ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 10/6 วันที่ 3 พ.ค. 57
"งั้นรบกวนเวลาไม่นานครับ จะแจ้งว่าผมจัดการเรื่องกองถ่ายของคุณไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ""ขอบคุณมาก...แล้ว เอ่อ"
"กฤษ"
ทุกคนอึ้ง
กฤษฎาหันไป เห็นน้ำฟ้ากับโสนยืนอยู่
"แค่นี้ก่อนนะครับคุณเมเปิ้ล สวัสดีครับ"
เสียงสายหลุด ตู๊ดๆๆ เธอนั่งจ้องมือถือนิ่ง ด้วยความเจ็บใจ
"นังมารคอหอย"
กฤษฎาเดินมาหาน้ำฟ้าและโสน
"โทรหาใครน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว" น้ำฟ้าถาม
"คุณเมเปิ้ล แจ้งเรื่องเตรียมสถานที่ให้กองถ่ายเค้าไว้เรียบร้อยแล้ว"
"โทร.ไปยกเลิกซะ"
"อะไรนะครับแม่"
"แม่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาใช้สถานที่ออกสื่อเพื่อโปรโมต ไม่ต้องการ แค่นี้ลูกค้าก็มากพอแล้ว รับกันแทบไม่ไหว"
"แต่ผม..."
"คุณป้าคะ กฤษโทร.คอนเฟิร์มไปแล้วถ้าขืนโทร.ไปยกเลิก ทางเราจะเสียหายนะคะ"
"ก็ช่างมันสิ ให้เค้าไปหาที่ใหม่ ที่นี่ไม่ต้อนรับ"
โสนเดินออกไป กฤษฎากลุ้มใจ
"กฤษ...อย่าเครียดนะ เดี๋ยวเราช่วยพูดให้"
"ไม่เป็นไรหรอกน้ำฟ้า เราคุยเอง"
"กฤษพูดอะไรไป คุณป้าก็มีแต่จะดึงดัน ไม่ยอม เพราะอะไรรู้มั้ย คุณป้าคิดว่ากฤษยังชอบคุณเมเปิ้ล ถึงได้ยอมตกลงให้เค้ามาง่ายๆ"
" การที่เรายอมให้เค้ามา แปลว่า...เราไม่คิดอะไรกับเค้าแล้วต่างหาก ไม่อย่างนั้น เราก็จะไม่มีวันยอมเจอหน้าเค้าอีก"
"คุณป้ายังไม่แน่ใจน่ะสิ เราจะช่วยพูดให้ทุกอย่าง จะต้องเรียบร้อย โอเคมั้ย"
"ฝากด้วยนะฟ้า ขอบคุณมาก"
"จ๊ะ"
น้ำฟ้าเดินออกไป กฤษฎาหนักใจ
เมธาวลัยเดินฉุนมากับเพื่อนๆ
"มันต้องเข้ามาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มทุกที"
"หมูเค้าจะหามดันเอาคานมาสอด" ณัฎฐาลินีบอก
"อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแท้ๆ" ปินัทธาว่า
"มันต้องรู้เรื่องที่ฉันจะไปถ่ายปกที่เกาะตะวัน"
"แล้วนังนั่นมันก็ต้องมีแผนคอยสกัดแกไม่ให้เข้าหาเด็ก" ปินัทธาบอก
"ฉันควรทำไงดี"
"พวกเราสี่คนไปตบมันเลย"
ทุกคนพร้อมใจกันถอยหลัง เหลือปินัทธาอยู่แถวหน้าคนเดียว
"อ้าว...ทิ้งกันเห็นๆ"
"นังนี่ชอบใช้กำลัง สมองน่ะมีมั้ย" ณัฎฐาลินีบอก
"เนี่ย ใช้สมองสุดแระ"
"โอ๊ย! กลุ้มอ่ะ รู้เขาไม่รู้เรา ศึกครั้งนี้ ฉันถอยหลังไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องได้ต้องโดน พวกแกเข้าใจป่ะ"
ทุกคนผงะ แล้วบอก
"โหดมาก"
"เออสิ"
"แต่ถูกจับแต่งงานโหดกว่า ฉันว่างงานพอดี ฉันกับวลัยจะไป ช่วยแกเอง สี่รุมหนึ่งให้มันรู้ไป ว่าจะแพ้ทางชะนีเด็ก" ณัฎฐาลินีบอก
ปินัทธากับภัทรวลัยบอก "จริง!"
"ขอบใจพวกแกมากนะ มีเพื่อนน้อย แต่ไม่ด้อยคุณภาพ ฉันโคตรมีบุญเลย"
"สู้มั้ยสู้!" ณัฎฐาลินีปลุกความฮึกเหิม
"ขอให้ได้ขอให้โดน!"
ทุกคน "เฮ้!"
คนผ่านไปผ่านมามองเป็นตาเดียว สี่สาวอึ้ง ก่อนจะหัวเราะ มีกำลังใจ พากันรีบเดินออกไป
เวลากลางคืน วายุบุตรเดินมาในมุมหนึ่งของผับ เสียงมือถือดังขึ้น เขารีบรับสาย
"ว่ายังไง ป้อม"
เขาฟังป้อมรายงานบางอย่าง
"ขอกุญแจรถฉันไปนานหรือยัง"
วายุบุตรฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสายลง รีบเดินออกไป
มุมหนึ่งที่จอดรถของวายุบุตร สิริมาเอาปืนของวายุบุตรเก็บไว้ที่ลิ้นชักหน้ารถเหมือนเดิม แล้ว รีบปิดประตูรถ จะเดินออกไป ก็ต้องชะงักเพราะวายุบุตรยืนอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว
"คุณเอาปืนของผมไปทำอะไร"
เธออึ้ง ตกใจ พูดไม่ออก ตั้งตัวไม่ทัน
"อย่าโกหกแม้แต่คำเดียว เพราะคุณรู้ดีว่า...ถ้าผมรู้ว่าใครโกหก มันจะเป็นยังไง โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่ผมไว้ใจมาก ถึงจะเป็นคุณก็ตาม"
เธอตกใจหน้าซีดเผือด
ภายในห้องทำงาน สิริมาก้มหน้านิ่ง สารภาพความจริงที่โกหกเพื่อตัวเอง
"ฉันไปขู่ไอ้พิภพ ไม่ให้มันคิดจะทำอะไรคุณอีก ฉันจำเป็นต้องใช้มันเพื่อป้องกันตัว"
"ขู่ คนอย่างมันเหรอจะกลัวคุณ เพียงแค่มีปืนกระบอกเดียวไปจ่อที่หน้า ถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าพอ"
เธออึ้ง
"คุณมีอะไรไปเสนอแลกเปลี่ยนกับมันเหรอ สิริมา"
เธอรีบแก้ตัว
"ฉันไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยน นอกจาก...ตัวฉันเอง"
"สิริมา"
"คุณรู้ดีนี่คะ ว่ามันชอบฉัน...ฉันยอมแลกได้ทั้งนั้นเพื่อให้คุณปลอดภัย"
"แต่คุณกำลังทำให้มันหัวเราะเยาะผม ที่ใช้คุณแลกกับความปลอดภัยของตัวเอง เหมือนผมไม่มีศักดิ์ศรี คอยหลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิง"
"สิ่งที่ฉันทำลงไป ทำให้คุณรู้สึกแย่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
"ใช่"
"ฉันทำอะไรก็ผิดในสายตาคุณสินะ"
เธอผิดหวัง น้อยใจ เสียใจมาก
"ไม่ใช่อย่างนั้นสิริมา แต่คุณทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีซะก่อน"
"เพื่อคนที่ฉันรัก ฉันทำได้เลย โดยไม่ต้องคิด...คุณก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน"
"เมื่อไหร่"
สิริมาพูดตัดบท
"อย่าถามว่าเมื่อไหร่ฉันจะเลิกรักคุณ มันไม่มีทางเป็นไปได้ นอกจากฉันจะหมดลมหายใจไปเท่านั้น"
วายุบุตรอึ้ง
"รำคาญฉันใช่มั้ยที่ไม่เลิกเพ้อเจ้อ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ได้ทำเพื่อขอให้คุณกลับมารักฉัน ฉันเพียงแค่อยากมีค่า มีตัวตนในสายตาคุณบ้าง แต่นับวัน...มันก็ยิ่งมองไม่เห็นทาง"
สิริมาลุกขึ้น ยิ้มอย่างเจ็บปวดให้
"และฉันก็มีศักดิ์ศรีพอ ที่จะไม่ทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีก ลาก่อนค่ะ วายุบุตร"
"หมายความว่ายังไง สิริมา"
สิริมาเดินไปจูบวายุบุตรอย่างแผ่วเบา จูบเพื่ออำลา ยิ้มให้ทั้งน้ำตา
"หมายความว่า เราสองคนขาดกันนับตั้งแต่วันนี้ ฉันจะไปจากคุณไปทั้งที่ยังรัก และเจ็บปวดมากที่สุด"
สิริมาค่อยๆเดินจากไป ก่อนจะหยุดยืนหันหลังนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง อยากได้ยินเสียงเรียก แต่ก็ไม่มี นอกจาก...
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง โชคดีนะ สิริมา"
เธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ตัดสินใจ ตัดใจเดินออกไป เขาไม่สบายใจที่เธอเลือกที่จะจากไป...แต่เขาก็เลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้
สิริมาเดินมาด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้นวายุบุตร หยิบมือถือขึ้นมา กดเบอร์หาพิภพ
"ฮัลโหล" พิภพรับสาย
"อยากรู้มั้ยว่าใครคือหนอนบ่อนไส้อยู่ใกล้ตัวแก"
สิริมายิ้มเจ้าเล่ห์!
ณัฎฐาลินีเดินเข้ามาในผับด้วยท่าทางเป็นปกติ คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ... เธอย่องออกมาหน้าบ้านมาในมุมมืด หยิบขวดเหล้าออกมาจากกระเป๋า เปิดฝาขวด ตัดสินใจดื่มอั่กๆ ก่อนจะบ้วนทิ้ง หน้าแหยมาก แล้วเทใส่มือดีดประพรมตัวเพื่อให้มีกลิ่นเหล้าติดตัว....
แท็กซี่เข้ามาจอดหน้าบ้าน... เธอรีบย่องออกไปทันที
มุมหนึ่งผับพิภพ เธอดมกลิ่นเกล้าในตัวเอง ผงะ
"อิสโชว์ทาม"
ขณะที่เธอรวบรวมสมาธิ แล้วแอ็คติ้งเป็นคนเมาทันที
"โอย...เมา"
เธอเดินไม่ตรงทาง พยายามส่องหาพิภพ แต่แล้วทันใดนั้น เจตต์ก็โผล่เข้ามาฉวยแขนของเธอ
ลากไปทางหนึ่งทันที เธอตกใจ เจตต์ได้กลิ่นเหล้าจากตัวลินีแล้วถึงกับผงะ
"จะทำอะไรฉัน"
เจตต์ไม่ตอบ จับเธอเข้าหลืบ สำรวจทั่วเรือนร่าง จนเธอนึกอาย แต่ทำเป็นปกติ... เมา
"มองอะไร ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง"
"เคย เห็นมาเยอะ รวมทั้งไอ้ที่สวยแล้วชอบเสนอแบบคุณด้วย"
"นี่!"
"อยากโดนมากนักหรือไง มาทุกคืน"
"เออ!"
"งั้นผมสนองให้ ไม่ต้องรอเสี่ยหรอก เสี่ยเค้าไม่ว่าง"
เจตต์ทำท่าจะลวนลาม เธอกำลังจะป้องกันตัว แต่แล้วช้างกับมาร์กก็ลากลูกน้องคนหนึ่งที่ฮึดฮัดๆผ่านสายตาไป ทั้งเจตต์และลินีเห็นก็อึ้ง
เธอรีบหนีหลุดมาจากพันธนาการของเจตต์ทันที
"เฮ้ย! คุณ"
เธอวิ่งหนีออกไป เจตต์เจ็บใจ และนึกแปลกใจ เกิดอะไรขึ้น เธอเดินตามหลังช้างกับมาร์กมาเรื่อยๆ ในมุมที่ไม่มีใคร ปลอดคน
เธอโผล่มาที่ประตู มองหา แล้วก็ชะงัก อึ้ง เมื่อเห็นช้างกำลังซ้อมลูกน้อง ที่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต พิภพยืนมองอยู่กับมาร์ก ก่อนหันไปพยักหน้ากับช้าง ช้างจัดการใช้ปืนเก็บเสียง จ่อยิงลูกน้อง
เธอสะดุ้ง ตกใจ เห็นลูกน้องล้มลงขาดใจตายคาที่
พิภพหันมามองทางที่เธอยืนอยู่ แต่เธอรีบหลบด้วยความตกใจ
พิภพนึกแคลงใจ หันไปสั่งมาร์กให้รีบเดินมาทางที่เธอยืนอยู่ ช้างจัดการเก็บศพ ลากหายไป
เธอตัดสินใจเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ชั่วขณะเดียวกับที่มาร์กมาถึง แต่ไม่เห็นใคร มองซ้ายมองขวา เห็นเพียงกล่องกระดาษที่ไม่ได้ใช้แล้วกองพะเนินอยู่
เธอหลบอยู่ในหลืบใกล้ๆ ลุ้นแทบกลั้นหายใจ ขณะที่มาร์กกำลังเดินเข้ามาใกล้เธอเข้าไปทุกทีๆ เจตต์เดินเข้ามาข้างหลังมาร์กเรียก
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 10/6 วันที่ 3 พ.ค. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ