อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 9 วันที่ 30 มิ.ย. 57
อาร์ตสะดุ้งกับฝีมือลูกศิษย์ จุ้มจิ้มหน้าเจื่อนด้วยความอายในฝีมือนวดดินของตัวเอง“อย่าใช้ทั้งฝ่ามือนวดสิ..ต้องใช้สันมือนวด...ไหนลองทำซิ”
จุ้มจิ้มพยายามทำตามคำสอนอย่างเงอะงะๆ แต่ก็ยังใช้ฝ่ามือนวดอยู่ดี อาร์ตยื่นมือไปจับมือจุ้มจิ้มให้หยุดนวด
“ไม่ใช่แบบนั้น...นี่..ต้องใช้สันมือนวดแบบนี้สิ..อย่าลงน้ำหนักมาก..แค่นี้พอ..โอเค...ช้าๆ..ใจเย็นๆ”
อาร์ตจับมือจุ้มนวดดินด้วยทำท่าเหมือนคุณครูผู้จริงจังกับการถ่ายทอดวิชา จุ้มจิ้มยิ้มอายๆ ถึงรู้เขาหลอกจับมือแต่ก็เต็มใจให้หลอก
“ขอบใจนะลูก..เอาของซื้อของขายมาให้ยายฟรีอีกแล้ว”
“ให้ฟรีที่ไหนจ๊ะ...หนูฝากยายเอาไปไหว้พระต่างหาก..จะได้พลอยได้บุญไปกับยายด้วย”
“ขอให้เจริญๆ..เกิดมาชาติหน้าก็ขอให้สวยเหมือนดอกไม้ทุกชาติไปนะลูก”
“สาธุ...แต่หนูขอเริ่มสวยตั้งแต่ชาตินี้เลยได้มั้ยจ๊ะยาย” ลูกจันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
พอลมองภาพลูกจันกำลังหยอกล้อกับยายวงศ์อย่างรู้สึกดีในความอ่อนโยนของเธอ
ลูกจันเห็นพอลกำลังพายเรืออย่างทะมัดทะแมงตรงกลางเรือยังมีดอกไม้อยู่อีกหลายช่อ
“ตอนมาบ้านสวนคราวที่แล้ว ฉันยังต้องพายเรือให้แกนั่งอยู่เลย...มาคราวนี้แกกลายเป็นคนพายเรือให้ฉันไปซะแล้ว”
พอลหลบตาลูกจันแล้วพยายามแก้ตัว
“ก็..ก็เล่นละคร..ก็เลยต้องฝึกไง”
ลูกจันทำหน้าชื่นชม
“อือ..แกนี่เก่งเนอะ..เปลี่ยนตัวเองเป็นตัวละครได้ทุกตัวเลย..โชคดีนะที่เรื่องนี้ แกเล่นเป็นสายชลเลยแค่ต้องหัดพายเรือ...ถ้าเรื่องหน้าเล่นเป็นไอ้แมงมุม..แกคงต้องฝึกไต่กำแพงสินะ....ฮ่าๆๆๆ”
ลูกจันหัวเราะอย่างภูมิใจในมุกตัวเองสุดๆ พอลกระตุกยิ้มพร้อมแค่นเสียงหัวเราะกับมุกฝืดๆของลูกจัน
“เหอะ..ตลกจังเลย”
ลูกจันคิดได้ “เอ๊ะ...แต่มีอยู่บทนึงนะที่แกเล่นเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิน”
“บทอะไร”
“บทผู้ชายไง....ฮ่าๆๆ”
พอลทำหน้าครุ่นคิดบางอย่างแล้วแอบแย๊บลูกจันเบาๆ
“แล้ว..ถ้าเกิด..ฉันอินกับบทผู้ชายขึ้นมาล่ะ”
ลูกจันหยุดหัวเราะทันทีก่อนจะหันมาตอบพอลอย่างจริงจังมาก
“แกกับฉันก็คงต้องเลิกคบกัน”
พอลหน้าเสียแล้วคิดในใจว่าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
พอลกับลูกจันลอยเรืออยู่ริมท่าบ้านยายบุญ ลูกจันยกมือไหว้ลายายบุญหลังจากส่งดอกไม้ให้
ยายบุญอวยพร “เจริญๆนะลูกเอ๊ย”
ลูกจันกับพอลยกมือไหว้รับพรจากยายบุญพร้อมกัน พอลพายเรือออกมาพร้อมลูกจัน บนเรือว่างเปล่าเพราะเอาดอกไม้ไปแจกคนแก่หมดแล้ว
“เสร็จสิ้นภาระกิจ...เราไปหาไรหร่อยๆกินกันเถอะ” ลูกจันชวน
พอลมองความสดใสของลูกจัน แล้วยิ้มอย่างมีความสุขก่อนตอบ “โอเค๊”
อาร์ตยิ้มปลื้มปริ่มราวกับกำลังชื่นชมงานศิลปะระดับโลก
“โอเคมากเลยจุ้ม” อาร์ตบอก
จุ้มจิ้มทำหน้าแหยๆ
“โอเคแล้วจริงๆเหรอ”
จุ้มจิ้มก้มลงมองงานตัวเองก็เห็นงานปั้นของจุ้มจิ้มเป็นแก้วน้ำที่บิดเบี้ยวมาก
“จริงจริ๊งง...มันดูมีความเป็นตัวของตัวเอง...ดูยูนีค...ดูมีจิตวิญญาณ” อาร์ตบอก
จุ้มจิ้มยิ้มอย่างมีกำลังใจ
“เอ้า...ปั้นอีกเยอะๆเลย จะได้ชำนาญ...แล้วเดี๋ยวจะได้เข้าเตาเผาพร้อมกัน”
จุ้มจิ้มนั่งลงเตรียมตัดดินมาปั้นแต่เผลอทำมีดตัดดินตกไปใต้โต๊ะ อาร์ตรีบคุกเข่าลงไปควานหามาให้
“ได้แล้ว”
อาร์ตเงยหน้าขึ้นจากใต้โต๊ะจังหวะเดียวกับที่จุ้มจิ้มก้มหน้าลงมองพอดี หน้าทั้งคู่จึงอยู่ในมุมที่ห่างกันแค่คืบเท่านั้น องศาหน้าที่อาร์ตเงยขึ้นมาและจุ้มจิ้มก้มลงไปก็เหมาะกับการจูบ อาร์ตกับจุ้มจิ้มจ้องมองกันไปมา
อาร์ตเห็นปากสีชมพูจิ้มลิ้มของจุ้มจิ้มช่างเชิญชวน อาร์ตค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้จุ้มจิ้มช้าๆ จุ้มจิ้มใจระทึกแต่ก็พริ้มตารอ
อาร์ตค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จุ้มอีกนิด ภาพในความคิดของอาร์ตเป็นตอนที่เขาคุยกับนันทา
นันทาพูดกับเขา “ฝากจุ้มด้วยนะอาร์ต”
“ไม่ต้องห่วงครับ..ผมจะดูแลจุ้มอย่างดีเลยครับ”
อาร์ตชะงักและมีสติขึ้นมาอีกครั้ง
อาร์ตหักห้ามใจตัวเองให้เป็นสุภาพบุรุษสมกับที่แม่จุ้มจิ้มไว้วางใจ เขารีบลุกขึ้นผละออกจากจุ้มจิ้ม
“เอ่อ..เดี๋ยว..เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้นะ..หิวน้ำใช่มั้ย”
อาร์ตวางมีดตัดดินลงบนโต๊ะแล้วรีบเดินงุดๆเข้าไปในบ้าน
จุ้มจิ้มเขินอยู่คนเดียว ใจนึงก็อายที่เกือบยอมให้เค้าจูบง่ายๆ แต่อีกใจก็รู้สึกดีกับความเป็นสุภาพบุรุษของอาร์ต จุ้มจิ้มมองเข้าไปในบ้าน.แล้วยิ้มบางๆอย่างมีความสุข
ลูกจันกำลังอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งอยู่บนตักพร้อมกอดหอมอย่างเอ็นดู
ลูกจันพูดกับเด็ก “ร้อนมั้ยคะ..โถ..เหงื่อซึมเลย..มา..เดี๋ยวพี่เช็ดหน้าให้นะ”
ลูกจันบรรจงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าเด็กอย่างอ่อนโยน
พอลนั่งอมยิ้มกับความอ่อนโยนของลูกจัน
“ได้แล้วค่ะ” แม่ค้าบอก
แม่ค้ายื่นถุงใส่ห่อหมกให้ลูกจัน
“มีห่อหมกปลาช่อน 5 ห่อหมกปลากราย 5 นะคะ”
ลูกจันรับถุงห่อหมกส่งต่อให้พอลแล้วอุ้มเด็กส่งข้ามเรือให้แม่ค้าที่อยู่ในเรืออีกลำ
ลูกจันพูดกับเด็ก “บ๊ายบายย”
ลูกจันเห็นแม่ค้าพายเรือออกไปพร้อมลูกน้อย แล้วลูกจันก็หันกลับมาทางพอล
ลูกจันพูดหน้าเศร้า “น่าสงสารเนอะ..ตัวเล็กจิ๊ดเดียวต้องมาตากแดดขายของกับแม่”
พอลพยักหน้ารับด้วยแววตาชื่นชมความใจดีของลูกจัน
ลูกจันมองไปที่เรือสินค้ารอบๆตัว
“เอาอะไรอีกดี”
“เอ่อ...ฉันว่า...พอก่อนมั้ย?”
พอลก้มลงมองที่ท้องเรือก็เห็นอาหารมากมายวางอยู่แน่นจนเรือจะจมอยู่แระ
“เคๆ..งั้นพายไปหาที่สบายกินกันดีกว่า”
พอลขยับจะจ้วงไม้พาย
เสียงคุณยายที่แหบเครือและน่าสงสารดังขึ้น “ห่อหมกจ้า..ห่อหมกปลาช่อน ปลากรายจ้า”
ยายแก่มากพายเรือมาขายห่อหมกอยู่ ลูกจันหันไปมองยายด้วยสีหน้าสงสาร
ลูกจันเรียก “ยายจ๋า...ทางนี้จ้ะยาย”
ยายรีบพายเรือมาทางลูกจัน
“ห่อหมกเราซื้อมาแล้ว10ห่อนะลูกจัน” พอลบอก
“ไม่เป็นไรหรอก..เดี๋ยวเอาไปฝากคนงานก็ได้..สงสารยายอ่ะ”
พอลพยักหน้าเห็นดีด้วย ยายพายเรือมาถึง
“เหมาหมดเลยจ้ะยาย...เท่าไหร่จ๊ะ”
ยายยายนับห่อหมก “ห่อละ30จ้ะ..20ห่อก็600”
ลูกจันยื่นแบงค์พันให้ยาย “นี่จ้ะ..ไม่ต้องทอนนะจ๊ะ...หนูให้ยาย”
ยายรับเงินจากลูกจันด้วยความดีใจ “ขอให้เจริญๆนะลูก”
ลูกจันยกมือไหว้รับพร “สาธุ..ขอบคุณจ้ะยาย”
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของพอล พอลยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย อย่างประทับใจกับมุมแสนดีของลูกจันมากๆ
พอลเห็นลูกจันกำลังกินอาหารที่ซื้อมาอย่างเอร็ดอร่อย ลูกจันเริ่มรู้สึกตัวว่าโดนมองเลยจ้องพอลกลับ “มองชั้นทำไมยะ”
พอลยิ้มๆ
“ก็...กำลังมองอยู่ว่า..เสียดายที่อายุแกเกิน..ไม่งั้นจะส่งประกวดนางงาม”
ลูกจันเชิดๆ ราวกับมีมงกุฏอยู่บนหัว “หึ...เพิ่งเห็นความสวยของฉันเหรอยะ”
พอลหัวเราะ “ไม่ได้ส่งประกวดเพราะสวย..แต่ส่งเพราะเห็นมีคุณสมบัตินางงามครบ”
ลูกจันงง “คุณสมบัติอะไร”
“ก็รักเด็ก รักคนแก่ไง”
“รักแกด้วย”
ลูกจันยิ้มหวานให้พอล
พอลกำลังจะยิ้มหวานตอบ
ลูกจันตัดอารมณ์พอลโดยไม่รู้ตัว “แต่เกลียดผู้ชาย!!”
พอลจ๋อย ลูกจันยังไม่รู้ตัวว่าทำให้ใครจ๋อยแล้วเธอก็เอ็นจอยกับการกินต่อไป
อาร์ตกับจุ้มจิ้มร่วมด้วยช่วยกันสร้างงานศิลปะไปพร้อมกันในทุกขั้นตอนของการทำเซรามิค ตั้งแต่ปั้น เคลือบสี ไปจนถึงขั้นตอนเผา งานเซรามิคค่อยๆเป็นรูปเป็นร่าง เช่นเดียวกับความรู้สึกดีๆระหว่างทั้งคู่ก็ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเหมือนกัน
จุ้มจิ้มเอาน้ำมาป้อนอาร์ตเพราะอาร์ตมือเลอะโคลน อาร์ตใช้มือปัดลูกผมที่ตกลงมาระหน้าให้จุ้มจิ้ม แม้ไม่มีคำพูด แต่แววตาและรอยยิ้มก็บอกชัดเจนว่าทั้งสองรักกัน
มินตรากับปีโป้เดินทางสืบหาบ้านของลูกจัน มินตราและปีโป้ช่วยกันมองหาบ้านลูกจันตั้งแต่อยู่บนรถ
มินตราและปีโป้แยกย้ายกันออกไปถามชาวบ้านจนได้เบาะแสแล้วก็ขึ้นรถขับหาต่อ ปีโป้จอดรถลงไปด้อมๆมองๆบ้านบางหลังจนโดนหมาไล่กัด ส่วนมินตราเดินหาบ้านลูกจันจนส้นรองเท้าหัก มีความยากลำบากอีกมากมายที่ปีโป้และมินตราต้องเผชิญในการตามหาบ้านลูกจัน
ชัตเตอร์ลั่นรับมุมสวยของคุ้งน้ำ พอลกำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ ลูกจันนั่งมองความจริงจังในการถ่ายรูปของพอลด้วยความสงสัย
“พีท”
พอลยังถ่ายรูปต่อโดยไม่ได้หันมามอง “หือ”
“ทำไมหมู่นี้แกถ่ายรูปจริงจังยังกะเป็นตากล้องอาชีพแน่ะ”
พอลชะงักแล้วทำตาล่อกแล่ก เขากำลังอ้าปากจะโกหก
ลูกจันพูดดัก “หยุด...ไม่ต้องพูด...ฉันขอทายว่า...ละครเรื่องหน้าแกต้องรับบทเป็นตากล้องชิมิ?”
พอลถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะดีใจที่ไม่ต้องคิดเรื่องโกหก
“อือ..ใช่ๆ”
ลูกจันยิ้มปลื้มปริ่มอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง “หึๆ..ฉันนี่มันทั้งสวยทั้งฉลาดของแท้เลยเนอะ”
พอลยิ้มแหยๆ เพราะเพลียกับความมั่นใจในตัวเองของลูกจัน แล้วพอลก็หันไปถ่ายรูปต่อ ลูกจันเห็นสร้อยที่คอพอล เธอจึงยื่นหน้าเข้าไปดู
ลูกจันหรี่ตาเพื่อปรับโฟกัสให้เห็นสร้อยชัดขึ้น ลูกจันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“พีท”
พอลหันมามองลูกจัน
“ว่าจะถามหลายครั้งแล้วแต่ลืมทุกทีเลย...สร้อยที่คอแกน่ะ..อาจารย์ไหนให้มารึเปล่า..เห็นใส่ไม่ถอดเลยนะยะ”
พอลเอามือจับสร้อยขึ้นมาดูแล้วย้อนคิดไปถึงเรื่องราวในอดีต
ภาพเหตุการณ์ในอดีต คุณยายหน้าตาใจดีพูดกับพีทและพอลในวัยเด็กที่นั่งตรงหน้า
“วันนี้ยายจะให้ของที่ระลึกคนละชิ้นนะลูก...เลือกเอาเองเลยว่าชอบชิ้นไหน”
คุณยายค่อยๆเปิดกล่องสมบัติข้างหน้าที่มีประมาณ5-6กล่อง สมบัติในหีบซึ่งเป็นเครื่องประดับเพชร ทอง และอัญมณีอื่นๆ ส่องแสงวูบวาบออกมา
พอลเบ้หน้าเพราะตาลายกับแสงเพชร
“เอ่อ..ให้พีทเลือกก่อนก็ได้ครับ”
พอลหันมาทางพีทแล้วถึงกับอ้าปากค้าง พอลเห็นพีทใส่มงกุฎและติดกิ๊บเพชรแน่นไปทั้งหัว คุณยายก็อึ้งไม่แพ้พอล
คุณยาย พูดกัยพีท “..เอ่อ...ค่อยๆเลือกดูซักชิ้นแล้วกันนะลูก...คือ..ถ้าพีทจะใช้ทีเดียวทั้งหมด...เอ่อ..ยายว่ามันจะเยอะไปน่ะลูก” คุณยายพูดกับพอล “อ้าว..แล้วพอลล่ะลูก ชอบชิ้นไหน?”
พอลหันไปมองกล่องสมบัติอีกครั้งก็เห็นแหวนเงินเกลี้ยงๆวงหนึ่งวางอยู่ท่ามกลางหมู่อัญมณี พอลชี้ไปที่แหวนเงินวงนั้น คุณยายหันไปมองตามมือพอลแล้วยิ้ม ยายบรรจงหยิงแหวนเงินเกลี้ยงขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
“แหวนวงนี้เป็นแหวนวงแรกที่คุณตาของหนูให้ยาย...ราคามันไม่มากหรอกลูก...แต่คุณค่าของความรักที่ซ่อนเอาไว้ในแหวนวงนี้มันมหาศาล”
ยายเอาแหวนร้อยเข้าไปในสร้อยแล้วสวมคอให้พอล
“เอ้า...ยายให้พอลเก็บเอาไว้ให้คนที่พอลรักนะลูก”
พอลก้มมองแหวนที่คอแล้วเงยหน้าขึ้นดูยาย
เหตุการณ์ปัจจุบัน พอลเงยหน้าขึ้นจากสร้อยแล้วก็สะดุ้งเฮือกที่เห็นลูกจันยื่นหน้ามาหาจนจมูกจะจ่อกันอยู่แล้ว
พอลตกใจ “เฮ้ยย”
ลูกจันค้อนขวับ
“อุ๊ย..หมั่นไส้..แค่นี้ทำเป็นขวัญอ่อน..ว่าไงยะตกลงสร้อยเนี่ยอาจารย์ที่ไหนให้มาใส่แก้เคล็ด”
พอลอึกอัก “ปะเปล่า...ยายให้มา”
“ให้มาเมื่อไหร่”
“ก็...นานแล้ว...ตั้งแต่เด็ก”
“แล้วทำไมเพิ่งเอามาใส่ตอนนี้”
“ไม่รู้ดิ..ก็...คิดถึงยายอ่ะ”
ลูกจันมองพอลอย่างอ่อนโยน
“โถ....ไม่เป็นไรนะ..ป่านนี้ยายคงนั่งดูแกอยู่บนสวรรค์แล้วล่ะ...มา...ฉันกอดแกแทนยายเอง”
ลูกจันขยับเข้าไปกอดพอลไว้แน่น พอลคิดกลับไปถึงอดีตอีกครั้ง
เหตุการณ์ในอดีต พอลในวัยเด็กเงยมองคุณยาย
“แล้วผมจะรู้ได้ไงครับ ว่าจะให้แหวนวงนี้กับใคร”
ยายยิ้มน้อยๆ
“ถึงวันที่หนูเจอเค้า...หัวใจจะบอกหนูเองจ้ะ”
พอลในปัจจุบันแอบเหลือบมองเสี้ยวหน้าของลูกจันขณะกำลังกอดอยู่
เสียงหัวใจพอลเต้นตึ่กตั่ก พอลสะดุ้งกับเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง เขาคิดว่าหัวใจกำลังบอกอะไรเขาอยู่รึเปล่าเนี่ย
จุ้มจิ้มกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกพร้อมครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนค่ำ
เหตุการณ์ตอนหัวค่ำย้อนกลับมาในความคิด
จุ้มจิ้มลงจากมอเตอร์ไซค์อาร์ต
จุ้มจิ้มเขินๆ “ขอบคุณนะ”
อาร์ตพยักหน้ายิ้มๆ เพราะเขินไม่แพ้กัน
“ให้อาร์ตเข้าไปสวัสดีแม่ก่อนมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก ตอนนี้แม่สวดมนต์อยู่...อีกนานกว่าจะเสร็จ..เดี๋ยวเรา..” จุ้มจิ้มพูด อาร์ตมองด้วยสายตาตัดพ้อ “...เอ่อ..เดี๋ยวจุ้มบอกแม่ให้เอง”
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 9 วันที่ 30 มิ.ย. 57
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ แนว:โรแมนติก-คอมเมดีละคร รักนี้เจ้จัดให้บทประพันธ์โดย จากเค้าโครงเรื่องของ อิสย่าห์-พิมพิสุธญ์
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ บทโทรทัศน์โดย จอมยุทธ เคน-นายนุกูล
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ กำกับการแสดงโดย เสกวสุ, สิปปกร ภควัชร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ผลิตโดย บริษัท พุด-เดิ้น จำกัด โดยผู้จัด : ปาจรีย์ ณ นคร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ออกอากาศ ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2557
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ