@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 17/4 วันที่ 29 ต.ค. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 17/4 วันที่ 29 ต.ค. 55

สองพี่น้องมองหน้ากัน ก่อนที่กาวจะถาม
“แล้วอีกนานมั้ยคะ เธอถึงจะกลับมา”
น้อยไม่รู้เรื่องมองกรรณนรีอย่างเกลียดชัง “เธอคงไม่อยากให้คุณหญิงกลับมาล่ะสิ..ฮึ! อย่าหวังเลย ต่อให้ไม่มีคุณหญิงภาพิศ คุณหญิงสุดาก็ไม่มีวันยอมให้ท่านอารักษ์มาคั่วเธอแน่”
กาวินทร์หงุดหงิด “เลิกพูดเรื่องทุเรศๆ แบบนี้ซะทีเถอะ น้องสาวผมไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจแล้วคุณภาพิศจะกลับมาเมื่อไหร่”
“ไม่กลับ..คุณหญิงจะไม่กลับมาอีกแล้ว...” มองกรรณนรีด้วยสายตาเดิม “เพราะไม่อยากเห็นคนหน้าด้านที่ชอบแย่งผัวคนอื่น”

“หยุดพูดแบบนี้นะป้า” กาวินทร์ฉุนขาดจะถลันเข้าไป
กรรณนรีฉุดรั้งพี่ชายไว้ “อย่าพี่แก้ว”
“ไปได้แล้วไป๊...” น้องไล่มองกรรณนรีอย่างจงเกลียดจงชัง “เป็นเพราะเธอ ถ้าไม่มีเธอ ชีวิตคุณหญิงก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก” น้อยพูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าอย่างแรง



กรรณนรีร้องไห้โฮ ครวญคร่ำโทษตัวเอง
“เป็นเพราะกาว..เป็นเพราะกาว”
กาวินทร์ปลอบ “ไม่เกี่ยวกับกาว...กาวก็น่าจะรู้...ที่แม่ไม่กลับมาอีก เพราะอะไร”
สองพี่น้องต่างเศร้าใจ

ค่ำคืนนั้นที่บริเวณข้างทาง สุดาอยู่ในรถ ถามย้ำกับคนร้ายที่จ้างมาทำร้ายภาพิศ
“แกแน่ใจนะว่านังภาพิศมันจะไม่มีทางกลับมาได้อีก”
“ถ้ามันกลับมาได้ มันก็ไม่ใช่คนแล้วล่ะครับคุณหญิง”
“เนินเขาขนาดนั้น ใครตกลงไปตายชัวร์”
“ดีมาก” สุดาเปิดกระเป๋า หยิบเงินส่งให้ “นี่รางวัลของพวกแก แล้วหุบปากให้สนิท”
“ครับผม”
สองคนร้ายเดินขึ้นรถขับออกไป สุดาบอกตัวเอง สีหน้าสลดใจ
“อโหสิกรรมให้ฉันด้วยแล้วกัน ไม่มีเธอ ชีวิตฉันจะได้มีความสุขซักที ภาพิศ”
สุดาเดินขึ้นรถขับออกไป

สุดาขับรถมาตามทาง ขณะที่มองกระจกมองหลัง สุดาก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นภาพิศในกระจกด้านข้าง สุดาตกใจจอดรถหันกลับไปมองทันที ทว่าทั่วบริเวณมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใคร สุดาหายใจหอบ ปลอบตัวเอง
“เราแค่ตาฝาด ผีไม่มีจริง”

สุดาหน้าซีดเผือด ขับรถไปต่อ แต่ตาเหลือบมองกระจกตลอดเวลา
เช้าวันต่อมา นิคนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศสตาร์ อินเทรนด์ มะยมเดินเอากาแฟมาให้

“อ่ะ กาแฟ”
มะยมวางแก้วกาแฟให้ แต่นิคทำเป็นไม่สน ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ มะยมงง
“ไม่เห็นเหรอ? กาแฟ”
“เห็น แต่ไม่อยากกิน” นิคลุกหนี
มะยมงง “แกเป็นอะไรนิค”
“ก็เป็นเพื่อนแก ไม่ได้เป็นคนพิเศษ คนสำคัญ...แบบไอ้คุณนพไง” นิคแดกดัน
มะยมขำ “เป็นบ้าอะไร ถึงได้มาแดกดันฉัน
“ก็เผื่อแกจะรู้สึกบ้าง”
“รู้สึกอะไร”
นิคพูดด้วยท่าทีจริงจัง สุ้มเสียงอ่อนโยน “มะยม... ไอ้คุณนพเค้ามีเมียแล้วนะ แกจะไปยุ่ง
กับเค้าทำไม”
มะยมย้อน “แกก็เห็น ฉันไปยุ่งกับเค้าที่ไหน เค้ามายุ่งกับฉันเอง อีกอย่าง..คุณนพเค้าก็เลิกกับแฟนเค้าแล้ว”
“ผู้ชายเจ้าชู้..ตอนจะมีใหม่ ก็พูดอย่างนี้ทุกคน” นิคเยาะ
“เราอย่าทะเลาะกันเรื่องนี้เลยนะ เค้าจะเลิกกับเมียเค้าหรือไม่เลิก มันก็ไม่เกี่ยวกับเรา”
“เกี่ยวสิ เพราะเค้าตามจีบแก เค้าชอบแก แล้วแกก็ชอบเค้าด้วย หรือไม่จริง
มะยมเงียบ นิคมองด้วยแววตาทั้งเสียใจและเจ็บปวด
“เห็นมั้ย?...แกชอบเค้าจริงๆ...ฉันจะไม่ว่าอะไรแกเลยมะยม...ถ้าแกจะรักจะชอบคนไม่มีแฟน..แต่นี่ ไอ้คุณนพมันมีเมีย ได้ยินมั้ยมะยม มันมีเมีย”
นิคเดินหนีไป ท่าทางฉุนจัด

มะยมร้องเรียก “นิคๆ” ก่อนจะวิ่งตามไป

นิคเดินลิ่วออกมา มะยมวิ่งตามมา แต่แล้วนิคต้องชะงักเพราะเกือบชนกรรณนรีที่เดิน
น้ำตาคลอเข้ามา มะยมหลังนิค มองเห็น
“กาว...” มะยมตกใจ
นิครีบถาม “มีเรื่องอะไรกาว”
กรรณนรีไม่ตอบแต่สายตาบ่งบอกว่ากลุ้มใจอย่างที่สุด
เวลาต่อมา กรรณนรี มะยม นิค สามคนเดินมาด้วยกันในสวนสาธารณะ กรรณนรีน้ำตาคลอ สีหน้าอมทุกข์หนัก มะยมถามท่าทีตกใจมาก คาดไม่ถึง
“จริงเหรอกาว....คุณภาพิศเป็น...แม่แก”
กรรณนรีพยักหน้ารับ นิคเสริม ตกใจตื่นเต้น
“ไม่คิดเลยจริงๆ”
“แต่ก็ดีแล้วล่ะ ถ้าเค้าเลือกที่จะไป.. อะไรที่มันยุ่งๆ จะได้จบลงซักที” มะยมปลอบ
“แต่คุณสรวง...คุณสรวง” กรรณนรีร้องไห้ออกมาอีก
“คุณสรวงเป็นอะไร”
กรรณนรีปล่อยโฮ คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา “จนป่านนี้ คุณสรวงยังไม่ฟื้นเลยมะยม...คุณสรวงยังไม่ฟื้นเลย”
กรรณนรีกอดมะยมร้องไห้ มะยมได้แต่กอดปลอบ ไม่รู้จะพูดอะไร นิคมองภาพตรงหน้าสลดใจ

เวลาเดียวกันที่มุมหนึ่งในออฟฟิศกาวินทร์ สุขหฤทัยยืนคุยกับกาวินทร์ ท่าทางร้อนรนไม่สบายใจเลย
“จริงเหรอที่สรวงไม่ฟื้น” สุขหฤทัยถามย้ำ
“ผมจะหลอกคุณทำไม”
“ตาย!ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
“ก็เพราะคุณนั่นแหละ ถ้าคุณไม่ร่วมมือกับคุณหญิงสุดา เรื่องทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างนี้”
สุขหฤทัยหน้าสลดลง “ฉันผิดไปแล้ว ผิดจริงๆ”
“พูดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อตอนนี้คุณสรวงเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว”

สุขฤทัยหน้าซีดเผือด

หลายวันแล้ว แต่สรวงก็ยังไม่ฟื้น อารักษ์หน้าเศร้า อาการเครียดเคร่ง ขณะที่สุดาร้องไห้จะเป็นจะตาย

“ตั้งหลายวันแล้ว สรวงยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก....นี่ถ้าลูกฉันตาย ฉันจะเป็นยังไงเพราะคุณ..คุณอารักษ์” หันมาอาละวาดทุบตีอารักษ์พัลวัน “วันนั้นปืนน่าจะลั่นถูกคุณให้ตายๆ ไปเลย ไม่ใช่ลูก”
อารักษ์จับมือเอาไว้ “ผมขอโทษคุณหญิง ผมขอโทษ”
“ขอโทษตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคุณ..คุณคนเดียว ฉันเกลียดคุณ”
สุดาสะบัดตัวออกจากอารักษ์ คว้ากระเป๋าข้าวของใกล้ตัว เขวี้ยงใส่อารักษ์ด้วยแรงโทสะ อารักษ์หลบ สุขหฤทัยเปิดประตูเข้ามาพอดี กระเป๋าที่สุดาเขวี้ยงไป ถูกหน้าสุขหฤทัยอย่างจัง
“ว้าย”
สุขหฤทัยหน้าแหย เมื่อมองเห็นว่าอารักษ์กับสุดา หน้าตาถมึงทึงใส่กัน อารักษ์ดุ
“เห็นมั้ยความเจ้าอารมณ์ของคุณมันเป็นยังไง? ดีแค่ไหนแล้วที่ภาพิศ แก้ว กาวเค้าไม่เอาเรื่อง”
“ยังจะไปพูดถึงมันอีก” สุดายิ่งโกรธหนักกระโจนเข้าหาอาละวาดอีก
“คุณหญิง ลูกยังเจ็บอยู่นะ เลิกบ้าได้แล้ว” อารักษ์ขึ้นเสียง
“สรวง” สุดาผวาตัวเข้าไปหาสรวง ร้องไห้คร่ำครวญ “สรวง...ฟื้นขึ้นมาคุยกับแม่ได้แล้วสรวง...แม่ไม่เหลือใครอีกแล้ว แม่ไม่เหลือใคร”
สุขหฤทัยมองสรวงหน้าสลดลง ขณะถามอารักษ์ “นี่...สรวงจะไม่ฟื้นขึ้นมาเหรอคะ”
“หมอบอกให้รอดูอาการ ..ถ้าอีกหนึ่งอาทิตย์อาการยังทรงอยู่อย่างนี้...สรวงก็อาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา”
สุดาได้ยินก็กรีดร้องขึ้นมาอีก “สรวง..สรวงของแม่ แม่ไม่ยอมๆ”

สุขฤทัยหน้าซีดเป็นกระดาษ

ไม่นานต่อมา สุขหฤทัยเดินออกมาหน้าจ๋อยๆ บ่นงึมงำกับตัวเอง

“ตาย..ถ้าสรวงนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ใครจะเอาก็เอาเถอะ ฉันไม่เอา”

สาวแสบยักไหล่พรืด พร้อมกับทำท่าแขยง แล้วเดินลิ่วไป
กรรณนรี มะยม และนิค เดินถือเครื่องสังฆทาน ดอกไม้ และสิ่งของที่ใช้ทำบุญเดินเข้ามาภายในวัดแห่งนั้น

“อย่าร้องไห้น่ากาว...ฉันว่า อีกเดี๋ยวคุณสรวงก็คงจะฟื้น” นิคบอก
“ฉันก็หวังอย่างนั้น...ไม่ว่าคุณสรวงจะเป็นยังไง...ฉันก็จะรักคุณสรวง อยู่ดูแลคุณสรวง” กรรณนรีบอกเสียงเศร้า
“คุณสรวงรู้คงดีใจ....ยิ่งรู้ว่าแกมาทำบุญให้ขนาดนี้ ดีไม่ดี คุณสรวงอาจจะฟื้นเร็วขึ้นก็ได้”
กรรณนรีใจชื้นมองหน้ามะยมและนิคอย่างขอบคุณ มะยมเอ่ยขึ้น
“รีบไปทำบุญกันเถอะ...เพื่อคุณสรวง”
นิคกับมะยมเดินนำ พากรรณนรีเข้าไปในโบสถ์
สามคนไปถวายสังฆทาน พระสวดมนต์ให้ พร้อมยื่นที่กรวดน้ำให้ กรรณนรีรับมา

ครู่ต่อมากรรณนรีกรวดน้ำพร้อมอธิฐานที่ต้นไม้ใหญ่ อธิษฐานในใจ
“ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำโดยความสะอาดทั้งกาย วาจา ใจ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญกุศลทั้งหมดให้คุณสรวง อริยะวรรตหายจากอาการเจ็บป่วย ฟื้นคืนมามีสติสัมปชัญญะดังเดิม”
กรรณนรีกรวดน้ำเสร็จ มะยมเอ่ยปากชวน
“ไปเยี่ยมคุณสรวงนะกาว”
“เผื่อจะมีปาฏิหาริย์”
กรรณนรีพยักหน้า ดวงตามีความหวังเต็มเปี่ยม

เวลาเดียวกันนั้น ขณะที่สุดาจับมือสรวงบีบแน่น สายตาจับจ้องที่ดวงหน้าลูกชาย พึมพำแผ่วเบา
“สรวง..ฟื้นขึ้นมาเถอะนะลูก...ฟื้น..ฟื้นขึ้นมาได้แล้ว แม่คิดถึง แม่เป็นห่วง” สุดาน้ำตาไหล “แม่ใจจะขาดแล้วสรวง” บีบมือสรวง “สรวงได้ยินแม่มั้ย สรวง”
สีหน้าสรวงเป็นปกติเหมือนคนหลับสนิท สุดาสะอื้น รู้สึกหมดหวัง
“สรวงไม่ได้ยินแม่เหรอลูก? แม่รักลูก คิดถึงลูก...สรวงฟื้นขึ้นมาคุยกับแม่นะ
สุดาบีบมือสรวง น้ำตาไหลริน หยาดน้ำตาสุดาหยดลงถูกมือสรวง ก่อนที่มือสรวงเริ่มขยับน้อยๆ สุดาตกตะลึง
“สรวง”
อารักษ์ที่ยืนขรึมอีกมุมตกใจ “อะไรคุณหญิง”
สุดาแทบลืมหายใจ “ลูก.รู้สึกตัวแล้ว..สรวงรู้สึกตัวแล้ว”
สรวงยังนอนนิ่ง แต่มือมีปฏิกิริยา สองคนตื่นเต้นร้องประสานเสียง
“สรวงๆ”

จังหวะนั้นประตูห้องถูกเปิดเข้ามา พร้อมร่างของกรรณนรี สรวงค่อยๆ กระพริบตา ในจังหวะที่สุดากับอารักษ์เหลียวมามองที่ประตู
กรรณนรีเห็นสรวงกระพริบตา แต่อารักษ์กับสุดาไม่ทันเห็น เพราะหันมามองกรรณนรี สุดาปรี๊ดแตก แหวใส่
“แกมาทำไม”
กรรณนรีหน้าซีดเผือด นิคกับมะยม ต้องจับมือเอาไว้ กรรณนรียกมือไหว้
“ฉันมาเยี่ยมคุณสรวง”
สุดาโกรธจัด ตวาดตะเพิดไล่ “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ออกไป๊”
“แต่ฉันเป็นห่วงคุณสรวง”
“ไม่ต้องพูด...ฉันบอกให้แกออกไป..ออกไป๊” ปราดเข้ามาผลักกรรณนรี
“อย่าคุณหญิง”
สรวงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาเต็มตา ภาพแรกที่เขาเห็นคือสุดาตบกาว
สรวงครางเสียงแผ่ว ด้วยความเป็นห่วง “กรรณนรี”
“คุณสรวง” กรรณนรีน้ำตาไหลพราก รู้สึกดีใจมาก
สุดาผละจากกรรณนรีไปหาสรวงทันที “สรวง..สรวงลูกแม่ สรวงของแม่ฟื้นแล้ว”
สุดากอดสรวงแน่น สรวงกอดสุดา อารักษ์เดินไปกอดสรวงน้ำตาคลอ
“พ่อดีใจเหลือเกินลูก”
กรรณนรี นิคและมะยม มองอย่างเต็มตื้นสรวงหันมามองจ้องกรรณนรี
“กรรณนรี”
“ฉันดีใจที่สุด ที่ได้พูดกับคุณอีก คุณสรวง” กรรณนรีปล่อยโฮออกมาอย่างตื้นตันใจ
สุดาเหลียวมามองอย่างเกลียดชัง “แกออกไปเดี๋ยวนี้นะ ออกไป๊”
สุดามองหาของจะเขวี้ยงใส่ มะยมกับนิตกอดกรรณนรีเอาไว้ปกป้อง อารักษ์รีบบอก
“หนูกลับไปก่อนเถอะฉันขอร้อง”
กรรณนรีมองตาละห้อย สุดาหยิบข้าวของผลไม้ปาใส่หน้ากรรณนรีจนได้ มะยมกับนิครีบลากกรรณนรีออกจากห้อง
“ไปกาว” สองคนบอกพร้อมกัน
กรรณนรีอาวรณ์ใจแทบขาด “คุณสรวง”
สุดาแหวใส่อีก “ยังจะเรียกลูกฉันอีก นังหน้าด้าน”
พร้อมกับเขวี้ยงของมาอีก แต่ของถูกประตูเพราะมะยม กับนิคพากรรณนรีออกไปลับตัวแล้ว
“แม่ดีใจที่สุดเลยสรวง ดีใจที่สุดเลย”
สุดาหันมาโอ๋กอดสรวงร้องไห้อย่างปีติ แต่สายตาสรวงมองไปที่ประตูตลอด คิดถึงและถวิลหาแต่กรรณนรี

มะยม กับนิค พากรรณนรีเดินออกมา กรรณนรีร้องไห้ไม่หยุด แต่เป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันดีใจ
“เออน่า หยุดร้องไห้ได้แล้ว” นิคว่า
“ฉันดีใจ...ดีใจที่คุณสรวงฟื้นแล้ว” กรรณนรียิ้ม
“เพราะคุณสรวงรู้ไง ว่าแกรอ ฉันดีใจด้วยนะกาว” มะยมบอก
“ฉันก็ดีใจด้วย...” นิคยิ้มให้
มะยมบอกต่อ “เพราะความรัก..ความรักของแก”
กรรณนรีใจหาย “ใจจริงแล้ว ฉันอยากอยู่เฝ้าคุณสรวง...แต่คุณหญิงคงไม่ยอม”
มะยมหน้าแหยงๆ “ท่านอารักษ์จะทำหน้ายังไง”
“ไม่เป็นไร...แค่ฉันรู้ว่าคุณสรวงฟื้น ฉันก็ควรพอใจแล้ว” หันไปมองตึกผู้ป่วยของโรงพยาบาล “หายไวๆ นะคะคุณสรวง แข็งแรงไวๆ”

กรรณนรียิ้มทั้งน้ำตา
คืนนั้น มะยมแต่งตัวสวย นั่งทานข้าวกับนพในร้านอาหารแห่งหนึ่งสองต่อสอง

“ผมดีใจจริงๆ ที่สรวงฟื้นแล้ว...เสียดาย..ผมไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมสรวงเลย”
“แค่คุณสรวงรู้ว่าคุณนพเป็นห่วง ก็คงดีใจแล้วล่ะค่ะ”
“แล้วตอนที่ผมไม่อยู่ มะยมเป็นไงบ้าง”
มะยมตอบสั้นๆ “ก็สบายดี”
“คิดถึงผมบ้างมั้ย” นพถามด้วยสายตาหวานซึ้ง
มะยมยิ้มเขิน อึกอัก โดยไม่รู้ว่าคนของนา ภรรยานพ ถ่ายภาพเอาไว้ตลอด นพบอกต่อ
“ไม่เป็นไร...ผมคิดถึงมะยมคนเดียวก็พอ...นี่ครับของฝาก”
นพยื่นกล่องของขวัญให้ มะยมพึมพำขอบคุณ รักษาระยะห่าง นพบอกเอาใจ
“ทานข้าวนะครับ..ทานเยอะๆ”
นพตักอาหารให้ มะยมพึมพำ
“ขอบคุณค่ะ” มองเหมือนมีเรื่องในใจ
นพไม่รู้ตัวมองมะยมด้วยสายตาดื่มด่ำ “คืนนี้มะยมสวยมาก...” พูดเองเขินเอง “ความจริง มะยมสวยมานานแล้ว สวยมากตั้งแต่วันถ่ายแบบ แต่ผมไม่มีโอกาสบอกมะยมซักที”
“ขอบคุณค่ะ...แต่คุณนพคะ...” มะยมตัดสินใจถาม
“ครับ” นพจ้องหน้า รอฟัง
“วันนี้มะยมขอเป็นครั้งสุดท้ายที่เราทานข้าวด้วยกันนะคะ”
นพตะลึง ตกใจ “ทำไมครับ”
“มะยมไม่สบายใจ...เรื่องคุณนพกับภรรยา”
“ผมเลิกกับเค้าแล้ว” นพพยายามอธิบาย
“ยังไง..มะยมก็ไม่สบายใจอยู่ดี...มะยมขอโทษค่ะ”
นพมองมะยมอย่างเสียใจ คนของนาที่แอบอยู่ยิ้มออกมาที่ถ่ายคลิปได้สำเร็จ เดินออกไป

ไม่นานต่อมานายืนมองโทรศัพท์ ดูคลิปที่คนส่งมา เห็นชัดเจนนพส่งกล่องของขวัญให้มะยม
นากัดฟันกรอดกดมือถือ “แกไปสืบมาให้ได้ นังหน้าขาวมันอยู่ที่ไหน” วางสายไปด้วยแววตากร้าว คำรามในลำคอ “นังพวกหน้าด้าน เมียน้อย ใครแย่งผัวฉัน มันตาย”

วันต่อมา สุดาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องโถงในคฤหาสน์ พลางด่า
“พวกเมียน้อยนี่มันเลวจริงๆ ทำแต่ความเดือดร้อนให้คนอื่น หน้าด้าน”
อารักษ์ที่นั่งอยู่ด้วยมองหน้าสุดาเขม็ง สุดาบอกอย่างสะใจ
“นี่ก็มีข่าว...ไปแย่งผัวเค้า สมน้ำหน้าถูกเมียหลวง ยกพวกไปกระทืบตาย”
“จะมาก่อนมาหลัง จะหลวงจะน้อยก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายคนอื่นจนตาย”
สุดาตาวาววาม “สมควรที่สุด เพราะมัน ”สะใจ” พูดกันดีๆ ไม่ได้...ก็ส่งพวกผู้หญิง
หน้าด้านที่มันชอบเป็นเมียน้อยไปลงนรกให้หมด”
สรวงที่เดินโผเผเข้ามาได้ยิน มีสีหน้าไม่สบายใจนัก อารักษ์เห็น
“จะพูดอะไรคิดหน่อยคุณหญิง ลูกเพิ่งฟื้น”
“ฉันด่าเมียน้อย ไม่ได้ด่าลูก”
สรวงบอกด้วยสีหน้าสลด “ผมไม่อยากให้คุณแม่ว่าใคร”

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 17/4 วันที่ 29 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager