@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 16/2 วันที่ 24 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 16/2 วันที่ 24 ต.ค. 55

สรวงยื้อมือไว้ “ยังจะปากแข็งอีก”
“ก็ฉันไม่ได้ห่วงคุณจริงๆ นี่”
“แล้วมาห่มผ้าให้ฉันทำไม? นี่...ถ้าจะห่วงฉันขนาดนี้..ให้ฉันเข้าไปนอนในห้องด้วยแล้วกัน”
สรวงพูดเพียงเท่านั้น ก็ลุกขึ้นอุ้มกรรณนรีจนตัวลอย พาเดินเข้าไปในห้องทันที

สรวงวางร่างกรรณนรีลงบนเตียงนอน ทันทีที่ตัวสัมผัสกับเตียง กรรณนรีลุกนั่งพรวดพร้อมกับกระถดตัวหนี สรวงยิ้มตาหยี
“ทำไม? รีบหนีเชียว..กลัวอดใจไม่ไหว แล้วปล้ำฉันเหรอ”
“มีแต่คุณน่ะแหละ จะปล้ำฉัน”

สรวงแกล้งทำเป็นโกรธ “คนอย่างฉันไม่เคยปล้ำใคร” ยิ้มกริ่ม “แต่จะปล้ำเธอ” สรวงก้าวเตียงทำท่าจะพุ่งเข้าใส่
“อย่าคุณสรวง”
กรรณนรีพูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุดตัวแข็ง เมื่อสรวงคว้าร่างมากอด สรวงกับกาวมองจ้อง
ตากัน สรวงค่อยๆ โน้มก้มลงจูบที่หน้าผาก ไล่เรื่อยลงมาที่จมูก กระซิบเสียงแผ่ว
“ฉันรักเธอ...นอนนะกรรณรี”
สรวงกอดกรรณนรีแล้วหลับตาลง ขณะที่กรรณนรีนอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับเยื้อน คอยชำเลืองมอง
สรวงตลอดเวลา



ไม่นานนักกรรณนรีสังเกตุเห็นลมหายใจของสรวงสม่ำเสมอ ชายหนุ่มหลับแน่แล้ว กรรณนรีค่อยๆ ผ่อนคลายลง มองหน้าสรวง ยิ้มนิดๆ ในแววตา ก่อนจะซบหน้าลงกับอกแกร่งของสรวง หลับไปเช่นกัน
แสงสีทองเรื่อเรือง ส่องสว่างบนโค้งฟ้าไกลออกไปลิบตา บรรยากาศยามเช้าในรีสอร์ทแสนสดใส สุดา อารักษ์ และสุขหฤทัย เดินออกมาจากเรือนที่พักด้วยท่าทางสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

“ได้นอนเต็มอิ่มทั้งคืน สดชื่นจังเลยนะคะคุณหญิงแม่”
สุดายิ้มแย้ม “ใช่จ้ะ...ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยได้นอนเต็มตาซ้ากกกคืน”
“ก็อาจจะเป็นไปได้ค่ะ...ว่าแต่ฤทัยสงสัยจัง ทำไมเมื่อคืนเราหลับเร็ว” สาวแสบนึกขึ้นได้
อารักษ์เห็นด้วย “นั่นน่ะสิ... เสียดาย”
สุขหฤทัยไม่รู้เรื่อง “เสียดายอะไรคะ”
“ก็เสียดาย.....เออน่า...แล้วนี่หนูศุยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เดินไปทางห้องพักกรรณนรี
“คุณจะไปไหน” สุดาสงสัย
“ไปปลุกหนูศุไง” อารักษ์เดินไปเลย
สุขหฤทัยตาโตเป็นไข่ห่าน “คุณหญิงแม่..อย่าบอกนะว่าคุณพ่อ..จะ...นังกรรณรีตอนเช้า”
“ก็คงประมาณนั้นล่ะ” สุดาเหยียดยิ้ม

กรรณนรีรู้สึกตัวจะลุกขึ้น แต่สรวงรวบร่างกอดเอาไว้
“คุณสรวง ออกไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ช่าง...”
“ไม่ได้นะคะคุณสรวง ลุกๆๆ” กรรณนรีฉุดสรวงลุก
“ไม่ลุก...”
สรวงฉุดกรรณนรีไว้ จนร่างกรรณนรีล้มลงบนตัวสรวงใหม่ สรวงกอดเอาไว้แน่นไม่ให้ไปไหน

ส่วนอารักษ์เดินดิ่งตรงเข้ามาใกล้เรือนพักกรรณนรีทุกทีๆ กาวินทร์ในคราบคนงานรีบมาขวาง
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร”
กรรณนรี กับสรวงได้ยินชัด สองคนสะดุ้ง และได้ยินกาวินทร์ถามต่อ
“ท่านเป็นเจ้าของรถ.....” กาวินทร์บอกเลขทะเบียนไป “หรือเปล่า”
“ใช่..มีอะไร”
“รถท่านยางแบนครับ”
อารักษ์ชะงัก “ยางแบน..แบนได้ยังไง?? โอ้ววว” ก่อนจะเดินหัวเสียออกไป
กาวินทร์มองตาม คิดในใจ “พี่ไม่ให้ไอ้แก่หัวงูเข้าใกล้แกเด็ดขาดกาว”

สองคนฟังเหตุการณ์อยู่ในห้อง พอทุกอย่างเงียบกรรณนรีรีบผลักสรวงออกบอกหน้าตาซีเรียส
“ออกไปได้แล้วค่ะ”
“ก็ได้” สรวงยื่นหน้ามาหอมแก้มกรรณนรีอย่างไว “ชื่นใจ”
สรวงเดินออกไปแล้ว กรรณนรีถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจะอมยิ้มนิดๆ อย่างสุขใจ

ด้านอารักษ์เดินกลับมาบ้านพักบ่นอุบ
“ก็ไม่เห็นรถจะยางแบบที่ไหน”
“คนงานเดินมาบอกว่าเปลี่ยนยางให้แล้วค่ะ แต่ไม่ทันได้บอกคุณ” สุดาบอก
“อ้าวเหรอ?” อารักษ์งงๆ “ก็ไม่เห็นว่ายางจะใหม่”
ระหว่างนั้นสรวงเดินกลับมาในชุดเดิมที่ใส่เมื่อคืน ทุกคนงง
สุขหฤทัยทักก่อนใคร “อ้าว!เมื่อคืนสรวงไม่ได้นอนที่ห้องเหรอคะ”
“สรวงนอนไหนลูก” สุดาเองก็แปลกใจ
“อย่าบอกนะว่า...”
อารักษ์พูดไม่ทันจบคำ ภาพิศก็เดินเข้ามา “เมื่อคืนหลับสบายมั้ยคะคุณสรวง? พี่ขอโทษที่รบกวน”
“อะไรของเธอภาพิศ” สุดางง แหวใส่
“เมื่อคืนภาไม่ค่อยสบาย คุณสรวงเลยอยู่เฝ้าทั้งคืนค่ะ”

ไม่นานนัก สรวงเดินคุยมากับภาพิศ
“ขอบคุณมากครับที่ช่วย”
“พี่เห็นว่าคุณนอนเฝ้าหนูก้างที่หน้าห้องน่ะค่ะ”
สรวงมองตกใจไม่คิดว่าภาพิศจะเห็น
“เชื่อพี่หรือยังคะ..ว่าหนูก้างรักคุณ....น้องเค้าทำทุกอย่างเพื่อคุณจริงๆ ค่ะ”
ภาพิศบอกสรวงหน้าเศร้า ยิ่งพูดยิ่งสะท้อนใจ สงสารกรรณนรีจับใจ

สุดาตั้งข้อสังเกต ขณะคุยอยู่กับสุขหฤทัย
“แม่ว่านังภาพิศมันแปลกๆ”
“ฤทัยก็ว่าอย่างนั้นล่ะคะ”
“หรือว่ามันจะเป็นนกสองหัว”
“มันจะเป็นนกสองหัว ไปเข้าข้างนังกรรณนรีน่ะเหรอคะ? ไม่มีทาง”
“แต่แม่สังหรณ์ใจแปลกๆ หรือว่ามันจะรู้ว่านังกรรณรีเป็นลูกมันจะรู้ไม่รู้....ยังไงแม่ต้องรีบจัดการแม่ลูกมันให้เร็วที่สุด”

สองนางมารไม่สำเหนียกแม้สักน้อยว่า แฉล้มแอบฟังอยู่
ภาพิศหน้าตาบึ้งตึง อารมณ์โกรธแค้นขึ้นมาเป็นริ้วๆ หลังได้ฟังที่แฉล้มเล่า

“นังสุดามันเลวจริงๆ คุณต้องช่วยฉันนะ”
“ช่วยอยู่แล้ว วันๆ ฉันถึงได้ทำตัวเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนไปมา แอบฟังคนนั้นทีคนนี้ทีมาบอกคุณไง” แฉล้มว่า
“ฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครทำอะไรลูกฉันเด็ดขาด”
สีหน้าภาพิศแน่วนิ่ง

นิคกับมะยมเดินคุยกัน มะยมเปรยขึ้นว่า
“หรือว่าเราจะมากันเสียเที่ยว...ไม่เห็นจะต้องช่วยอะไรกาวมันเลย”
นิคได้โอกาสเหน็บ “เป็นเพราะแกไม่ได้สนใจกาวมันมากกว่ามั้ง”
มะยมมองนิคด้วยสีหน้าฉงน “อะไรของแก”
“ก็แกสนใจแต่คุณนพไง หรือว่าไม่จริง”
ขาดคำนพปร๋อเดินมา นิคเดินหนี ก่อนชะงักเสียงมือถือดังขึ้นก่อน นิคหยิบมือถือมา
“ครับพี่จ๋า...ครับผมจะไปเดี๋ยวนี้...” นิคหันกลับมาบอกมะยม “พี่จ๋าบอกมีงานด่วน ฉันจะกลับ
กรุงเทพฯ แกจะอยู่ที่นี่ต่อกับคุณนพก็ตามใจ” นิคประชดนิดๆ ก่อนจะเดินไปอย่างมีอารมณ์
“นิค..พูดบ้าๆ ฉันก็กลับกับแกสิ คุณนพคะ..มะยมมีงานต้องกลับกรุงเทพฯ”
“เดี๋ยวผมไปส่ง” นพอาสา
นิคแขวะอีก “ไหนว่ามาตามคุณสรวง..ที่แท้คุณก็มาตามเพื่อนผม”
“ก็แล้วมันมีข้อห้ามข้อไหนล่ะครับ...ที่ห้ามผมตามคุณมะยม”
“ข้อห้ามของคนที่มีเมียแล้ว” นิคพูดตอกหน้าแล้วเดินหนีทันที
มะยมหันมาบอกนพ “มะยมกลับกับนิคดีกว่านะคะ...แล้วเจอกัน” แล้วตามนิคไป
นพมองตาละห้อย คิดอยู่ในใจ
“ผมจะไม่ยอมให้ใครว่ามะยมเด็ดขาด”

อารักษ์ฟิตจัด ว่ายน้ำในสระ ตีกรรเชียงอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อวอร์มร่างกาย ท่าทีของนายพลนักรักแลดูน่าขันมากกว่าจะเห็นความฟิต
สุดาตะโกนเรียก “นี่คุณ..ขึ้นมาเร็วๆ คุณ”
อารักษ์หยุด แหวใส่อย่างอารมณ์เสีย “ขึ้นไปทำไม”
“ก็ขึ้นมาจัดการเรื่องที่เราคุยกันไง”
อารักษ์งอนเป็นเด็กๆ “ไม่ไป...ฟิตมาทั้งคืนแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไร”
“เถอะน่า.....ขึ้นมาได้แล้วอุจาดตา”
อารักษ์ฉุน “อุจาดตา”
สุดายิ้มย่อง ยืนยันหนักแน่น “ใช่! เดี๋ยวจัดการให้แน่ๆ”
อารักษ์ขยับมาใกล้มองซ้ายมองขวา กระมิดกระเมี้ยนพูดขึ้นมาอย่างอายๆ
“แน่นะ”
สุดากระซิบบอก
“คุณไปนอนรอในห้องแล้วกัน”

ภาพิศนั่งคุยกับกรรณนรีอยู่ที่โซฟารับแขก
ภาพิศเอ่ยขึ้น “เมื่อวานหนูทำดีมาก...วันนี้ทำตามที่ฉันบอกอีกนะ”
“ค่ะ”
มองจากระยะไกล สุดาเดินมากับสุขหฤทัย ภาพิศกับกรรณนรีหันไปเห็น ภาพิศรีบเอาแก้วเหล้าราดทางด้านหลังกาวต้นคอแล้วเอาผมปิดเอาไว้ บอกเบาๆ
“ทนเหม็นเหล้าหน่อยนะ”
“ค่ะ”

พูดจบกรรณนรีทำท่าเมามายนอนลงที่โซฟา ขณะที่ภาพิศแสร้งทำท่าวิงเวียนเหนื่อยล้าเหมือนจะเป็นลม
สองคนเดินมาถึงพอดี สุดาเห็นก็ร้องทัก ไม่ติดใจอะไร

“อ้าว! เป็นอะไรกัน”
“น้องไม่สบาย แต่ยัยเด็กนั่นน่ะสิคะ เป็นไรไม่รู้เมาแต่เช้า คอพับคออ่อนไม่รู้เรื่อง”
สุขหฤทัยเหยียดหยัน “สงสัยเมื่อคืนไม่มีใครเข้าหาเลยเครียด”
ภาพิศรีบบอก “สงเคราะห์มันหน่อยแล้วกันค่ะคุณหญิงพี่”
“ได้เลยค่ะ”
สุดายิ้มชอบใจ เข้ามาช่วยภาพิศประคองกรรณนรีที่คอพับคออ่อนขึ้นมา
“มันกินหรืออาบ กลิ่นหึ่งเลย” สุดาได้กลิ่นละมุดโชยหึ่ง ทำหน้าสะอิดสะเอียน
“ฤทัยช่วยค่ะ” สุขหฤทัยรีบเข้ามาช่วย

สุดา ภาพิศ และสุขหฤทัย ช่วยกันประคองกรรณนรีมาตามทาง ภาพิศเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวน้องจัดการส่งนังเด็กนี่เข้าห้องเชือดเอง คุณหญิงพี่ไปกันคุณสรวงเถอะค่ะ อย่าให้มายุ่ง”
“ได้ค่ะ....ฝากคุณน้องด้วยนะคะ”
“ฤทัยไปกับคุณหญิงแม่ค่ะ”
สองคนเดินออกไปแล้ว กรรณนรีลืมตาขึ้นมามอง ภาพิศพยักหน้าให้อย่างรู้กัน

สรวงนั่งอยู่ สุขหฤทัยแกล้งทำหน้าเครียด เหมือนมีเรื่องกลุ้มใจเหลือแสน
“ดื่มเป็นเพื่อนฤทัยหน่อยนะคะสรวง”
“อะไรของคุณดื่มแต่เช้า” สรวงแปลกใจ
“เถอะน่า..นะคะ..ดื่มเป็นเพื่อนฤทัยหน่อย”
สุขหฤทัยทำท่าอยากดื่มจริงๆ แถมคะยั้นคะยอให้สรวงดื่มด้วย สรวงมองอย่างสงสัย ทำท่าจะดื่ม
“ก็ดี..ผมอยากเมา..เมาแต่เช้า”
“งั้นเดี๋ยวฤทัยไปหากับแกล้มให้นะคะ” สุขหฤทัยเดินออกไปเร็วรี่
สรวงแอบเทเหล้าทั้งขวดทิ้ง เหลือติดก้นขวดนิดเดียว

สุดากับสุขหฤทัยเดินมาเมาท์กันมา สุขหฤทัยนั้นมีกระเป๋าสะพายติดตัวตลอดเวลา สุดาย้อนถามงงๆ
“อะไรน่ะ ตาสรวงเมาพับหลับสนิท”
“ใช่ค่ะ...สรวงเป็นบ้าอะไรไม่รู้...แป๊บเดียวซัดเหล้าหมดขวด”
“นังภาพิศมันก็เป็นพวกเรา งานนี้ไม่มีใครช่วยนังกรรณรีได้แน่”
สองนางมารหัวเราะชอบใจ ก่อนสุดาจะนึกได้
“แต่เพื่อความชัวร์ หนูไปดูตาสรวงให้แน่ใจดีกว่าลูก เพราะตาสรวงนั่นแหละคืออุปสรรคอันดับหนึ่งของเรา”
“ค่ะคุณหญิงแม่” สุขหฤทัยรับคำแล้วเดินออกไป

สรวงเงยหน้าขึ้นมามอง เห็นเป็นสุจหฤทัยแอบย่องเข้ามา สรวงจึงทำทีเป็นเมา หลับ และละเมอ เสียงดัง
“อยากเตะคน”
สุขหฤทัยร้องลั่น “ว้าย...สรวงอยากเตะใครคะ”
สรวงแกล้งปัดป่ายมือไม้ออกไปจงใจให้ถูกสุขหฤทัย “ไป๊..อย่ามายุ่งคนจะนอน”
สุขฤทัยหน้าง้ำ “สรวงอ่ะ...ไม่เห็นเหมือนในละครเลย ที่เมาแล้วปล้ำอ่ะ อะไรนี่เมาแล้วอยาก
เตะคน ฤทัยไม่ยุ่งด้วยแล้ว ไปดีกว่า เดี๋ยวถูกเตะ”
พอสุขหฤทัยเดินออกไป สรวงลืมตาขึ้นอาการปกติ

ส่วนด้านนอกกาวินทร์ในคราบคนสวน เดินตามสุขหฤทัย

ขณะที่สุขหฤทัยเดินมาตามทาง กาวินทร์ในคราบคนสวน ตรงปรี่เข้ามาเอามืออุดปากฉุดลากสุขหฤทัยไป
สุขหฤทัยไม่ทันตั้งตัว จึงตื่นตระหนกตกใจกลัวมาก กอดกระชับสะพายกระเป๋าไว้กับตัวตลอดเวลาอย่างหวงแหน

กาวินทร์ผลักสุขหฤทัยเข้าไปในห้องอย่างรุนแรง เหวี่ยงกระเป๋าสะพายทิ้ง สุขหฤทัยไม่รู้หน ตื่นตระหนกตกใจมาก
“อย่านะ ..อย่าทำฉัน..อย่าฉันกลัว”
“กลัวทำไม? ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำอะไรคุณ”
พูดจบกาวินทร์ก็กระชากหนวดเคราออก สุขหฤทัยตาโตด้วยความตื่นเต้น
“แก้ว...” สุขหฤทัยทั้งตกใจ ดีใจ ระคนตื่นเต้น “นี่ทำอะไรของนาย”
“ทำเพราะหึงไง...ผมหึงคุณกับคุณสรวงเลยตามมา” กาวินทร์หยอดหวานสาดใส่ทันที
สุขหฤทัยเป็นปลื้ม ยิ้มเขิน กาวินทร์เข้ามานั่งด้วยใกล้ๆ มองตาซึ้ง สาดหวานใส่อีกดอก
“ผมรักคุณนะฤทัย รักจนจะเป็นบ้า”
สุขหฤทัยยิ้มเยื้อน “ทำได้ขนาดนี้ก็บ้าแล้ว....” หัวเราะคิกคัก “จริงๆ เลยทำไปได้ยังไง ฉัน
ตกใจหมด”
“ก็บอกแล้วไงว่ารักคุณ...ถ้าไม่ทำอย่างนี้..ก็คงไม่ได้อยู่ใกล้คุณ คุณพอจะใจอ่อนให้ผมรึยังฤทัย”
“ไม่รู้” สุขหฤทัยอมยิ้มขวยเขิน
“ถ้าไม่ใจอ่อน ผมก็จะนั่งเฝ้าคุณอย่างนี้แหละ”
“ไม่ได้” สุขหฤทัยลุกพรวดขึ้น
กาวินทร์ขวาง “ไม่..ผมไม่ให้คุณไป”
“จะบ้ารึไง ฉันจะเข้าห้องน้ำ ไม่ต้องเฝ้านะ ฉันอาย”
สุขหฤทัยเดินเขินเข้าห้องน้ำไป กาวินทร์จ้องมองกระเป๋าสุขหฤทัยเขม็ง

สุขหฤทัยอยู่ในห้องน้ำ ยืนมองกระจกยิ้มเขิน อาการคนอินเลิฟ ราวกับตัวเองเป็นเจ้าหญิงก็ไม่ปาน
ส่วนด้านนอก กาวินทร์รื้อกระเป๋า รีบหยิบมือถือของสุขหฤทัยออกมา ค้นหาไฟล์คลิปเริงรักของตัวเองแล้วกดลบทิ้ง ด้วยสีหน้าและแววตาสาแก่ใจมาก

กาวินทร์รีบวางกระเป๋าไว้ที่เดิม นั่งรอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนที่สุขหฤทัยจะเดินออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆ กาวินทร์ลุกพรวดขึ้น สุขหฤทัยตกใจ

“นี่...อย่าทำอะไรฉันนะ”
“ถ้าผมจะทำ..ทำไปนานแล้ว รีบออกไปเถอะ..ก่อนที่ผมจะอดใจไม่อยู่”
สุขหฤทัยรีบเดินออกไป กาวินทร์เดินตาม

กาวินทร์เดินพาสุขหฤทัยออกมาก็หยอดหวานทิ้งท้าย
“นี่...ผมปล่อยคุณไปแล้ว...คุณอย่าทำให้ผมเสียใจนะ”
สุขหฤทัยงวยงง “เสียใจอะไร”
“ก็ไปกับคุณสรวงไง” กาวินทร์อ้อนด้วยสายตาจริงจัง
สุขหฤทัยยิ้มกว้าง พลางบอก “ฉันกับสรวงเป็นแค่เพื่อนกัน”
“งั้นผมก็มีสิทธิ์” กาวินทร์หยั่งเชิง
“อยู่ที่นาย จะเอาชนะใจฉันได้หรือเปล่า”
“ขอบคุณฤทัย...ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”
กาวินทร์จับไม้จับมือสุขหฤทัยเหมือนซึ้งเต็มประดา

จังหวะนั้นมาลินีที่กำลังจะกลับกรุงเทพฯ เดินมากับนก ผู้จัดการรีสอร์ท เห็นสองคนก็ตกใจ
นกเห็นท่าทีก็แปลกใจ “มีอะไรเหรอมด”
มาลินียิ้มเจื่อนๆ “เจอคนรู้จักน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
“งั้นวันหลัง มาเที่ยวที่นี่ใหม่นะ”
“ค่ะพี่นก
มาลินีมองไปอีกที ไม่เห็นกาวินทร์กับสุขหฤทัยแล้ว แต่สายตามั่นใจว่าตาไม่ฝาดแน่
มาลินีครุ่นคิดในใจ “เมื่อคืนเราไม่ได้ตาฝาด..พี่แก้วจริงๆ...พี่แก้วมากับคุณฤทัย”
มาลินีสุดแสนจะเสียใจ

อารักษ์ดื่มอยู่คนเดียวในห้อง ท่าทางเมาอ้อแอ้
“เมื่อไหร่ จะพาหนูศุมาเนี่ย? ดื่มจนเหล้าจะหมดห้องแล้ว ทำไมมันง่วงแบบนี้วะ”
อารักษ์ทั้งง่วงทั้งเมา แต่ถ่างตารอ ท่าทีน่าขัน

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 16/2 วันที่ 24 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager