วนร่วม” นพจ๋อย
“ก็ไปร่วมกับคุณสรวงสิครับ ที่คุณนพมานี่เพราะห่วงคุณสรวงไม่ใช่เหรอ? แต่นี่อะไร เห็นตามติดแต่กับมะยม” นิคบอก
มะยมเตือนสตินิคอีก “ นิค..เกรงใจพี่แก้วมั่งสิ...เรามาเรื่องกาวกันนะ ต้องช่วยกันสิ” หันมาทางกาวินทร์ “ใช่มั้ยคะพี่แก้ว?....ต้องมีอะไรแน่ ไม่งั้นกาวคงไม่ยอมมา”
กาวินทร์นิ่งงันไป ไม่กล้าตอบ เพราะไม่ได้เล่าเรื่องหมดเปลือก

เวลาเดียวกันที่กรุงเทพฯ เกริกกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน สองป้าขาเม้าท์ในชุดสุดเจ็บ! เดินมาหา ทำท่าชะโงกมอง เกริกเห็นจึงทักทาย
“ว่าไงป้า”
“ตกลง..วันนั้นใช่นุดีมั้ยที่มา” จักจั่นถามเรื่องคาใจ
เกริกหัวเราะไม่ใส่ใจ “ไม่รู้...ไม่ได้สนใจ”
สองป้าทำท่าฮึดฮัด ว่าต้องใช่แน่...เกริกมอง สองป้ารีบกลบเกลื่อน
ตั๊กแตนเอ่ยขึ้น “แล้วอยู่คนเดียวเหรอ? ทำไมบ้านเงียบจัง”
“ลูกไปทำงาน...อยากรู้อะไรอีกมั้ยจะได้บอก” เกริกย้อนถามเป็นเชิงตัดบท
“ไม่แล้วๆ” จักจั่นหันมาพูดกับตั๊กแตน “ไป..ป้าตั๊กแตนไปตลาด”
สองป้าเดินไป เกริกพูดตามหลัง
“แหม้...อยากรู้เรื่องชาวบ้านซะจริง” พลางนิ่งนึก “ถึงไหนแล้วเนี่ยกาว”
เกริกควักมือถือมากดโทร.หา
กรรณนรีอยู่ในห้องที่รีสอร์ท มือถือที่อยู่ในกระเป๋าถือของกรรณนรีดัง แต่เจ้าตัวไม่อยู่
เกริกกดใหม่ คราวนี้โทร.หามะยม เสียงมือถือดังมะยมมองมือถือสะดุ้ง
“พี่แก้ว..พ่อพี่โทร.มา”
กาวินทร์พยักหน้าให้รับ มะยมรับสาย
“คะคุณลุง”
“ถึงหรือยังลูก” เกริกถามอย่างเป็นห่วง
“ถึงแล้วค่ะ”
“ลุงฝากกาวด้วยนะ....เป็นไม่รู้..กาวติดต่อไม่ได้อีกแล้ว”
มะยมรีบรับคำ “ค่ะ”
“ขอบใจจ้า” เกริกวางสาย บ่นพึมพำ “กาวนะกาว ชอบทำให้พ่อเป็นห่วงซะจริง”

ท่าทีของเกริก ดูกังวลใจและเป็นห่วงกรรณนรีมาก
สี่คนเดินมาคุยกันมา ท่าทางนิคยังหมั่นไส้นพอยู่ และนพยังคงเดินประกบข้างมะยมตลอด

“ดีที่พ่อไม่ได้โทร.หาพี่..ไม่งั้นพี่ก็ต้องโกหกอีก...เราสองคนอย่าบอกพ่อเด็ดขาดนะ ไม่ว่าเรื่องอะไร”
“ค่” / “ครับ” นิคกะมะยมรับพร้อมกัน
“เดี๋ยวพี่จะเข้าไปข้างใน”
มะยมกะนิคบอกพร้อมกัน “ผมไปด้วย” / “มะยมไปด้วย”
“เนียนๆ นะ” กาวินทร์กำชับ
“ครับ” / “ค่ะ” สองคนรับปาก ทำท่าจะเข้าไป
“มะยม ผมไปด้วย” นพบอก
มะยมยิ้ม นิคมองนพแปลกๆ ชักจะยังไงๆ
“ผมว่าคุณไปหาคุณสรวงมั่งดีกว่ามั้ยครับ” นิคออกอาการฉุน แล้วเดินไป
มะยมเห็นด้วย “คุณนพไปหาคุณสรวงมั่งก็ได้ค่ะ”
นพหน้าเจื่อน “ไม่ได้หรอกครับ..ที่ผมมาที่นี่ สรวงยังไม่รู้เลย”
มะยมอึ้งร้อง “อ้าว”
“ที่ผมตามมา...เพราะผมเป็นห่วงมะยม” นพบอกเสียงนุ่ม สายตาลึกซึ้ง ในท่าทีจริงจัง
มะยมมองนพอย่างตกใจ ถึงจะรู้ว่าถูกเค้าจีบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นพแสดงออกว่าห่วงว่าแคร์มากมาย
นิคเองก็ได้ยิน เหลียวหลังกลับมามองอย่างไม่พอใจ
“ถ้าไม่ติดว่าต้องสืบเรื่องคุณสรวงกับกาว ตั๊นหน้าไปแล้ว”
นิคได้แต่ฮึดฮัดเอากับตัวเอง

ท่ามกลาง สถานที่สวยๆ ของรีสอร์ท สรวงกับกรรณนรีนั่งอยู่ด้วยกัน สรวงกอดกาวเอาไว้
“ฉันอยากอยู่กับเธออย่างนี้ตลอดไป”
กรรณนรีมองสรวงหน้าเศร้า “ขอให้คุณสรวงรู้สึกอย่างนี้ตลอดไปนะคะ”
สรวงมองตอบ บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกฉันได้”
“ความแน่นอน คือความไม่แน่นอนค่ะ วันนี้รัก...พรุ่งนี้อาจเกลียด”
“แต่ฉันจะรักเธอตลอดไป...” สรวงกระชับกอดแน่นขึ้นอีก “จริงๆ แล้วฉันอยากบอกพ่อ...บอก
ให้รู้ว่าเราสองคนรักกัน”
“อย่าค่ะ...”
“ทำไม?” สรวงฉุนคลายวงแขน “เธอกลัวแผนบ้าๆ บอๆ ของเธอจะไม่สำเร็จ....หรือความ
จริง เธอกลัวจะหลุดจากตำแหน่งคนโปรดของพ่อฉันกันแน่”
กรรณนรีหนักใจ “คุณสรวง...”
“ยิ่งรัก ..ฉันก็ยิ่งระแวง และฉันก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เธอทำกรรณรี”
สรวงหงุดหงิดเดินฮึดฮัดจากไป กรรณนรีเดินตาม

จากบ่ายคล้อยกลายเป็นเย็นย่ำ ทางด้านอารักษ์ บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ฉันเดินหาจะทั่วรีสอร์ทแล้ว ก็ไม่เห็นหนูศุ หรือหนูศุจะกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วถ้าหนูศุกลับไปจริงๆ พวกเธอต้องรับผิดชอบ”
สุดากับภาพิศมองอารักษ์ ดวงตาเกลียดชังอย่างเปิดเผย สุขหฤทัยกระซิบ
“ทำไมคุณลุงเป็นคนอย่างนี้คะ”
สุดาปรามเบาๆ แต่น้ำคำเข้ม “ก็นี่ล่ะผู้ชาย”
ภาพิศอดพูดไม่ได้ “เห็นแก่ตัว”
สุขหฤทัยเห็นสรวงมากับกรรณนรีก็ร้อง “ว้าย”
สุดายังไม่เห็นจึงเอ็ดเอา “ร้องอะไรอีก ฤทัย แสบแก้วหู”
“สรวง...สรวง..สรวงกับนังศุภาวีร์”

ทุกคนหันขวับ เห็นสรวงเดินมาพร้อมกับกรรณนรี อารักษ์ลมเพชรหึงตีเข้ากลางหน้าโกรธขึ้นมาอีก
“ไหนบอกว่าแกกลับกรุงเทพฯ ตกลงแกพาหนูศุไปใช่มั้ยสรวง”
“ถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะครับ” สรวงย้อน
อารักษ์ตวาด “ไอ้สรวง”
พร้อมกันนั้นอารักษ์จะต่อยหน้าสรวง ภาพิศกับสุดาปราดเข้ามาล็อกตัวอารักษ์เอาไว้ ร้องห้ามพร้อมกัน
“อย่าค่ะอย่า”
สรวงหัวเราะหยัน บอกแค่นๆ “ผมแค่ล้อเล่น...คุณพ่อเป็นฟืนเป็นไฟไปได้...ปีนี้คุณพ่ออายุ
60 แล้วนะครับ ไม่ใช่ 16” จากนั้นก็เดินหนีไป
อารักษ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ไอ้สรวง ไอ้สรวง..แกด่าฉันไอ้สรวง”

มะยม นิค นพ และกาวินทร์มองดูเหตุการณ์กันอยู่ตรงมุมหนึ่งไม่ไกลนัก
ที่สี่คนผละออกมา กาวินทร์พูดออกมาเบาๆ

“ทำตัวไม่ให้ลูกเคารพจะว่าใครได้ ต้องโทษตัวเอง สงสารก็แต่คุณสรวง”
“แต่มะยมว่ายังไงกาวก็เสี่ยงเกินไป ที่เอาตัวเข้าไปพัวพันอย่างนั้น”
“มันมีเรื่องราวลึกๆ ที่พี่บอกพวกเราไม่ได้ แต่ขอให้รู้..มันจำเป็นต้องเสี่ยง..ถ้าทุกอย่างจบลง พี่..กาว จะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีก” กาวินทร์ว่า พลางบอกตัวเองในใจ “ความเลวของแกต้องปรากฏ นังคุณหญิงสุดา”
ดวงตากาวินทร์วาวโรจน์ เกลียด และอาฆาตแค้นสุดามาก

ปาร์ตี้ยามเย็น บรรยากาศมาคุ พ่อลูกหมางเมิน ปั้นปึ่งใส่กัน อารักษ์อยู่มุม สรวงอยู่อีกมุม สุขฤทัยหันหน้ามองสองคน พูดกัดออกมาเบาๆ ประสาคนปากไว
“ตาย..เหมือนอยู่ในดงผีดิบ
ภาพิศเติมให้ “ดงคนบาป”
สุดาแขวะ “ก็บาปกันหมดทุกคน...แต่พี่ว่าคุณน้องบาปที่สุดนะคะ...เพราะถ้าคุณน้องไม่เข้ามายุ่ง ครอบครัวพี่ก็ไม่พังทลายแบบนี้”
ภาพิศเย้ยหยันอยู่ในที “จะโทษน้องฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะคะคุณหญิงพี่ เพราะต่อให้น้องไปตามตื้อแค่ไหน ถ้าท่านไม่เปิดใจให้ น้องก็คงไม่อยู่ในฐานะภรรยาอีกคนเหมือนกัน”
“ถูกค่ะถูก..แต่คนที่น่าสงสารที่สุดคือคุณหญิงแม่..เพราะถ้าคุณกับคุณพ่อไม่ร่วมกันสวมเขา คุณหญิงแม่ก็ไม่ทุกข์ขนาดนี้”
“ทุกข์แค่ไหนแม่ทนได้...แต่ที่แม่ทนไม่ได้ เพราะเห็นตาสรวงทุกข์ใจ...ยังไงคุณน้องก็เข้ามาทำลายครอบครัวของพี่....ไหนจะนังศุภาวีร์อีก”
ภาพิศหันไป เห็นกรรณนรีนั่งจ๋อยจ๋องอยู่อีกมุม ปรายตามองสรวงเป็นระยะ ในดวงตาคู่นั้นบอกว่าแคร์สรวงเหลือแสน
สุดาเอ่ยขึ้น
“ฤทัยไปตามสรวงมาหน่อยไปลูก พ่อก็ไม่รัก..แม่ไม่อยากให้สรวงคิดมาก..ว่าแม่ก็ไม่รักอีก”
“ได้ค่ะ”
สุขหฤทัยลุกเดินไปตามสรวง

สุขหฤทัยเดินมาหาสรวง ที่นั่งหน้าเครียดอยู่ เอามือคล้องแขนแสดงความเป็นเจ้าของ
“มานั่งอยู่คนเดียวทำไมคะ? ไปสนุกกันดีกว่า..ฤทัยอยากฟังสรวงร้องเพลง”
สรวงนิ่งเฉย สุขหฤทัยอ้อนอีก
“นะคะสรวง...เล่นกีตาร์ ร้องเพลง ให้ฤทัยฟังหน่อย เดี๋ยวฤทัยไปหยิบกีตาร์ให้นะ...”
สุขหฤทัยเดินคล้องแขนสรวงออกไป
สรวงเหลียวหันกลับไปมอง เห็นสายตาละห้อยของกรรณนรีที่มองมา

นพเดินมากับมะยมท่าทีสนิทสนม นิคเดินมาด้วยมองตาขวาง พูดเหน็บ
“คุณนพ..ขอผมตัวมะยมไปช่วยกาวได้มั้ยครับ..คุณจะตามมะยมไปถึงไหน”
นพอึ้งมองมะยมตาละห้อย มะยมขอตัว
“เดี๋ยวมะยมมาค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมรอแถวนี้นะครับ”
“ค่ะ”
มะยมกับนิคเดินออกมา นิคถามเสียงขุ่น
“แกกับไอ้คุณนพมันยังไงวะมะยม” นิคถามตรงๆ
“จะยังไง? ถามอะไรไร้สาระ..รีบไปหากาวเร็ว เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยทัน”
มะยมเดินเลี่ยงไป นิคตามติด สีหน้าไม่สบายใจ

เย็นย่ำจวนค่ำเต็มที บรรยากาศตรงบริเวณลานปาร์ตี้ ที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เริ่มคึกคัก
กรรณนรีง่วนอยู่กับการจัดอาหาร อารักษ์คอยป้วนเปี้ยนแต๊ะอั๋ง โดยมีภาพิศคอยคั่นกลางตลอดเวลา เพราะหวงลูกสาว
เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในสายตาของสุดาที่มองอย่างจับสังเกตตลอดเวลา
ระหว่างนั้นสรวงเดินเข้ามาพร้อมสุขหฤทัย สรวงถือกีตาร์มาด้วย
“ปาร์ตี้วันนี้ สรวงจะร้องเพลงให้เราฟังด้วยนะคะ...”
กรรณนรีหันมามอง สุขหฤทัยถามกรรณนรี ด้วยน้ำเสียงแสนซื่อไร้เดียงสา แต่แอบเหน็บทุกวลี
“ศุอยากฟังเพลงอะไรจ๊ะ? วันทอง เธอมันง่ายเอง”
“คุณสรวงอยากร้องเพลงอะไรก็ร้องเถอะค่ะ” กรรณนรีบอก
สรวงจ้องหน้าอารักษ์ “เพลงอะไรดีครับพ่อ”
อารักษ์เหน็บ “อยู่เฉยๆ จะดีกว่า”
“แต่ฤทัยอยากฟัง สรวงเล่นให้ฤทัยฟังหน่อยนะคะ”
สรวงลีดกีตาร์แผดเสียงกวนๆ ขึ้น อารักษ์หันมามอง สรวงจำใจต้องเล่นดีๆ ชายหนุ่มเลือกเพลงอกหัก ประชดประชันเสียดสีกรรณนรี สองคนมองหน้ากันอย่างร้าวรานใจ ขณะที่อารักษ์มองตาขวาง พูดแขวะลูกชาย
“จะหอนอะไรเนี่ย ก็บอกว่าไม่อยากฟัง”
สรวงสวนออกมา “แต่ผมอยากร้อง”
“เอ๊ะ! จะให้ฉันเอากีตาร์เขวี้ยง” อารักษ์เสียงดัง
มะยมกับนิคแอบมองเหตุการณ์อยู่ สองคนทำท่าสยอง กลัวจะมีเรื่อง ลุ้นๆ
“อย่าค่ะท่าน” / “อย่าค่ะคุณ” ภาพิศ กับสุดาห้าม
“คุณจะเผด็จการกับลูกไปถึงไหน ระวังนะคะ..ตายไปจะไม่มีคนไปเผาผี” สุดาแขวะ
อารักษ์พูดอย่างวางอำนาจ “ดี..จะได้เป็นสัมภเวสีมาหลอกคนอกตัญญู ป่ะ..หนูศุ..ไปที่อื่นดีกว่าเห็นหน้าเจ้าสรวงแล้วหมดอารมณ์”
สรวงกวน พูดต่อล้อต่อเถียง “อารมณ์อะไรครับ”
“ไอ้สรวง” อารักษ์ของขึ้น
อารักษ์จะถลันเข้าหาสรวงอีก สุดากับภาพิศรีบเข้ามาห้าม
สองคนประสานเสียง “อย่าค่ะ”
“ลูกนะคุณ ลูก” สุดาเตือนสติ
อารักษ์ไม่สนใจ หันไปพะนอเอาใจกรรณนรีต่อ “ปะ หนูศุ”

มะยมกับนิคหันมามองหน้ากัน
“เอาไงดีวะ” มะยมถาม
นิคบอกคำเดียว “ลุย!”

สองเกลอออกจากที่ซ่อน เดินตรงเข้าไปหาวงปาร์ตี้ทันที
บรรยากาศของปาร์ตี้มาคุสุดๆ สรวงจ้องกรรณนรีเขม็ง ขณะที่กรรณนรีได้แต่อ้ำอึ้ง อารักษ์ชวนไปนั่งอีกมุม

“ป่ะหนูศุ...ไปที่ๆของเรา”
กรรณนรีอึดอัด ได้แต่อึกอัก ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไง ภาพิศห่วงลูกสาวทำท่าจะเดินเข้ามา ห้าม แต่ถูกอารักษ์หันมาแหวใส่
“อย่าเข้ามาภาพิศ ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
มะยมกับนิคเดินเข้ามาได้จังหวะพอดี
“แล้วมันเรื่องของใครคะ?...” มะยมจัดแต็มทำท่ารังเกียจ ขยะแขยงกรรณนรีเต็มสูบ “ตามหามาตั้งนาน..ศุภาวีร์ที่ทำลายครอบครัวของคนอื่นคือใคร...ที่แท้ก็คือเพื่อนรักของฉันนี่เอง”
กรรณนรีงวยงง ทุกคนก็งง นิคถางถางใส่กรรณนรีชุดใหญ่
“คงอยากสบายมากสินะศุภาวีร์ ถึงยอมให้” นิคจงใจเน้นคำ “คนแก่คราวพ่อเลี้ยงน่ะ”
อารักษ์สะดุ้งตอนถูกนิคด่าว่าแก่ มะยมเหน็บต่อไม่เว้นช่องว่าง
“ถามจริง เธอไม่สงสารคุณหญิงบ้างเหรอ คุณหญิงเค้าแก่แล้ว..ปล่อยให้เค้าตายเองเถอะ อย่าให้เค้าหัวใจวายตายเดี๋ยวนี้เลย น่าสงสาร”
สุดาปรี๊ด ถูกด่าแก่แทบจะร้อง
นิคด่าต่อทันที “แกยังสาวยังสวย หาผู้ชาย...ดีๆ หนุ่มๆ หล่อๆ กว่าท่านอารักษ์ได้ตั้งแยะแยะ”
มะยมผสมโรง “ใช่...แต่คุณหญิงสุดา ทั้งแก่ทั้งเหี่ยว จะตายวันไหนก็ไม่รู้...ปล่อยท่านอารักษ์ให้คุณหญิงสุดาเถอะ”
สุดาเจอสองเกลอเข้าไปทำท่าจะเป็นลม สรวงวิ่งเข้ามาหา
“คุณแม่”
มะยมกะนิคเองก็ตกใจ เผลอด่าสุดาต่อหน้าสรวง ภาพิศได้ทีรีบว่า
“พวกเธอหลอกด่าท่าน..ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไป๊”
มะยมกับนิค เรียกกรรณนรีให้ตามมาเคลียร์ กรรณนรีสบโอกาสรีบตามออกไปอย่างรวดเร็ว ภาพิศได้ทีเข้าไปหาสุดากับอารักษ์เหน็บต่อ
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหญิงพี่..ดูซิ..หน้าตาเป็นผีลืมหลุมเลย”
“แอร๊ยยย...” สุดาได้แต่กรี๊ด ฮึดฮัดขัดใจอยู่อย่างนั้น

ขณะที่สุขหฤทัยแอบมองตามสามคนไปอย่างจับสังเกต

กรรณนรีวิ่งตามมะยมกับนิคมา เสียงกรี๊ดสุดาดังมาถึงที่นี่ สามคนอุดหู
“โอ้โห! คุณหญิงสุดากินจิ้งหรีดเข้าไปทั้งฝูงรึไง เสียงแสบแก้วหูที่สุด” มะยมว่า
“นั่นน่ะสิ...สงสัยจะช็อกตายไปแล้ว” นิคส่ายหัว
“เฮ้ย! อย่าพูดอย่างนั้นสงสารคุณสรวง ตะกี้ฉันก็เผลอด่าไปหลายคำเลย” มะยมรู้สึกแย่
กรรณนรีเสียใจเหมือนกัน “คุณสรวงน่าสงสารที่สุด มะยม นิค ฉันไม่ได้มีอะไรกับท่านจริงๆ นะ”
มะยมบอก “ฉันรู้แล้ว”
กรรณนรีงง “รู้ได้ยังไง”
“พี่แกเล่นไม่พูดไม่จา...มะยมมันเลยไปหาพี่แก้ว” นิคว่า
“ฉันตั้งใจจะบอกพวกแกตั้งหลายที แต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้บอกซักที”
“ช่างเถอะมันผ่านไปแล้ว มาวันนี้ถือว่าได้ของแถม ด่าคนเล่น สะใจดี”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15/3 วันที่ 22 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager