@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 8 วันที่ 18 ต.ค. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 8 วันที่ 18 ต.ค. 55

“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่มานัด ผอ.ไปทานข้าวเที่ยง น่ะ หนูนกช่วยบอกใครต่อใครหน่อยนะว่า บ่ายนี้ ผอ.อาจไม่เข้าทำงานแล้ว ข้างนอกอากาศมันร้อน อาจจะเช่าห้องโรงแรมต่อเลย กว่าจะหายร้อนหรือเสร็จกิจ ก็คงบ่ายแก่ๆ”

ปริมอ้าปากค้าง ทำหน้ารังเกียจ รัชนกอึ้งแต่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสา มุนินทร์ยิ้มเยาะ

“มีเท่านี้ล่ะจ้ะ อย่าลืมบอกต่อด้วย หนูนกคงจะรู้นะว่าใครต่อใครน่ะ ฉันหมายถึงใคร อ้อ...ถ้าติดต่อไม่สะดวกก็ให้คุณปริมช่วยอีกแรงแล้วกัน ขอบคุณล่วงหน้านะจ๊ะ และนี่ก็โบรชัวร์โรงแรม...เผื่อหลง!”

มุนินทร์เข้าลิฟต์ไปแล้ว ปริมมองหน้ารัชนก ทึ่งและอึ้งไม่หาย มุตตามาดใหม่นี่เหลือเชื่อจริงๆ ทั้งสองก้มดู โบรชัวร์ ปริมบอกให้รัชนกรีบโทร.ไปรายงานนพนภา แต่โทร.เท่าไหร่ก็ไม่ติด...

ooooooo

นพนภาง่วนกับเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกับประพงส์ เนตรนภิศกับนภางค์มาหาที่บ้าน ต่างคนต่างทำงานยกเว้นเนตรนภิศที่นั่งดูรายการขายของในทีวี นภางค์ถามลูกสาวเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์



นพนภาอธิบายอย่างคล่องแคล่วว่าเป็นพลาซาเก่าที่เธอประมูลมาได้ ประพงส์ซ่อมแซมและต่อเติมใหม่ให้มีผับ โบว์ลิ่ง ไอซ์สเกต และสนุ้กเกอร์

“แล้วก็อาบอบนวดด้วยค่ะ” เนตรนภิศแอบเหน็บ

“เอ๊ะ...แต่ที่ตรงนั้นมันใกล้มหาลัยไม่ใช่หรือลูก” นภางค์แย้ง

“นั่นแหละค่ะยิ่งดี ไม่ต้องไปหาลูกค้าที่ไหน” นพนภาบอกยิ้มๆ

“แหม...จะดีเหรอคะ หากินกับเด็กคราวลูกคราวหลาน ยิ่งอบายมุขอย่างนี้ด้วย”

“นี่นังนภิศ อย่ามาแอ๊บแม่ชีกับฉัน อีเด็กเจนเนอ– เรชั่นเอกซ์เซ็กซ์จัดพวกนี้ ต่อให้ฉันไม่เปิด มันก็หาที่ไปใจแตกได้อยู่ดี ใครๆเขาก็ทำกัน” นพนภาตอกกลับเสียงแหลม

“ใช่...ยายนภาน่ะหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ไม่เหมือนแก หยิบจับอะไรก็เด้งเหมือนเช็คแก” นภางค์เถียงแทนลูกสาวคนโต

“ค่ะ หนูสร้างบารมีแนวพี่นภาไม่ไหว”

เนตรภนิศพูดประชด น้อยเนื้อต่ำใจที่แม่รักลูกไม่เท่ากัน เห็นนพนภาสำคัญและดีเลิศกว่าเธอเสมอ มือถือ นพนภาดังขึ้น เนตรนภิศชะโงกดู เห็นชื่อรัชนกแล้วตาวาว รีบบอกพี่สาวให้กดรับเพราะอาจมีเรื่องเจนภพมารายงาน นพนภาตาวาวทันทีเมื่อเป็นเรื่องของผัว กดรับสาย

“มีอะไรยะแม่รัชนก ถึงได้กระหน่ำโทร. เมื่อกี้ฉันคุยธุระมูลค่าสิบล้านอยู่เลยไม่ว่างรับ ผัวฉันก่อเรื่องหรือไง”

รัชนกแกล้งพูดเสียงอ่อน บอกว่าเจนภพแอบนัดเจอกับมุตตา พากันออกไปข้างนอก นพนภาลุกพรวด ถามรัชนกเสียงเครียดว่าเจนภพออกไปนานหรือยัง

รัชนกบอกว่าเกือบครึ่งชั่วโมง

“แล้วทำไมแกเพิ่งมาบอกฉัน”

“ก็คุณนภาติดคุยธุระเงินล้านอยู่ไม่ใช่เหรอคะ นกโทร.เท่าไหร่ก็โทร.ไม่ติด”

“ฉันไม่รับก็โทร.หายายนภิศสิ อย่าโง่นักจะได้ไหม”

รัชนกวางสายไปแล้ว นพนภากรีดร้อง เต้นเร่าๆอยู่คนเดียว เจ็บใจที่โดนผัวสวมเขาอีกรอบ นภางค์มองปลงๆ เนตรนภิศยิ้มสะใจ ยุพี่สาวให้รีบไปจับให้ได้คาหนังคาเขา

เจนภพออกจากกระทรวงไปโรงแรมหรู มุนินทร์รออยู่แล้วที่ล็อบบี้ ตั้งใจแต่งหน้าเข้ม สวมชุดเซ็กซี่ จิบค็อกเทลสีสวยอย่างใจเย็น เจนภพมาถึง มองหญิงสาวอย่างตื่นตะลึง มุนินทร์ทิ้งสายตามองอย่างเย้ายวน...ท้าทาย

“ตา...โอ้โฮ ผมเกือบจำไม่ได้”

“อย่าห่วงเลยค่ะ ต่อไปคุณจะจำได้ จำจนวันตายเลยด้วย”

เจนภพยิ้มกริ่ม มองหญิงสาวตาเชื่อม เหลือบตาดูค็อกเทลสีหวานแล้วแปลกใจนิดๆ จำได้ว่ามุตตาไม่ ประสาเรื่องของมึนเมาแบบนี้ มุนินทร์บอกให้ชายหนุ่มจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มให้ เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นราคาในบิล แต่ก็ควักเงินมาจ่ายแต่โดยดี มุนินทร์ยิ้มหวาน แววตาเข้มขึ้น

“ดีค่ะ เพราะต่อไป ถึงเวลาที่คุณต้องจ่ายให้ตา... อีกมากมายเชียวค่ะ”

มุนินทร์พาเจนภพไปที่ร้านอาหารที่เขาเคยพามุตตามา เจนภพเฝ้ามองหญิงสาวอย่างหลงใหล แปลกตานิดหน่อยที่เห็นเธอใส่ชุดดำ ที่ผ่านมาเขาแทบไม่เคยเห็นเธอใส่สีนี้ มุนินทร์บอกเสียงเย็นว่าใส่ไว้ทุกข์ เจนภพงงว่าให้ใคร

“ให้...ผู้หญิงของ ผอ.ไงคะ”

“ตาพูดอะไรผมไม่เข้าใจ”

“มันไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจกันง่ายๆหรอกค่ะ เพราะคนเรามักเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เอาความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ ใครจะพังพินาศยังไง ไม่ต้องสนใจ ขอให้ตัวเองได้ก็พอ”

“นี่...ตาพูดเรื่องอะไรกัน”

“ฉันก็พูดเรื่องสัจธรรมของโลกนี้ไงคะ โลกของคนแบบ ผอ.กับเมีย”

เจนภพไม่เข้าใจ มุนินทร์ยิ้มหยัน หันมาสั่งอาหารเมนูพิเศษ เตรียมถล่มเจนภพเต็มที่ หญิงสาวรินไวน์ราคาแพงให้ เขาดิื่มรวดเดียวแต่เธอแค่จิบๆ ส่งตาหวาน เจนภพชวนกลับไปทำงานที่กระทรวง เธอยิ้มเหยียด บอกว่าน่าเบื่อ สู้เป็นเมียเก็บผู้อำนวยการไม่ได้ สบายกว่ากันเยอะ เจนภพอึ้ง ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้

ooooooo

นพนภานั่งรถมากับเนตรนภิศ ร้อนใจจนนั่งไม่ ติด เจ็บลึกในอกที่รู้ว่าผัวกลับไปเจอเมียน้อยอีก นาย ชมคนขับเครียดไปด้วย เพราะนพนภายื่นหน้ามากำกับการขับรถจนเขาตัวเกร็งไปหมด เนตรนภิศมองด้วยความสะใจ แสร้งปลอบพี่สาวให้ทำใจดีๆ นพนภามองน้องตาขวาง หงุดหงิดแล้วพาลพาโลไปหมดทุกอย่าง

นพนภาหมดความอดทนทั้งๆที่ใกล้จะถึงโรงแรมอยู่แล้ว รถติดไม่ขยับ เธอลงไปโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่งที่โรงแรม เนตรนภิศหน้าเบ้แต่ก็ตามไปด้วยเพราะอยากรู้เรื่อง

นพนภาสภาพหัวยุ่งไม่เป็นทรงก้าวเข้าโรงแรมฉับๆ ไปที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ไม่สนใจเสียงซุบซิบและสายตาผู้คนในล็อบบี้ เนตรนภิศตามมาติดๆในสภาพไม่ต่างกัน นพนภาโชว์รูปเจนภพในมือถือ พนักงานหนุ่มหน้าซีดปากสั่น บอกว่าเห็นที่ล็อบบี้เมื่อครู่ก่อน นพนภาปรี๊ดแตก ถามเสียงเขียวว่าผัวเธอเช็กอินห้องเบอร์อะไร พนักงานบอกไม่ได้

“อย่ามาโยกโย้ ฉันถามว่าผัวฉันอยู่ห้องไหน ป่านนี้มันต่อรอบสองกันแล้ว”

“คุณคะฟังก่อนค่ะ สามีคุณไม่ได้เช็กอินจริงๆค่ะ น่าจะแค่มาทานอาหาร” พนักงานสาวเข้าช่วยเพื่อน

“ใช่...มันกินเอาแรงก่อน แล้วค่อยไปกินกันต่อบนเตียง แล้วผัวฉันมันพาอีเมียน้อยไปกินที่ไหน”

“คงอยู่ในห้องอาหารห้องใดห้องหนึ่ง...ในยี่สิบห้องของเราน่ะค่ะ”

นพนภาอ้าปากค้าง เนตรนภิศแอบสะใจแต่แกล้งทำเป็นร้อนรน นพนภาตาวาววับ เดือดถึงขีดสุด

“ขึ้นไปดูมันทุกห้อง ตั้งแต่ใต้ดินจนถึงดาดฟ้า เจ็บใจนัก!”

นพนภารีบแจ้นออกไป เนตรนภิศรีบตาม เหล่า พนักงานมองด้วยความสะใจ...

ขณะที่นพนภากับเนตรนภิศวิ่งวุ่นตามหารอบโรงแรม เจนภพกับมุนินทร์ทานของหวานกันอย่างชื่นมื่น หญิงสาวจงใจใช้นิ้วหยิบเชอร์รี่มาเคลียริมฝีปาก ค่อยๆ กัดเชอร์รี่เข้าปาก เจนภพมองตาเยิ้ม ชวนหญิงสาวเข้าม่านรูด มุนินทร์แสยะยิ้ม พูดย้ำเสียงดังจนบริกรและแขกรอบๆหันมองกันเลิ่กลั่ก

“อ๋อ...ไปม่านรูด จะบ่ายสองแล้วนะคะ ผอ.ไม่คิดจะกลับไปทำงานเหรอคะ”

“กลับสิ แต่ผมต้องได้คุยกับตาก่อน”

“จะคุยหรืออยากกินเชอร์รี่กันแน่คะ ก็ได้ค่ะ แต่ขอฉันส่งข้อความก่อนนะคะ”

มุนินทร์หยิบมือถือที่ตั้งไว้บนโต๊ะ เดินไปป้อนเชอร์รี่อีกครึ่งเข้าปากเจนภพ ก้มลงทาบริมฝีปากบนปกเสื้อเชิ้ตจนเป็นรอยลิปสติก ชายหนุ่มตัวชาตาเคลิ้ม มุนินทร์ทิ้งสายตาเชิญชวนก่อนเดินออกมาที่หน้าห้องอาหาร เช็กดูคลิปในมือถือที่แอบถ่ายภาพตัวเองกินเชอร์รี่ยั่วยวนเจนภพ ยิ้มอย่างพอใจ ใช้โปรแกรมเปลี่ยนเสียงในมือถือโทร.หานพนภา

“เป็นเมียหลวงภาษาอะไรกันคะ ผัวคนเดียวทำไมไม่เอาโซ่ล่ามไว้ให้ดี ปล่อยให้เป็นสัดเพ่นพ่านอยู่แถวนี้”

“ว้าย...แกเป็นใคร”

“จะใครล่ะ...ก็ผู้หวังดีน่ะสิคะ”

“ทำไม...ผัวฉันมันทำไม”

“ก็ฉันเจอผัวคุณมากินข้าวกับเมียน้อย เล้าโลมกันไม่แคร์สื่อ ทั้งล้วงทั้งควัก ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูนี่นะคะ”

มุนินทร์กดวางสายเพื่อคลิกส่งคลิป นพนภาเปิดดู คลิป ตาลุกโพลง กรี๊ดลั่น เนตรนภิศรีบมาช่วยดู นึกรู้ว่าเป็นห้องอาหารชั้นบนสุดของโรงแรม รีบลากพี่สาวไปขึ้นลิฟต์ สวนกับมุนินทร์ที่หน้าร้านอาหาร หญิงสาวตั้งใจเดินสวนกระแทกไหล่นพนภาจนเซไป แต่สองพี่น้องไม่ใส่ใจและจำเธอไม่ได้ ตั้งหน้าตั้งตาไปจับเจนภพอย่างเอาเป็นเอาตาย มุนินทร์ค่อยๆเดินตามไปดู ยิ้มเยาะสะใจ

เจนภพอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นบิลค่าอาหาร หวังว่า หญิงสาวคงจะตอบแทนเขาจนคุ้มทุน เขาก้มลงเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบบัตรเครดิต เงยขึ้นมาเจอเมียยืนจังก้า เนตรนภิศยิ้มกระหยิ่มอยู่ด้านหลัง หนุ่มใหญ่หน้าซีดเผือด แขกโต๊ะอื่นๆ หันมามองแล้วซุบซิบกัน

“มากินข้าวกับอีนั่นใช่ไหม นี่มันไปไหน อีดอกส้มน่ะ”

“ส้มเสิ้มอะไร มากับเพื่อนที่ออกรอบด้วยกัน”

“ต๊าย...พี่นภาดูที่ปกเสื้อสิคะ” เนตรนภิศพูดยิ้มๆ ชี้ไปที่ปกเสื้อพี่เขย

“อ้อ...เพื่อนผู้ชายนี่คงเป็นนังกะเทยสินะ มันถึงได้ทาปากแดงเลือดนกขนาดนั้น”

เจนภพเอียงคอดูปกเสื้อตัวเอง ใจหายวาบ มุตตาทำพิษเสียแล้ว นพนภาปรี๊ดแตก ถลาเข้าไปตบตีผัวด้วย ความคับแค้นใจ เนตรนภิศยืนมองเฉย ยิ้มอย่างสาสมใจ นพนภาพาลอาละวาดกับบริกร ถามหาหญิงสาวที่มากับผัว แต่ไม่มีใครยอมบอกอะไร ยิ่งโมโหหนัก ทำลายและขว้างปาข้าวของในห้องอาหารอย่างบ้าคลั่ง ผู้จัดการหนุ่มรุ่นน้องของเจนภพและ รปภ.รีบวิ่งมาดู

“นี่มันอะไรกันคุณ มาอาละวาดอะไรกันแบบนี้... อ้าว...พี่ภพ พี่นภา”

เจนภพส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากหนุ่มรุ่นน้อง ผู้จัดการหนุ่มยิ้มแหยพยายามปลอบให้นพนภาใจเย็น นพนภาเริ่มได้สติ ผ่อนท่าทีลง เจนภพได้ทีตีหน้าขรึมขอกลับก่อน บอกให้ตามเก็บบิลและค่าเสียหายทั้งหมดกับเมียเขา นพนภาหันรีหันขวางคว้าบิลค่าอาหารมาดู ตาลุก

“หมื่นสาม! มันกินอะไรกัน หอยปิดทองฝังเพชรเหรอ”

“พี่นภา นี่มันอะไรกันคะ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แล้วยังเอาเศษกระดูกที่นังมุตตาเหลือมาแขวนคอ”

“นังนภิศ...แกหุบปากไปเลยนะ”

นพนภาโกรธจนตัวสั่น อารมณ์พลุ่งพล่านเกินจะระงับ เนตรนภิศหน้าซีดที่โดนด่า แต่ก็แอบสะใจที่พี่สาว โดนเมียน้อยลองดี...มุนินทร์มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างสมเพช ค่อยๆเดินออกไปขึ้นลิฟต์อย่างผู้ชนะในเกมนี้!!!

ooooooo

เรื่องมุตตาปรากฏตัวที่ห้องอาหารกลายเป็นเรื่องซุบซิบทั่วกระทรวงตลอดบ่าย วีกิจยังไม่รู้เรื่องนั่งทำงานง่วนที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ปริมนั่งแต่งหน้าเหลือบตามองชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ ประสิทธิ์ชัยเป็นห่วงเพื่อน เดินไปบอกเรื่องมุตตากับเจนภพแอบนัดแนะกันเข้าโรงแรม วีกิจชะงัก ในใจระแวงแต่ยังทำเป็นเฉย

“ก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่ ก็คงนัดพูดธุระกินข้าวกัน”

“กลัวแต่ไม่ได้นั่งพูดธุระ แต่เป็นนอนพูดธุระน่ะสิคะ เห็นแต่เพดานกับพรมปูพื้น” ปริมแขวะอย่างอดไม่ได้

“จะอะไรก็ให้เป็นเรื่องของเขาเถอะฮะ ไม่ใช่เรื่องของเราที่ไปแส่เรื่องชาวบ้าน”

ปริมหน้าม้าน หันกลับไปแต่งหน้าต่อ ประสิทธิ์ชัยเดินมาแตะไหล่เพื่อนอย่างเป็นห่วง

“ไอ้กิจ...ข้าไม่อยากให้เอ็งไปยุ่งกับมุตตาเลยว่ะ ข้ากลัว”

“เอ็งกลัวอะไรไอ้สิทธิ์”

“กลัวว่าเอ็งจะถูกหลอกใช้เหมือนที่เขาเคยทำมาแล้ว คบกับเอ็งบังหน้า จนคบกับ ผอ.ได้ไม่มีใครสงสัย อีกอย่างคุณนกบอกว่าเจ้าหล่อนน่ะ ใช้เอ็งยั่วให้ ผอ.หึง จะได้กลับไปหาหล่อนเร็วขึ้นเท่านั้น”

“ขอบใจว่ะที่เตือน แต่เขาอยากทำอะไรก็ช่างเขา ข้าก็อยู่ของข้าอย่างนี้”

วีกิจหวั่นไหวแต่ยังทำเป็นไม่สน ประสิทธิ์ชัยถอนใจเบาๆ หนักใจความซื่อจนเซ่อของเพื่อน...

นพนภากลับมาอาละวาดเจนภพต่อที่บ้าน ทั้งเรื่องที่เขาแอบนัดเจอเมียน้อยและที่ให้เธอจ่ายค่าอาหารแทน เจนภพตีหน้าขรึม ย้อนเมียว่าอยากไปก่อเรื่องก็ต้อง รับผิดชอบเอง นพนภามองผัวตาเขียว

“เจ็บใจนัก ฉันไปช้านิดเดียว นังมุตตาไหวตัวมุดรูมุดร่องหนีไปได้”

“นั่นไง ถ้าผมจะมีอะไรกับเขา เขาจะกลับก่อนทำไม”

“ขนาดรีบกลับก่อน เสื้อยังเปื้อนลิปสติกเป็นแถบ คนที่โทร.มาบอกฉันน่ะ บอกว่าคุณกับอีนั่นกอดจูบล้วงควัก ไม่อายฟ้าอายดิน”

“พวกผู้หวังดี...บ่างช่างยุทั้งนั้น โดยเฉพาะน้องสาวคุณ อยากยุให้เราสองคนบ้านแตกกันเหลือเกิน”

“นี่คุณ...อย่ามาหาเรื่องยายนภิศนะ น้องฉันน่ะมันรักฉัน ถ้าไม่ได้ยายนภิศ ฉันคงโง่ดักดานกว่านี้”

“เออ...เอาเถอะ พวกคุณน่ะ ดีวิเศษทุกคน”

“นี่อย่ามาทำเนียนเปลี่ยนเรื่องนะ ในเมื่อคุณยืนยันว่ามันกลับไปทำนาแล้ว ฉันก็จะลองเชื่อดู แต่ถ้าฉันจับได้ว่ามันยังวนเวียนมาทำนาผืนน้อยกับคุณอีก ฉันจะแหกอกซะทั้งคู่”

เจนภพทำหน้าเบื่อสุดขีด นพนภาฮึดฮัดที่ผัวไม่สำนึก คว้าแจกันมาปาแตกกระจายระบายอารมณ์!

ooooooo

วีกิจแบกความกังวลใจเรื่องมุตตากลับบ้านตอนเย็น สร้อยคำเอ่ยถามเรื่องหญิงสาวกับเจนภพ เล่าให้ลูกฟังเรื่องที่นพนภาตามไปอาละวาดถึงโรงแรมที่ทั้งสองนัดเจอกัน วีกิจนั่งฟังหน้าเครียด

“แล้วเผชิญหน้ากันหรือเปล่าฮะ”

“เปล่า เห็นว่าหนูตากลับไปก่อน แม่นภาเลยพังร้านเขาป่นปี้ ค่าอาหารน่ะเป็นหมื่น แต่ค่าข้าวของที่เสียหายน่ะเป็นแสน เลยตามมาทะเลาะกันต่อที่บ้าน เพิ่งจะเงียบไปเดี๋ยวนี้เอง”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฮะว่าตาเขาคิดยังไง ผมว่าที่ตาลาออกก็เพราะจะได้เปลี่ยนชีวิตใหม่ แต่ทำไมตาถึงกลับมาติดต่ออาภพอีกก็ไม่รู้ฮะ”

“สายสวาทมันยังไม่สิ้นมั้งลูก”

“ฮะ...อาภพคงเสน่ห์แรงมากกว่าที่ผมคิด”

วีกิจถอนใจหนักๆกลุ้มใจ เขาติดต่อเธอไม่ได้มาครึ่งเดือนแล้ว สร้อยคำเตือนลูกด้วยความเป็นห่วง

“ยังไงก็ถอยออกมาเถอะเรื่องหนูตานี่ แม่ไม่อยากให้แกถูกหางเลขเข้าไปด้วย ยังไงอาภพกับอานภาก็เป็นญาติเรานะลูก จะว่าเป็นครอบครัวเดียวกันก็ได้”

“แต่ว่าตาเป็นคนอื่นใช่ไหมฮะ”

วีกิจสะเทือนใจ ขอตัวไปอาบน้ำพักผ่อน สร้อยคำมองตามลูกไปอย่างกังวล...ท่าทางลูกชายเธอคงจะไม่ได้รู้สึกกับมุตตาแค่เพื่อนอย่างที่เคยบอกแน่ๆ

ooooooo

เจนภพรู้สึกผิดที่ทะเลาะกับนพนภา แม้เขา จะแคร์มุตตามากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เคยผ่านเข้ามาใน ชีวิต แต่เขาก็รักนพนภาและรู้ว่าเมียเขาเป็นคนเดียว ที่สามารถบันดาลทุกอย่างได้ ทั้งเงินทอง ฐานะ และ เกียรติยศ เขาตัดสินใจง้อเมียที่ยังเคืองเรื่องที่เขาแอบไปเจอมุตตาที่โรงแรม

เจนภพเดินออกจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุมแหวกให้เห็นอกล่ำ มองเมียที่กำลังนวดครีมลงผิวด้วยแววตากรุ้มกริ่ม นพนภาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ใจเริ่มระทึกที่เห็นสายตาผัว ค่อยๆลูบไล้ครีมอย่างใจเย็น เจนภพเริ่มเล้าโลมเมียด้วยคำพูดและสัมผัส นพนภาสั่นสะท้านด้วยความรัญจวนใจ เจนภพคลอเคลียหนักขึ้น

“เนื้อคุณเย็นจัง”

“ใช่สิ ไม่อุ่นเพราะเลือดร่านมันสูบฉีดเหมือนนังมุตตาหรอก”

“ใครว่าล่ะ เนื้อเย็นแบบนี้แหละ ร้อนๆนอนกอดสบาย”

“คุณนี่นะ...ภพ...ถ้าไม่เจ้าชู้ซะอย่างเดียว”

“คุณก็อย่าหึงให้มันเกินเหตุ ผมรักคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ...นภา คนอื่นน่ะ...มันก็แค่ดอกไม้ริมทาง”

“อย่าเด็ดให้มันบ่อยนักก็แล้วกัน อีบางดอกน่ะ กลีบมันมีพิษ”

เจนภพยิ้มในหน้า นพนภาอ่อนระทวย ให้อภัยหมดทุกเรื่องเหมือนที่เคยเป็นมา

หลังสุขสมในอ้อมกอดผัว เจนภพหลับสนิท นพนภาแอบออกมาโทร.หาประพงส์ ขอร้องให้เขาส่งคนไปเช็กเรื่องมุตตาที่ว่าย้ายกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ถ้าเป็นเรื่องโกหกก็ขอให้จัดการขั้นเด็ดขาดไปเลย...

มุนินทร์คิดถึงวีกิจ หญิงสาวนั่งดูภาพที่ถ่ายด้วยกันที่ชายทะเลอย่างเหม่อลอย น่าแปลกที่ความรู้สึกของเธอ ไม่จางหายไปง่ายๆเหมือนทุกที และนับวันก็ชักจะหักห้ามใจ ตัวเองยากขึ้น เธอต่อสู้กับใจตัวเองอย่างหนักว่าควรจะห้ามใจ หรือปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามหัวใจเรียกร้อง สุดท้ายก็ตัดสินใจโทร.หาเพื่อฟังเสียงเขาแต่ไม่พูดอะไรและกดวาง

ด้านวีกิจก็คิดถึงหญิงสาว สับสนในหัวใจ ไม่เข้าใจว่าเธอกลับมาเจอกับอาของเขาทำไม หรือว่าเขาจะกลายเป็นเครื่องมือของเธอจริงๆ อย่างที่ประสิทธิ์ชัยบอก...

ขณะที่วีกิจกังวลเรื่องมุตตา ประสิทธิ์ชัยพารัชนกมาช็อปปิ้งอย่างสุขใจ ปริม เลอลักษณ์ และคู่หูกะเทยตามมาด้วย ทุกคนกำลังเดินดูของที่แผนกเสื้อผ้าสตรี รัชนกเลือกได้ชุดนอนลูกไม้สุดวาบหวิว ประสิทธิ์ชัยหน้าเมื่อยเพราะต้องเป็นคนจ่ายเหมือนเคย

“เฮ้อ...ทำไมแพงจัง นี่ผมจะหมดตัวแล้วนะฮะ”

“แล้วคุณสิทธิ์ไม่อยากเห็นนกใส่ชุดนี่คืนนี้เหรอคะ”

รัชนกยิ้มยั่วยวนพลางเบียดตัวเข้าเสียดสีที่แขนเขาเบาๆ ประสิทธิ์ชัยร้อนวูบวาบไปทั้งตัว

“ผมแทบรอไม่ไหวแล้วสิ”

“จุ๊ๆ เดี๋ยวพี่ปริมได้ยินค่ะ”

ปริมเดินมาหาพอดี รัชนกผละตัวออก หันไปมองปริมหน้าซื่อตาแป๋ว

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 8 วันที่ 18 ต.ค. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ