@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15 วันที่ 20 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15 วันที่ 20 ต.ค. 55

กรรณนรีมองอย่างเป็นห่วง “อย่างที่บอก ฉันเป็นห่วงคุณ”
ภาพิศสะท้อนใจ ขอบตาร้อนผ่าว แทบน้ำตาคลอ แต่ต้องกลั้นฝืนไว้
“ก็ฉันบอกเธอแล้วไง...ไม่ให้เธอมา เธอก็ยังจะดื้อมาอีก ฉันเลยต้องมา เพราะฉันก็ห่วงเธอ ห่วงมาก”
กรรณนรีมองภาพิศด้วยความตกใจ แทบไม่เชื่อสายตา

“คุณห่วงฉันจริงๆ ใช่มั้ยคะ
ภาพิศกลั้นน้ำตา พยักหน้าให้ขณะจับมือกรรณนรี

“ใช่...ห่วงมาก แล้วก็ขอโทษ..ที่ผ่านมา...ฉันทำไม่ดีต่อเธอ”
กรรณนรีน้ำตาคลอ “ฉันไม่เคยโกรธคุณเลยค่ะ”
“นั่นล่ะ...ฉันยิ่งโกรธตัวเอง...ศุภาวีร์....เอาไว้ให้เรื่องยุ่งๆ ทั้งหมดนี้จบลงก่อนฉันมีบางอย่างจะพูด จะบอกเธอ แต่ตอนนี้...ฉันอยากให้เธอไปจากที่นี่…”
“เพราะมันไม่ปลอดภัยใช่มั้ยคะ” กรรณนรีบอก
ภาพิศอึ้ง “เธอก็รู้”



“ฉันรู้...แต่ฉันจะอยู่เพื่อฉีกหน้ากากคุณหญิงสุดา”
ภาพิศกวาดสายตามองรอบๆ ตัว บอกด้วยท่าทีจริงจัง
“งั้นเธอฟังฉันนะ” เกือบหลุดเรียกกาว “กะ... ก้าง...” กระซิบบอก
กรรณนรีมองภาพิศ ตกใจแทบช็อก ภาพิศพูดต่อ
“เธอต้องทำตามแผนที่ฉันบอก แล้วทุกอย่างจะสำเร็จ”
กรรณนรีงงในท่าทีที่เปลี่ยนไป ภาพิศหันไปมองเห็นสุดาอารักษ์เดินไปยังห้องพัก แต่สายตาสุดามองมาอยู่ ภาพิศปล่อยมือ เปลี่ยนท่าทีเป็นขึงขัง
“เชื่อฉัน ไม่งั้นเธอเละแน่”
กรรณนรีมองตามสายตาภาพิศก็นึกรู้ จึงแกล้งทำเป็นตาดุเอาเรื่อง
“ค่ะ ฉันจะทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง”
ส่วนอีกมุม สุดากับอารักษ์เดินไปยังห้องพัก สุดานั้นลอบมองทั้งสองคนไม่คลาดสายตา พอเห็นภาพิศ กับกรรรณรี ทำท่าทางขึงขังใส่กัน ราวกับจะตบตีกันก็เบาใจ
พอเห็นสุดากับอารักษ์เดินเข้าที่พักไปแล้ว ภาพิศจึงเอ่ยขึ้น
“ขอบใจมาก....ที่ทำให้ฉันได้รู้ว่าผู้ชายที่ฉันเลือกเลวร้ายแค่ไหน...ยิ่งถ้าเทียบกับผู้ชายอีกคนที่ฉันทิ้งเค้ามา ...มันต่างกัน ราวฟ้ากับเหวเลยล่ะ”
กรรณนรีมองภาพิศอย่างซาบซึ้ง ดีใจที่ภาพิศเห็นเกริกเป็นคนดี

สุดาเดินมายังหน้าห้องพักอารักษ์ ด้านนอก เห็นวิวสวยสุดลูกตา
ระหว่างนั้นกาวินทร์ปลอมตัวจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เพื่อไม่ให้ใครจำได้ ติดหนวด ติดเครา ผมเผ้ายาวรุงรังเหมือนคนบ้า แถมแต่งตัวมอซอ สวมหมวกเหมือนคนงาน ถือไม้กวาดเดินตามหลัง เฝ้าตลอดได้ยินสองคนคุยกัน
“ที่นี่อากาศดีจังเลยนะเหมาะกับการมาฮันนีมูน” สุดาว่า
“ฮันนีมูน” อารักษ์ทำท่าแหยง กลัวสุดา
สุดาเห็นท่าทีก็ยิ่งหมั่นไส้ อยากตบมาก “ไม่ใช่ของคุณกับฉันหรอกค่ะ แต่เป็นฮันนีมูนของคุณ
กับนังเด็กนั่น”
“จะได้ยังไง? ปลายเล็บเค้าก็ไม่ให้ฉันแตะ นี่มีธุระสำคัญอะไรก็พูดๆ มา ฉันจะได้ไปหาหนูศุ”
“ธุระของฉันก็จะทำให้คุณได้แตะมันทั้งตัว จะอยู่ฟังรึเปล่าล่ะคะ”
อารักษ์มองอย่างฉงน แกมตื่นเต้น สุดาอธิบาย
“บอกแล้วไงคะว่าที่มาเที่ยวเนี่ย ก็เพราะจะลวงมันมาให้คุณเชือด”
“จริงเหรอคุณหญิง...โธ่!คุณหญิงช่างเป็นภรรยาที่ประเสริฐที่สุด”
กาวินทร์ขบกรามแน่น โกรธมาก คิดในใจ
“อุบาทว์ที่สุดล่ะไม่ว่า”
“คุณไม่หึงไม่หวงผมเหรอ”
“แก่แล้วค่ะ อะไรทำให้คุณได้...ฉันก็อยากทำให้ คุณรีบไปฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งมาแล้วกัน”
“ได้...งั้นผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกกำลังกายมาเดี๋ยวนี้เลย”
อารักษ์เดินเข้าไปในห้อง สุดาเหยียดยิ้มน่ากลัว
“แกสองคนแม่ลูกได้กระอักเลือดตายแน่”
กาวินทร์นึกเป็นห่วงกรรณนรี

ขณะที่กรรณนรีเดินมาตามทางในรีสอร์ท ด้วยท่าทีร้อนรน หยิบมือถือออกมาจะโทร. เวลานั้นกาวินทร์ที่ปลอมตัวจนแทบจำไม่ได้ โผล่พรวดมาเรียกเบาๆ
“กาว...”
กรรณนรีหันมามองด้วยความตกใจ เบื้องแรกจำไม่ได้ ก่อนจะเพ่งและเขม้นตามองอย่างพินิจ
“พี่แก้ว”
ไม่นานนัก สองพี่น้องคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งลับตาคน
“ไม่คิดจริงๆ ว่าจะเป็นพี่แก้ว ตะกี้กาวว่าจะโทร.หาพอดี” กรรณนรีบอกอย่างตื่นเต้น
“เพื่อนพี่เป็นผู้จัดการอยู่ที่นี่ เลยให้มันช่วย แต่จากที่กาวเล่า พี่ว่าแม่ต้องรู้ระแคะระคายอะไรมาบ้างแล้วล่ะ ถึงได้บอกให้กาวซ้อนแผนคุณหญิงสุดา พี่ว่ากาวทำตามแม่ดีที่สุด”
“ค่ะ..กาวจะทำตามแม่อย่างแรก คือ...ทะเลาะกับแม่ ให้คุณหญิงสุดาตายใจ”
“ไม่ต้องห่วง พี่จะอยู่แถวนี้ ดูแลแม่กับกาวเอง ไปทะเลาะกับแม่ให้สาใจคุณหญิงสุดาแล้วกัน”

กาวินทร์บอกอย่างหนักแน่นในท่าทีจริงจัง
เวลาต่อมาที่บริเวณฟาร์มเลี้ยงแกะ กรรณนรีทำทีเป็นเดินเล่น ภาพิศเดินมา ตามด้วยสุดา ภาพิศบ่นเป็นนางร้าย

“นี่...ฉันไม่ใช่คนใช้เธอนะ...ถึงจะเดินต้อยๆ ตามก้นเธอน่ะ”
“ก็ฉันอยากเดินเล่นนี่.. คุณดูสิ” มองจ้องภาพิศ “มีแกะด้วย”
ภาพิศแกล้งร้องเสียงดังอย่างไม่พอใจ “อะไรนะ เธอว่าฉันกระแดะ” แล้วหันไปฟ้องสุดา “คุณหญิงพี่คะมันว่าน้องกระแดะ”
กรรณนรีรับมุข กวนกลับ “ฉันเปล่านะคะ ฉันว่าแกะ” ก่อนจะทำหน้าเย้ย “คุณไม่ได้ว่าคุณกระแดะ”
“เห็นมั้ยเธอหลอกด่าฉัน ว่าฉันกระแดะ”
สุดาเออออกับภาพิศ “จริงด้วย...เธอว่าคุณภาพิศกระแดะ ทำไมเธอพูดอย่างนี้ศุภาวีร์”
“ฉันไม่ได้ว่านะคะ”
ภาพิศจัดเต็ม เต้นเร่าๆ “เธอว่า...” หันมาทางสุดา “คุณหญิงพี่ได้ยินเหมือนน้องมั้ยคะ”
สุดาตอบทันที “ได้ยิน...” เน้นอีก หลอกด่า “ศุภาวีร์ด่าน้องว่ากระแดะ เต็มสองหูพี่เลย”
ภาพิศคำราม “นังศุภาวีร์”
ภาพิศปราดเข้ามาหากรรณนรี แกล้งกระชากผม ปากร้องตะโกน
“คุณหญิงพี่ช่วยน้องด้วยค่ะช่วยด้วย”
“ได้เลยค่ะ”
สุดาเข้ามาช่วยจับกรรณนรีเอาไว้ กรรณนรีสะบัดตัว แกล้งศอกใส่สุดาอย่างแรง สุดาร้อง ภาพิศตบสวนมา กรรณนรีหลบ มือของภาพิศถูกหน้าสุดาอย่างจัง สุดาร้อง ภาพิศไม่สนมือตบปากด่า
“นังศุภาวีร์ฉันจะตบแกๆๆๆ”
สุดาร้อง “นี่มันหนังหน้าฉัน…”
อารักษ์โผล่เข้ามาเห็นพอดี “ภาพิศ”
ภาพิศจำต้องออกผละออกมาท่าทีตกใจ สุดาร้องไห้ ผมเผ้ากระเซิง อารักษ์ดุ
“นี่เธอท้องจริงรึเปล่าเนี่ย กระโดดตบคุณหญิง ยังกับเป็นนักวอลเล่ย์”
“ขอโทษค่ะคุณหญิงพี่..น้องนึกว่าเป็นนังศุภาวีร์”
กรรณนรีแกล้งออเซาะ “ท่านขา...คุณภาพิศเรียกหนูว่านัง”
อารักษ์โมโห ตะเพิดทันที “คนอย่างเธอ มันไม่สมควรที่จะอยู่กับใครเลยจริงๆ เลยภาพิศ ไป..จะไปไหนก็ไป”
“ท่าน” ภาพิศแกล้งตกใจ
“ไป๊...” อารักษ์ไล่ตะเพิด
ภาพิศเดินไป กรรณนรีรีบบอก
“หนูไปก่อนนะคะ...หนูร้อน”
อารักษ์ร้องเรียกเสียงอ้อน “หนูจ๋า...หนู”
“ไม่ต้องตามมาค่ะ...หนูอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”
กรรณนรีเดินทิ้งหางตาทำท่าสะบัดสะบิ้งออกไป อารักษ์ไม่กล้าตาม สุดารีบบอก
“น่าคุณ...อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
“แต่ผมไม่กินคุณหญิงนะ” มองดูสารรูปสุดา “น่วมเป็นกระท้อนเชียว”
สุดาค้อนปะหลับปะเหลือก ท่าทีน่าขัน

ภาพิศเดินนำ กรรณนรีวิ่งตาม ถามอย่างเป็นห่วง
“คุณคะ....คุณเป็นไรมั้ยคะ”
ภาพิศหยุดหันมายิ้ม “เปล่า..แต่ได้รู้จัก ท่านอารักษ์มากขึ้นทุกวัน” ยิ้มหยันอย่างขมขื่น “แล้วก็
รู้ว่า...ฉันควรหนีห่างคนแบบนี้ให้ไกล”
“แต่เด็กในท้องคุณ”
ภาพิศยิ้มอ่อนโยน “ฉันอยากให้ลูกฉันมีพ่อที่ดี....แต่ถ้าพ่อไม่ดี ก็ไม่ต้องมีซะดีกว่ารอให้สิ่งที่ฉันคิดสำเร็จซะก่อน ฉันจะไป...ไปจากท่านอารักษ์ให้ไกลที่สุด”
“ฉันเชื่อว่าคุณจะได้พบสิ่งที่ดีแน่นอนค่ะ”
“ใช่...เพราะที่ผ่านมา...ฉันเกลือกกลั้วอยู่กับสิ่งที่ไม่ดี...เปล่า...ฉันไม่ได้ว่าท่าน..เพียงแต่..ฉันคิดได้...” สีหน้าภาพิศสลดลง “การที่ฉันเข้ามาเป็นมือที่สาม ทำลายครอบครัวคนอื่น ฉันก็เป็นคนไม่ดีแล้ว และถึงเวลานี้..ฉันก็ควรหลุดพ้นซักที”
ภาพิศมองกรรณนรีพลางยิ้มแล้วเดินหนี กรรณนรียืนมองตามไปไม่วางตา ภาพิศเหลียวมามองกรรณนรี คิดในใจ “แม่ไม่ได้โกรธคุณหญิงสุดาที่ทำร้ายแม่ แต่แม่โกรธ ที่เค้าทำร้ายลูกต่างหาก กาว”
“ขอให้ถึงวันที่แม่หลุดพ้นได้จริงๆ” กรรณนรีภาวนาอยู่ในใจ มองภาพิศอย่างเอาใจช่วยเต็มที่

ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นสวยงามของรีสอร์ทแห่งนั้น สรวงประคองสุขหฤทัยมาตามทาง โดยไม่รู้ว่าแฉล้มซึ่งแอบตามมาเช่นกัน เดินตามมาห่างๆ พอเห็นสรวงอยู่กับสุขหฤทัยก็มองอย่างสนใจ
สุขหฤทัยถามสรวงอย่างคาใจ
“ไม่รู้ตะกี้สรวงจะวิ่งหนีฤทัยทำไม..? ว่าไงคะ? หรือมานี่เพื่อมาสืบดูอะไร”
“จะสืบอะไร ผมก็แค่อยากเล่นอะไรสนุกๆ”
“ก็แล้วทำไมไม่บอกฤทัย...” สุขหฤทัยทำตายั่วยวน “สรวงอยากเล่นสนุกแค่ไหน บอกมาเลยค่ะ ฤทัยพร้อมทำตามสรวงทู้กอย่าง”
“จริงเหรอ” สรวงยิ้มเจ้าเล่ห์
“จริงสิคะ...”

สุขหฤทัยเล่นหูเล่นตา พลางเอามือทำปูไต่ที่อกสรวง แม้ไม่ได้ชอบแล้ว แต่นาทีนี้หล่อนแค่อยากเอาชนะ
ไม่นานต่อมาร่างสุขหฤทัยถูกมัดเข้ากับเสาหลักธนู สาวแสบร้องกรี๊ดๆ

“สรวงคะ..สรวงจะทำอะไร”
“ก็หาอะไรเล่นสนุกๆ ไง”
“สนุกยังไง” สุขหฤทัยฉงน
“ก็อย่างงี้ไง”
จังหวะต่อมา คนงานเดินมาวางแอ๊ปเปิ้ลลงบนหัวสุขหฤทัย แล้วยื่นธนูให้สรวง
“ฤทัยสุดสวย สุดสูง อยู่นิ่งๆ นะจ๊ะ” สรวงพูดพร้อมกับเงื้อธนูสุดแขน
“สรวงงง..”
สุขหฤทัยตกใจ กรี๊ดสุดเสียง ก่อนจะคอพับคออ่อนหมดสติไป สรวงหัวเราะลั่น แฉล้มที่แอบตามมาดูรีบเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะ

ด้านภาพิศเดินมาที่บริเวณด้านนอกรีสอร์ท ลอบมาหาแฉล้มตามนัด ขณะที่แฉล้มหัวเราะคิกคัก
“นี่คุณ...คุณน่าจะได้เห็น ตอนคุณสรวงแกล้งแม่ฤทัย ตล้ก ตลก”
“อยากเห็นเหมือนกัน แต่คุณก็รู้ว่าฝั่งฉันมันมาคุแค่ไหน? นี่..แผนที่ฉันให้เตรียมไว้ เรียบร้อยใช่มั้ย”
“ใช่!จะแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม แผนสี่ แผนห้า ฉันดักทางไว้ทู้กอย่าง เหมือนเดิม เงินถึง ทุกอย่างไม่มีปัญหา” แฉล้มหัวเราะคิก “แค่คิดก็สนุก เหมือนรายการเรียลิตี้โชว์เลยนะคุณ กล้องแต่ละมุม จับ เห็นแต่ละคนถือขวาน ถือจอบ ลากเสียม ห้ำหั่นกัน สนุกเป็นบ้าเลย”
แฉล้มว่าอย่างสนุก แต่หน้าตาภาพิศสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่สนุกตามด้วยเลย
“ฉันสงสารลูกกับคุณสรวง ไม่น่าต้องมารับกรรมที่ผู้ใหญ่ก่อไว้เลย”

ส่วนอีกมุมตรงด้านนอก สุขหฤทัยนอนอยู่ โดยมีสรวง กับสุดา คอยให้ยาลมยาดม และช่วยพัดวี
สุดาโวยวายใส่ลูกชาย “จะมาทำไมไม่บอกล่ะลูก?
“ก็ผมตั้งใจมาเซอร์ไพร้ส์” สรวงบอก
“อันดับแรก เซอร์ไพร้ส์ฤทัยก่อนเลยค่ะคุณหญิงแม่ สรวงจับฤทัยเป็นเป้าธนู” สุขหฤทัยเหน็บ
“ก็คุณชอบล่อเป้า...” สรวงว่า
“ล่อที่ไหน สรวงอ่ะ”
“อย่างที่คุณทำนั่นแหละ เค้าเรียกว่าล่อเป้า...”
“สรวงก็เอาหัวใจโยนเข้าเป้าสิคะ.....เอาลูกธนูมาทำไม” สุขหฤทัยอ้อล้อ
สุดาเห็นด้วย ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นหงุดหงิดอีก “จริงด้วย...เฮ้อ! สรวงนะสรวง จะมาก็น่าจะบอกแม่ซักคำ”
“ก็ผม..อยากให้คุณแม่เซอร์ไพร้ส์นี่ครับ หรือคุณแม่ไม่อยากให้ผมมา” สรวงดักคอ
สุดาอึกอัก “อยากสิจ้ะ...แม่อยากให้สรวงมาจะตาย” ปากว่าแต่แววตาแสนจะหนักใจ
“ดีครับ..ผมก็อยากมาเซอร์ไพร้ส์คุณพ่อเหมือนกัน จะได้มาพักผ่อนกันเป็นครอบครัวซักที”
สรวงยิ้มแววตามีแผน สุดาหันไปยิ้มปูเลี่ยนๆ กับสุขหฤทัย

สองคนเดินตามทาง สุขหฤทัยตั้งข้อสังเกต
“สรวงต้องคอยขัดขวางเราแน่ๆเลยค่ะคุณหญิงแม่”
“แม่ก็ว่างั้นแหละ งั้นฤทัยต้องคอบประกบสรวงไว้ให้ดีนะลูก แม่จะหาทางจัดการนังสองแม่ลูกนั่นเอง”
“ได้ค่ะ...ฤทัยจะ จับเกาะติด สรวงทุกฝีก้าวเลย” สุขหฤทัยทำหน้าหื่นท่าทีน่าขัน
“หื่นไปนะฤทัย” สุดากัดทีเล่นทีจริง อาการขำๆ
สุขหฤทัยเองก็ยิ้มขำ “เบา..เบาค่ะคุณหญิงแม่..เพราะฤทัยว่า คุณพ่อต้องคอยจัดหนักจัดเต็มนังกรรณนรีแน่ๆ ค่ะ”

ขณะที่อารักษ์ แทบจะประคองกรรณนรีปิ้งย่างบาร์บีคิว โดยมีภาพิศยืนมอง คอยขวางไม่ให้
อารักษ์แต๊ะอั๋งลูกสาว อารักษ์พูดกับกรรณนรีเสียงหวาน
“หนูจ๋า...มาทาบาร์บิคิวกับฉันสิจ้ะ” ทำท่าจะเดินมาอ้อมหลังมากอดแต๊ะอั๋ง
ภาพิศรีบมาแทรกกลาง “เดี๋ยวภาทำให้ค่ะท่าน”
อารักษ์ดึงมือออก “ก็ผมอยากทำกับหนูศุ” มองจ้องกรรณนรีตาเชื่อม “อุ๊ย! หนูศุเหงื่อออก”
อารักษ์รีบคว้าผ้าเช็ดหน้าจะซับเหงื่อให้ ภาพิศรีบดึงผ้าเช็ดหน้าออก
“เดี๋ยวภาทำให้ค่ะ”
อารักษ์เริ่มหงุดหงิด “เอ๊ะ! เธอนี่ยังไงภาพิศ”
“ก็ภาอยากช่วยท่านนี่ค่ะ”
“แต่ฉันอยากทำเอง”
จังหวะนั้นสรวงเดินออกมาจากอีกทาง
“ผมช่วยทำดีกว่าครับพ่อ”
ภาพิศยิ้มออกมาอย่างดีใจ “คุณสรวง”
ด้านอารักษ์มองอย่างแปลกใจแต่ไม่ได้ติดใจสงสสัย “อ้าว! ตาสรวง...ไหงโผล่มาล่ะ มาๆ มากินบาร์บีคิวกัน”
กรรณนรีมองสรวงอย่างตกใจ ขณะที่สรวงมองกรรณนรีท่าทีไม่พอใจ สุดากับสุขหฤทัยตามมาสังเกตการณ์
สองคนมองหน้ากัน ต่างคนต่างสงสัย เพราะเห็นชัดเจน ว่าสรวงกับกรรณนรีน่าจะมีอะไรกัน ส่วนภาพิศแอบยิ้มอย่างพึงใจ ที่เห็นว่าสรวงมาแล้ว
ตัดรับภาพด้านนอก ระยะไกล มะยมกับนิคแอบมองอยู่
“กาวโกหกพ่อ” นิคมองมะยม “กาวไม่ได้ทำข่าว แต่มากับท่านอารักษ์”
“ฉันรู้แล้ว ไม่งั้นฉันจะตามมาที่นี่ได้ยังไง” มะยมว่า

นิคสงสัยสุดๆ “แล้วแกรู้ได้ยังไง”
สองเกลอเดินคุยกันมาตามทาง มะยมไขข้อข้องใจให้นิคฟัง

“ฉันก็คุยกับพี่แก้ว พี่แก้วเล่าให้ฉันฟังทุกอย่าง ฉันเลยชวนผู้ช่วยมาด้วย” มะยมพูดเป็นนัย
นิคงง “ใคร”
นพเดินเข้ามา
“ใครว่ามะยมชวนผม...ผมขอร้องมะยมตั้งนาน กว่ามะยมจะยอมให้ผมมา”
นิคอึ้ง “คุณนพ”
มะยมเยื้อนยิ้มให้นพ นิคมองสองคนที่ดูสนิทสนมกันมากๆ ถึงกับเหวอไป

ทั้งสี่คนคุยกันอยู่ตรงมุมกาแฟของรีสอร์ท กาวินทร์เปลี่ยนชุดปกติธรรมดาแล้ว นั่งอยู่ด้วย นพเอ่ยขึ้นก่อนใครอื่น
“ขอโทษนะครับที่ตามมา” นพหลุดปาก “ผมเป็นห่วง...” พลางทอดสายตามองมะยมอย่างห่วงใย
มะยมกะนิค มองนพเขม็ง นพรีบแก้ต่าง
“สรวง...” ทุกคนมองหน้านพอย่างรอฟัง “ครับผมห่วงนายสรวง”
“คุณนพรู้เรื่องด้วยเหรอครับ” กาวินทร์ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“นิดหน่อยครับ... สรวงก็คุยให้ผมฟังบ้าง เรื่องคุณหญิงกับกาว...และที่สรวงตามมาก็เพราะเป็นห่วงกาวเหมือนกัน” นพบอก

เวลาเดียวกันสรวงลากแขนกรรณนรีออกมา
“ปล่อยฉันนะคุณสรวง..ปล่อย” กรรณนรีขัดขืน
“กลัวพ่อฉันเห็นรึไง” สรวงแดกดัน
“ใช่” กรรณนรีประชดส่ง
สรวงโมโห เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เธอ”
“เพราะถ้าพ่อคุณเห็น....ทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด”
“เธอคิดอะไรของเธอ”
“ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจหรอกนะคะคุณสรวง....แต่ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องพูดซักทีเพราะฉันมั่นใจ ที่แม่คุณพาฉันพาคุณภาพิศมาที่นี่ ไม่ใช่เรื่องดีแน่”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 15 วันที่ 20 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager