@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 13/3 วันที่ 11 ต.ค. 55

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 13/3 วันที่ 11 ต.ค. 55

“งั้นกระหม่อมไปเก็บข้าวของของเจ้าชายนะพะย่ะค่ะ”
“ใครบอกว่าเราจะกลับ ถ้าขิงไม่กลับกับเรา เราก็จะไม่กลับนิวแลนด์”
ปีเตอร์ตกใจ “ยังไม่กลับ? ไม่ได้นะพะย่ะค่ะ เจ้าชายทรงทราบดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พระราชาทรงยื่นคำขาดแล้วนะพะย่ะค่ะ”
โซว์มองดูสร้อยในมือแล้วก็นิ่งงันไปด้วยความว้าวุ่นใจ เขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตแล้ว

รถที่จะมารับโซว์แล่นมาจอดหน้ารีสอร์ท ปีเตอร์เดินไปหาโซว์ที่ยืนชะเง้อมองไปด้านในรีสอร์ทเผื่อว่าขิงจะออกมา
“เจ้าชาย ... รถพระที่นั่งมาถึงแล้วพะย่ะค่ะ” ปีเตอร์บอก
“งั้นเหรอ”

โซว์ยังมองไปด้านในโดยไม่ยอมเดินไป
“เจ้าชายลืมอะไรรึเปล่าเพคะ” พัชรีถาม
“เอ่อ เปล่า ... ชั้นจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
โซว์ออกเดินตรงไปที่รถ เขาเดินผ่านฟ้าครามที่ยืนรอส่งอยู่
“โชคดีนะครับเจ้าชาย” ฟ้าครามกล่าว
“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ฝากดูแลขิงด้วย” โซว์บอก
“ยินดีครับ ผมจะดูแลขิงอย่างดีที่สุด เจ้าชายไม่ต้องเป็นห่วง”
ขิงยืนหลบอยู่หลังเสา พร้อมกับแอบมองโซว์กับฟ้าครามคุยกันด้วยสีหน้าเศร้า โซว์ปลีกตัวจากฟ้าครามแล้วเดินตรงไปที่รถ เขารู้สึกเหมือนมีคนมองจึงหันไปมองด้านในรีสอร์ทอีกที ขิงรีบหลบหลังม่านทันที โซว์มองไม่เห็นขิง เขามีสีหน้าเศร้าลง




“เราไปกันเถอะ ปีเตอร์” โซว์บอก
ปีเตอร์กับพัชรีกำลังล่ำลากัน
“ตัวเองจะไม่ไปกับเค้าจริงๆ เหรอพัชรี” ปีเตอร์ถาม
“ฉันลางานจนเค้าจะไล่ฉันออกแล้วเนี่ย” พัชรีว่า
“ออกก็ออกสิ เค้าจะเลี้ยงตัวเองเอง”
“เลี้ยงตัวเองให้รอดก่อนเถอะปีเตอร์!!”
“ตัวเองไม่ไปด้วย เค้าคงนอนร้องไห้คิดถึงตัวเองทุกคืน”
พัชรีเริ่มเศร้า “ฉันเองก็คงคิดถึงนายเหมือนกัน”
ปีเตอร์กับพัชรีใจหาย ทั้งสองเศร้าสร้อย
“ปีเตอร์ ไปได้แล้ว!” โซว์เร่ง
ปีเตอร์สะดุ้งแล้วรีบเก๊กมาดเข้ม “พะย่ะค่ะ เจ้าชาย”
ปีเตอร์จับมือพัชรีเป็นการอำลาแล้วก็เดินไปขึ้นรถกับโซว์แล้วรถก็แล่นออกไป ขิงโผล่หน้าออกมาจากมุมหนึ่ง เธอมองรถของโซว์ที่แล่นจากไปแล้วน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม ฟ้าครามมองเข้าไปด้านในเห็นขิงยืนมองโซว์ ฟ้าครามก็มีสีหน้าขรึมลงไปทันที

เครื่องบินบินขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านเขตประเทศไทยเข้าสู่เขตประเทศนิวแลนด์
พระราชวังที่นิวแลนด์ตั้งตระหง่าน โซว์ยืนมองอาณาจักรของตัวเองผ่านหน้าต่างห้องนอนด้วยสีหน้าอมทุกข์ ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูเปิดเข้ามา โซว์ไม่ได้หันไปมองแต่ก็พูดออกไป
“ปีเตอร์ ชั้นบอกแล้วใช่มั้ยว่าชั้นอยากอยู่คนเดียว”
เสียงของมาเรียดังขึ้น
“ไม่อยากเจอใครแม้แต่ชั้นเหรอโซว์”
“มาเรีย!”
มาเรียยืนยิ้มกว้างอยู่ที่ประตูห้อง โซว์เดินเข้ามาสวมกอดมาเรียไว้อย่างสนิทสนม

นางสนมเอาน้ำชาและของว่างมาเสริฟพร้อมกับรินน้ำชาให้โซว์กับมาเรียแล้วก็โค้งคำนับแล้วเดินออกไป โซว์และมาเรียหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ
“เธอกับเจ้าชายเรล์ฟไปกันได้ดีใช่มั้ย” โซว์ถาม
“ไม่ล่ะ ฉันเลิกกับเรล์ฟแล้ว ฉันก็เลยกลับมาหาเธอ” มาเรียบอก
โซว์หน้าเสีย มาเรียยิ้มซุกซน
“ล้อเล่นน่ะ ... ชั้นกับเรล์ฟคืนดีกันแล้ว และชั้นกำลังจะเข้าพิธีอภิเษกกับเรล์ฟ ชั้นก็เลยมาบอกเธอด้วยตัวเอง”
“ดีใจด้วยนะ มาเรีย ชั้นขอให้เธอมีความสุขกับคนที่เธอเลือกนะ”
มาเรียยิ้มขอบคุณพลางชะเง้อมองหาขิง
“แล้วขิงอยู่ไหนล่ะ ชั้นอยากเจอขิง ชั้นอยากขอโทษเรื่องที่ชั้นทำตัวแย่ๆ กับเค้าไว้”
โซว์หน้าเศร้า
“ขิงไม่อยู่ที่นี่หรอก มาเรีย เค้าไม่ยอมกลับมากับชั้น”
“ทำไมล่ะ ขิงเค้ารักเธอจะตายไป”
“เค้าอาจจะรักชั้น แต่เค้าไม่เลือกชั้น ชั้นไม่อาจจะให้ความสุขกับเค้าได้”
“โธ่ โซว์ ...”
มาเรียเข้าไปกอดโซว์ด้วยความสงสารและเห็นใจ โซว์เศร้าแต่ต้องฝืนใจ

ชะลอม กระจาด และตะกร้าที่มีอาหารกับขนมมากมายวางต่อหน้าขิงที่รีสอร์ท ยายขม ตุ๊ก รุ้ง และแก้วยิ้มแฉ่งหน้าบานให้กับขิง
“ยาย ยายเอาของมาทำไมมากมายจ๊ะ” ขิงถาม
“อ้าว ข้าก็เอามาฝากไอ้โซ่มันสิวะ ... แล้วนี่มันอยู่ที่ไหนล่ะ ข้ามาตั้งนานแล้ว ยังไม่เห็นหน้ามันเลย” ยายขมถามหา
“นั่นสิจ๊ะ รุ้งก็อยากเข้าเฝ้าเจ้าชายโซว์เต็มแก่แล้ว”
“แหม น้องรุ้งอ่ะ อยากเจอกิ๊กเก่าออกนอกหน้าแบบนี้ พี่แก้วน้อยใจนะรู้มั้ย”
“บ้าน่ะ พี่แก้ว เค้าไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าชายซะหน่อย ในใจเค้ามีแต่พี่แก้ววิ่งเล่นอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ”
แก้วกับรุ้งหยอกล้อกันไปมา ยายขมถามขิงซ้ำ
“เอ้า นังขิง ไอ้โซ่มันอยู่ไหน ยายรอฟังอยู่นะ”
“โซว์เค้ากลับประเทศของเค้าไปแล้วจ้ะยาย”
ยายขมองค์ลงถึงกับปรี๊ดแตก
“ว่าไงนะ มันกลับไปแล้ว!!! หน็อย ไอ้โซ่ แกกล้าดียังไงถึงได้ทิ้งไอ้ขิงมันถึงสองครั้งสองหน คอยดูนะ ถ้าข้าไม่ได้เอาเลือดหัวมันออก อย่ามาเรียกข้าว่ายายขมอีก”
ยายขมลุกขึ้นจะพุ่งตรงไปจะออกไป ขิง ตุ๊ก รุ้ง และแก้วรีบรั้งตัวยายขมไว้
“ยายจ๋า ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ยายฟังขิงก่อน”
“ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันอย่างไหนวะ”
“เจ้าชายไม่ได้ทิ้งขิง ขิงต่างหากที่ทิ้งเจ้าชาย” ขิงบอก
ตุ๊ก แก้ว รุ้ง ยายขมชะงักแล้วร้องอ้าวพร้อมกัน
“เรื่องมันเป็นไงมาไงวะ ไหนเล่ามาให้น้าฟังซิ” ตุ๊กถาม
ขิงนิ่งไม่ตอบอะไร ยายขมเห็นท่าทางแล้วคงจะไม่ได้คำตอบแน่จึงเอ่ยขึ้น
“เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ ว่าแต่ที่แกทิ้งไอ้โซ่ เพราะแกเลือกคุณฟ้าครามเค้าแน่แล้วใช่มั้ย”
ขิงยังนิ่งอีก ยายขมมองหน้าขิงด้วยความหนักใจ

ฟ้าครามกำลังตรวจดูความเรียบร้อยที่มุมหนึ่งในรีสอร์ท พอตรวจเสร็จเขาหันกลับมาก็เจอยายขมกำลังจ้องอยู่ ฟ้าครามตกใจ
“โธ่ คุณยายครับ ตกใจหมดเลย นึกว่าใครซะอีก”
“ขวัญอ่อนจริงนะพ่อคุณ” ยายขมว่า
“คุณยายต้องการอะไรเพิ่มเติมรึเปล่าครับ ผมจะได้ให้เด็กหามาให้”
“ไม่ล่ะ ข้าอยากคุยกับเอ็งหน่อยน่ะ”
“ได้สิครับ งั้นเดี๋ยวไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่านะครับ”
ฟ้าครามเดินนำยายขมไปนั่งอีกมุม ยายขมพินิจพิจารณาดูฟ้าครามไม่ละสายตา
“คุณยายเล่นจ้องผมแบบนี้ ผมก็เขินแย่สิครับ”
“ข้าถามตรงๆ นะ เอ็งคิดยังไงกับนังขิงหลานข้า”
เจอยายจู่โจมตรงๆ ฟ้าครามก็ถึงกับอ้ำๆ อึ้งๆ
“ว่ายังไง ข้าถามน่ะได้ยินมั้ย”
“ได้ยินครับ คุณยาย ... ผม เอ่อ ผมรักคุณขิงครับ ผมอยากแต่งงานกับเธอ อยากใช้ชีวิตกับเธอตลอดไปครับ”
ยายขมพยักหน้า
“ที่ข้าถาม ก็ไม่ได้จะอะไรหรอกนะ แค่อยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับมันกันแน่”
“แล้วอย่างผมนี่พอไหวไหมครับ”
“ก็ไหวอยู่นะ แต่ถ้ารักหลานข้าจริง ก็ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูให้ถูกต้อง หลานข้ารักใครชอบใคร ข้าก็ชอบด้วย”
ฟ้าครามดีใจ “ขอบคุณครับคุณยาย”
“ขิงมันเจ็บปวดจากความรักครั้งที่แล้วมามาก ยายฝากคุณดูแลมันด้วยนะ”
“ผมสัญญาครับคุณยาย ผมจะไม่ทำให้คุณขิงต้องเสียใจอีกเป็นอันขาดครับ”
ฟ้าครามยิ้มให้ความมั่นใจกับยายขม

ตุ๊ก แก้ว และรุ้งอุทานออกมาพร้อมกัน
“เซอร์ไพรส์?”
ฟ้าครามพยักหน้า
“ใช่ครับ ผมอยากขอขิงแต่งงานแบบไม่ให้ขิงรู้ล่วงหน้าน่ะครับ”
“แหม คุณฟ้าครามเนี่ย โรแมนติกสุดๆ เลย รุ้งอยากได้คุณฟ้าคราม เอ๊ย อยากให้พี่แก้วเหมือนคุณฟ้าครามจัง”
“น้องรุ้งอยากให้พี่แก้วทำอะไร ก็บัญชามาได้เลยจ้ะ” แก้วบอก
ตุ๊กส่ายหน้าเพราะเบื่ออีสองตัวนี้จริงๆ
“น้ายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ ว่าแต่คุณฟ้าครามอยากให้เราช่วยทำอะไรเหรอครับ” ตุ๊กถาม
“ผมยังนึกไม่ออกเลยครับว่าจะทำยังไงให้ขิงเค้าแปลกใจ ผมยังไม่รู้ว่าขิงเค้าชอบ หรือไม่ชอบอะไร ก็เลยอยากให้ทุกคนช่วยกันระดมความคิดน่ะครับ”
“ชั้นนึกออกแล้ว เราก็ให้คุณฟ้าครามเล่นลิเกขอขิงมันแต่งงานเลยดีมั้ย” แก้วเสนอ
รุ้งเบ้หน้า “ไม่เห็นจะโรแมนติกตรงไหนเลย สู้วิธีของชั้นก็ไม่ได้”
“ไหนลองว่ามาซิว่าทำยังไง” แก้วถาม
“เราก็ให้คุณฟ้าครามขอขิงแต่งงานท่ามกลางทุ่งดอกกุหลาบเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก บ่งบอกความจริงที่ยิ่งใหญ่”
รุ้งเริ่มจะเพ้อจนตุ๊กต้องเบรก
“มันจะลงทุนมากเกินไปรึเปล่านังรุ้ง”
“แหม น้าตุ๊กก็ ขอแต่งงานทั้งที มันก็ลงทุนบ้างอะไรบ้างสิ” รุ้งว่า
ตุ๊กส่ายหน้า “คุณฟ้าครามไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ขิงมันไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอก แค่แสดงความจริงใจให้มันเห็นก็น่าจะพอแล้ว”
ฟ้าครามฟังตุ๊กแล้วครุ่นคิดตาม

เช้าวันใหม่ ขิงกำลังนั่งเหม่อเพราะคิดถึงโซว์พร้อมกับถอนหายใจ เพื่อนพนักงานคนหนึ่งตะโกนเรียกขิง
“ขิง ... ขิงจ๊ะ โทรศัพท์จากคุณฟ้าครามจ้ะ”
“รอเดี๋ยวนะ”
ขิงเดินเหม่อไปรับโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ ขิงพูดค่ะ”
“ขิงมาพบผมที่สวนหน่อยได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงฟ้าครามพูด
“ได้สิคะ”
ขิงรับคำ แล้ววางสายด้วยสีหน้าแปลกใจ

ขิงเดินมาที่สวนพลางมองหาฟ้าครามไปด้วย
“เอ ... อยู่ไหนนะ” ขิงตะโกนเรียก “คุณฟ้าครามคะ”
ฟ้าครามก้าวออกมาจากทางด้านหลัง ในมือของเขาถือช่อดอกไม้มาด้วย
“ผมอยู่นี่ครับ”
ขิงหันไปเจอหน้าฟ้าคราม ขิงแปลกใจที่เห็นฟ้าครามมาแปลก ฟ้าครามเดินเข้ามาหาขิง พอถึงตรงหน้า เขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ที่มีแหวนผูกกับโบว์ให้ขิง
“นี่มันอะไรกันคะคุณฟ้าคราม” ขิงงง
“แต่งงานกับผมนะครับขิง”
ขิงอึ้ง “เอ่อ ... มันจะไม่เร็วไปเหรอคะ”
“ผมรู้ครับว่าเราอาจจะรู้จักกันไม่นาน แต่ผมก็มั่นใจว่าคุณคือคนที่ผมตามหาอยู่”
ขิงลังเลก่อนจะตัดสินใจครั้งใหญ่ เธอเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากฟ้าคราม แก้วกับรุ้งที่แอบดูอยู่หลังพุ่มไม้กิ๊วก๊าวดีใจกันยกใหญ่
“โอ้ว โรแมนติกที่สุดเลย” รุ้งบอก
“งั้นเอาไว้พี่แก้วจะจำเอาไปทำกับรุ้งบ้างดีมั้ย”
ตุ๊กจุ๊ปากใส่แก้วกับรุ้ง
“พวกแกสองคนช่วยเงียบๆ แล้วตั้งใจดูหน่อยได้มั้ย”
แก้วกับรุ้งจ๋อยที่โดนตุ๊กดุ ขิงรับช่อดอกไม้แต่ดึงแหวนส่งคืนให้ฟ้าคราม
“ฉันขอเก็บมิตรภาพของเราเอาไว้ แต่คงรับความรักของคุณเอาไว้ไม่ได้ แหวนนี่ คุณฟ้าครามเอาคืนไปเถอะนะคะ” ขิงบอก
ฟ้าครามอึ้งและถึงกับไปไม่เป็น
ตุ๊ก รุ้ง และแก้วร้องอ้าวออกมาพร้อมกัน
“ไหงเป็นอย่างนี้ล่ะเนี่ย” ตุ๊กงง
ฟ้าครามลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเสียใจมาก
“คุณยังรักเค้าอยู่ใช่มั้ยขิง” ฟ้าครามถาม
ขิงหลบตาฟ้าครามเพราะไม่กล้าตอบ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอไปทำงานต่อนะคะ” ขิงบอก
ขิงปลีกตัวออกไป ตุ๊ก รุ้ง และแก้ววิ่งเข้ามาสมทบกับฟ้าคราม
“ทำไมขิงถึงคืนแหวนล่ะคะคุณฟ้าคราม หรือว่าขิงยังลืมเจ้าชายไม่ได้” รุ้งแปลกใจ
ฟ้าครามได้ยินคำว่า “เจ้าชาย” ก็เกิดลูกฮึดขึ้นมา เขาวิ่งตามขิงไปทันที

ขิงเดินนำลิ่วมา ฟ้าครามวิ่งตาม
“ขิง หยุดก่อน เราต้องคุยกัน”
“ชั้นพูดทุกอย่างไปหมดแล้ว ชั้นแต่งงานกับคุณไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะ”
ขิงจะเดินหนีไปอีก แต่ฟ้าครามเดินไปขวางหน้าแล้วจับไหล่ขิงไว้
“เลิกหนีซะทีขิง”
“ชั้นไม่ได้หนี”
“คุณนั่นแหละกำลังหนีปัญหา เมื่อไหร่คุณยอมรับเสียทีว่าคุณรักเจ้าชาย”
“ฉันกับเค้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”
“คุณตัดใจจากเค้าไม่ได้หรอกขิง ผมรู้ว่าคุณยังรักเค้าอยู่ ที่คุณให้เค้าไปก็เพราะคุณยังรักเค้าเต็มหัวใจ ทุกวันนี้ คุณก็ยังลืมเค้าไม่ได้”
“ไม่จริง!!”
“พูดออกมาสิ พูดออกมาว่าคุณไม่ได้รักเค้า คุณพูดได้รึเปล่า”
“ฉัน ... ฉัน ...”
ขิงพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก แล้วขิงก็น้ำตาไหลพราก ฟ้าครามปล่อยมือจากไหล่ขิงอย่างคนหมดแรง
“คุณถามตัวเองให้ดีนะขิง ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าคุณไม่มีเค้าแล้วคุณจะมีความสุขได้จริงๆ รึเปล่า”
ฟ้าครามเดินออกไปอย่างเศร้าๆ ทิ้งให้ขิงยืนเศร้าคนเดียวกลางสวน

ขิงนั่งซึมอยู่ที่ม้ายาวด้านหน้ารีสอร์ท ยายขมเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้างขิง
“ขิงเอ๊ย ...”
ยายขมลูบหัวขิงด้วยความสงสารเห็นใจ ขิงเอนตัวลงนอนตักยายขม
“ยายจ๋า ยายโกรธขิงมั้ยจ๊ะ” ขิงถาม
“ไม่หรอก ยายจะไม่ว่าอะไรสักคำ ชีวิตของเอ็ง เอ็งต้องเป็นคนเลือกเอง”
ขิงน้ำตาซึม
“แต่ยายขอพูดอะไรหน่อยเถอะ ... ยายรักเอ็งมากนะ ยายอยากเห็นเอ็งมีความสุข ไม่ใช่นั่งหน้าเศร้าอมทุกข์อยู่แบบนี้”
“แต่ยายก็รู้ ขิงกับเค้าแตกต่างกันมาก”
“ไม่มีใครที่เหมือนกันไปทุกอย่าง ชีวิตคู่...มันต้องปรับตัวเข้าหากันทั้งนั้น ขิงได้ปรับตัวเข้าหาไอ้โซ่มันบ้างหรือยังล่ะ”
ขิงอึ้งนิ่งไป เธอคิดถึงสารพัดสิ่งที่โซว์ทำเพื่อตัวเธอ
“คิดดูให้ดีนะว่าเค้าทำอะไรเพื่อเรา แล้วเราได้ทำอะไรให้เค้าบ้าง” ยายขมบอก
แล้วยายขมก็เดินออกไป
ขิงนิ่งเพราะกำลังต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง คำพูดของฟ้าครามเมื่อตอนกลางวันย้อนกลับมา

“คุณนั่นแหละกำลังหนีปัญหา เมื่อไหร่คุณยอมรับเสียทีว่าคุณรักเค้า”
“ฉันกับเค้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว” ขิงบอก
“คุณตัดใจจากเค้าไม่ได้หรอกขิง ผมรู้ว่าคุณยังรักเค้าอยู่ ที่คุณให้เค้าไปก็เพราะคุณยังรักเค้าเต็มหัวใจ ทุกวันนี้ คุณก็ยังลืมเค้าไม่ได้”
ขิงค้านทันที “ไม่จริง”
“พูดออกมาสิ พูดออกมาว่าคุณไม่ได้รักเค้า คุณพูดได้รึเปล่า”
“ฉัน ... ฉัน ...”
ขิงพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้ ขิงน้ำตาไหลพราก ฟ้าครามปล่อยมือจากไหล่ขิงอย่างหมดแรง
“คุณต้องคิดให้ดีนะขิง ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ ถ้าคุณไม่มีเค้าแล้วคุณจะมีความสุขได้จริงๆ รึเปล่า”
แล้วขิงก็คิดถึงคำพูดของโซว์ต่อ
“......ชั้นจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เธอรู้ว่า เจ้าชายอย่างชั้น ก็สามารถจะเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึงได้ เพื่อผู้หญิงที่ชั้นรัก”
ขิงคิดหนัก

เช้าวันใหม่ ฟ้าครามกำลังออกคำสั่งพนักงานอยู่หน้ารีสอร์ท
"เอ้า เร็วๆ เข้า เดี๋ยวทัวร์กรุ๊ปใหญ่กำลังจะมาลงแล้วนะ ใครมีหน้าที่อะไรก็รีบแยกย้ายกันไปทำ แยกย้ายกันไปเตรียมตัว”
พนักงานแยกย้ายกันออกไป ทั้งหมดเดินสวนกับขิงที่หิ้วกระเป๋าสัมภาระเข้ามา ฟ้าครามมองกระเป๋าในมือขิงแล้วก็ใจหายวูบ แต่ก็ฝืนยิ้มให้ขิง
“คุณจะกลับไปหาเจ้าชายใช่มั้ย ผมยินดีด้วยนะขิง”
“ค่ะ ขิงต้องขอบคุณคุณฟ้าครามมากนะคะที่ทำให้ขิงตัดสินใจได้”
“ผมไม่เห็นได้ช่วยอะไรเลย มีแต่ทำให้คุณขิงลำบากใจอีกต่างหาก ฮะๆๆ”
ฟ้าครามฝืนหัวเราะเสียงแห้งๆ
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่างที่ผ่านมานะคะ ขิงจะไม่มีวันลืมเลย”
“ผมก็เหมือนกันครับ”
“ขิงไปก่อนนะคะ”
ขิงเดินจากไป ฟ้าครามเรียกไว้
“เดี๋ยวก่อนครับคุณขิง”
“คะ?”
“ถ้าคุณขิงมีปัญหา ไม่รู้จะไปไหน ... ที่นี่ยังยินดีต้อนรับคุณเสมอนะครับ”
ขิงยิ้ม “ขอบคุณมากนะคะ คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของขิงเลยคุณฟ้าคราม”
“จำไว้นะขิงว่าคุณยังมีผมตรงนี้เสมอ”
ขิงยิ้มให้ฟ้าครามแล้วค่อยๆเดินจากไป ฟ้าครามเอื้อมมือไปหาขิงราวกับอยากจะรั้งขิงไว้ แต่ก็ทำไม่ได้ ฟ้าครามปล่อยมือให้ตกลงข้างกาย สีหน้าของเขาเศร้าซึมเหมือนพยายามเก็บน้ำตาลูกผู้ชายเอาไว้ข้างใน

ประตูหน้าพระราชวังของนิวแลนด์เปิดออก ขิงเดินเข้ามาในห้องโถงของพระราชวัง ขิงเงยหน้ามองไปรอบๆ ห้องโถงด้วยแววตาเป็นประกาย เธอพร้อมจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งแล้ว

พระราชากับพระราชินีประทับอยู่บนพระเก้าอี้ โดยมีโซว์เข้าเฝ้าอยู่
“ได้ยินว่าลูกมีเรื่องจะบอกพ่อรึ” พระราชาถาม
“พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกพร้อมที่จะเรียนรู้ราชภารกิจแล้วพะย่ะค่ะ”
พระราชากับพระราชินีแปลกใจ ทั้งสองหันมามองหน้ากัน
“เจ้าแน่ใจรึ” พระราชาถามย้ำ
“ลูกแน่ใจพะย่ะค่ะ”
“แม่ว่าลูกน่าจะพักอีกสักหน่อยนะ เพิ่งเดินทางกลับมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีก” พระราชินีบอก
“ลูกไหวพะย่ะค่ะ เสด็จแม่ ลูกเสียเวลาไปตั้งหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่ลูกคิด ต่อจากนี้ไปชีวิตของลูกจะมีแต่ประเทศและประชาชนนิวแลนด์เท่านั้น”
โซว์มีแววตามุ่งมั่น พระราชามองอย่างชื่นชมเพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวของโซว์อย่างชัดเจน
“ดีมาก พ่ออยากเห็นสิ่งนี้ในตัวเจ้ามานานแล้ว ตอนนี้เจ้าได้พิสูจน์แล้วว่าเจ้าคู่ควรกับตำแหน่งว่าที่พระราชาแห่งนิวแลนด์”
“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”
พระราชาพอใจมาก แต่พระราชินีไม่ค่อยแน่ใจนัก

ปีเตอร์วิ่งหน้าตื่นมาตามทาง เขาวิ่งแซงหน้า ปาดซ้าย ปาดขวาเหล่าข้าราชบริพารที่เดินอยู่ตามทาง
“หลีกทางด้วยคร๊าบ ..ขอโทษคร๊าบหลบหน่อย ....เรื่องด่วนมากคร๊าบ”
ปีเตอร์วิ่งหลบซ้ายย้ายขวาจนมาหยุดหน้าห้องทรงงานของพระราชา ปีเตอร์หยุดหอบเหมือนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากปาก
“โอ๊ย !! ทำไมชีวิตปีเตอร์ถึงต้องเจอเรื่องตื่นเต้นแบบนี้อยู่เรื่อยน๊า” ปีเตอร์หอบ
ปีเตอร์รีบเช็ดเหงื่อแล้วจัดเสื้อสูทให้เข้าที่ เขาสูดลมหายใจแล้วเคาะประตูห้องเสียงรัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ปีเตอร์เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นมาก ๆ โซว์ที่กำลังนั่งอ่านเอกสารศึกษางานกับพระราชาโดยมีพระราชินีนั่งอยู่ใกล้ๆ หันมาตำหนิปีเตอร์อย่างไม่พอใจ
“ประตูไม่ใช่กลอง ไม่ต้องเคาะซะรัวแบบนั้นก็ได้ ไม่รู้รึไงว่าเรากำลังศึกษางานกับเสด็จพ่ออยู่”
“กระหม่อมมีเรื่องต้องกราบทูล เป็นเรื่อง” ปีเตอร์ทำท่าเป็นเครื่องหมายคำพูด “สำคัญมาก”
โซว์ไม่สนใจฟัง “ไม่มีเรื่องไหนสำคัญกว่าเรื่องราชการแผ่นดินหรอก”
ปีเตอร์รีบเข้าไปบอกโซว์ใกล้ๆ “แต่เจ้าชายเชื่อหม่อมชั้นซิพระเจ้าค่ะ ว่าเรื่องนี้” ปีเตอร์ทำท่าในเครื่องหมายคำพูด “สำคัญจริงๆ”
“ไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้นแหละ เจ้าออกไปเถอะ เราจะอ่านหนังสือ”
โซว์ไม่สนใจ เขาตั้งท่าจะอ่านหนังสือลูกเดียว ปีเตอร์พยายามเข้าไปตื้อ
“เจ้าชายทรงฟังกระหม่อมซักนิดเถอะพระเจ้าค่ะ”
โซว์ปัด “ไม่ฟัง !!!”
ปีเตอร์อ้อนวอน “เจ้าชาย !!!”
พระราชาที่นั่งฟังอยู่นานเริ่มรำคาญ
“เอ๊ะเจ้านี่ !! จะตื้ออะไรนักหนา ก็คนเค้ายังไม่อยากฟังยังจะตื้ออยู่ได้”
“แต่กระหม่อมมั่นใจว่าถ้ากระหม่อมได้กราบทูลเจ้าชายเรื่องนี้ เจ้าชายต้องดีใจแน่”
โซว์ตัดรำคาญ “โอเค !! งั้นพูดมาสั้นๆ” โซว์ชูนิ้วสามนิ้ว “สามคำ”
ปีเตอร์คิด ก่อนจะพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “คุณ - ขิง -มา”
โซว์ถึงกับอึ้งไปทันที พระราชาและพระราชินีหันมองหน้ากันด้วยความตกใจ

ขิงยืนอยู่กลางห้องรับรอง ท่าทางของเธอดูตื่นเต้นและกังวลอย่างเห็นได้ชัด ประตูห้องเปิดออก ขิงสะดุ้งแล้วรีบหันไปมอง เธอเห็นปีเตอร์เดินนำพระราชากับพระราชินีเข้ามาในห้อง
ขิงพยายามมองหาโซว์แต่ไม่เห็น เธอเริ่มรู้สึกแปลกใจและผิดหวัง แต่ขณะที่ประตูห้องกำลังจะปิดก็มีคนผลักประตูเข้ามา โดยคนที่ผลักเข้ามาก็คือ “โซว์” นั่นเอง
ขิงดีใจพยายามจะมองหน้าและยิ้มให้ แต่โชว์เดินหยิ่งและไม่ยอมมองหน้าขิงแม้แต่นิดเดียว โซว์ไปยืนประจำที่เจ้าชายดูงามสง่าและสูงส่ง
“ลูกชายเราบอกว่า เจ้าตัดสินใจทุกอย่างไปแล้วนี่ ทำไมถึงกลับมาที่นี่อีก” พระราชาถาม
“การตัดสินใจบางครั้งก็มีผิดพลาดบ้าง หม่อมชั้นอยากจะแก้ไขการตัดสินใจนั้นเพคะ” ขิงบอก
ขิงพูดเสร็จก็มองหน้าโซว์ แต่โซว์หน้านิ่งไม่สนใจใดๆ ท่าทางของโซว์ดูทั้งหยิ่งและเชิ่ดๆใส่เธอ
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสเหรอ” พระราชาถาม

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 13/3 วันที่ 11 ต.ค. 55

ท่านชายในสายหมอกนำแสดงโดย: หลุยส์, พั้นช์ วรกาญจน์, ลิฟท์ สุพจน์, ซานิ, ปาล์ม ณัฐดนัย
ท่านชายในสายหมอกอำนวยการผลิตโดย: บริษัท ทีวีธันเดอร์ จำกัด
ท่านชายในสายหมอก บทประพันธ์ โดย วรรณึก
ท่านชายในสายหมอก บทโทรทัศน์ โดย ปณธี-ภควดี
ท่านชายในสายหมอก กำกับการแสดง โดย ศุภฌา ครุฑนาค
ท่านชายในสายหมอกออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทาง ช่อง 3
ท่านชายในสายหมอก เริ่มออกอากาศตอนแรกวันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555
ติตามชมละครเรื่องท่านชายในสายหมอก ได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manager