@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค. 55

“นังเปรตชิงนรกมาเกิด”
“ขอบใจมากค่ะที่ด่าได้แซ่บขนาดนี้ ตอนนี้คนทั้งงานเขารู้กันหมดแล้วค่ะว่าคุณนายนพนภา ที่แท้ก็แม่ค้าปากตลาดเราดีๆ นี่เอง”
วีกิจ ประพงส์ ต้อง วิ่งมาหน้าห้องทำงาน สองสมุนวิ่งตามมา ประพงส์จะเปิดประตูแต่ถูกล็อค
“คุณนภา เปิดประตูครับ”
นพนภาไม่สนเสียงเรียกของประพงส์
“แกพูดอะไร” นพนภาถามมุนินทร์อย่างไม่เข้าใจ

“ก็เสียงด่าหยาบคายของคุณมันออกอากาศไปทั้งงานแล้วน่ะซีคะ”
“อะไรนะ”
“คุณนภา หยุดพูดครับ เสียงมันออกไปที่งานหมดแล้ว” ประพงส์ร้องบอก นพนภารีบมาเปิดประตู ประพงส์และสองสมุนเข้ามาค้นดูเครื่องดักเสียงทันที
“มันเรื่องอะไรกัน ตากิจ ยายต้อง”
“เสียงอานภาน่ะครับ มีเครื่องดักเสียงในห้องไปกระจายเสียงอยู่ข้างนอก”
นพนภามองมือถือ อยากจะร้องกรี๊ด
“ไม่ต้องกรี๊ดนะคะแม่ เท่านี้ก็ขายขี้หน้าพอแล้ว”
ต้องคว้ามือถือมาทันที ส่งให้วีกิจดูเครื่อง
“เจอแล้วครับ”



ประพงส์กระชากเครื่องดักฟังออกมา แล้วกระทืบแหลกคาเท้า นพนภาทรุดลงนั่งหมดเรี่ยวแรง วีกิจตามเข้ามาประคอง หยิบมือถือมาดูต่อเห็นว่ามุนินทร์ยังไม่วางหู

“ฮ่ะ ฮ่ะ”
“มุตตา คุณใช่ไหม”
มุนินทร์ได้ยินเสียงวีกิจสีหน้าเจื่อนไปตัดสายทิ้งทันที วีกิจผลุนผลันออกจากห้อง
มุนินทร์หลบมุมมาหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่าง กำลังจะออกจากงาน วีกิจเดินตรงมาเห็นเข้าพอดี วีกิจรีบเข้าขวางมุนินทร์

“นึกว่าหลบพ้นเหรอครับ”
“อย่ามาขวางนะ ถอยไป”
วีกิจมองมุนินทร์อย่างโกรธขึ้ง มุนินทร์จะเดินไป วีกิจจับมือมุนินทร์ไว้แน่น
“ทำเรื่องเอาไว้ ผมไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ หรอก”
“ทำไม จะจับตัวฉันไปให้อาหญิงคุณงั้นเหรอ”
“มันก็น่าอยู่หรอก มานี่เลย”
วีกิจกระชากร่างของมุนินทร์เข้าไปในมุมมืด

ร่างมุนินทร์กระแทกกับผนังอย่างแรง วีกิจยึดร่างของมุนินทร์ไว้ มุนินทร์พยายามดิ้น
“ไม่ต้องดิ้น คิดว่าสู้แรงผมได้งั้นเหรอ” มุนินทร์หยุดดิ้น เชิดหน้ามองวีกิจ “คุณคิดว่าคุณเป็นเทพพอที่จะจัดการกับใครก็ได้ทั้งนั้นล่ะซี”
“เทพหรือไม่เทพ วันนี้ฉันก็กระชากหน้ากากผู้ดีของอาสะใภ้คุณประจานให้เห็นกันทั้งงาน”
“คุณโหดกว่าที่ผมคิด มีความสุขนักหรือกับการทำร้ายคนอื่น”
“คนที่ก่อกรรมไว้ ต้องชดใช้กรรมของมัน”
“แล้วกรรมที่คุณก่อไว้ล่ะ เมื่อไหร่จะถึงคราวที่คุณถูกชดใช้”
“ฉันไม่ใช่คนก่อ ฉันคือคนที่มาชำระกรรมต่างหาก”
“ไม่มีใครชำระกรรมของใครได้ และตอนนี้คุณกำลังสร้างกรรมต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุด”
“หยุดเถอะ คุณมันจะไปรู้อะไร คุณมันใสซื่อเกินกว่าที่จะรู้ว่าบางครั้งโลกมันมีแต่ด้านเลว และเลวที่สุด” วีกิจขบกรามแน่น “คุณก็แค่ผู้ชายไร้เดียงสาติดแม่ก็แค่นั้น”
“มุตตา” มุนินทร์ยิ้มเยาะ
“ยอมรับความจริงไม่ได้ใช่ไหม” วีกิจทั้งโกรธ ทั้งแค้น
“มันไม่ใช่ความจริงต่างหาก ผมไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คุณคิดหรอก”
วีกิจรวบร่างมุนินทร์เข้ามาแล้วประทับจูบอย่างรุนแรงเร่าร้อน มุนินทร์พยายามดันร่างออก วีกิจกลับจูบอย่างป่าเถื่อน มุนินทร์นิ่งไป วีกิจรู้สึกตัวผละร่างออก มุนินทร์น้ำตาไหลพราก วีกิจหอบหายใจมองมุนินทร์อย่างรู้สึกผิด และงุนงงกับน้ำตาของมุนินทร์
“คุณกลับไปเถอะ” มุนินทร์เช็ดน้ำตา
“รู้ไว้นะ ที่ฉันทำไปทั้งหมด ฉันไม่ได้ต้องการตัวอาภพของคุณหรอกมันก็แค่ความแค้นเท่านั้น”
วีกิจมองมุนินทร์อย่างงุนงง มุนินทร์แยกออกมาน้ำตายังไหลพราก วีกิจมองตามเห็นมุนินทร์เดินไปตามทางยาวหายไปในความมืด

คืนนั้นเมื่อเจนภพกลับบ้านก็พบนพนภากำลังปาข้าวของเกลื่อนห้อง พอนพนภาเห็นเจนภพก็ถลาเข้ามาตบตีทันที ต่อ ต้อมตะลึง แต้ว ยายแหวงกรีดร้อง
“กลับมาทำไม ออกไปเลย ไปอยู่กับมัน”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ปล่อย”
“รู้ไหมว่าคืนนี้มันทำฉันแสบแค่ไหน อีมุตตามันบุกเข้าไปในงาน มันฉีกหน้าฉันกลางงานไม่มีชิ้นดี”
“มุตตาบุกไปในงานเหรอ”
“ไม่เท่านั้นหรอกนะ มันยังเอาคลิปอุบาทว์ที่คุณไปพลอดรักกับมันในรถไปฉายโชว์ประจานในงานอีก ไง อยากได้มันเป็นเมียออกหน้าใช่ไหมถึงขั้นจะซื้อรถให้มันน่ะ”
“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะนภา”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนมัน ฉันหมดความอดทนแล้ว ไปเลย ออกไปจากบ้านฉัน ไปซี้ หน้าด้านอยู่ทำไม”
นพนภาถลาเข้ามาทุบตีเจนภพ ตบหน้าเจนภพอย่างแรงหนึ่งฉาด เจนภพนิ่งงันไป เจนภพบีบคอนพนภาอย่างแรง นพนภากรีดร้อง ต่อเข้ามาผลักพ่อ ชกเข้าตามตัวแล้วผลักหน้าพ่อหงายไป แล้วดึงแม่มากอดไว้ นพนภาไอโขลก
“อย่าเข้ามานะ อย่าทำอะไรแม่นะ” ต่อตวาด
“ฉันไม่ทำอะไรแม่แกหรอก แค่แตะยังไม่อยากแตะเลย”
วีกิจกับสร้อยคำเข้ามาพอดี
“จะฆ่าฉันให้ตายใช่ไหม จะได้ไปเสพสุขกับมัน”
“ถึงคุณไม่ตาย ผมก็เสพสุขกับเขาได้ทุกวันอยู่แล้วนี่”
วีกิจสะอึก นพนภาร้องกรี๊ดน้ำตาอาบหน้า ผมฟูดูวิกลจริต
“สารเลว คนผีนรก”
“แล้วคุณล่ะ มาจากสวรรค์ขุมไหน”
นพนภาเข้าตบตีเจนภพอีก วีกิจ สร้อยคำ ต่อเข้าแยก เสียงขรมไปหมด
“โอ๊ย หุบปากซะที กัดกันยังกะหมา”
ต้อมบอกออกมา ทุกคนชะงักตาเบิกกว้าง นพนภาสติขาดผึงโผนเข้าตบลูกสาวคนเล็กเต็มเหนี่ยว ต้อมหัวทิ่มล้มกลิ้ง นพนภาตีซ้ำ 2-3 ที ต้อมร้องไม่ออกเพราะไม่เคยโดนมาก่อน
“ด่าพ่อด่าแม่เหรอ อีลูกเวร”
เจนภพพุ่งมาผลักนพนภาเซไป ต่อประคองไว้ เจนภพคว้าต้อมมากอด ต้อมร้องวี๊ดๆ
“อย่ามาพาลลูกนะ ลูกมันไปเกี่ยวอะไรด้วย บ้า เป็นแม่ภาษาอะไรถึงได้บ้าอย่างนี้”
“อีลูกเนรคุณอย่างนี้เอาไว้ทำไม ทั้งลูกทั้งผัวอัปรีย์ทั้งนั้น”
เจนภพอุ้มต้อมพาออกไป ต้อมกอดพ่อ ร้องไห้ไม่เลิก นพนภาเซต่อพาไปนั่งโซฟา นพนภาทำท่าจะเป็นลมอีกครั้ง ต่อน้ำตารื้นสงสารแม่ สร้อยคำน้ำตาไหลไปด้วย
“เก็บกวาดซะ”

สร้อยคำสั่งสาวใช้ แต้ว ยายแหวงรีบเก็บกวาด สร้อยคำเข้าไปดูแลนพนภา วีกิจยืนคว้างกลางห้องหดหู่บอกไม่ถูก
เมื่อกลับมาบ้านสร้อยคำและวีกิจนั่งแผ่หมดแรงบนโซฟา บัวเอาน้ำมาวางให้แล้วถอยไปเข้าครัว

“เฮ้อ ยายมุตตานี่ร้ายกาจจริงๆ นะ”
“ผมขอร้องเขาไม่รู้กี่หนแล้วเขาก็ไม่ยอมเลิก” วีกิจบอกอย่างขมขื่นแล้วคลายเนคไทที่มุนินทร์ซื้อให้
“แม่ว่าแกอย่าไปยุ่งกับเขาเลยตากิจ เขาผูกก็ให้เขาแก้กันเอง แกไปยุ่งเกี่ยวเดี๋ยวบ่วงจะมาพันคอแกด้วย รู้ไหม หมู่นี้หน้าตาแกไม่เป็นสุขเลย”
วีกิจจับเนคไทค้าง
“ผมนอนไม่ค่อยหลับ”
“คงคิดเรื่องแม่มุตตา ยังตัดใจไม่ได้ใช่ไหม”
“ครั้งก่อนที่ตายังเป็นคนเก่า พอเขาปฏิเสธผมก็ไม่ได้เจ็บอะไร ผมคงชอบเขาเหมือนเพื่อนเหมือนน้อง”
“ดีแล้วล่ะ แกจะได้เจอคนใหม่ที่ใช่เสียที แม่เคยบอกแกแล้วว่าถ้าแกเจอใครที่ทำให้แกร้อนรุ่มไปหมด ทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งหึง ถ้าเขาไม่ได้ดั่งใจก็เจ็บปวดไปหมด อะไรนิดอะไรหน่อยก็จะเป็นจะตาย นั่นแหละของแท้ล่ะ” วีกิจใจหายวูบ เพราะนั่นคือความรู้สึกกับมุตตาคนใหม่ “ไปลูก ไปนอนได้แล้ว”
สร้อยลุกไป วีกิจยังนั่งซึม พึมพำออกมาเบาๆ
“ทำไงดีครับแม่ นั่นแหละครับที่ผมรู้สึกกับมุตตาตอนนี้”

หลายคืนต่อมาที่เดอะซองผับมีนักเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างคึกคัก ลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวเป็นนักศึกษาซะส่วนมาก ที่เคาน์เตอร์ใกล้บาร์เครื่องดื่มมีพนักงานชายหญิงหน้าตาเจนโลก ต้องอยู่ที่โต๊ะแคชเชียร์ดูเยาว์วัยแปลกแยกออกมา ต้องมีอาการกระสับกระส่าย เหงื่อซึมออกมือ ปากคอแห้งผากจิบน้ำไม่หาย จึงเรียกพนักงานหญิง
“พี่โรสคะ หนูจะเข้าห้องน้ำ ดูแทนให้หนูหน่อย”
ต้องลุกไปมีอาการเซนิดๆ แล้วเดินไปที่บันได ประพงส์เดินมาที่เคาน์เตอร์ พนักงานหญิงชายสองคน
มองตามต้อง
“เฮ้อ คงไม่หน่อยล่ะท่าทางจะไปยาว”
“ไปเล่นยาชัวร์”
สองคนหันมาเห็นประพงส์ก็สะดุ้งสุดตัว หลบตาขยับถอยโดยอัตโนมัติ ประพงส์มองตามต้องไปสายตาดูกระหยิ่ม

ต้องเข้ามาในห้องน้ำมือที่ถือขวดยาสั่นระริก มองดูเงาสะท้อนตัวเองให้กระจกเงาแล้วเปิดขวดยา มองดูเงาตนเองอีก
“อะไรที่มันก่อทุกข์ เราต้องหยุดมัน”
ต้องนึกถึงคำพูดสร้อยคำแล้วลังเล หันขวับ ก้าวไปที่โถชักโครกเทยาลงโถ กดน้ำตาม น้ำไหลวนพายาหมุนติ้วลับหายไป

ในห้องพักเปิดไฟไว้สลัว มีเสียงเคาะประตู
“คุณต้อง คุณต้อง” ทุกอย่างเงียบสนิท ประพงส์เปิดประตูเข้ามา “คุณต้อง”
ประพงส์กวาดตามอง ที่หน้าโซฟาต้องนอนขดตัวกับพื้น ดูดิ้นรนทรมานสติเหลือเพียงครึ่ง
“พ่อขา แม่ขา ช่วยหนูด้วย”
ประพงส์ดึงต้องมากอดไว้
“ไม่เป็นไรนะครับคุณต้อง ผมมาช่วยแล้ว”

ทางเดินยาวในโรงพยาบาลดูเวิ้งว้าง ต่อแต่งตัวเรียบๆ เดินแกมวิ่งมาที่ห้องพักคนไข้ซึ่งต้องนอนอยู่บนเตียงหน้าเซียว แต่ดวงตามีแววมุ่งมั่นและสุขใจบางอย่าง ต่อยืนอึ้งอยู่ข้างเตียง
“ไหนว่าพี่บำบัดกับหมอ แล้วเลิกใช้ยาแล้วไง”
“ฉันกลับมาใช้อีก เพราะที่ผับน่ะมันขายกันยิ่งกว่าตลาดมืดอีก”
“แม่รู้ไหม”
“ไม่รู้มั้ง ต่อ ตอนนี้ฉันจะต้องเลิกให้ได้ หมอบอกว่าแค่กินยาต่อเนื่องซักช่วงนึงเท่านั้น แล้วฉันก็จะไม่เป็นอะไรอีก”
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกพ่อกับแม่” ต้องยักไหล่
“แกอยากให้แม่เป็นบ้ามากกว่าเดิมหรือ ส่วนพ่อให้เขามีความสุขอยู่กับอีหนูของเขาไปเถอะ” ต่อลังเลถอนใจยาว “อย่าบอกแม่นะต่อ” ต่อพยักหน้า “ขอบใจ ถือว่าฉันเป็นหนี้แกหนนึง”
ต่อดึงเก้าอี้มานั่ง
“แล้วคืนนี้จะบอกพ่อแม่ยังไง”
“ก็บอกว่าฉันอาหารเป็นพิษ นอนให้น้ำเกลือคืนนึง”
“แล้วนายประพงส์อะไรนั่นล่ะ”
ต้องดวงตาวิบวับขึ้นมา
“เขาบอกว่าจะไม่พูดอะไรเหมือนกัน ค่าโรงพยาบาลอะไรทั้งหมดเขาก็จะออกให้เอง”
ต่อมีแววอึดอัดระแวง
“ผมว่าเขาดูแปลกๆ”
“ฉันรู้ แต่ว่าเขาดีกับฉันมากเลยนะ”

วันต่อมาต่อมาออกกำลังกายที่ฟิตเนสกับก้อง
“พี่สาวผมกำลังเลิกยาฮะ มาขอให้ผมช่วยปิดเป็นความลับ”
“ที่จริงต่อควรจะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่มากกว่า”
“ผมกลัวพ่อกับแม่จะทำเป็นเรื่องใหญ่โตเกินเหตุ แล้วมันอาจจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” ก้องทำหน้าเข้าใจ
“โอเค ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ว่าต่อทำถูกแล้ว” ต่อใจชื้นขึ้น
“ขอบคุณครับพี่”

ก้องพูดอย่างปรกติดวงตาดูอบอุ่นจริงใจ ต่อนิ่งอึ้งสับสนลังเล
วันเดียวกันนั้นประสิทธิ์ชัยมีนัดกินข้าวกับศศิ คู่หมั้นคู่หมายของเขา ศศิเป็นสาวหน้ายาวตัวผอมแขนขายาวผิวซีด แต่แต่งตัวแต่งหน้าเป็นทำให้ดูดี ประสิทธิ์ชัยเอาอกเอาใจ เลื่อนอาหารให้ลองจนถึงขั้นป้อน

“ลองนี่ดูหน่อยซีครับ คุณต่าย”
“แหม ขอบคุณค่ะ คุณสิทธิ์คะขยับมานิดซีคะ”
ศศิเอาผ้ากันเปื้อนขึ้นมาเช็ดซอสที่เปื้อนแก้มประสิทธิ์ชัยให้ ประสิทธิ์ชัยทำตาเจ้าชู้ ศศิยิ้ม ประสิทธิ์ชัยยิ้มตาเยิ้ม แต่แล้วประสิทธิ์ชัยก็ต้องหน้าซีด ตกตะลึง เมื่อเห็นรัชนกยืนมองอยู่นอกร้าน
“คุณนก”
ประสิทธิ์ชัยพึมพำออกมาเบาๆ แล้วถอยห่างจากศศิทันที ศศิมองดูรัชนกอย่างแปลกใจ รัชนกทำหน้าเรียบเฉยหมุนตัวจากไป
“ใครกันคะ” ศศิถามอย่างแปลกใจ
“เพื่อนน่ะฮะ เพื่อนที่กอง”
“สวยจังนะคะ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู”
“ฮะ หนุ่มๆ ที่กองติดกันตรึมเลย แต่ไม่ใช่ผมนะฮะ”
ประสิทธิ์ชัยมองชะเง้อไป ใจคอไม่ดี

รัชนกหน้าเรียบเฉยเก็บของจากโต๊ะลงกล่อง ประสิทธิ์ชัยงอนง้ออยู่ข้างๆ พูดเสียงเบา ปริมกับกลุ่มกอสซิปเกิร์ลหูกางราวจานเรดาร์ วีกิจเหลือบมาดู
“คุณหลอกนก”
“ผมไม่ได้หลอก แต่ผมไม่รู้จะบอกยังไง โธ่ ผมถูกแม่บังคับนะฮะ แม่ผมทำธุรกิจกับแม่เขาก็เลยอยากรวมครอบครัว โธ่ ดูหน้าเขาซีครับ มีอะไรให้พิศวาสได้บ้าง ผมไม่มีอะไรกับเขาจริงๆ”
“ไม่มีอะไร แต่มีกำหนดวันแต่งแล้วใช่ไหมคะ”
“โธ่ อีกตั้งเป็นปี อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงได้”
“ค่ะ นกก็เปลี่ยนเหมือนกัน นกจะย้ายไปแผนกโน้น คุณจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”
“นก ผมจะเลื่อนวันแต่งออกไป แล้วผมจะค่อยๆ เปลี่ยนใจแม่”
“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวคุณแม่คุณตัดออกจากกองมรดกเปล่าๆ”
“โธ่ อย่าประชดประชันผมเลยฮะ ผมจะหาทางเลื่อนวันแต่ง”
“จะต้องเลื่อนไปทำไมคะ คุณก็แต่งๆ ไป แล้วก็เลี้ยงนกเป็นนังเมียเก็บอีกคนไงคะ”
ประสิทธิ์ชัยไม่ทันคิด ยิ้มมานิดหนึ่ง
“จริงหรือนก”
รัชนกมองประสิทธิ์ชัยอย่างเย็นชา ยิ้มสมเพช
“เป็นความจริงเมื่อศตวรรษก่อนค่ะ คุณกิจคะ ช่วยนกหน่อยนะคะ”
รัชนกหอบแฟ้มขึ้น วีกิจลุกมาหอบกล่อง ทั้งคู่เดินออกไป ประสิทธิ์ชัยคอตก ปริมกับสามนางเข้ารวมกลุ่มซุบซิบเปิดเผย

คืนนั้นประสิทธิ์ชัยมานั่งกินเหล้าที่ผับกับวีกิจและกริบ ประสิทธิ์ชัยกรอกเหล้าจนเมามาย วีกิจดื่มช้าๆ เงียบๆ แต่ท่าทางทุกข์ใจไม่แพ้กัน กริบนั่งมองดูเพื่อนทั้งสองอย่างปลงๆ
“อย่ามาทำเป็นอกหักครั้งแรกในชีวิตหน่อยเลยวะ”
“ทำไม ทำไมคุณนกไม่ยอมเข้าใจ ข้าแต่งกับยายจืดนั่นก็เพราะเรื่องธุรกิจ ข้าไม่เคยคิดจะทิ้งเขาซักหน่อย”
“เออ แต่ตอนนี้เขาทิ้งเอ็งแล้ว”
“ไม่จริง คุณนกรักข้ายังกะอะไร”
“นี่เอ็งอย่ามาทำเป็นอาภพหน่อยเลยวะ ไม่เห็นหรือว่าอาภพทุกวันนี้เป็นยังไง”
“เอ็งอย่าเอาคุณนกไปเปรียบกับมุตตาเลยวะ”
ประสิทธิ์ชัยเมาได้ที่กระชากคอเสื้อวีกิจ วีกิจหน้าเย็นเยียบขึ้นมา กริบขยับเก้าอี้ออกห่าง
“ทำไม ตาเป็นยังไง”
“คุณนกน่ะเหมือนน้ำค้างกลางหาว แต่มุตตาของเอ็งน่ะน้ำค้างกลางห...”
ประสิทธิ์ชัยพูดไม่จบคำก็ถูกกริบตบไหล่ไม่เบาเตือนสติ
“เฮ้ย”
“เน่าสุดๆ ก็มีแต่เอ็งที่โง่ดักดานตัดใจไม่ได้ซักที” ประสิทธิ์ชัยพูดต่อ
“ในสายตาเอ็ง ตาสกปรกมากนักหรือ”
“เออ ไม่เหมือนคุณนก นกบริสุทธิ์ผุดผ่อง ข้าเป็นคนแรกของเขา ไม่เหมือนเอ็งเป็นคนที่เท่าไรไม่รู้ของมุตตา”
วีกิจต่อยประสิทธิ์ชัยโครม ประสิทธิ์ชัยล้มไปทั้งเก้าอี้ ผู้คนรอบด้านร้องอุทานลุกขึ้นหลบและดู กริบส่ายหน้า ประสิทธิ์ชัยลุกขึ้นมาชกวีกิจตอบแล้วโถมเข้าใส่ลงไปล้มกลิ้งอยู่ที่พื้น ต่อยกันโดนบ้างไม่โดนบ้าง กริบลุกขึ้นยืนดูเฉยๆ วีกิจขึ้นบน
“มึงหุบปากไปเลย ไอ้สิทธิ์”
“โดนหลอกมากี่หนก็ยังหลงรัก ไอ้โง่ โง่โคตรๆ รักเข้าไปได้ ไอ้...”
วีกิจอึ้งเงื้อกำปั้นค้าง กริบบรรจงเอาถังน้ำแข็งละลายเทราดทั้งคู่
“พอได้หรือยัง ไอ้ห่าสองตัวนี่”

วันต่อมารัชนกนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใหม่หน้าห้องเจนภพ พิมพ์ดีดแคล่วคล่องว่องไว อรพิมมองดูพลางทำหน้ารังเกียจ ทิพอาภารับงานจากแจงจิตเดินไปให้รัชนก
“ขอบคุณค่ะ พี่ทิพ”
ทิพอาภายิ้มซีดเซียวรักใคร่ เดินไปโต๊ะ รัชนกหันไปปริ้นท์งานเอาใส่แฟ้มเดินไปห้องเจนภพ มือปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออกเม็ดหนึ่ง พลางเคาะประตู
เจนภพนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน รัชนกเข้ามา เจนภพมองด้วยแววตาเจ้าชู้ รัชนกทำตาแป๋ว
“ว่าไง”
“มีเรื่องขออนุมัติด่วนค่ะ” รัชนกเดินเข้ามาคว่ำแฟ้มลง กระดาษในแฟ้มจึงหล่นลงสู่พื้น “อุ๊ย”
รัชนกร้องอุทานคุกเข่าลงเก็บ เจนภพมอง จากมุมที่นั่งคอเสื้อรัชนกแม้ไม่กว้างมากแต่ก็เห็นทรวงอวบชนิดซ่อนรูป รัชนกเก็บกระดาษ 3 แผ่นอยู่นานแสนนานแล้วรวบกระดาษมองเจนภพตาแป๋ว
“ขอโทษค่ะ”
เจนภพยิ้มนิดๆ ยื่นแขนมา รัชนกเกาะ เจนภพดึงขึ้น รัชนกวางเอกสารลงเจนภพเลิกสนใจคว้าเอกสารมาอ่านปราดๆ แล้วเซ็น มือถือเจนภพดังเจนภพกดรับสาย
“ฮัลโหลตาหรือ” เจนภพชะงักนิดหนึ่ง โบกมือให้รัชนกออกไปก่อน “หนูนกออกไปก่อนไป”
รัชนกออกไป มุนินทร์เลิกคิ้ว
“หนูนกไนติงเกล มาทำอะไรที่นี่หรือคะ” มุนินทร์ถามเจนภพอย่างแปลกใจ
“หึงหรือตา”
“ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็เชิญเถอะค่ะ”
“หนูนกเขาเลิกกับนายสิทธิ์ ก็เลยขอย้ายมาแผนกนี้”
“ดีค่ะ เวลามีเรื่องอะไรจะได้ถึงหูภรรยาคุณง่ายหน่อย”
“ตาจะบอกว่าหนูนกเป็นสปายให้นภาเหรอ ไม่น่าเชื่อ”
“ฉันว่าหนูนกนี่ คงมีเรื่องเซอร์ไพรส์อีกเยอะเลยล่ะค่ะ”

เจนภพยิ้มเพลิดเพลินที่ได้ต่อปากต่อคำ ที่หน้าห้อง รัชนกแง้มประตูไว้นิดหนึ่ง ย่อตัวเก็บเอกสารที่หล่นกระจายอีก
รัชนกหลบมุม กำลังโทรรายงานนพนภา

“ใช่ค่ะ คุณนพนภา นัดกันที่ร้าน...ทุ่มนึงคืนนี้ ค่ะ สวัสดีค่ะ”

รัชนกเลิกสาย กำลังจะออกจากกระทรวงเห็นวีกิจและประสิทธิ์ชัยเดินตรงมา ประสิทธิ์ชัยตามหลังทิ้งระยะพอควร รัชนกแกล้งเดินสวนมองประสิทธิ์ชัยอย่างหมางเมิน
“คุณกิจคะ”
“ฮะ”
“วันนี้นกขอติดรถไปด้วยได้ไหมคะ”
ประสิทธิ์ชัยมองอย่างไม่พอใจ
“ได้ครับ”
ประสิทธิ์ชัยแกล้งเดินกระแทกหลังวีกิจแล้วเดินเลยไป รัชนกค้อนอย่างน้อยใจ
“คนอะไรก็ไม่รู้ คุณกิจคะ เมื่อกลางวันพี่ตาโทรมานัด ผ.อ.กินข้าวคืนนี้ค่ะ” วีกิจอึ้งไป
“แล้วคุณนกมาบอกผมทำไมหรือฮะ”
“คุณกิจทราบใช่ไหมคะว่านกถูกคุณนพนภาบังคับให้นกเป็นสปายให้ ความจริงนกไม่อยากทำแบบนี้สักนิด แต่ที่นกยอม เพราะอะไรรู้ไหมคะ” รัชนกเสียงเครือน้ำตาจะหยด วีกิจอึ้ง “นกเองเป็นลูกเมียน้อย ทั้งแม่และนกถูกแม่ใหญ่ทำร้ายแสนสาหัส นกไม่อยากให้พี่ตาต้องมาตกอยู่ในสภาพอย่างแม่นก” วีกิจรู้ทัน
“อย่าห่วงเลยฮะ ตาเขาไม่ยอมเป็นเมียน้อยหรอก เขาทำทุกอย่างเพื่อจะเป็นหลวงต่างหาก”
“เหรอคะ”
“คุณนกได้ยินเขานัดกันที่ไหนเหรอครับ” รัชนกยิ้มพราย
“นึกก่อนนะคะ รู้สึกว่าจะเป็นร้าน...”
รัชนกเดินคู่กับวีกิจไป ปริมและสามสาวกอสซิปยืนอ้าปากค้าง
“ฉันกะอยู่แล้วเชียว อีใสซื่อ”
“เห็นหงิมๆ”
“แต่หยิบชิ้นปลามัน”
“หยิบแต่ละอัน มันถึงคอหอย ว้าย”
ฉกรรจ์และนักรบกุมคอทำท่าหฤหรรษ์ ปริมและเลอลักษณ์มองอย่างรังเกียจ
นพนภามีสีหน้าคุมแค้นขณะนั่งอยู่กับประพงส์ที่ผับ
“มันนัดกับผัวฉันอีกแล้ว ฉันไม่ทนอีกแล้วค่ะ คุณต้องจัดการให้ฉันที”
“ผมเตือนแล้วนะว่าช่วงนี้เราไม่ควรเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ มันไม่ดีกับธุรกิจเรา”
“เล่นงานมันแบบที่คุณจัดการกับไอ้สมศักดิ์ไงคะ ให้มันกลัวจนไม่กล้าเอาเรื่องเราอีกเลย”
“ได้ครับ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น”
“คุณส่งคนของคุณไปที่ร้านนี้เดี๋ยวนี้เลย”

นพนภาส่งชื่อร้านให้ประพงส์
มุนินทร์และเจนภพทานอาหารค่ำกันอยู่ เจนภพมองไปทั่วร้าน
“หาใครหรือคะ”
“เปล่า กำลังดูว่าคุณซ่อนกล้องไว้ตรงไหนอีกรึเปล่า เหมือนอย่างที่โชว์รูมรถวันนั้น คุณเล่นงานผมอีกแล้วนะตา”
“แต่คุณไม่โกรธไม่ใช่เหรอ”
“ไม่โกรธ แต่ไม่อยากให้คุณไปอาละวาดใส่เขาอีก ตา คืนนี้เราควรจะมีเวลาให้กันและกันเสียทีนะ ตั้งแต่ตากลับมาเรายังไม่มีโอกาสหาความสุขด้วยกันเลย ผมจะทนไม่ได้อยู่แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ตาทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่”
“อ้อ อย่างนี้นี่เองที่คุณรับนัดฉัน”
เจนภพสะดุ้งทันที ที่ใต้โต๊ะ เท้าเปลือยของมุนินทร์กำลังเขี่ยไปมาที่ขาของเจนภพ เจนภพมองมุนิทร์ตาเยิ้ม
“ตา”
“ได้ซีคะ คืนนี้ฉันจะอยู่กับคุณทั้งคืน...จะทำให้คุณมีความสุขที่สุด...เอาให้คุณคลานกลับบ้านเลยล่ะ”
มุนินทร์ยิ้มกับเจนภพที่เคลิ้มและตื่นตัวเต็มที่
มุนินทร์และเจนภพเดินออกมาจากห้องอาหาร มือถือของมุนินทร์ดังขึ้น
“ตายจริง บอสอีกแล้วค่ะ”
“ก็อย่ารับซี แล้วเรารีบไปเถอะ”
“ได้ยังไงล่ะคะ สปอนเซอร์รายใหญ่เชียวนะ ไม่รับสายโกรธแย่เลย” มุนินทร์รับสาย เจนภพยิ่งหงุดหงิด “ค่ะ บอสขา”

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 12 วันที่ 31 ต.ค. 55
ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ