ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 10 พ.ค. 57
"ก็ช็อตเด็ดๆ ที่ผมแอบถ่ายไว้เป็นที่ระลึกแล้วโหลดลงมือถือ คือแบบ...ก็ไม่รู้สินะ เอาไว้ดูเวลาที่คิดถึง""อย่าทำอะไรบ้าๆนะ เอามานี่"
ตรัยคุณจะเข้าไปแย่ง ไทเกอร์รีบส่งมือถือให้ณัฎฐาลินี เธอรับมาดู ปินัทธา ภัทรวลัยเข้ามามุงพร้อมกับทุกคน แสนสุข ยืนอึ้ง...งงไปหมด ตรัยคุณยืนก้มหน้านิ่ง ไทเกอร์ยืนมองเยาะเย้ย
ทุกคน ตกใจ...สะดุ้ง...เขม้นมอง...ตาเหลือก...ปิดตา.. พร้อมเสียงครางฮือฮาเป็นระยะ
"ชัดมั้ยครับ ทุกคน"
ทุกคนเงยหน้ามองไทเกอร์ พยักหน้า...เหวอๆ
"เอามานี่ ฉันจะดูบ้าง" แสนสุขบอก
"คุณย่าขา อย่าดูเลยค่ะ" เมธาวลัยบอก
"ไม่อย่างนั้น คุณแม่ได้เป็นลมหัวใจวายสมใจแน่ค่ะ"มารยาทบอก
"เอามานี่!”
"คุณย่า"
เมธาวลัยและกฤษฎาเข้าไปประคองแสนสุขที่เป็นลมเอาไว้ ตรัยคุณมองหน้าไทเกอร์ด้วยความเจ็บใจ
ไทเกอร์ยักคิ้วให้ ไม่แคร์นะ ตรัยคุณค่อยๆเดินออกไป ด้วยความอับอาย
ไทเกอร์สะใจมาก
"บาย"
แสนสุขเป็นลม ทุกคนกุลีกุจอช่วยกันอุ้มแสนสุขมาพักบนเก้าอี้ จัดแจงให้ได้รับความสะดวก ด้วยความเป็นห่วง
ร้านกาแฟในฟิตเนส วายุบุตร พีศทรรต เป้นั่งเหวอ เพราะภาพจากคลิปยังติดตา สาวๆทั้งสามดื่มเครื่องดื่มมองดูแฟนของตัวเองนิ่งๆ เงียบๆ
"มันช็อกพวกผู้ชายมากขนาดนี้เลยเหรอ" ณัฎฐาลินีถาม
หนุ่มๆทุกคนพยักหน้ารับ
"โอย! ก็แค่ภาพนิ่ง ที่ไทเกอร์มันแอบถ่ายพี่ตรัยคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตอนหลับ ลองคิดดูสิ ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวล่ะ" ปินัทธาว่า
หนุ่มๆอึ้ง...ไม่อยากจะจินตนาการ รีบดื่มเครื่องดื่มอึกๆทันที
"ปล่อยไปก่อน…เดี๋ยวก็หาย" ภัทรวลัยบอก
ทุคนบอก “อีกนาน"
"เมเปิ้ลจะมีข่าวดีมาบอกพวกเรามั้ย คุณย่าจะยอมได้หรือยัง" ณัฎฐาลินีบอก
"ถ้าเกิดยังไม่ยอมอีก ฉันจะ....” ปินัทธาบอก
พีศทรรตหันมองขวับ ดุๆ
"จะอะไร"
"ก็จะ...ยุให้เมเปิ้ลหนีตามกฤษฎาไป ชีวิตเป็นของเรานะอย่าลืม ใช้ซะ พี่ตูนกล่าวไว้"
"กล้าเรียกเค้าว่าพี่เนอะ"
พีศทรรตส่ายหน้ากับความคิดของปินัทธา ทุกคนรอคอยอย่างกังวล
แสนสุขนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง วุฒิและมารยาทกำลังนวดเฟ้น ปฐมพยาบาล เมธาวลัยนั่งอยู่ข้างเตียง บีบมือแสนสุขเอาไว้อย่างเป็นห่วง
ที่หน้าห้อง กฤษฎายืนรออยู่อย่างกังวล จิลลาและดรณ์ยืนอยู่ด้วย
ภายในห้อง
"ไหวมั้ยครับคุณแม่ ให้ผมพาไปโรงพยาบาลเถอะนะ ใกล้หมอไว้ก่อนดีกว่า” วุฒิบอก
"โอย! คุณแม่ไม่ตายง่ายๆหรอก หนังเหนียวจะตาย" มารยาทบอก
"คุณ…อย่าว่าคุณแม่"
"ก็…"
"หยุดพูดกันได้แล้ว ฉันเวียนหัว" แสนสุขบอก
ทุกคนเงียบ
"คุณย่าขา...เป็นยังไงบ้างคะ"
"ในที่สุด เธอก็หาทางพิสูจน์ให้ฉันเห็นจนได้สินะ ว่าตาตรัย คุณเป็นอย่างที่เธอว่า เมเปิ้ล”
เธออึ้ง ก้มหน้านิ่ง
"หนูไม่สามารถแต่งงานกับใครก็ได้ เพียงเพื่อให้มีคนอยู่เป็นเพื่อนตอนแก่ ทั้งที่ไม่ได้รัก หนูขอโทษจริงๆค่ะคุณย่า"
"ดื้อด้าน"
"เหมือนกันทั้งบ้านแหละครับ ทั้งคุณแม่ ผมแล้วก็ลูก"
"เห็นหลานก็เหมือนเห็นตัวเองค่ะคุณแม่" มารยาทบอก
"รำคาญ ใครใช้ให้พูด"
วุฒิ มารยาทเงียบกริบ แสนสุขสายตาอ่อนลงมองเธอ ยังไงก็รักหลาน เห็นหลานหน้าเครียดเป็นทุกข์แล้วก็ใจอ่อน
"เธอดูแก่ขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบปีเลยนะ แค่ไม่กี่วัน"
เธอและทุกคนอึ้ง
"เอ่อ...คือ เครียดจนไม่ได้ดูแลตัวเองเลยค่ะ"
"แต่เด็กผู้ชายคนนั้นก็ยังดูรักเธอดี ถึงเธอจะดูแย่แบบนี้"
"ก็คนมันรักนี่ครับ ดูอย่างผมสิครับ เหี่ยวไปทั้งตัวอย่างคุณมารยาท ผมก็รักของผม"
มารยาท อาย
"เค้ารู้น่ะ เซี้ยวจริง"
แสนสุขเห็นลูกชายกับสะใภ้ ถอนใจ
"ทำตัวเป็นสาวรุ่นไปได้ น่าเกลียด"
"ความรักทำให้เราดูอ่อนเยาว์ค่ะ" มารยาทบอก
"ที่สำคัญ...ทำให้เรามีความสุขครับคุณแม่ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ต้องการความรักหล่อเลี้ยง นอกเหนือจากปัจจัยสี่ครับ"
แสนสุขลุกขึ้น ทุกคนตกใจ ช่วยกันประคอง
"เด็กคนนั้นอยู่ไหน"
ที่หน้าห้อง แสนสุขมองหน้ากฤษฎา ด้วยสายตาโหดมาก ทุกคนยืนอึ้ง ความเงียบเข้าปกคลุมจนอึดอัด บทสนทนาเริ่มต้นขึ้น
"วันนี้มีธุระไปไหนต่อ"
"ถ้าอกหักก็คงกลับบ้านเลย แต่ถ้าไม่...จะเดินจูงมือคุณเมเปิ้ลคุยโน่นนี่นั่น ไปถึงเช้าครับ"
"ฉันไม่ยอม"
ทุกคนอึ้ง เครียด
"ทำไมจะยอมไม่ได้คะ คุณย่า...หนูกับดรณ์ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วไง ว่าอายุไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคนสองคนจะรักกัน"
"ฉันยังพูดไม่จบ ฟัง"
แสนสุขเดินเข้าไปมองหน้ากฤษฎา เขาผงะ แสนสุขสืบเท้าเข้าชิด กฤษฎาจะถอย
"ยืนเฉยๆ"
"ครับ"
"พาเมเปิ้ลไปนวดหน้าทำสวยก่อน แล้วจะไปเดินจับมือกันยันเช้าที่ไหนก็ไป"
ทุกคนอึ้ง งง
"ถึงจะรักกันจริง วัยไม่เกี่ยว มันก็ต้องดูแลตัวเอง เดี๋ยวคนจะทักว่าแม่ควงลูกชาย"
ทุกคนโล่งอก ยิ้มออกมาได้ เมธาวลัยเข้าไปกอดย่าทันที
"คุณย่าขา...ขอบคุณมากนะคะ"
"ย่าเองที่มัวแต่กลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตอนที่ย่าเป็นลมเมื่อกี้ เหมือนจะขาดใจตาย ย่าเห็นเธอร้องไห้ ย่าก็คิดได้ ว่าย่าไม่อยากตายแบบนี้ตายในขณะที่เห็นลูกหลานเป็นทุกข์ เราควร จะมีความสุขในวันที่ยังมีชีวิตอยู่
อะไรที่ยังมาไม่ถึงก็ช่างมัน"
ทุกคนฟังแสนสุขนิ่งงัน
"ถ้าคิดว่าเลือกดีแล้ว และนี่คือความสุขของตัว ก็ทำไป ย่าจะไม่ขัด ขอให้โชคดีทั้งสองคน ยัยจิลกับตาดรณ์ด้วย"
"ขอบคุณครับคุณย่า ผมสัญญา ผมจะ…"
"ไม่ต้องมาสัญญากับย่า สัญญากันเองเถอะ ตาวุฒิ มารยาท แม่จะกลับเข้าห้อง พาไปที"
วุฒิ มารยาทรีบพยุงแสนสุขไป กฤษฎาจับมือเมธาวลัยเอาไว้ ดรณ์ก็กระชับมือจิลลามั่นคง
แต่ได้ยินเสียงแสนสุขยังบ่นไม่หยุดปาก ขณะที่เดินเข้าห้องไป
"คอยตอบคำถามชาวบ้านให้ดีเถอะ ตาวุฒิ แม่มารยาทว่าลูกสาวบ้านนี้กินเด็กกันทั้งบ้าน"
"ช่วยไม่ได้ ก็ลูกสาวเราสวยทั้งกายและใจ ใครก็อดใจไม่ไหวค่ะ"
มารยาทหัวเราะคิกคัก แสนสุขมองค้อน เอือมลูกสะใภ้ สองพี่น้องมองหน้ากัน ยิ้มอย่างมีความสุข
ภัทรวลัยขนมเต็มปาก
"ก็มันอร่อยอ่ะ"
ทุกคนมองภัทรวลัยที่กินขนมอย่างอร่อยอยู่คนเดียว
"พูดเลย...มันเป็นพะยูนแน่ๆ พี่เป้" ปินัทธาบอก
"วลัยคะ กินโปรตีนดีกว่าพวกแป้งกับน้ำตาลนะ ดีกับลูกในท้องมากกว่า"
"ก็ได้"
ภัทรวลัยวางลงอย่างเสียดาย เมธาวลัยจูงมือกฤษฎาเดินเข้ามา ทุกคนเห็น รีบลุกขึ้น ยิ้มออก
"แปลว่า...” ณัฎบาลินีว่า
"คุณย่าไฟเขียวแล้ว"
ทุกคน "เฮ!”
"ดีใจด้วยนะแก ดีใจด้วยจริงๆ"
"ในที่สุด เพื่อนฉันทั้งสามคนก็จะได้ใช้ของที่แม่ให้มาสักที" ภัทรวลัยบอก
ทุกคนบอก “ยัง!”
ฝ่ายชายโพล่งถามพร้อมกัน "ทำไมล่ะ"
สาวๆบอกกับคนของตัว
"ฉันยังไม่ตอบรับเลยว่า จะเป็นแฟนคุณ" ณัฎฐาลินีบอก
"ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะฝ่าด่านแม่คุณ ลูกคุณได้สำเร็จหรือเปล่า" ปินัทธาว่า
"ฉันก็เหมือนกัน แต่ที่สำคัญกว่านั้น เราไม่มีทางรู้ เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะมีใครเปลี่ยนแปลงไปมั้ย หมดรักกันจนต้องเลิกรากันหรือเปล่า" เมธาวลัยว่า
ทุกคนอึ้ง...
"ขอแค่...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันที่เรามีใครเข้ามาในชีวิต" ณัฎฐาลินีบอก
"ดูแลความรักของเราให้ดีที่สุด" ปินัทธาว่า
"วันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ช่างมัน...คุณย่าฉันกล่าว" เมธาวลัยบอก
ฝ่ายชายกุมมือคนรักของตัวเองไว้ ภัทรวลัยซึ้งกับคำพูดเพื่อนมาก เผลอตักขนมเข้าปาก จนเป้ต้องเอามือไปเบรกช้อนเอาไว้อย่างอ่อนโยน แล้วส่ายหน้าช้าๆ
"ขอบคุณนะคะพี่เป้ ที่ดูแลกัน"
ทั้งคู่สบตากันอย่างหวานซึ้ง
จู่ๆ ผู้ชายทั้งสามก็ลุกขึ้นฉุดคนรักของตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกัน
"ไปเถอะ น้ำผึ้ง"
"ไปไหน"
"ไม่มีใครเลี้ยงญาดา แต้วลากลับบ้าน รดาติดประชุมตอนเย็น"
"ให้ฉันไปเลี้ยง? ไอ้คุณพีศ ฉัน...”
พีศทรรตไม่ฟัง ลากปินัทธาออกไป
"นึกขึ้นได้ว่าคุณย่าสั่งไว้ ต้องพาคุณเมเปิ้ลไปนวดหน้าครับ"
"เดินจับมือกันก่อนไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ครับ เดี๋ยวคนทักว่าแม่ควงลูกชาย"
"ไอ้เด็กบ้า! ปากเสีย"
กฤษฎาลากเมธาวลัย รีบเดินออกไป
"บอกซิ จะพาฉันไปไหน" ณัฎฐาลินีถาม
"แม่คุณรอกินข้าวฝีมือผมอยู่ไง เราต้องไปซื้อของสด"
"อุ๊ตะ! ลืมเลย ไปสิ เร็วๆชักช้านะคุณน่ะ"
ณัฎฐาลินี เดินนำ วายุบุตรตามขำๆ ต่อปากต่อคำกันออกไป
"ไม่ช้านะ เร็วมาก พิสูจน์มั้ย"
"ทะลึ่ง! ไม่ต้อง! อย่ามา"
ทั้งสามคู่ออกไปอย่างมีความสุข เป้เห็นภัทรวลัยแอบตักขนมกินอีก เป้พูดโดยไม่มอง
"อย่ามาค่ะ วลัย! ถึงไม่มอง แต่พี่รู้สึกได้ค่ะ"
เธอค่อยๆลดช้อนลง เซ็ง
พีศทรรตจับมือปินัทธาวิ่งออกไปจากประตูฟิตเนส ไปหยุดข้างหน้า เธอกระเง้ากระงอดจะไม่ไป
กฤษฎาและเมธาวลัยวิ่งจับมือกันออกไป มองหน้าหยอกเอินกัน หวานสุดๆ
ณัฎฐาลินีกับวายุบุตร ไม่จับมือกัน เธอหวงตัวใส่วายุบุตรที่พยายามงอนง้อขอจับมือ
ทั้งสามคู่ในอารมณ์แตกต่างกัน แต่ละคู่ก็แยกกันไปคนละทาง เหมือนรูปแบบความรักของแต่ละคน เริ่มต้นเหมือนกันคือต้องการความรัก แต่มีทางไปไม่เหมือนกัน และไม่มีใครรู้หนทางข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร....รู้แค่วันนี้ยังมีกันและกัน
******อวสาน******
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนอวสาน(จบ) วันที่ 10 พ.ค. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ