@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครเรื่อง เรือนริษยา ตอนที่ 9 วันที่ 13 มิ.ย. 57

อ่านละครเรื่อง เรือนริษยา ตอนที่ 9 วันที่ 13 มิ.ย. 57

แต่ถึงจะสู้ยิบตา รณฤทธิ์ก็เป็นผู้ชายและมีแรงมากกว่าเลยทำท่าจะได้เปรียบหลังจากยื้อยุดกันพักใหญ่ ฤทัย กนกกรและเดือนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่ไม่เข้าไปช่วย สะใจเหลือเกินที่นันทนัชจะโดนกระทำย่ำยีแบบนี้ ส่วนศรีได้แต่เฝ้ามองลุ้นๆ อยากช่วยใจแทบขาดแต่ถูกเดือนรั้งไว้ ถ้าไม่อยากถูกไล่ออก นันทนัชเลยต้องฮึดสู้ด้วยตัวเอง และก็สบโอกาสสวนเข่าเข้าเป้าของรณฤทธิ์เต็มแรงแล้วผลุนผลันเข้าห้องไป

ในขณะที่พวกรณฤทธิ์หัวเราะชอบใจที่กลั่นแกล้งนันทนัชให้อกสั่นขวัญแขวนได้เจ้าตัวผู้เคราะห์ร้ายกลับนั่งพิงประตูห้องอย่างอ่อนแรงร้องไห้โฮด้วยความอัดอั้นตันใจที่ต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ความอ้างว้างและโดดเดี่ยวกัดกินในหัวใจจนแทบจะเป็นบ้า...หรือว่าเธอจะไม่มีโอกาสทำดีเรียกร้องหาความยุติธรรมให้พ่อเหมือนที่ตั้งใจไว้


เวลาเดียวกันที่ร้านแฟนต้าธีร์รีบร้อนไปหาเจ้าของร้านสาวเพราะทราบมาว่ามีเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับทิพย์ให้ดูนายแบบหนุ่มก้มมองสำเนาบัตรประชาชนของทิพย์แล้วตัดสินใจชวนแฟนต้าไปสืบหาตามที่อยู่เก่าของทิพย์โดยมีสายตาของชิดที่แอบเห็นทั้งสองโดยบังเอิญมองตามเริ่มระแวงว่าสถานะแท้จริงของทิพย์จะถูกเปิดเผยเร็วๆนี้

ธีร์กับแฟนต้าไม่รู้ตัวว่าถูกชิดตามจึงเดินสอบถามในละแวกใกล้บ้านเก่าของทิพย์เรื่อยๆจนเจอบ้านเก่าตามที่อยู่ในบัตรประชาชนพ่อเลี้ยงจอมหื่นของทิพย์

เป็นคนมาต้อนรับด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อรู้จากสองหนุ่มสาวแปลกหน้าว่ามาตามหาทิพย์เลยไล่ตะเพิดบอกว่าหนีตามผู้ชายไปตั้งนานแล้ว

“หนีไปกับไอ้ลิตรไง...ไอ้แมงดาเกาะผู้หญิงกินไอ้พระยาเทครัวมันได้ทั้งนังคุณนายเรไรทั้งนังรำเพยน้องสาวอีคุณนายมาเป็นเมียยังไม่พอมันยังเอาอีทิพย์ไปเป็นเมียเก็บของมันอีกคนมันถึงไม่ตายดีไง”

ธีร์กับแฟนต้าตกใจมากไม่อยากจะเชื่อว่าทิพย์จะเป็นเมียเก็บของลิตรจริงๆพ่อเลี้ยงเบ้หน้าพร้อมกับหัวเราะเยาะเสียงลั่นสะใจมากที่มีชีวิตรอดจนเห็นวันตายของลิตรแต่เมื่อได้สติก็เอ่ยปากไล่แฟนต้ากับธีร์

“ไปให้พ้นบ้านฉันอย่ามาถามถึงอีทิพย์อีเนรคุณกับฉันอีกแล้วถ้าแกเจอมันอีกนะฝากบอกมันด้วยว่าคนอย่างมันไม่ตายดีหรอกมันกับไอ้ลิตรทำชั่วอะไรไว้มันต้องชดใช้กรรมไอ้ลิตรตายไปแล้วอีทิพย์จะเป็นรายต่อไป!”

ooooooo

ชิดรีบกลับไปรายงานทิพย์ที่บ้านสวนว่ามีคนไปตามหาที่บ้านเก่าทิพย์มั่นใจโดยไม่ต้องเดาว่าเป็นแฟนต้ากับธีร์แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าคือสองหนุ่มสาวตามหาบ้านเก่าของเธอเจอได้อย่างไรฉับพลันนั้น...

ภาพในหัวตอนห้องพักถูกบุคคลปริศนาบุกค้นก็ผุดในหัวคงจะเป็นแฟนต้าแน่ๆที่เข้ามารื้อของในห้องเพื่อสืบเรื่องของเธอ

ความจริงที่ค้นพบทำให้ทิพย์โกรธจนตัวสั่นชิดมองมาด้วยท่าทางหวาดระแวงแต่ข้องใจอยู่เรื่องหนึ่ง

“ทิพย์ทำงานที่ร้านนั้นมาตั้งนานตั้งแต่รุ่นแม่เขาอยู่ๆเขามาสงสัยทิพย์ในตอนนี้ได้ไง”

“ก็เพราะนายธีร์ตัวดีมันไม่เห็นด้วยที่คุณนันจะไปสู้รบปรบมือกับพวกนังฤทัยเพื่อแย่งชิงมรดกของคุณลิตรคืนมาไอ้เด็กไม่มีหัวคิดมันคงคิดว่าความรักอย่างเดียวจะทำให้มันสามารถดูแลคุณนันได้ตลอดไป!”

ชิดยังกังวลเรื่องทิพย์ถูกสืบประวัติแต่แม่ครัวใหญ่กลับไม่คิดมากเพราะตราบใดที่บ้านสวนนี้ยังไม่ถูกค้นพบแผนการที่เตรียมไปล้างแค้นพวกฤทัยและหวนคืนเรือนรัตนะก็คงจะดำเนินต่อไป...ช่างหัวมันเถอะ!

ฝ่ายธีร์กับแฟนต้านั่งคุยกันถึงเรื่องวันนี้โดยเฉพาะเรื่องทิพย์เป็นเมียเก็บของลิตรแฟนต้าถอนใจหนักหน่วงนึกเป็นห่วงนันทนัชว่าหากทราบคงจะเสียใจและผิดหวังมากธีร์พยักหน้าเห็นด้วยและตกลงจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่อยากให้นันทนัชรู้และเก็บไปคิดมากแค่นี้ก็มีเรื่องวุ่นวายมากพอแล้ว

ด้านนันทนัช...ทายาและแปะพลาสเตอร์แผลถลอกตามตัวรู้สึกระบมที่หัวไหล่ซ้ายจนเหมือนจะมีไข้ทันใดนั้น...มือถือของเธอก็ดังขึ้นกฤตพนธ์นั่นเองที่โทร.มาให้ไปพบเพราะมีเรื่องของรณฤทธิ์มาเล่าให้ฟังแต่น้ำเสียงห่อเหี่ยวของเธอทำให้ทหารหนุ่มเอะใจแต่เพียรถามเท่าไหร่หญิงสาวก็ยืนกรานว่าไม่มีอะไร

กฤตพนธ์วางสายจากนันทนัชไปแล้วภานุโผล่หน้ามายิ้มแซวว่าเพื่อนคงจะมีเสน่ห์เหลือล้นนันทนัชเลยยอมมาพบง่ายๆกฤตพนธ์ไม่สนุกด้วยเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของนันทนัชอย่างจริงจังภานุเลยหงอแก้ตัวแกนๆว่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น...สงสัยแกกับคุณนันต้องทำบุญทำกรรมมาด้วยกันแน่ชาตินี้เลยได้มาเป็นคู่กัน

หลังแยกจากภานุ...กฤตพนธ์ก็ตรงไปร้านของแฟนต้าตามที่นัดกับนันทนัชไว้แต่กลับได้ออกกำลังช่วยธีร์แทนที่หน้าร้านเมื่อมีคนร้ายสองคนบุกเข้ามาทำร้ายโดยทำท่าทางเหมือนโจรปล้นรถธีร์จะพลาดท่าอยู่แล้วโชคดีที่กฤตพนธ์มาช่วยไว้ทันสองโจรเลยหาทางหนีไปได้เสียก่อน

สองโจรปริศนาก็คือสมหมายกับลูกน้องฮึดฮัดอย่างหัวเสียที่จัดการธีร์ไม่สำเร็จแต่คนที่โกรธกว่าคือเชนโดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่ากฤตพนธ์มาแทรกแซงเหมือนทุกครั้งสมหมายแค้นใจไม่ต่างกันเลยอาสาไปแก้มือแต่เชนรั้งไว้

“อย่าเพิ่ง...ปล่อยให้มันตายใจคิดว่าถูกโจรจี้ปล้นธรรมดาแล้วค่อยหาโอกาสเล่นมันให้รากเลือดตามใบสั่ง”

“ผมหมายถึงไอ้กฤตเราน่าจะสั่งสอนมันซ้ำถ้าไม่ตายหรือพิการมันก็คงเป็นพลเมืองดีช่วยคนโน้นนี้ไม่เลิก”

“ตอนนี้มันอยู่ร้านเพื่อนนังนันแกส่งลูกน้องไปจับตาตามติดมันไว้ขอเวลาฉันคิดก่อนว่าจะจัดหนักมันยังไง”

ฝ่ายธีร์กับกฤตพนธ์มองหน้ากันเครียดๆโดยเฉพาะทหารหนุ่มที่ก้มเก็บมีดของหนึ่งในสองคนร้ายไว้เป็นหลักฐานและพยายามบอกให้นายแบบหนุ่มแจ้งตำรวจแต่ธีร์ปฏิเสธเพราะไม่เป็นอะไรมากแถมคิดว่าเรื่องทั้งหมดไม่น่ามาจากความขัดแย้งส่วนตัวแต่คงเป็นเพราะนันทนัชกฤตพนธ์เลิกคิ้วเป็นคำถามธีร์เลยตัดสินใจขยายความ

“ผมไม่ไว้ใจน้าทิพย์ผมก็เลย...แอบสืบเรื่องน้าทิพย์อยู่”

“แต่น้าทิพย์คนนั้นเลี้ยงดูคุณนันมาตั้งแต่เล็กๆไม่ใช่หรือครับท่าทางแก...”

“ผมมีเหตุผลถึงทำแบบนี้ถ้าคุณหวังดีกับนันจริงๆอย่างที่แสดงให้เห็นตลอดเวลาคุณคงไม่เอาเรื่องไปบอกนัน”

กฤตพนธ์รับปากไม่คิดจะบอกอยู่แล้วเพราะไม่อยากให้นันทนัชไม่สบายใจธีร์ขอบคุณที่ทหารหนุ่มมีน้ำใจช่วยเหลือแม้จะเหม็นขี้หน้าอีกฝ่ายที่ทำตัวเป็นศัตรูหัวใจแต่วีรกรรมวันนี้ก็ทำให้เปลี่ยนใจ...จริงๆก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่

ooooooo

ธีร์แยกกลับไปแล้วนันทนัชมาถึงหลังจากนั้นไม่นานกฤตพนธ์ยิ้มกว้างต้อนรับและขอร้องให้ไปคุยกันในห้องลับตาไม่อยากให้เรื่องที่เขามาเจอเธอเป็นที่สงสัยกลัวข้อมูลที่สืบมาจะไร้ประโยชน์

“ขอโทษด้วยที่ต้องมาคุยกันในที่ลับขนาดนี้แต่เพราะผมไว้ใจใครไม่ได้เลยแม้แต่น้าทิพย์ของคุณ”

“ค่ะ...ฉันเข้าใจคุณมีข้อมูลอะไรของนายรณมาบอกฉันคะ”

กฤตพนธ์หยิบมือถือมาโชว์รูปเชนกับสมหมายให้ดูนันทนัชขมวดคิ้วนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าสองคนนี้เป็นใครกฤตพนธ์เลยเฉลยว่าเป็นคนร้ายที่รุมเขาในห้องน้ำของร้านแฟนต้าเมื่อหลายวันก่อนแต่ที่ทำให้นันทนัชตกใจมากเห็นจะเป็นความจริงที่ว่ารณฤทธิ์รู้จักสองคนนี้เป็นอย่างดี...งั้นอีตารณก็อาจจ้างคนมาทำร้ายฉันได้น่ะสิ!

เวลาเดียวกันที่ห้องพนันแห่งหนึ่ง...คนที่นันทนัชกับกฤตพนธ์พูดถึงกำลังว่าจ้างเชนให้ฆ่ากฤตพนธ์โดยเร็วที่สุดไม่อยากให้ทหารหนุ่มเป็นตัวป่วนให้แผนกำจัดนันทนัชไม่สมบูรณ์เชนเหลือบตามองสมหมายอย่างมีความหมายรณฤทธิ์มาถูกเวลาจริงๆ...คราวนี้แหละยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว...ได้ฆ่าไอ้กฤตแถมยังได้เงินด้วย

ฟากกฤตพนธ์ไม่รู้ตัวว่าโดนหมายหัวสั่งเก็บ

คาดคั้นนันทนัชใหญ่ว่ามีอะไรในใจเพราะท่าทางเธอดูแปลกๆหลังจากทราบถึงความสัมพันธ์ของสองมือปืนกับรณฤทธิ์นันทนัชอึกๆอักๆแต่สุดท้ายก็โพล่งออกไปอย่างลืมตัว

“เมื่อคืนตอนนายรณจะปล้ำฉันเขาก็พูดขู่เอาไว้ว่าจะเล่นงานทุกคนที่ช่วยฉัน”

คำพูดของนันทนัชทำให้กฤตพนธ์เบิกตาโพลงอย่างโกรธจัดถลาไปใกล้แล้วบังคับให้เล่าทุกอย่างนันทนัชตกใจมากนึกเคืองตัวเองที่หลุดปากพูดเรื่องเกือบถูกปล้ำแถมเมื่อเขารู้ว่าเธอมีอาการช้ำและระบมที่ไหล่ซ้ายเลยยิ่งโมโหกฤตพนธ์พยายามขอดูแผลนันทนัชต้องเบี่ยงตัวหลบไม่อยากให้เขาคิดมากเรื่องเธอ

“ฉันไม่เป็นไรแค่เคล็ดนิดหน่อยนายรณมันเมามันคงคิดว่าใช้วิธีนี้แล้วจะทำให้ฉันกลัวยอมถอยทัพออกจากเรือนรัตนะมันคิดผิดแล้วฉันสู้มันได้”

กฤตพนธ์ทั้งโกรธและห่วงเธอแทบบ้า “โธ่คุณนัน...แล้วถ้าเกิดคุณสู้มันไม่ได้ล่ะอะไรจะเกิดขึ้น”

นันทนัชต้องปลอบไม่อยากให้คิดมาก “อย่าห่วงเลยค่ะฉันจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดคุณเองก็ต้องระวังตัวให้ดีแล้วกันบ้าเลือดอย่างนายรณมันไม่ขู่เล่นๆหรอกฉันว่ามันเอาจริง”

“ยังจะมาห่วงผมอีกผมสิต้องห่วงคุณตัวคนเดียวในบ้านหลังนั้นนะ”

แววตาจริงจังของเขาทำให้นันทนัชอึ้งไปอึดใจอุ่นใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีคนเป็นห่วงนันทนัชตั้งท่าจะกลับแต่ถูกกฤตพนธ์รั้งไว้ “สัญญากับผมก่อนถ้าคุณไม่ไหวจริงๆอย่าทนอยู่คุณต้องบอกผมผมจะช่วยคุณ”

นันทนัชฝืนยิ้มน้ำตาคลอด้วยความซาบซึ้งใจแต่กลับเลือกพูดตรงข้ามกับที่คิด “ฉันไม่สัญญาค่ะ”

นันทนัชปลดมือเขาออกอย่างนุ่มนวลแล้วเดินจากไปโดยไม่ทันสังเกตว่าทิพย์แอบดูที่หน้าห้องสักพักใหญ่แล้วแต่ไม่ได้ยินว่าสองหนุ่มสาวคุยอะไรกันแต่ที่แน่ๆคือความใกล้ชิดของกฤตพนธ์กับนันทนัชที่เริ่มจะแน่นแฟ้นและลึกซึ้งมากขึ้นทุกทีจนเธอก็รู้สึก...ไม่ได้การแล้วฉันต้องหาทางแยกสองคนนั่นออกจากกันให้ได้!

ooooooo

ขณะที่นันทนัชออกไปคุยกับกฤตพนธ์ที่ร้านแฟนต้าพวกฤทัยเลยฉวยโอกาสบุกเข้าห้องนอนเธอเพื่อค้นหาพินัยกรรมของลิตรสภาพห้องใหญ่โตและหรูหรากว่าห้องอื่นๆทำให้พวกฤทัยอิจฉาตาร้อนรื้อข้าวของระบายอารมณ์จนกระจุยกระจายไม่มีชิ้นดี... สมน้ำหน้านังนันอยากได้อยู่ห้องใหญ่ดีกว่าพวกเราดีนัก!

ฟากนันทนัชกลับถึงเรือนรัตนะในบ่ายวันเดียวกันแต่ไม่ทันเข้าบ้านไกรภัทรซึ่งถูกทิพย์ส่งมาเพื่อแทรกแซงความสัมพันธ์ระหว่างนันทนัชกับกฤตพนธ์โผล่มาขวางท่าทีอ่อนโยนและเป็นห่วงเป็นใยของทนายหนุ่มทำให้นันทนัชรู้สึกดีและไว้ใจมากพอจะสนทนาด้วยไกรภัทรยิ้มบางๆและพยายามบอกให้เธอเข้าใจเจตนาที่ดีกับเธอเสมอ

“อย่าเข้าใจผิดนะครับผมเป็นห่วงคุณนันด้วยความจริงใจนะครับไม่ได้หวังอะไรทางการงาน”

สายตาจริงใจของไกรภัทรทำให้นันทนัชรู้สึกมีความหวังขึ้นนิดหน่อย “ค่ะ...นันขอบคุณมากมีคุณอีกคนที่เป็นห่วงนันตอนนี้คุณก็กำลังช่วยนันอยู่...บัญชีโรงสีที่ให้ตรวจสอบมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ”

ไกรภัทรถอนใจเบาๆบอกว่าคงต้องขอเวลาอีกหน่อยนันทนัชพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจตราบใดที่ยังไม่พบพินัยกรรมของพ่อเธอก็รอได้เสมอสองหนุ่มสาวส่งยิ้มให้กันแต่ไม่ทันขยับไปไหนก็ต้องหน้าเสียเมื่อพวกฤทัยโผล่มาเอาเรื่องหมั่นไส้นันทนัชมากที่มีแต่คนเอาอกเอาใจไกรภัทรขยับตัวอย่างอึดอัดได้แต่มองตามนันทนัชที่ขอตัวเข้าบ้านไปแล้วทิ้งเขาไว้กับพวกฤทัยที่ค่อนแคะใหญ่ว่าเขาทำตัวลำเอียงเอาใจลูกสาวลิตรมากกว่าภรรยาอย่างฤทัย

ฤทัยขู่ว่าหากค้นพินัยกรรมพบไกรภัทรกับสมุทรชัยอาจต้องเด้งจากตำแหน่งหากไม่หันมาเอาใจเธอกับลูกๆแต่ไกรภัทรกลับไม่สะทกสะท้านเพราะเชื่อว่าพินัยกรรมของลิตรคงไม่ใจร้ายแบบนั้น

“อย่ามาขู่ผมเลยครับผมช่วยให้คุณฤทัยได้มรดกไม่ได้หรอกคุณลิตรทำพินัยกรรมยกให้ใครคนนั้นก็ได้มรดกไปผมว่ารีบเอาเวลาไปหาพินัยกรรมให้พบเร็วๆดีกว่ามาขู่ผมนะครับ”

“แล้วฉันไม่หาหรือไงนี่ฉันก็หาจะตายอยู่แล้วแต่มันไม่เจอ!”

ไกรภัทรลอบยิ้มหยันแล้วขอตัวกลับทิ้งให้พวกฤทัยมองตามเซ็งๆ...ไอ้นี่มันชักจะไว้ใจไม่ได้!

ฝ่ายนันทนัชตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้าห้องนอนของพ่อถูกรื้อกระจุยกระจายจนแทบหาทางเดินไม่เจอกำลังใจที่เคยมีหมดลงดื้อๆจนถึงกับทรุดตัวร้องไห้กับพื้นอย่างหมดท่ารู้สึกตัวว่าพ่ายแพ้และอยากจะหนีไปให้ไกลจากเรื่องบ้าๆพวกนี้สักทีนาทีนี้คนเดียวที่นึกถึงก็คือกฤตพนธ์หญิงสาวไม่รอช้ารีบควักมือถือกดหาเขาทันที

กฤตพนธ์มองชื่อบนหน้าจอมือถือด้วยความตื่นเต้นยินดีมากที่นันทนัชโทร.หาแต่เมื่อรับสายก็ต้องเปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดอารมณ์ที่เคยดีจนเกือบจะชวนภานุไปเลี้ยงฉลองต้องหยุดชะงักเพราะเสียงร้องไห้ของนันทนัช

“ฉันไม่ไหวแล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแพ้พวกนั้นรื้อข้าวของในห้องฉันหมดเลย”

น้ำเสียงอ่อนแรงของนันทนัชทำให้กฤตพนธ์ละทิ้งทุกอย่างและตัดสินใจจะไปรับเธอภายในครึ่งชั่วโมงท่าทีเร่งรีบของเพื่อนรักทำให้ภานุอดทึ่งไม่ได้...ไอ้นี่ท่าทางจะเป็นเอามากถึงขั้นลางานสามวันไปอยู่กับสาว!

ด้านนันทนัช...หลังจากวางสายกับกฤตพนธ์ก็พยายามรวบรวมสติที่แตกกระเจิงให้เข้าที่เข้าทางล้างหน้าล้างตาแล้วเดินลงไปรอหน้าบ้านด้วยท่าทีนิ่งสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนสร้างความประหลาดใจให้แก่พวกฤทัยมากทั้งที่เตรียมจะเอาเรื่องอยู่แล้วแต่นันทนัช

กลับไม่แสดงอาการใดๆนอกจากไปยืนรอใครบางคนที่หน้าบ้านพวกฤทัยมองตามด้วยความสงสัยสุดท้ายเลยตัดสินใจส่งเดือนไปแอบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับนันทนัช

เดือนทำตามคำสั่งอย่างกระตือรือร้นอยากรู้เหมือนกันว่าลูกสาวคนเดียวของลิตรเป็นอะไรถึงได้เซื่องซึมไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้อ้าปากค้างเมื่อเห็นนันทนัชซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปกับกฤตพนธ์ท่าทีอ่อนโยนของทหารหนุ่มทำให้เดือนอดเป็นเดือดเป็นแค้นแทนไม่ได้จนต้องวิ่งแจ้นไปฟ้องกนกกรว่ากำลังจะถูกแย่งคนรักไปต่อหน้าต่อตา!

เวลาเดียวกันที่หน้ารั้วเรือนรัตนะ...นอกจากเดือนที่ถูกพวกฤทัยส่งมาแล้วลูกสมุนของเชนจำนวนสองคนก็เป็นอีกพวกที่เห็นนันทนัชซ้อนท้ายไปกับกฤตพนธ์ทั้งหมดแสยะยิ้มร้ายแอบสะกดรอยตามรถของกฤตพนธ์ไปเรื่อยๆหวังเผด็จศึกและล้างแค้นให้พวกตัวเอง...อย่าหวังจะรอดเลยวันนี้!

ในขณะที่กนกกรปรี๊ดแตกเมื่อได้ยินจากเดือนว่ากฤตพนธ์มารับนันทนัชไปสองหนุ่มสาวที่ถูกพูดถึงกำลังใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุขโดยเฉพาะนันทนัชที่ผ่อนคลายมากจากเรื่องราวเลวร้ายในเรือนรัตนะกฤตพนธ์ขี่มอเตอร์ไซค์พาเธอมาไกลถึงบ้านพักของตระกูลที่เขาใหญ่โดยแวะที่ทุ่งหญ้ากว้างระหว่างทางให้เธอซึมซับบรรยากาศดีๆลบเลือนเรื่องวุ่นวายที่ทำให้หมองใจ

ท่าทางทุกข์ใจของนันทนัชทำให้กฤตพนธ์ร้อนรนไปด้วยจึงตัดสินใจสารภาพความในใจท่ามกลางบรรยากาศดีๆในทุ่งหญ้ากว้างโดยแอบไปเก็บดอกไม้ป่ามายื่นให้นันทนัชอึ้งไปอึดใจย้อนถามเสียงเบาว่าให้เธอหรือให้ใคร

“ครับ...ผมให้คุณแต่ไม่ใช่แค่ให้ดอกไม้”

รอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเขาทำให้นันทนัชหน้าแดงเพราะเขินแต่ยังแกล้งทำงงไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

“คุณรับดอกไม้ไปก่อนสิครับแล้วคุณจะได้เห็น”

นันทนัชยื่นมือไปรับดอกไม้แต่กลับถูกกฤตพนธ์รวบมือไปกุมดื้อๆพร้อมกับคำถามเย้าเสียงหวาน

“ทีนี้คุณเห็นหรือยังครับว่าผมให้อะไรคุณ”

นันทนัชเข้าใจความนัยของเขาดีแต่ยังทำมึนไม่รู้เรื่องกฤตพนธ์ดูออกว่าเธอน่าจะมีใจกับเขาบ้างไม่มากก็น้อยจึงลอบมองใบหน้าแดงก่ำเพราะความเขินด้วยความเอ็นดู...เขาจะต้องเอาชนะใจเธอให้ได้สักวัน

ooooooo

กว่าสองหนุ่มสาวจะถึงบ้านพักตากอากาศก็เป็นเวลาเย็นมากแล้วนันทนัชมองบรรยากาศรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจแต่เมื่อเขาบอกว่าเป็นบ้านพักของตระกูลก็ถึงกับก้าวขาไม่ออกยังระแวงตามประสาคนหวงเนื้อหวงตัวกลัวใครจะมองว่าไม่ดีที่ต้องอยู่กับเขาในบ้านหลังใหญ่ตามลำพัง

กฤตพนธ์มองท่าทางหยิ่งๆของเธอยิ้มๆแกล้งแหย่ให้กลับเรือนรัตนะก็ได้เขาจะขี่รถไปส่งเองถ้าเธอไม่อยากผ่อนคลายในบรรยากาศเงียบๆแบบนี้นันทนัช

มองตาเขาอย่างค้นหาเห็นแต่ความซื่อตรงและจริงใจเลยตัดสินใจพักที่นี่ตามคำเชิญกฤตพนธ์ดีใจมากรีบพาไปดูห้องพักซึ่งจัดเตรียมมาอย่างดีโดยมีลุงคน

เฝ้าบ้านมองตามยิ้มๆ...แปลกใจนิดหน่อยเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มพาใครมาพักที่นี่มาก่อน

เพราะบรรยากาศเป็นใจแท้ๆทำให้กฤตพนธ์เผลอพูดความในใจจีบนันทนัชแบบซึ่งหน้านันทนัชไม่รู้เรื่องและรับมุกเพราะคิดว่าเขาหมายถึงบรรยากาศดีรอบบ้านจริงๆกฤตพนธ์เลยต้องขยายความ

“เวลาเครียดๆคุณน่าจะหาเวลามาพักผ่อนหน่อยมาที่นี่ก็ได้ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณตลอด”

“ขอบคุณค่ะที่คอยยืนข้างๆนี่ฉันคงกำลังใช้กรรมอยู่ใช่ไหม”

ท่าทางหมองลงของนันทนัชทำให้กฤตพนธ์ชิงพูดตัดบทไม่อยากให้เธอต้องทุกข์ใจระหว่างอยู่ที่นี่

อ่านละครเรื่อง เรือนริษยา ตอนที่ 9 วันที่ 13 มิ.ย. 57

ละครเรือนริษยา บทประพันธ์โดย : Neananok
ละครเรือนริษยา บทโทรทัศน์โดย : เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์
ละครเรือนริษยา กำกับการแสดงโดย : สราวุธ วิเชียรสาร
ละครเรือนริษยา ดำเนินงานโดย : จันทร์จิรา จูแจ้ง
ละครเรือนริษยา ผลิตโดย : บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครเรือนริษยา ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทาง ละครเรือนริษยา ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ