@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 6 วันที่ 9 ต.ค. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 6 วันที่ 9 ต.ค. 55

มุนินทร์ชะงัก มองเขาด้วยความทึ่ง บอกเขาว่าพูดเหมือนจีบ วีกิจบอกว่าคบกับมุตตามานานจนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเขารู้สึกอย่างไร มุนินทร์ยิ้มตาพราว

“แต่ที่ฉันรู้คือ คุณปรารถนาดีกับตาจริงๆ”

“ผมชักเบื่อเป็นพระรองผู้แสนดีแล้วนะนี่”

“แปลกใจจัง ทำไมตาไม่เลือกคุณ”

“คุณพูดอะไรแปลกๆ อีกแล้ว”

วีกิจแอบเขิน ตักอาหารเอาใจ มุนินทร์ยิ้มนิดๆที่มุมปาก ถ้าเป็นเธอ...คงไม่มองข้ามเขาไปง่ายๆแน่!

หลังพักกลางวัน มุนินทร์แอบได้ยินปริมและพรรคพวกเม้าท์เรื่องวีกิจกับมุตตาในร่างของเธอแบบเสียๆหายๆ อย่างสนุกปาก

“นกคิดว่าพี่ตาจะไม่กลับมาแล้วซะอีก” รัชนกแสร้งถามหน้าซื่อ



“คงกลับมาอ้างสิทธิ์น่ะหนู สิทธิสภาพนอกอาณาเขตนังเมียน้อยน่ะ” ปริมบอกน้ำเสียงเย้ยหยัน

มุนินทร์ยืนกอดอกฟัง เม้มปากแน่น แววตากร้าวขึ้น แค้นใจแทนน้องสาว

ปริมแค้นที่โดนมุนินทร์ตอกหน้าหงายตั้งแต่เช้าจนถึงที่โรงอาหาร เจ้ากี้เจ้าการให้รัชนกบอกนพนภาว่าเมียน้อยคนล่าสุดกลับมาทำงานแล้ว รัชนกแสร้งทำหน้าตื่น สั่นหน้าไวๆ

“นกไม่เกี่ยวนะคะ นกไม่ได้เป็นสายให้ใครนะคะ”

“เธอไม่บอก งั้นฉันบอกเองก็ได้ นังมุตตาจะได้ถูกเมียหลวงตบรอบสอง”

นักรบกับฉกรรจ์ตาเป็นประกาย บอกว่าขอเวลาจัดเตรียมอุปกรณ์ถ่ายคลิปวีดิโอให้ชัดขึ้นก่อน รับรองว่าต้องฮิตกว่าคลิปครั้งก่อนแน่ๆ มุนินทร์นิ่งฟัง เก็บข้อมูลทุกอย่าง แววตากราดเกรี้ยว พร้อมมากที่จะล้างแค้น!

ooooooo

เหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างมุนินทร์กับปริมที่โรงอาหาร ทำให้อรพิมกับทิพอาภาประทับใจมาก ดีใจที่มุตตามาดใหม่ไม่อ่อนแออย่างที่เคย

“ไม่เหมือนแต่ก่อนนะ พอใครว่าอะไรนิดหนึ่ง เธอก็มัวแต่หน้าซีดเป็นนางไม้อยู่” อรพิมพูดติดตลก


“คนเราจะปล่อยให้คนอื่นทำอยู่ข้างเดียวได้ยังไง ต่อไปฉันจะเป็นฝ่ายล่าบ้าง”

มุนินทร์ตาวาววับ อรพิมกับทิพอาภายิ้มให้กัน ปลื้มที่เพื่อนเข้มแข็งขึ้น เจนภพกลับเข้ามา ถามว่าไปทานข้าวกลางวันที่ไหน มุนินทร์มองหน้าเขานิ่ง

“โรงอาหารค่ะ คนเยอะดีนะคะ ทีนี้ฉันรู้แล้วว่าพวกดาราเขารู้สึกยังไง เวลาถูกคนเป็นร้อยมอง โดยเฉพาะดาราที่มีคลิปฉาวแบบฉันด้วย”

ทิพอาภากับอรพิมอ้าปากค้าง เจนภพอึ้งไป ไม่คิดว่ามุตตาจะกล้าพูดเรื่องคลิปอีก มุนินทร์ยิ้มเยาะถามเขากลับ

“แล้ว ผอ.ไปทานที่ไหนมาคะ”

“วันนี้ผมมีนัดทานข้าวข้างนอกพอดี”

“กินข้าวกับน้ำพริกถ้วยเก่าแห้งๆ กรังๆ หรือ เปล่าคะ”

เจนภพเหวอ มุตตามาดใหม่ทำให้เขาแปลกใจ เหมือนไม่ใช่มุตตาแสนหวานคนเดิม แต่ก็น่าหลงใหลและชวนให้ค้นหาเป็นบ้า!...

“ตา...เย็นนี้รอผมด้วยนะ”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีนัดกับวีกิจแล้ว”

“เรื่องอะไรหรือ”

“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่จะซื้อเนกไทสวยๆ แพงๆ ให้เขาเท่านั้นแหละค่ะ”

“แล้วเมื่อไหร่ตาถึงจะว่างสำหรับผมสักที”

“อดใจรออีกสักนิดเถอะค่ะ แล้วคุณจะได้เจอฉันสมใจแน่”

มุนินทร์บอกเขาเสียงหวานแล้วก้มลงทำงานของตัวเองต่อ เจนภพไม่สะกิดใจ คิดว่าเธองอน...

มุนินทร์กลับบ้านกับวีกิจ ปริมและพรรคพวกมองด้วยความหมั่นไส้ เห็นรถเจนภพในโซนจอดวีไอพี ยิ้มในหน้า แกล้งคุยกะหนุงกะหนิง เจนภพยิ้มนิดๆ แต่ในใจเดือดพล่านด้วยความหึง

วีกิจเห็นสายตาเจนภพ ไม่ค่อยสบายใจ เขาถามมุนินทร์ว่าเห็นอาเขาหรือเปล่า เธอบอกว่าเห็น ยิ้มหยัน

“คุณจะไม่ถามเลยหรือว่าฉันทนเผชิญหน้าเขาได้ยังไง”

“ตา ผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะ”

“ค่ะ คุณไม่ใช่คนแบบนั้น”

มุนินทร์ยิ้ม ชวนวีกิจไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า แต่ขอกลับหอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน บอกว่าจะซื้อเนกไทเส้นใหม่ให้เขา เพราะเส้นที่เขาใส่มันเชย วีกิจขำมอง มุตตาคนใหม่อย่างพอใจ สบายใจที่ได้อยู่กับเธอ

มุนินทร์แอบขึ้นไปค้นหาคลิปตบน้อยหน้ากระทรวง ภาพแฝดน้องโดนทำร้ายทั้งจากนพนภาและประณามโดยสังคมสะเทือนใจเธอเหลือเกิน จากนี้ไปเธอจะเปิดเกมรุกบ้าง มุตตาหัวอ่อนคนเดิม...ไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

ooooooo

คลิปฉาวของแฝดน้องทำให้มุนินทร์เงียบขรึมขึ้นมาก วีกิจขับรถพาเธอไปห้างสรรพสินค้า เหลือบ ตามอง ถามเธอด้วยความเป็นห่วง เธอถอนใจเบาๆอ้าง ว่าเช็กอีเมล์แล้วเจอข่าวร้าย เขาไม่ค่อยเชื่อนักแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

“นี่คุณซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่หรือฮะ พีซีหรือโน้ตบุ๊กฮะ”

“เครื่องเก่าน่ะค่ะ ใช้มาสองปีแล้ว เป็นแลปท็อปค่ะ”

“รู้ไหมฮะ ท่านผู้รู้เขาบัญญัติศัพท์ให้เรียกว่า คอมพิวเตอร์วางตัก”

“หรือคะ ฟังดูปัญญาอ่อนจัง”

วีกิจหัวเราะเบาๆ อย่างสบายใจ มุนินทร์ยิ้ม อารมณ์ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว

วีกิจกับมุนินทร์มาถึงห้างสรรพสินค้า เธอพาเขาไปซื้อเนกไทอย่างที่เคยบอก เขาเลือกได้สองแบบแต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้ออันไหน เธอบอกว่าจะซื้อให้ทั้งสองเส้น เขาปฏิเสธ เกรงใจและไม่มีโอกาสพิเศษอะไร

“แต่ฉันไม่อยากรออีกต่อไปแล้วค่ะ ฉันเคยทำไม่ดีกับคนคนหนึ่ง ฉันอยากขอโทษ อยากทำดีแก้ตัว แต่ฉันก็ไม่ได้ทำ มัวแต่รออยู่ จนกระทั่งทุกอย่างมันสายเกินไป จนแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”

มุนินทร์พูดเสียงขื่น แววตาเจ็บปวด วีกิจมึนเล็กน้อย ไม่กล้าถามว่าเธอหมายถึงใคร มุนินทร์ได้สติ ปรับสีหน้า ชวนเขาคุยเกี่ยวกับมุตตา

“ที่ผ่านมา...ตาเคยให้อะไรคุณบ้างคะ”

“คุณให้ผมยืมหนังสือนิยายไงฮะ”

“แปลว่าตาไม่เคยให้อะไรคุณเลย ฉันยิ่งต้อง

ซื้อให้ คุณทำเพื่อตามากมาย ขอให้ฉันได้ตอบแทนบ้างเถอะค่ะ”

“นี่ผมไม่รู้จะเถียงคุณว่ายังไงแล้ว”

“ไม่มีใครเถียงชนะฉันมานานแล้วค่ะ”

มุนินทร์ยิ้มพราย ดีใจที่เขายอมให้ซื้อ ยื่นบัตรเครดิตสีดำส่งให้พนักงาน วีกิจมองอย่างแปลกใจ

“โอ้โฮ แพลทตินัมการ์ดเชียวหรือฮะ”

“อย่าลืมสิคะ ว่าฉันเป็นเจ้าของไร่ดอกไม้ที่ใหญ่ติดท็อปไฟว์ของเพชรบูรณ์”

มุนินทร์ยิ้มกว้าง วีกิจยกมือยอมแพ้ ไม่ได้สะกิดใจแม้แต่น้อยว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่มุตตา!

ooooooo

ประสิทธิ์ชัยพารัชนกมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเดียวกัน รัชนกอ้อนอยากได้น้ำหอม แต่ประสิทธิ์ชัยไม่อยากซื้อให้เพราะราคาแพงเกินงบ พยายามพูดให้เธอเปลี่ยนใจ รัชนกแสร้งตีหน้าเศร้า ร่ายยาวเรื่องปมวัยเด็ก

“แต่นกอยากได้นี่คะ รู้ไหมคะ ตั้งแต่เล็กจนโต นกไม่เคยได้ใช้อะไรดีๆ ไม่มีของเล่น ไม่มีตุ๊กตา ได้แต่ฝันว่า สักวันหนึ่งนกจะมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่มันก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้นเอง”

ประสิทธิ์ชัยตามสาวแอ๊บแบ๊วอย่างรัชนกไม่ทัน ใจอ่อนยวบ ควักบัตรเครดิตยื่นให้พนักงานทันที

มุนินทร์เจอกับรัชนกที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน แปลกใจนิดหน่อยแต่ยังเก็บอาการเพราะอยากดูท่าที รัชนก

แสร้งตีหน้าเศร้า เดินมาหา มุนินทร์ยืนมองอย่างประเมิน

“พี่ตาคะ นกไม่ใช่คนเอาเรื่องของพี่ตาไปบอกคุณนพนภานะคะ ตอนที่มีคลิปแรกน่ะ”

“คลิปแรกงั้นหรือ”

มุนินทร์เห็นคลิปแล้วก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะมี

หลายอัน รัชนกคิดว่าตัวเองพูดอยู่กับมุตตา เผลอหลุดปากพูดถึงคลิปหนึ่ง คลิปสอง อ้างว่าปริมเป็นคนส่งทั้งสองคลิปให้นพนภา มุนินทร์ยืนฟังนิ่ง เก็บข้อมูล

“นกเคยพูดจาแรงๆ กับพี่ตา แต่ที่จริงนกอยู่ข้างเดียวกับพี่นะคะ”

รัชนกแสร้งตีหน้าซื่อ บอกว่าเข้าใจหัวอกเมียน้อยอย่างมุตตาดี มุนินทร์มองออก ยิ้มเยาะ

“พี่ตาเข้าใจนกใช่ไหมคะ”

“ค่ะ เข้าใจว่าหนูอยากให้ใครต่อใครเห็นว่าหนูเป็นคนดี พี่เข้าใจหนูแล้วค่ะ”

มุนินทร์ยิ้มตาวาว รัชนกงงกับคำพูดและท่าทางของมุตตา ดูยอกย้อนแปลกๆแต่ไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มตอบ

ด้านวีกิจยืนคุยอยู่กับประสิทธิ์ชัย ข้างตัวมีถุงข้าวของพะรุงพะรัง ประสิทธิ์ชัยเห็นเพื่อนมากับมุตตา สาวหน้าหวานที่มีเรื่องฉาวกับเจนภพ แซวเพื่อนยิ้มๆ

“ตกลงเอ็งจะรับล้างชามให้อาเอ็งจริงๆ หรือ”

“อย่าพูดหมาๆ อย่างนี้อีกนะ”

วีกิจโกรธมากที่เพื่อนพูดถึงมุตตาไม่ดี ประสิทธิ์ชัย หน้าเจื่อน ขอโทษเพื่อน รีบบอกว่าล้อเล่นขำๆ วีกิจผ่อนลง ไม่เอาเรื่องต่อ แต่เตือนเพื่อนว่าอย่าให้มีอีกเป็นครั้งที่สอง...

วีกิจขับรถไปส่งมุนินทร์หลังจากซื้อของเสร็จ เขาหยิบเนกไทมาดูอย่างชื่นชม ถามเธอยิ้มๆ ว่าใส่เส้นไหนไปทำงานพรุ่งนี้ดี มุนินทร์มองดูเขา สุภาพบุรุษแสนดี เต็มไปด้วยความปรารถนาดีและจริงใจ น่าแปลกที่เขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ เธอหันไปถามเขายิ้มๆ

“คุณกับเขา เป็นอาหลานกันแน่หรือคะ”

“คุณถามอะไรน่ะ คุณก็รู้ว่าเขาเป็นน้องชายพ่อผม”

“ก็จริงๆ นี่คะ คุณกับเขาดูต่างกันเหลือเกิน”

“ผู้ชายจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างกันนักหรอกฮะ ชอบควบคุม ถือตัวเองเป็นใหญ่ ชอบเอาชนะ แต่ว่าอาจจะมากน้อยต่างกันแค่ไหนเท่านั้นเอง”

“หรือคะ ผู้หญิงบางคนก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ชอบควบคุม ถือตัวเองเป็นใหญ่ ชอบเป็นผู้ชนะ แล้วก็เจ้าคิดเจ้าแค้น อาฆาตพยาบาทด้วย”

“งั้นก็ร้ายกว่าผู้ชายสิฮะ”

วีกิจแซวยิ้มๆ มุนินทร์หัวเราะเสียงใส ลืมเรื่องล้างแค้นไปชั่วขณะ

ooooooo

เจนภพกระวนกระวายใจเรื่องมุตตากับวีกิจ ไปนั่งจิบเบียร์รอหลาน สร้อยคำเอาเบียร์มาเสิร์ฟ นั่งคุยเป็นเพื่อน บอกว่าลูกชายสั่งกับข้าวของโปรดไว้ ไม่น่าจะกลับบ้านช้า เจนภพกำลังหึง กระเซ้าตาขุ่น

“ไม่แน่นะฮะ อาจจะไปเจอของโปรดนอกบ้าน จนลืมของโปรดที่บ้านก็ได้”

“นายกิจไม่ใช่พวกใจง่ายค่ะ”

สร้อยคำแอบเคืองที่ลูกชายโดนแขวะ ตอกกลับยิ้มๆ เจนภพอึ้งไป วีกิจกลับมาพอดี เห็นเจนภพก็นึกอยากยั่ว วางถุงเนกไทลงบนโต๊ะอย่างจงใจ ทักอาหนุ่มยิ้มๆ

“อานภาไม่อยู่หรือฮะ”

“ไปหารือกับนายประพงส์อยู่มั้ง เห็นว่าอยากเปิดผับ”

“คุณนภานี่พิลึก นายคนนี้ ประวัติดีที่ไหน” สร้อยคำพูดแทรกขึ้นมา

“อานภาคงชอบคนมีประวัติมั้งฮะ”

วีกิจแขวะหน้าเป็น เจนภพสะดุ้ง สร้อยคำลอบสบตาลูกชายยิ้มๆ อย่างรู้กัน

สร้อยคำขอตัวเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้อาหลานคุยกันตามลำพัง เจนภพถามถึงมุตตา วีกิจบอกว่าเธอสบายดีและไม่ได้พูดอะไรถึงอาหนุ่มเลย เจนภพผิดหวัง พูดเยาะๆ

“มุตตายังเด็ก คงลืมอะไรได้ง่ายๆ”

“แต่สิ่งที่ตาเจอ คงลืมได้ไม่ง่ายนักหรอกฮะ”

วีกิจหยิบเนกไทขึ้นมาดู แกล้งยั่ว เจนภพหน้าบึ้ง กระดกเบียร์รวดเดียวหมดแก้ว ค่อนแคะหลานเสียงเข้ม

“เนกไทมันก็เหมือนห่วงผูกคอนะนายกิจ อย่าเอาบ่วงของคนอื่นมาผูกคอจะดีกว่า”

เจนภพลุกพรวดออกไป วีกิจมองตาม สะใจนิดๆ ได้ยั่วอาหนุ่มที่หึงและหวงก้างมากแต่ยังไม่รู้ตัว

สร้อยคำกลับเข้ามาทันได้ยินประโยคสุดท้ายของเจนภพ มองหน้าลูกชายงงๆ วีกิจเล่าว่ามุตตากลับมาแล้ว เขาไปเทกแคร์ เจนภพเลยหึงแต่ไม่ยอมรับ สร้อยคำหนักใจ ไม่อยากให้ลูกชายเสื่อมเสีย เตือนอย่างจริงจัง วีกิจยืนยันว่าเขากับมุตตาเป็นแค่เพื่อนที่ปรารถนาดีต่อกันเท่านั้น สร้อยคำไม่เชื่อ แอบหวั่นใจ...

เจนภพกลับบ้านมาเจอกับนพนภากำลังหัวเสียที่หาเขาไม่เจอ เขาถอนใจเบื่อๆ นพนภาของขึ้นที่เห็นท่าทีหมางเมิน ขุดเรื่องมุตตามาข่มผัวอีก เจนภพสะดุ้งแต่ทำเป็นรำคาญกลบเกลื่อน บอกว่าอย่าเริ่มชวนทะเลาะ

“ฉันน่ะเหรอคนเริ่ม คนเริ่มน่ะคือผู้ชายสำส่อนกับอีเด็กร่าน ผัวคนอื่นเขาไม่เห็นมีเรื่องแบบนี้”

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 6 วันที่ 9 ต.ค. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ