@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนอวสาน[3] วันที่ 16 ต.ค. 55

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนอวสาน[3] วันที่ 16 ต.ค. 55

“ทำไมต้องแหกปากด้วยวะไอ้ห้าว” พร้อมถาม
“ก็มันเป็นข่าวดีที่สุดในโลกนี่ลุง ดีแล้วที่คิดได้ เชื่อฉันซะตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเสียเงิน เตรียมงาน เป็นไงล่ะ สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งจริงๆ” ห้าวหันมาพูดกับชีวิน
“เงียบไปแล้วนะไอ้ห้าว ถ้าเอ็งขืนพูดมากกว่านี้ จะไล่กลับบ้านพ่อเอ็งเลย” วิมลว่า
ห้าวจำใจต้องหยุด แต่ก็หันไปทำ “เยส” อย่างสะใจ วิมลหันมาถามชีวิน
“วิน มันเกิดอะไรขึ้น”
“รสเค้าไม่ได้รักผมครับ” ชีวินตอบอย่างหนักใจ

“นั่นไง” ห้าวหันมา โพล่งขึ้นประสาปากไว
วิมลหันขวับมาส่งสายตาเป็นเชิงตำหนิ ห้าวหุบปาก ยิ้มกริ่ม

“รสเค้ามีคนที่เค้ารักอยู่แล้ว” ชีวินบอก
ห้าวยิ้มกว้างขึ้น
“ไม่ใช่คนแถวนี้”
ห้าวหุบยิ้มทันที ชีวินพูดต่อ
“ผมคิดว่า มันจะดี ถ้ารสได้แต่งงานกับคนที่เค้ารักอย่างแท้จริง”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” ห้าวบอก
ชีวินหันกลับมาสวน
“ ใช่ มันไม่ง่าย และคนผู้ชายคนนั้นก็ต้องพิสูจน์ตัวเค้าเอง”
วิมลคิดแล้วก็ถามตรงๆ
“วินหมายถึงคุณภคพงษ์ใช่มั้ย”
ชีวินพยักหน้าด้วยความจำยอมรับความจริง ห้าวโคตรหงุดหงิด



บนถนนเส้นทางไประยอง ภคพงษ์ขับรถมาด้วยความเร็ว ภคพงษ์ปรายตามามองแหวนที่อยู่ข้างๆแล้วก็ยิ้ม เมื่อหันไปเบื้องหน้าอีกครั้งมีรถตัดหน้า ภคพงษ์เบรกเอี๊ยดจนรถเสียหลัก

เวลาดียวกัน รสาเดินอยู่ในร้านขายยา มองหาที่ทดสอบการตั้งครรภ์ แล้วก็หยิบขึ้นมาหนึ่งอันด้วยใบหน้าครุ่นคิดและเครียด ที่ด้านหลังเห็นปรางทิพย์แอบสะกดรอยตามมาแอบดู

รถภคพงษ์จอดเอี๊ยด รอดพ้นการชนมาได้ ภคพงษ์นั่งอยู่ในรถด้วยความตื่นเต้น หายใจหอบแรง ไม่เคยคิดรักชีวิตเท่านี้มาก่อน ภคพงษ์ค่อยๆรวบรวมสติแล้วขับรถต่อไปอย่างระมัดระวัง

ภายในรีสอร์ตพร้อม รสาเดินเข้ามาในบ้านแล้วมองซ้ายมองขวา พอเห็นทางสะดวกก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
ปรางทิพย์แอบดูอยู่ไม่วางตา
ภายในห้องน้ำ ผลจากแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ยืนยันว่า รสาท้อง !!
“เป็นไปได้ยังไง” รสาใจเต้นแรงด้วยความเครียด
รสาส่ายหน้าอย่างหนักใจ เสียงห้าวเรียกดังเข้ามา
“ รส รส รสอยู่หรือเปล่า”
รสารีบกวาดอุปกรณ์ใส่ถุงแล้วทิ้งลงในถังขยะ ก่อนโพล่งตอบออกไป
“อยู่จ้ะ”
รสารีบเปิดประตูออกไป

รสาเปิดประตูห้องน้ำออกมายืนด้วยสีหน้าซีดๆ ห้าวถาม
“ รสเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดๆ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“แล้วนี่รสหายไปไหนมา เมื่อกี้พี่เดินตามหาตั้งนาน ถามใครก็ไม่มีใครเห็น”
“เอ่อ รสไปซื้อของที่ตลาดมาจ้ะ พี่ห้าวมีอะไรหรือเปล่า”
“ลุงกับป้าให้มาตามไปกินข้าว”
“ขอบใจจ้ะ งั้นเรารีบไปกินกันเถอะ รสก็เริ่มหิวแล้ว”
“รส ก่อนไป พี่มีเรื่องจะถาม”
รสารอฟัง ห้าวพูดต่อ
“เรื่องยกเลิกงานแต่งงาน พี่เห็นด้วยนะ แต่เรื่องที่ไอ้หน้าแหยมันพูดถึงไอ้ไฮโซ พี่ไม่เห็นด้วย”
รสาตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันที
“รสว่าเราอย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย รสหิวแล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะ นะจ้ะ”
ห้าวพยักหน้าอย่างจำใจ รสารีบพาห้าวเดินไป
รสาแอบจับท้องตัวเองเบาๆ แล้วก็พยายามดึงสติกลับมา ทำตัวปกติและเดินตามห้าวไป ปรางทิพย์ค่อยๆโผล่หน้ามาแล้วมองไปที่ห้องน้ำทันที

ปรางทิพย์โผล่พรวดเข้ามาในห้องน้ำ รีบรื้อหาหลักฐาน และเห็นถุงในถังขยะ ปรางทิพย์กลั้นใจ หยิบถุงจากถัง
ขยะมาแล้วเปิดรื้อๆ ดู และก็เจอผลตรวจ ปรางทิพย์ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“พี่รส ท้องจริงๆด้วย”

ปรางทิพย์คิดถึงภคพงษ์ขึ้นมาจับใจ
ปรางทิพย์ไม่รอช้า โทรศัพท์บอกภคพงษ์ทันที

“รสา ท้อง” ภคพงษ์แทบไม่เชื่อหู
ปรางทิพย์รีบบอก
“ค่ะ ปรางเพิ่งเห็นผลการตรวจ พี่ภัคอยู่ไหนแล้วคะ รีบๆ มาเลยนะคะ”
ภคพงษ์อึ้ง ตื้นตัน
“ได้ๆ พี่ใกล้จะถึงแล้ว”
ปรางทิพย์ยิ้มมีหวังบอก
“แล้วเจอกันค่ะ”
ภคพงษ์วางสายไปก็น้ำตาซึม ความเป็นพ่อผุดพรายขึ้นในใจอย่างตื้นตันใจ
“รสา รอผมนะ ผมกำลังจะไปหาคุณกับลูก”
ภคพงษ์ซาบซึ้ง ตื้นตันใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

บนโต๊ะอาหารในรีสอร์ตพร้อม ชีวินกำลังตักข้าวให้ทุกคน ห้าวเดินนำรสาเข้ามา
“อ้าว ยังไม่กลับอีกเหรอ งานแต่งงานก็ไม่มีแล้ว จะอยู่ทำอะไรอีก” ห้าวถามกวนๆ
ชีวินชะงักนิดๆ วิมลหันขวับมาด่าห้าวทันที
“ไอ้ห้าว ถ้ายังไม่หยุดพูดแบบนี้ ข้าจะไล่เอ็งออกไปจริงๆ ด้วย”
ห้าวจำใจต้องหยุดพูดแล้วก็หันมายิ้มให้รสา ห้าวเลื่อนเก้าอี้ให้
“รสจ๊ะ นั่งตรงนี้นะ”
รสายังไม่นั่ง แต่หันมาทางชีวินบอก
“วินไปนั่งเถอะ รสตักให้เองจ้ะ”
ห้าวจ๋อย รสารับโถข้าวมาจากชีวิน ชีวินยิ้มให้ พร้อมกับวิมลมองแล้วก็ยิ้มตาม
“อาเห็นวินกับรสเข้าใจกันแบบนี้ อาก็เบาใจ” พร้อมบอก
“เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันครับ ความเป็นเพื่อนยิ่งใหญ่เสมอ”
ชีวินมองหน้ารสาแล้วก็ยิ้มให้กัน เรื่องราวทั้งหลายคลี่คลายด้วยความเข้าใจ ชีวินเดินมานั่งที่เก้าอี้ที่ห้าวเลื่อนให้รสา ชีวินแกล้งพูดใส่ห้าว
“ขอบใจ”
ห้าวมองหน้าเคืองๆ อย่างขัดใจ ชีวินนั่งอย่างสบายใจ ห้าวจำต้องเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง รสากำลังตักข้าวใส่จานห้าว
ห้าวหันมายิ้มบอก พลางยื่นหน้ามาดมข้าวอย่างชื่นใจ
“ขอบใจจ้ะ ข้าวที่รสตั้งให้ ห้อม หอม”
รสายิ้มรับ ทันใดนั้นกลิ่นหอม กลิ่นอาหารที่โชยมาก็ทำเอารสาคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
รสาพยายามจะพูด
“อะ...รสไม่ทานแล้วนะคะ ทานกันได้เลยค่ะ ขอโทษค่ะ... อะ... แหวะ”
รสารีบวางโถข้าวแล้ววิ่งไปอาเจียน ทุกคนบนโต๊ะอาหารมองหน้ากันอย่างงงงัน
พร้อม วิมล และห้าวพูดขึ้นพร้อมๆ กัน “อ้าว รส”
“รสเป็นอะไร” วิมลถามอย่างแปลกใจ
“เอ็งอาบน้ำหรือยังไอ้ห้าว หรือว่ารสจะเหม็นกลิ่นตัวของเอ็งจนอ้วก” พร้อมสัพยอก
“อ้าวลุงไหงพูดเงี้ย ผมอาบน้ำวันละสามรอบ ทั้งสะอาดทั้งหอม”
ห้าวพูดแล้วก็ดมรักแร้ตัวเอง แล้วก็อึ้งๆ จะอ้วกซะเอง วิมลตีห้าวเบาๆ
“ยังจะมาทำเป็นเล่นอีก เป็นอะไรไปนะยัยรส”
วิมลหันไปมองรสาด้วยความเป็นห่วง ชีวินมองแล้วก็คิดอย่างมั่นใจ

ภายในห้องน้ำ รสาอาเจียนจนหมดอีกครั้งแล้วก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมามองตัวเองในกระจก แล้วก็ถอนหายใจหนักๆ ด้วยความกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร
รสาเปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วก็ชะงัก ปรางทิพย์ ยืนยิ้มๆ อยู่อย่างเป็นห่วง ปรางทิพย์ยื่นแก้วน้ำส่งให้
“น้ำค่ะพี่รส”
“ขอบใจจ้ะ”
“พี่รสไม่แต่งงานกับคุณชีวินแล้วใช่มั้ยคะ”
รสามองหน้าแล้วก็พยักหน้านิดๆ
ปรางทิพย์ยิ้มกว้างบอก
“ปรางดีใจที่สุดเลย เอ่อ คือ ปรางก็เห็นใจพี่ชีวินนะคะ แต่พี่เค้าทำถูกแล้วล่ะค่ะ เพราะคนที่เหมาะสมจะแต่งงานกับพี่รสที่สุดก็คือ...”
ปรางทิพย์ยังพูดไม่ทันจบ รสาก็พูดแทรกตัดบทขึ้นทันที
“น้องปรางคะ พี่ขอตัวไปเดินเล่นหน่อยนะคะ ข้างในอากาศอ้าวๆ อยากจะรับลมทะเลสักหน่อย ขอโทษนะคะ”
รสาเดินเลี่ยงออกไปเลย ปรางทิพย์ชะงัก...ค้าง
“อ้าว เฮ่อ ดูท่าทางพี่รสจะไม่ใจอ่อนง่ายๆนะเนี่ย พี่ภัคจะทำสำเร็จหรือเปล่านะ”

ปรางทิพย์อดนึกเป็นห่วงพี่ชายไม่ได้
ภคพงษ์เร่งเครื่องมาอย่างแรงราวกับจะบิน หัวใจพุ่งไปถึงระยองก่อนตัวแล้ว

ทางด้านรสาเดินเล่นอยู่ที่ริมทะเล..คิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น รสานึกถึงตอนปรางทิพย์บอกว่า ภคพงษ์รัก
“อ้าว พี่รสทราบ แล้วทำไมพี่รสยังโกรธพี่ภัคอยู่ล่ะคะ”
“มีเหตุผลมากมายที่ทำให้พี่โกรธเค้า มันมากจนพี่ไม่อยากจะพูดถึง”
“แต่พี่ภัครักพี่รสมากนะคะ ... พี่ภัคยอมขอโทษ และยกโทษให้คุณแม่ ยอมไปพูดให้คุณพ่อเข้าใจคุณแม่ พี่ภัคยอมทำทุกอย่างเพื่อพี่รส”
“ทุกอย่างที่เค้าทำก็เพื่อตัวเค้าเองค่ะ ไม่เกี่ยวกับพี่”
“ไม่จริงค่ะพี่รสฟังนี่... นี่เป็นคำสารภาพของพี่ภัค ปรางแอบอัดไว้ไม่ให้พี่ภัครู้ตัว”
รสาเดินอยู่ริมทะเล...เสียงภคพงษ์ดังเข้ามา
“ความรู้สึกที่พี่มีต่อรสา มันมากกว่าความรัก รสาคือผู้หญิงที่ทำให้อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พี่อยากเป็นคนดีดีพอที่จะรักเค้า และดีพอที่เค้าจะรัก แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ พี่ทำผิดกับเค้าไว้มาก มากจนไม่น่าให้อภัย ไม่ว่าพี่จะรักเค้ามากแค่ไหน มันคงไม่มากที่จะทำให้เค้ารักพี่ได้”
รสาถอนใจ....
ปรางทิพย์อธิบายต่อ
“พี่ภัคบอกคุณพ่อว่า .เพราะความรักของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เค้ายอมยกโทษให้คุณแม่ หวังว่าความรักที่คุณพ่อมีต่อปรางจะทำให้คุณพ่อยกโทษให้คุณแม่ด้วยเช่นกัน ปรางรู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคือ พี่รส”
รสาคิดหนัก
รสาคิดถึงตอนที่ภคพงษ์ทำไม่ดีด้วยต่างๆนานา สารพัด
รสาครุ่นคิดและตัดสินใจไม่ถูก
รสาคิดถึงตอนที่ชีวินพูดถึงภคพงษ์
“เราแต่งงานกันไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้รักผม คุณรักภคพงษ์ และเค้าก็รักคุณ รักมากด้วย”
“แต่สิ่งที่เค้าพูดเมื่อกี้...วินก็ได้ยิน”
“ภคพงษ์โกหก เค้ายอมที่จะเจ็บปวด เพื่อปล่อยให้คุณมีความสุข สิ่งที่เค้าพูดมาทั้งหมด มันไม่ใช่ความจริง และเค้าก็เสียใจมากที่ต้องพูดแบบนี้”
“วิน พูดอะไร รสไม่เข้าใจ”
“วินบอกว่า รสยังตัดใจจากเค้าไม่ได้ เพราะความรักของเค้า ถ้าเค้าอยากให้รสมีความสุข ต้องพูดว่า เค้าไม่ได้รักรส และผู้ชายที่แสนจะถือตัว เย่อหยิ่ง ทะนงตน ก็ยอมทำ ยอมที่จะเป็นผู้ร้าย เป็นคนผิด ยอมให้รสเกลียด เพื่อรสจะได้มีความสุข สิ่งที่เค้าทำ มันพิสูจน์แล้วว่า ภคพงษ์รักรส มากกว่าที่วินรัก”
รสาคิดหนัก
รสาคิดทบทวนถึงตอนภคพงษ์ทำเย็นชา หมางเมิน ตอนที่แกล้งจีบปรางทิพย์แว่บเข้ามา ทำให้รสาต้องร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง
รสากลุ้มใจ คิดไม่ตก
“นี่เหรอ คือความรักของคุณ คุณภคพงษ์”
รสาคิดเครียด

ในเวลาเย็น ปรางทิพย์เดินไปมาด้วยความร้อนใจ ก่อนที่ภคพงษ์วิ่งพรวดเข้ามา
“พี่ภัค ทางนี้ค่ะ”
ทันใดนั้นห้าวก็โผล่มาถามทันที
“มาทำไม”
ภคพงษ์ชะงัก ห้าวยืนขวาง สองคนเผชิญหน้ากัน

ชีวินถือกระเป๋ากำลังออกมาจากบ้าน เห็นการ์ดแต่งงานที่อยู่ในถังขยะแล้วก็สะเทือนใจนิดๆ พยายามเบือน
หน้าหนี ทำใจ
“อะไรที่มันไม่ใช่ของเรา มันก็ไม่ใช่ของเรา” ชีวินพูดอย่างปลงๆ
ชีวินทำใจแล้วก็มองหารสา
“รสหายไปไหนนะ”
ชีวินมองไปมองมา เห็นภคพงษ์ยืนเผชิญอยู่กับห้าวก็ตกใจ
“เฮ้ย”

ภคพงษ์พูดด้วยความหนักแน่น ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา
“ผมมาหารสา”
“แต่แกก็รู้ว่ารสเค้าไม่อยากเจอแก”
“ไม่จริง” ปรางทิพย์บอก
ห้าวหันมาตวาด
“หุบปาก”
ปรางทิพย์สะดุ้ง ภคพงษ์ไม่พอใจ
“ผู้ใหญ่เค้าคุยกัน เด็กไม่เกี่ยว” ห้าวบอก
ปรางทิพย์ชักสีหน้าจะด่ากลับ
“ไอ้บ้า แก”
“คุณเองก็ไม่เกี่ยวเหมือนกัน เรื่องระหว่างผมกับรส ไม่เกี่ยวกับคุณ ถอยไปได้แล้ว”
“ไม่ถอยเว้ย แกทำให้รสเสียใจมามากแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยให้แกเข้าใกล้เพื่อมาทำร้ายรสอีก กลับไปได้แล้ว”
ภคพงษ์ไม่สนใจ เดินดุ่มเข้าไปทันที ห้าวกระชากเสื้อภคพงษ์
“เฮ้ย ฉันบอกแล้วไงว่าให้กลับไป”
ภคพงษ์หันมาตามแรงกระชากของห้าว
“อยากโดนอีกใช่มั้ย ได้”
ห้าวง้างหมัดจะชก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ภคพงษ์สวนหมัดเข้าที่หน้าของห้าวอย่างแรง
“โอ๊ย” ห้าวเซถลาไป
ปรางทิพย์ร้องด้วยความตกใจ “ว้าย”

ชีวินเดินมาเห็นเข้ามาพอดีก็ตกใจ แต่ลึกๆ ก็แอบสะใจ
“เฮ้ย เอาล่ะเว้ย ท่าทางคุณภัคจะเอาจริง”

ชีวินมองอย่างขำๆ แล้วก็รีบเดินไปแจม
ห้าวนั่งบ่นๆ ด้วยอาการมึนอยู่ที่พื้น

“แม่ง หมัดหนักเหมือนกันเว้ย”
ภคพงษ์หันมาพูดด้วยความสุภาพ
“ผมไม่ชอบใช้กำลัง แต่ครั้งนี้ ผมจะไม่ยอมให้คุณหรือใครมาขวางผมกับรสาอีกต่อไป”
ภคพงษ์พูดอย่างจริงจัง ปรางทิพย์ยืนชื่นชมในความเท่ของพี่ชายตัวเอง ภคพงษ์หันมาทางปรางทิพย์
“รสาอยู่ไหน”
“อยู่ที่ชายหาดค่ะ”
ภคพงษ์พยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งไป ห้าวจะยันตัวขึ้นขวางอีก
“เอ้ย หยุดนะเว้ย ฉันไม่ให้แกไป อย่ามายุ่งกับรส”
ห้าวจะตามไป
ทันใดนั้นชีวินก็เดินมาขวางไว้
“พอเหอะ หยุด แล้วก็ยอมรับความจริงได้แล้ว”
“ ไอ้หน้าแหย ไม่ต้องพูดมาก เชิญแกป๊อดไปคนเดียว ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เฮ้ย หยุดนะเว้ย” ห้าวพูดพร้อมตะโกนไล่หลังภคพงษ์ ทำท่าทำทางจะตามไป แต่ชีวินคว้าตัวไว้
“ พอได้แล้ว ถ้าแกรักรสจริงๆ แกต้องปล่อย”
“ปล่อยอะไร ไม่เข้าใจ”
“ปล่อยให้คนที่เค้ารักกันได้อยู่ด้วยกัน แกเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว รสเค้าไม่ได้รักเราสองคน และคนที่เค้ารักก็มาแล้ว แกจะไปขวางเค้าทำไมวะ”
“ไม่จริง รสไม่ได้รักมัน”
ปรางทิพย์ส่ายหน้า ชีวินพูดต่อ
“ถึงรสไม่รักภคพงษ์ รสก็ไม่ได้รักแก หรือว่าไม่จริง”
ห้าวอึ้งไปไม่ถูก
“ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่มันจริงเว้ย ยอมรับเหอะ อย่าพยายามอีกเลย”
ห้าวคิด เครียด แค้นและเสียใจ
“เออ ฉันยอมรับว่ารสไม่รักฉันก็ได้ แต่แกคิดเหรอว่ารสจะยอมรับว่ารักได้ไฮโซนั่น มันไม่ง่ายหรอกเว้ย”
ชีวินชะงักบ้าง พลางนึก ห้าวพูดก็มีส่วนถูก ปรางทิพย์คิดแล้วก็ค่อยๆหันไปทางชายหาด
“แต่ปรางเชื่อว่าพี่ภัคทำได้ค่ะ พี่ภัคต้องทำให้พี่รสยอมรับในตัวพี่ภัคให้ได้”
ปรางค์ทิพย์พูดใส่หน้าห้าวแถมแลบลิ้นใส่อีกต่างหาก
“ไม่เชื่อก็คอยดู”
ห้าวสะดุ้ง ชีวินมองตามไป คิดเหมือนปรางทิพย์ ต่างคนต่างลุ้นว่า ภคพงษ์จะทำสำเร็จหรือเปล่า ?

รสายืนอยู่ที่ริมชายหาด ยังคิดไม่ตกด้วยความหนักใจ เสียงภคพงษ์ดังขึ้น
“รสา”
รสาตกใจหันไป ภคพงษ์วิ่งมา รสาใจเต้นโครมคราม ตื่นเต้น ดีใจ และหวาดระแวงปะปนกันไปมา รสาหันหลังขวับให้ภคพงษ์และรีบสาวเท้าเดินหนี ภคพงษ์รีบวิ่งมารวบตัวไว้
“รสา หยุดก่อน”
รสาพยายามจะดิ้นให้หลุด
“ปล่อยฉัน”
“ไม่ปล่อย จนกว่าคุณจะหยุดและฟังผม”
“ ฉันไม่อยากฟัง”
“ไม่ฟังก็ไม่ปล่อย”
“ เอาแต่ใจตัวเอง เหมือนเดิมไม่มีผิด”
ภคพงษ์ชะงักกึก แล้วก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดออก
“ผมขอโทษ”
รสาสะบัดตัวออกมา มองหน้าอย่างเคืองๆด้วยแววตาไม่วางใจ
“ ผมรู้ว่าผมนิสัยดี ไม่ดีมากๆด้วย ผมทำให้คุณเสียใจหลายครั้ง ทำให้คุณสับสน ทำให้คุณร้องไห้ ผมรู้ว่ามันไม่น่าให้อภัย แต่คนนิสัยไม่ดีคนนี้ อยากจะขอโอกาสอีกสักครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง”
รสามองหน้าภคพงษ์ แววตาที่จริงใจ คำพูดที่ออกมาจากใจจริงทำให้เธอหวั่นไหว ขอบตาร้อนผ่าว เหมือนจะใจอ่อน รสาเบือนหน้าหนี ไม่อยากจะรับคำ ภคพงษ์รีบพูดต่อ
“รสา ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณ ได้ดูแลลูกของเรา”
รสาตกใจก่อนจะร้องไห้โฮ
“ผมรู้ว่าการเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์มันเป็นยังไง ผมไม่อยากให้ลูกของเราต้องเป็นเหมือนผม”
รสาร้องไห้เม้มปากแน่นพยายามใจแข็ง ภคพงษ์พูดต่อ
“คุณอาจจะคิดว่าผมไม่มีหัวใจรักใครไม่เป็น แต่คุณ คุณทำให้ผมรู้ว่า ความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง หัวใจของผมอยู่ที่คุณนะ รสา” ภคพงษ์พูดพลางร้องไห้
รสาร้องไห้ ภายในใจต่อสู้กันอย่างรุนแรง
“ที่ผ่านมา คุณอาจจะสงสัยในตัวผม ผมขอร้องให้คุณหันมามองผมในวันนี้”
ภคพงษ์พูดทั้งน้ำตา ค่อยๆคุกเข่าลงบนหาดทราย ภายใต้แสงพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงาม
“วันที่ผู้ชายที่ชื่อภคพงษ์ เถลิงยศ คุกเข่าต่อหน้า อ้อนวอนให้คุณยกโทษและให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่สามี และ พ่อของลูกให้โอกาสผมได้เป็นคนดี ดีพอที่คุณจะรักผม แต่งงานกับผมนะรสา”
รสาค่อยๆ หันมามองภคพงษ์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า พร้อมกับแหวนแต่งงานในมือ...
ภาพในความทรงจำที่ดี และไม่ดี ปะปนกันไปมา รสาคิด...ทั้งน้ำตา
ภคพงษ์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือ ภคพงษ์ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บ และคุกเข่าขอความเห็นใจจากเธอ

ภคพงษ์ลุ้น รสาหลับตาและปล่อยให้จิตใจนำทางตัวเองสักครั้ง
คำพูดชีวินดังแว่วเข้ามาในความคิด...
“รสไม่อยากเป็นเหมือนพิม รักคนที่จิตใจหยาบ รักคนที่พร้อมจะทำลายทุกอย่าง แม้แต่คนที่ตัวเองรัก รสอยู่กับคนแบบนั้นไม่ได้”
“รสไม่ควรจะเอาตัวเองไปเปรียบกับพิม เพราะไอ้วาริชมันไม่ได้รักพิม แต่ภคพงษ์ไม่ใช่ รสต้องออกจากกรอบความผิดถูก กรอบความคิดที่รสล้อมต้วเองเอาไว้ และดูที่หัวใจ ดูว่ารสคิดยังไงกับภคพงษ์”
รสานึกถึงภาพตอนที่มีความสุขด้วยกัน ภาพของภคพงษ์ตอนน่ารักๆ และเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มของภค
พงษ์ที่ทำให้เธอยิ้มตาม
รสาค่อยๆลืมตาขึ้นมามองภคพงษ์ที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ้อนวอนต่อ
“ผมขอร้องให้คุณช่วยเป็นแสงสว่างให้กับชีวิตของผม นะครับ รสา”
รสายิ้มออกมานิดๆทั้งน้ำตาและตอบตามที่หัวใจเธอเรียกร้อง
“ค่ะ”
ภคพงษ์ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ภคพงษ์รับจับมือรสามาสวมแหวนให้ทันที รสาร้องไห้ด้วยความตื้นเต้น ภคพงษ์ลุกขึ้น ทั้งสองคนโผเข้ากอดกันอย่างช้าๆ เป็นอ้อมกอดที่ต่างคนต่างเฝ้ารอมานานแสนนาน

ปรางทิพย์ยืนร้องไห้คุยโทรศัพท์อยู่ที่มุมหนึ่งไม่ห่างออกไป
“คุณแม่คะ ภารกิจของปรางสำเร็จแล้วนะคะ”
ปรางทิพย์ร้องไห้ด้วยความตื้นตันแล้วก็วางสายไป ไม่ห่างกันนัก ห้าวยืนมองอยู่ แล้วก็จำใจต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ห้าวหันหลังให้ภาพตำตาแล้วก็แหกปากกึกก้อง “เว๊ย” ก่อนจะเดินคอตกจากไป
ปรางทิพย์ยังร้องไห้อยู่ที่เดิม ชีวินยิ้มอบอุ่นยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
“ขอบคุณค่ะ”
ชีวินค่อยๆ หันหน้าไปทางรสาและภคพงษ์
“เฮ่อ ดีใจด้วยนะรส”
ชีวินยิ้มดีใจกับรสาจากใจจริง ปรางทิพย์มองภาพข้างหน้าแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุขไม่แพ้กัน

ภายในบ้านวงศ์เธียรสถิตย์ รัชนียืนยิ้มอยู่ที่หน้ารูปถ่ายของครอบครัว ค่อยๆ หยิบรูปภคพงษ์ในวัยเด็กที่ใส่กรอบอย่างสวยงามมาวางไว้ข้างๆ และตามด้วยรูปที่ถ่ายคู่กันสามคนแม่ลูก ภคพงษ์ ปรางทิพย์ และรัชนี เป็นภาพที่สวยงามและมีความสุขพร้อมหน้า
รัชนีมองดูรูป และยิ้มทั้งน้ำตา ปลดปล่อยตัวเองออกจากอดีตทั้งปวงด้วยความสบายใจ

ภคพงษ์ยืนกอดรสาอยู่ริมทะเล ภคพงษ์ค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้รสาอย่างอ่อนโยน
“รสา ผมขอบคุณที่คุณให้โอกาสผม”
รสามองหน้าและตอบยิ้มๆ
“ฉันอยากให้โอกาสตัวเองด้วย ให้โอกาสตัวเองที่จะยอมรับว่าฉันรักคุณ”
ภคพงษ์ซาบซึ้งดึงรสาเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน
“เป็นคำบอกรักที่เพราะที่สุดในโลก ผมดีใจที่ได้ยินคำนี้ รสา คุณคือผู้หญิงที่ผมรัก ชีวิตผมเปลี่ยนไปเพราะคุณ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่รักผม ผมรักคุณนะรสา”
รสากระชับอ้อมกอดด้วยความตื้นตัน
“ชีวิตของผมกำลังจะเริ่มต้นขึ้นใหม่โดยมีคุณและลูกของเราเป็นแสงสว่างนำทางให้ผม ผมสัญญาว่า จะทำทุกอย่างให้ครอบครัวของเรามีความสุข และผมจะไม่มีวันทำให้คุณต้องเสียใจอีกแล้ว..รสา”
รสายิ้มแฉ่ง ภคพงษ์กอดรสาไว้อย่างอ่อนโยนด้วยความรัก

รสาและภคพงษ์ยืนกอดกันอยู่ที่ริมทะเล ภายใต้ดวงตะวันที่ทอแสงสีทองเรื่อเรือง สวยงามสดใส ความมืดมนผ่านพ้นไป พร้อมกับไฟแค้นในใจที่จางหาย เหลือแต่ความรักแท้ของสองคน

*********อวสาน*********

อ่านละคร ตะวันทอแสง ตอนอวสาน[3] วันที่ 16 ต.ค. 55

ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทประพันธ์โดย : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง กำกับการแสดงโดย : พีรพล เธียรเจริญ
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ดำเนินการผลิตโดย : อรพรรณ วัชรพล(โพลีพลัส จัดให้)
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 20.25 น.
ละครเรื่อง ตะวันทอแสง ออกอากาศทาง ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ