@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 13 ต.ค. 55

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 13 ต.ค. 55

สองแม่ลูกถูกลำเลียงเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ปรางทิพย์อาการไม่หนักยังพอรู้สึกตัว ขณะที่รัชนีสาหัสเลือดท่วมไม่ได้สติ...ภคพงษ์จะตามเข้าไปในห้องไอซียู แต่พยาบาลกันไว้ แจ้งว่าญาติคนไข้ต้องรออยู่ข้างนอก

ooooooo
เผด็จกับสุวิทย์มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกัน เป็นช่วงเวลาที่พยาบาลถามหาญาติของรัชนีเพราะต้องการเลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ ซึ่งเลือดกรุ๊ปเอบีเนก-กาทีฟหายากมากทางเราไม่มีสำรอง สุวิทย์ร้อนใจเพราะเขากับลูกสาวไม่ใช่กรุ๊ปนี้ แต่ภคพงษ์บอกว่าเขามี ให้เอาเลือดของเขาได้เลย

ขณะที่ภคพงษ์อยู่ในขั้นตอนการบริจาคเลือด รสา เพิ่งกลับจากระยองมาถึงบ้านป้าอาภรณ์ เธอเช็กมือถือเห็นภคพงษ์โทร.มา จึงโทร.ย้อนกลับไปหา กลายเป็นเผด็จรับสายแทน บอกว่าภคพงษ์อยู่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรมากนัก

รสารีบร้อนไปโรงพยาบาล มองผ่านห้องคนไข้เห็นปรางทิพย์นอนหมดสติ สุวิทย์นั่งเฝ้าหน้าตาหมองเศร้า รสารู้สึกสงสารปรางทิพย์จับใจ และโกรธภคพงษ์สุดขีด คิดว่าเขาคือต้นเหตุ เธอเดินฉับๆไปตบหน้าเขาอย่างแรง ต่อว่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



“ไหนคุณสัญญากับฉันว่าจะหยุดไงล่ะ ต้องให้มีคนตายก่อนใช่ไหม คุณถึงจะหยุดได้ ทีนี้สะใจสมใจคุณหรือยัง”

“รสาฟังผมก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้”

“พอได้แล้ว หยุดโกหกฉันสักที ในสายตาคุณฉันคงเป็นผู้หญิงที่โง่มาก จะหลอกอะไรก็ได้ จะพูดอะไรฉันก็เชื่อไปหมด นี่เหรอที่คุณบอกว่าคุณจะยุติทุกอย่าง”

“ผมตั้งใจจะจบ แต่เขาต่างหากที่ไม่ยอมจบ คุณไม่เห็นตอนที่เขามองผมด้วยความรังเกียจ เขาไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา และเขาก็กำลังจะทิ้งผมไปอีกเป็นครั้งที่สอง ผมทนไม่ได้ คุณเข้าใจผมนะรสา คุณต้องเข้าใจผม”

“ฉันไม่เข้าใจ และฉันก็ไม่อยากเข้าใจด้วย คุณใช้ แต่อารมณ์เป็นใหญ่ ไม่เคยคิดถึงจิตใจของคนอื่น คุณคิดแต่จะแก้แค้น เกลียดชัง แม้แต่อารมณ์ของตัวเองคุณยังควบคุมไม่ได้ คุณจะให้ฉันมั่นใจ เชื่อใจคุณได้ยังไง วันนี้ คุณพูดอย่าง พรุ่งนี้คุณทำอีกอย่าง ตามแต่อารมณ์จะพาคุณไป ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว พอกันที สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ฉันจะคิดซะว่ามันเป็นฝันร้าย ตอนนี้ฉันตื่นแล้ว ฉันขอไปจากชีวิตที่แสนจะมืดมิดของคุณซะที เชิญคุณจมอยู่กับชีวิตมืดๆของคุณต่อไปคนเดียวเถอะ...ลาก่อน ภคพงษ์”

รสาพูดจบก็หันหลังเดินออกไปด้วยความเสียใจ ภคพงษ์จะก้าวตาม ทันใดนั้นหมอออกมาจากห้องผ่าตัด ถามเขาว่าเป็นญาติคุณรัชนีหรือเปล่า เขาจึงต้องปล่อยเธอไป แล้วตามหมอเข้ามาดูอาการรัชนี

หมอรายงานผลการผ่าตัดเรียบร้อยดี คนไข้ปลอดภัยแล้ว ภคพงษ์โล่งใจ และเมื่อหมอกลับออกไป เขากำลังจะจับมือรัชนีที่ยังไม่รู้สึกตัว พอดีสุวิทย์พรวดพราดเข้ามา เขาเลยต้องหดมือกลับ เดินเลี่ยงออกมาเงียบๆ

ด้านรสาที่กลับไปด้วยความผิดหวังเสียใจ เธอตัดใจจากภคพงษ์เด็ดขาด และตอบรับแต่งงานกับชีวินอย่างไม่ลังเล...

สองวันผ่านไป อาการปรางทิพย์ดีขึ้นมาก ภคพงษ์ ยังแวะเวียนมาเยี่ยม และวันนี้เองเขาตัดสินใจเลิกคบกับเธอ โดยบอกเหตุผลแค่ว่าเราสองคนไม่ควรจะเป็นแฟนกัน ปรางทิพย์เสียใจร้องไห้อย่างหนัก คิดว่าแม่คือต้นเหตุ

ออกจากห้องปรางทิพย์มาแล้ว ภคพงษ์เข้าไปเยี่ยมรัชนีที่อาการดีขึ้นตามลำดับ ก่อนหน้านี้รัชนีทราบจากหมอแล้วว่าภคพงษ์บริจาคเลือดให้เธอ เมื่ออยู่กันตามลำพัง จึงถามเขาว่าช่วยชีวิตเธอทำไม

“เลือดในตัวผมส่วนหนึ่งก็มาจากคุณ ผมแค่คืนมันกลับไปให้คุณ คุณคงไม่คิดว่ามันจะมีค่ามากพอจะช่วยชีวิตคุณได้”

“ไม่ใช่ ฉันรู้เสมอว่ามันมีค่ามากแค่ไหน แต่ฉันแค่ไม่เคยคิดว่าเธอจะยอมเสียสละเพื่อรักษาชีวิตของฉัน ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะมีค่ามากพอจะได้รับสิ่งนั้นคืนกลับมา” รัชนีเสียงเครือ น้ำตาคลอ

ภคพงษ์มองเธอด้วยความรู้สึกผิด เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

“ผมบอกเลิกปรางทิพย์แล้ว เรื่องระหว่างผมกับปรางทิพย์มันจบแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณจะต้องห่วงอีกต่อไป”

“ทำไม เพราะอะไร”

ภคพงษ์นึกถึงรสาก่อนตอบอย่างหนักแน่นว่า “ผมไม่อยากสูญเสียความรัก และคนที่ผมรักมากไปกว่านี้ ผมสูญเสียมามากเกินไปแล้ว...คุณไม่จำเป็นต้องให้อภัยผม รู้แค่ว่าผมให้อภัยคุณเท่านั้นก็พอ”

รัชนีน้ำตาร่วงพรู ความอัดอั้นทั้งหมดที่สุมอยู่ในอกถูกปลดปล่อยออกมาในบัดดล ภคพงษ์มองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยนลง ค่อยๆหันหลังเดินออกไป

หลังจากนั้นไม่นาน ปรางทิพย์เข้ามาหารัชนี ตัดพ้อต่อว่าด้วยความเสียใจเรื่องที่ภคพงษ์บอกเลิก เพราะแม่รักเขา แย่งเขาไปจากเธอ และนอกใจพ่อที่อยู่กินกันมานาน รัชนีทนไม่ไหวอีกต่อไป ตัดสินใจพูดความจริงออกมา

“แม่ไม่ได้นอกใจพ่อ แม่ไม่ได้แย่งภคพงษ์มาจากปราง แต่ความรักระหว่างปรางกับเขามันเป็นไปไม่ได้ เพราะภคพงษ์เป็นพี่ชายของปราง”

ปรางทิพย์ตกใจแทบช็อก มองแม่ที่ร้องไห้ตัวสั่นสะท้าน

“ภคพงษ์เป็นลูกชายของแม่กับสามีคนแรก ปรางกับเขาเป็นพี่น้องกัน”

สุวิทย์ยืนอยู่หน้าห้อง ได้ยินทุกอย่าง สองมือกำแน่นด้วยความโกรธและผิดหวัง

ooooooo

ออกจากโรงพยาบาล ภคพงษ์มุ่งหน้าไปหารสาพร้อมแหวนแต่งงาน แต่รสาเพิ่งออกจากบ้านไปเมื่อสักครู่พร้อมชีวิน ที่สำคัญเธอกับเขาตั้งใจไปเตรียมจัดงานแต่งงานกันที่ระยอง...ฟังคำบอกเล่าของป้าอาภรณ์แล้ว ภคพงษ์ใจหายวาบ หันหลังกลับออกไปทันทีเลย...

ที่ระยอง ห้าวพอรู้ว่ารสาจะแต่งงานกับชีวินก็โวยวายลั่นบ้านจนทุกคนงุนงงสงสัย ห้าวเสียใจเพราะแอบรักรสามาตลอด แต่วันนี้รสาเพิ่งรู้ เธอปลอบใจเขาอยู่นาน อยากให้เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอแบบนี้ตลอดไป

ขณะที่ภคพงษ์ขับรถมุ่งหน้าสู่ระยอง เขาพยายามโทร.หารสาหลายครั้ง แต่เธอไม่รับสาย ชีวินที่อยู่ด้วยเริ่มสังเกตด้วยความสงสัย ถามรสาว่าใครโทร.มา ก็ได้คำตอบสั้นๆว่าลูกค้า...

ส่วนสุวิทย์ที่แอบได้ยินความจริงจากปากรัชนี เขาทั้งโกรธทั้งผิดหวัง ผลุนผลันไปที่บ้านเถลิงยศแล้วสอบถามสายใจถึงเรื่องราวในอดีตของรัชนี

เมื่อสุวิทย์กลับไปแล้ว สายใจโทร.มาเล่าให้รัชนีฟัง รัชนีถึงกับร่ำไห้อย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอรู้ดีว่าสุวิทย์เกลียดการโกหกที่สุด ดังนั้นชีวิตเธอหมดสิ้นแล้ว ไม่เหลือใครอีกแล้ว ปรางทิพย์สงสารแม่จับใจ ลืมเรื่องผิดหวังช้ำรักของตัวเอง โผเข้ากอดแม่ทั้งน้ำตา

“คุณแม่ยังเหลือปรางนะคะ คุณแม่ยังเหลือปรางอยู่ข้างคุณแม่นะคะ”

สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้อยู่พักหนึ่ง...คำปลอบโยนของลูกสาวทำให้รัชนีค่อยๆสงบลง

“คุณแม่คะ อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ บางทีหลังจากคุยกับป้าสายใจแล้ว คุณพ่ออาจจะเข้าใจคุณแม่ก็ได้ค่ะ”

“ปรางก็รู้ว่าคุณพ่อเกลียดคนโกหกมากที่สุด คุณพ่อไม่มีวันจะยกโทษให้แม่แน่ๆ มันคงถึงเวลาที่แม่ต้องชดใช้สิ่งที่แม่ทำลงไป...แม่ขอบใจมากนะที่ปรางเข้าใจและให้อภัยแม่”

“คุณแม่อย่าพูดแบบนี้สิคะ คุณแม่เป็นแม่ของปราง คุณแม่ทำทุกอย่างก็เพื่อปราง แต่ปรางพูดไม่ดีกับคุณแม่ตั้งเยอะ ทำให้คุณแม่ไม่สบายใจตั้งหลายครั้ง ปรางขอโทษนะคะ คุณแม่ยกโทษให้ปรางนะคะ”

“แม่ยกโทษให้ลูกทุกอย่าง ปรางทำไปเพราะความไม่รู้ และแม่ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง แต่ตอนนี้แม่จะไม่หนี ไม่ปิดบังอะไรอีกแล้ว”

“คุณแม่คะ ปรางอยากรู้ความจริงทั้งหมด ปรางอยากรู้เรื่องระหว่างคุณแม่กับคุณพ่อของพี่ภัค คุณแม่เล่าให้ปรางฟังได้ไหมคะ”

รัชนีเริ่มเล่าอดีตที่ปกปิดมาตลอดด้วยความเต็มใจ ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกับที่สุวิทย์รับรู้มาจากสายใจ...

ตอนนั้นรัชนีเพิ่งอายุสิบแปด เธอรู้จักกับพรตไม่นานก็แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานไม่ถึงปีก็ท้องภคพงษ์ พอคลอดลูก เธอเริ่มรู้ตัวว่าไม่ได้รักพรต ด้วยความเป็นเด็กเธอจึงทิ้งพรตไปตั้งแต่ภคพงษ์อายุห้าขวบ

“ตอนนั้นแม่ยังเด็กมาก แม่คิดแค่ว่า ไม่อยากเอาชีวิตมาจมปลักกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก จะว่าไป...แม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักมันคืออะไร แม่ตัดสินใจไป เพื่อจะตามหาความฝัน ตามหาชีวิตของตัวเอง ชีวิตนอกรั้วเถลิงยศไม่ได้สะดวกสบาย แม่พยายามทำงานหาเงินเพื่อจะไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้ สองปีต่อมาคุณพรตเสียชีวิต แม่รู้ข่าวในวันที่เปิดพินัยกรรม...แม่กลับไปเพราะไม่อยากให้ภคพงษ์ต้องเสียใจ แม่คิดว่าในเมื่อคุณพรตไม่ได้ให้อะไรกับแม่ แม่ก็ต้องออกมาหาด้วยตัวเอง จะให้แม่แบมือรับเงินเดือนและใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้จุดหมาย แม่ทำไม่ได้ ตอนนั้นแม่เห็นแก่ตัวเอง ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของภคพงษ์แม้แต่นิดเดียว แม่คิดแค่ว่า...สายใจกับเผด็จเป็นคนดี ทั้งสองคนสามารถเลี้ยงดูภคพงษ์ได้เป็นอย่างดี อาจจะดีกว่าแม่ด้วยซ้ำ แต่แม่ไม่เคยรู้เลยว่า...การตัดสินใจแบบนั้นทำร้ายจิตใจพี่ชายของลูกมากแค่ไหน”

“พี่ภัคเป็นคนมีเหตุผล ถ้าคุณแม่พูดความจริง พูดสิ่งที่อยู่ในใจกับเขา ปรางคิดว่าพี่ภัคต้องเข้าใจคุณแม่แน่นอนค่ะ แล้วคุณแม่มาเจอคุณพ่อได้ยังไงคะ”

“หลังจากที่แม่หันหลังให้เถลิงยศ ทำงานจนเก็บเงินได้หนึ่งก้อน แล้วก็เดินทางไปเรียนที่อังกฤษกับเพื่อน และที่นั่น แม่ก็ได้พบกับพ่อของลูก คุณพ่อของลูกเป็นคนใจดี แม้ว่าวัยของเราจะห่างกันมากแต่เราสองคนชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่าง เขาเป็นกำลังใจให้แม่จนแม่เรียนจบตามที่คิดไว้ ทั้งๆที่มันไม่ง่ายเลย ความเป็นผู้ใหญ่ ของพ่อทำให้แม่อบอุ่นใจ วันที่พ่อขอแต่งงาน แม่รับปากทันที ในตอนนั้นตอบตัวเองได้เลยว่า นี่แหละคือความรักที่แม่ต้องการ ไม่ใช่แค่เงินเหมือนตอนที่อยู่กับคุณพ่อของภคพงษ์ แต่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะสำคัญกับพ่อของลูกหรือเปล่า”

“สำคัญสิคะ คุณพ่อรักคุณแม่มาก เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องในอดีต คุณพ่อให้อภัยคุณแม่ได้อยู่แล้วค่ะ อย่าคิดมากเลยนะคะ” ปรางทิพย์ให้กำลังใจรัชนีเต็มที่

ทันใดนั้นประตูห้องเปิดเข้ามา สมพงษ์ทนายของสุวิทย์มาพร้อมใบหย่า รัชนีรับรู้ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เธอร่ำไห้อยู่ในอ้อมกอดของลูกสาว ที่เสียใจไม่แพ้กัน!

ooooooo

ที่ระยอง ชีวินกระตือรือร้นวางแผนจัดงานแต่งงาน ต่างจากรสาที่ยังคงเหม่อลอย ห้าวที่ยังแอบหวงรสาจับสังเกตได้ พยายามพูดให้ชีวินเปลี่ยนใจเพราะรสาไม่ได้รักเขา

ไม่ทันไร ภคพงษ์โผล่มาอีกคน ห้าวพยายามกางกั้นจะไม่ให้เขาพูดคุยกับรสา แต่ภคพงษ์ดึงดันจนได้พบ

“รสา...ฟังผมก่อน”

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” รสาเสียงแข็ง

“มีสิ...เรื่องสำคัญมากด้วย”

“สำคัญมากแค่ไหน ฉันก็ไม่อยากคุย”

“ผมรู้ว่าคุณตัดสินใจแต่งงานเพราะคุณโกรธผม”

ชีวินเดินเข้ามาได้ยินพอดี ถึงกับหน้าเจื่อน ห้าวหันไปเห็น แอบยิ้มนิดๆอย่างสมน้ำหน้า

“รสา...คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ทำผิดสัญญา ผมทำตามที่สัญญาไว้กับคุณทุกอย่าง มันอาจจะช้ากว่าที่ผมรับปากไว้ แต่ตอนนี้ผมทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมทำตามที่คุณต้องการทุกอย่างแล้วนะรสา ให้โอกาสผมเถอะนะ”

“ไม่...ฉันไม่ให้โอกาสคุณ ไม่ให้อภัยคุณ ทุกอย่างมันจบแล้ว กลับไปซะ ฉันไม่อยากจะรับรู้รับฟังเรื่องของคุณอีกแล้ว พอกันที”

“ไม่นะรสา” ภคพงษ์เดินตามเว้าวอน...ห้าวไม่พอใจ พุ่งเข้าไปแทรกกลาง พูดหน้าตาขึงขัง

“รสไม่อยากคุยกับแก ไม่ได้ยินหรือไง กลับไปได้แล้ว”

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนที่ 15 วันที่ 13 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง กำกับการแสดงโดย : พีรพล เธียรเจริญ
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ดำเนินการผลิตโดย : อรพรรณ วัชรพล(โพลีพลัส จัดให้)
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ