ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 14/4 วันที่ 8 พ.ค. 57
"ไอ้โน! แมนป่ะเนี่ย กล้าๆหน่อยสิ ฉันยังกล้ากว่าแกเลย ทั้งๆที่ฉันเป็นผู้หญิง ไม่สงสัยเลยว่าทำไมแกถึงจีบใครไม่เคยติด ทั้งน้องเต้ยพีอาร์ น้องไก่เออี""มารู้ได้ไง ว่าฉันจีบใครบ้าง"
"มีแต่แกคนเดียวแหละที่ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้ารู้กันทั้งออฟฟิศ"
ชาโนอึ้ง
"และถ้าแกยังไม่กล้า แม้แต่จะพูดในสิ่งที่คนอื่นรู้กันหมดแล้วก็จงกินแห้วต่อไปจนแก่ตายเถอะ! เลิกคิดจีบฉันได้แล้ว เสียเวลา เพราะฉันไม่มีทางรับผู้ชายขี้ขลาดมาพิจารณา"
"ฉัน..."
ชาโนกำลังจะพูด แต่เสียงมือถือของหยาดทิพย์ดังขึ้น ขัดจังหวะ
หยาดทิพย์แปลกใจ
"น้องไก่...โทร.มาทำไม"
หยาดทิพย์รับสาย เดินออกไป ชาโนเซ็งตัวเอง ดรณ์วิ่งเข้ามา
"ชาโน เห็นพี่เมเปิ้ลมั้ย โทร.เข้าเครื่อง ก็ไม่รับสายเลย"
ชาโนหงุดหงิด ไม่ตอบ เดินหนีไป
"อะไรของมัน"
ดรณ์เดินหาเมเปิ้ลออกไป
สองนางแบบเดินตามเจ๊ฟูมา ในที่สุด ปินัทธาก็สิ้นความอดทน
"เจ๊ฟู!"
"ค่ะ?"
"ขอโทษนะ อย่าโกรธกันนะ แต่ฉัน....ไม่ยุ่งไม่สนไม่ได้ มันเป็นเรื่องมนุษยธรรม ที่อยู่เหนือความขัดแย้งระหว่างฉันกับคุณพีศ"
เจ๊ฟูอึ้ง ก่อนจะพยักหน้า เมอร์ดี้แปลกใจ เกิดอะไรขึ้น
"กำลังจะบอกเลยค่ะ ว่าเราควรจะไปช่วยคุณพีศก่อนมั้ย"
"ขอบคุณค่ะที่เข้าใจ ฝากบอกเมเปิ้ลด้วยนะ ถ้างานไม่เสร็จฉันจะชดเชยเวลาให้"
"ชดเชยเวลา! เวลาอะไร แล้วหนูเกี่ยวด้วยมั้ย บอกเลยนะว่าไม่มีเวลาชดเชยให้แล้ว ให้แค่ไหนคือแค่นั้น"
เธอหมั่นไส้เมอร์ดี้เต็มทน เอาทิชชู่ที่หยิบติดมือมาซับเหงื่อ ยัดปากเมอร์ดี้เลย
"ว่าจะไม่ยุ่งอะไรกับหล่อนแล้วนะ เอาทิชชู่อุดปากไว้ก่อนนะ ก่อนที่ความคิดเน่าๆมันจะไหลออกมาอีก"
เธอวิ่งออกไปทันที เมอร์ดี้ถุยทิชชู่ออกมา
"อ๊าย! เจ๊ฟูดูนะ ดูที่มันทำกับหนู หนูผิดอะไร แล้วผู้จัดการอยู่ไหนเนี่ย ทำไมไม่มาดูแล เรื่องป่วนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะนังดาราวัยทอง คนนั้นคนเดียว อ๊าย!"
เจ๊ฟูรำคาญ
"โอย!"
เมอร์ดี้ตกใจ
"ผิดที่เอาแต่อารมณ์ ไม่ฟังไงคะ ถ้าใช้สมองให้มากกว่าปาก ก็จะไม่โดนแบบนี้หรอก คุณน้ำผึ้งไปช่วยตามหาลูกสาวคุณพีศทรรตที่หายตัวไปเมื่อเช้า และเจ๊ก็กำลังจะให้ทีมงาน ออกไปช่วยด้วยเหมือนกัน...โอเคป่ะ!"
เมอร์ดี้อึ้ง ตกใจ
"ไม่โอเคก็ต้องโอเค ถ้าอยากถ่ายก็เอากล้องไปถ่ายเอง"
เจ๊ฟูออกไป เมอร์ดี้ยืนหงุดหงิด โกรธ อารมณ์เสียไปหมด
ภัทรวลัยที่ใจเย็นลงแล้ว
"โอเคแล้วนะ" เมธาวลัยว่า
ภัทรวลัยร้องไห้เลย
"ไม่โอเค มันไม่สมเหตุสมผล มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลัง"
"เฮ้อ!"
หยาดทิพย์วิ่งเข้ามาร้อนใจ
"บ.ก.คะ เออีโทรมาบอกว่าสปอนเซอร์หลักยกเลิก"
"หา! ทำไม"
"พอรู้ว่าคุณน้ำผึ้งจะขึ้นปก ถอนเลยค่ะ"
"อ๊าย!"
"ใจเย็นๆแก หายใจช้าๆ อย่าเหวี่ยง อย่าสับสน"
"ไม่เหวี่ยงได้ไง แล้วจะหาสปอนเซอร์ที่ไหนมาเสียบ รายได้ไม่เข้าตามเป้า บอสเล่นฉันตายแน่"
ภัทรวลัย หยาดทิพย์ต่างอึ้ง
"ฉันจะกลับไปเคลียร์...แต่ งานทางนี้ก็..."
เจ๊ฟูเข้ามารายงาน
"บ.ก.ขา ขอเบรกกองแป๊บนะคะ"
"ทำไม!"
"คุณน้ำผึ้งไปช่วยตามหาลูกสาวคุณพีศทรรตค่ะ หายตัวไป ยังหากันไม่เจอ"
"อะไรนะ"
"ใช่ !ฉันลืมบอกแกเรื่องนี้"
"ทำไมไม่บอก ! นี่มันเรื่องสำคัญ ฉันจะไปช่วยตามหาด้วย"
"แล้วเรื่องสปอนเซอร์ล่ะคะ จะแก้ปัญหายังไงดี เดี๋ยวไม่ทันปิดเล่มนะคะ"
เธอประสาทตึงเครียดเต็มที่ ว้ากทันทีเลย
เธอประสาทตึงเครียดเต็มที่ ว้ากทันทีเลย
"โอ๊ย!"
ทุกคนเงียบ! เธอหายใจยาว เพื่อตั้งสติ
"ฉัน...ควรจะหายใจยาว"
ทุกคนบอก "ถูก"
" ฉันต้องตั้งสติก่อน....สติมา ปัญญาเกิด"
"ถูก!"
"ไทเกอร์อยู่ไหน"
"เจรจาต่อรองขอทำสกู๊ปเปิดบ้านมรดกโลกอยู่ค่ะ" หยาดทิพย์บอก
เสียงมือถือเธอดังขึ้น เห็นเบอร์หน้าจอ..”ไทเกอร์” เธอรีบรับ
"ว่าไง...เจ้าของยอมเปิดบ้านทำสกู๊ปแล้วเหรอ"
"ว้าย! เก่งอ่ะ ยังไม่เคยมีหนังสือหัวไหนทำสำเร็จเลยนะ" หยาดทิพย์บอก
"มันมีอาชีพเสริม เปิดแผงขายสะตรอเบอรี่" เจ๊ฟูว่า
เธอคิดหาทางออกขึ้นมาได้ทันที
เธอคุยมือถือ เร่งฝีเท้ามา คนอื่นๆ เร่งฝีเท้าตาม
"แกไม่ต้องมาร้องโหย กลับกรุงเทพไปคุยกับสปอนเซอร์หลักที่เพิ่งถอนไปให้เค้าเปลี่ยนใจให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ลิ้นของแกกี่แฉกๆก็ตาม งานนี้จะเป็นตัวชี้วัด ถ้าทำไม่ได้ ไม่ใช่แค่ฉันที่อาจถูกบอสไล่ออก พวกแกก็จะซวยกันยกชุด!"
หยาดทิพย์ เจ๊ฟูสยองกันขึ้นมาทันที หน้าเสีย เธอวางสาย
"ช่วยกันตามหาตัวลูกสาวคุณพีศ เร็ว"
"ไปบอกพวกที่เซ็ต เร็ว!" เจ๊ฟูบอก
เจ๊ฟู หยาดทิพย์วิ่งออกไปทางหนึ่ง เมธาวลัย กับภัทรวลัยเดินไปอีกทาง อย่างร้อนใจ
พีศทรรตเดินเข้ามาอย่างอ่อนแรง สิ้นหวัง ธัญรดาวิ่งมาหา
"เป็นไงบ้าง"
"ยังไม่เจอเลย พีศ ฉัน...ฉันใจคอไม่ดีเลย แจ้งตำรวจเลยได้มั้ย แจ้งตอนนี้เลย"
"ช่วยกันตามหาอีกรอบให้แน่ใจว่าไม่อยู่ที่รีสอร์ต แล้วเราจะไปแจ้งความกันทันที"
"ฉันกลัว"
ธัญรดาร้องไห้ พีศทรรตเห็นใจ เข้าไปกอดปลอบไว้
"ใจเย็นๆ ตั้งสติก่อน ค่อยๆคิด ว่าลูกไปที่ไหน"
น้ำผึ้งเดินมาจากมุมหนึ่ง เห็นพีศทรรตกอดปลอบใจธัญรดาอยู่ อึ้งชะงัก ยืนดูเงียบๆ
"เป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษนะคะพีศ ฉันผิดเองทั้งหมด ฉันพาลูกมาที่นี่ ใช้ลูกเป็นเครื่องมือแก้แค้นคุณ ฉันมันเลว ฉันขอโทษ"
พีศทรรตอึ้ง
"ฉันทนไม่ได้ที่เห็นคุณมีความสุข เพราะฉันเจ็บ ฉันก็อยากเห็นคุณเจ็บ ฉันมันเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ความรู้สึกของตัวเอง จนลืมความรู้สึกของลูก แต้วพูดถูก แม่ดีๆที่ไหนกันทำอย่างที่ฉันทำ ฉันไม่สมควรจะเป็นแม่คนเลย"
"ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกนะ รดา....อย่าโทษตัวเองคนเดียวเลย ผมก็ผิดที่ไม่เคยพูดจาดีๆกับคุณ ใช้แต่อารมณ์ เราสองคนมีส่วนที่ทำให้ลูกต้องหนีไป"
ธัญรดายิ่งร้องไห้หนัก เขากอดปลอบเอาไว้ ทั้งสองคนต่างเสียใจและใจเสีย ปินัทธารู้สึกว่า ตอนนี้ทั้งคู่กำลังจะเข้าใจกันแล้ว เพื่อนสองคนยืนดูอยู่ข้างหลังเธอ เห็นใจและค่อยๆเดินเข้ามา
"แก"
"แกได้ยินแล้วใช่มั้ย"
เพื่อนทั้งสองพยักหน้า
"เค้าสองคนคงจะเข้าใจกันได้แล้วสินะ คนที่มาทีหลังอย่างฉันก็ควรจะถอดใจ และถอยออกมาอย่างจริงจัง ไม่สิ...ยังถอยไม่ได้ ฉันต้องช่วยพวกเค้าตามหาลูกให้เจอก่อน เป็นสิ่งดีๆเพียงสิ่งเดียวและ เป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำให้คนที่ฉันรัก"
เธอปาดน้ำตา เดินออกไปทันที ทั้งคู่หันมามองหน้ากัน พูดอะไรไม่ออก ตามเพื่อนไป
มุมหนึ่งรีสอร์ต
"คนช่วยกันตามหาทั่วทั้งรีสอร์ต ให้คนงานบนเกาะช่วยออกตามหากันทั่วแล้ว แต่ยังไม่เห็นเลย"
"หรือว่าว่ายน้ำหนีไปแล้ว" ภัทรวลัยว่า
เพื่อนทั้งสองโพล่ง "ไอ้วลัย"
"เอ๊า ก็บนเกาะไม่มี เหลือแต่ในทะเลเท่านั้นแหละ"
"ในทะเลก็ไม่มี"
"หรือว่าอยู่ใต้ทะเล"
"ไอ้วลัย"
"ปากเสีย" ปินัทธาบอก
แต้วหน้าเสียเข้ามา
"พวกคุณเจอน้องญาดาหรือยังคะ"
ทุกคนส่ายหน้า
"โธ่เอ้ย!!!น้องญาดา หาจนทั่วแล้วนะ ทั้งบนบก ในน้ำเหลือแค่ในอากาศที่พี่แต้วยังไม่ได้บินไปตามหา"
"แต้ว"
"คะ?"
"ชอบเล่นซ่อนแอบป่ะ"
ทุกคนงง
"จู่ๆก็มาชวนน้องเค้าเล่นซ่อนแอบตอนนี้เนี่ยนะ เป็นห่วงลูกคุณพีศทรรตจนสมองเสียหรือไง"
"ไม่ได้ชวน แต่จะถามว่าแต้วกับญาดาชอบเล่นซ่อนแอบกันมั้ย"
ทุกคนบอก "แล้วไป"
"ว่าไง!"
"ไม่เคยเล่นค่ะ คุณท่านไม่ชอบให้เล่น กลัวว่าแอบไปแอบมาแล้วจะหากันไม่เจอ กลัวหลานถูกขังลืมค่ะ"
"โอย!"
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 14/4 วันที่ 8 พ.ค. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ