อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/3 วันที่ 1 ก.ค. 57
พอลฉี่เสร็จและกำลังจะเดินเข้ามาในห้องก็เห็นลูกจันกำลังนั่งอยู่กับพีท พอลสะดุ้งแล้วรีบแอบมุมเสา พีทหันมาเห็นพอลก็ตกใจกลัวความลับแตก พีทส่งซิกไม่ให้พอลเข้ามา ลูกจันมองอาการแปลกๆของพีทด้วยความประหลาดใจ“แกเป็นไรรึเปล่าพีท”
พีทสะดุ้งแล้วรีบดึงสายตากลับมาหาลูกจัน
“ปละเปล่า”
“ตกลงแกหิวรึยัง”
“เอ่อ..หะหะหิว”
“อือ...งั้นรอแป๊บนะ..ฉันจะไปอุ่นโจ๊กให้..แกจะได้กินยาหลังอาหารเลย”
พีทกับพอลชะเง้อมองกัน พีทส่งซิกบอกพอลว่าให้รออยู่ในที่ซ่อนเดี๋ยวจะไปหาเอง พีทขยับตัวจะลงจากโซฟา
เสียงลูกจันดัง “เสร็จแล้ว”
พีทสะดุ้งแล้วรีบหดขาไปซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มเหมือนเดิม ลูกจันเดินถือชามโจ๊กเข้ามา
“ทำไมเร็วจัง” พีทถาม
“อ๊าว...ก็แค่เอาเข้าเวฟ..จะให้นานขนาดไหนยะ”
ลูกจันก้มลงมองชามโจ๊ก
“อือ..แต่ฉันว่ามันร้อนไปหน่อยนะ...เดี๋ยววางรอให้เย็นลงอีกนิดดีกว่า..พอฉันอาบน้ำเสร็จค่อยกินพร้อมกันเนอะ”
พีทพยักหน้า ลูกจันขยับจะเดินขึ้นไปข้างบน พอลทำท่าจะไอ พีทรีบส่งเสียงไอทับ
“แค่กๆๆๆ”
ลูกจันหันกลับมามองพีทด้วยความเป็นห่วง
“ไหวมั้ยแก”
“ไหวๆ...แกรีบไปเถอะ”
ลูกจันพยักหน้าแล้วหมุนตัวจะเดินขึ้นบันได เธอเห็นแขนเสื้อพอลแว๊บๆ ลูกจันขมวดคิ้วแล้วเดินพุ่งไปทางที่พอลแอบอยู่ พอลพยายามบีบตัวให้ลีบที่สุด เหงื่อของเขาแตกซิ่กด้วยความตื่นเต้น ลูกจันเดินใกล้ที่ซ่อนพอลเข้าไปทุกที พีทก็ตื่นเต้นไม่แพ้พอล ลูกจันเดินใกล้เข้าไปอีก พอลสวดมนต์อยู่ในใจคิดในใจว่าไม่รอดแน่ อีกนิดเดียวก็จะเห็นพอลแระ
พีทตะโกนเรียก “ลูกจัน!”
ลูกจันหันไปมองพีทงงๆ
“คือ...ฉันจะบอกว่า..ฉันรักแกนะ”
ลูกจันยิ้มขำๆพีท “เออ..รู้แล้ว..ฉันก็รักแก”
ลูกจันหันมาคุยกับพีททำให้ลืมวัตถุประสงค์ของการเดินมาทางพอล เธอหันไปถามพีท
“เอ๊ะ...ตะกี้ฉันจะทำอะไรนะแก”
พีทพูดหน้าตาย “เปล่านี่..แกบอกแกจะไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกับฉันไง เร็วๆสิ ฉันหิวแล้ว”
ลูกจันลืมสิ่งที่กำลังจะทำซะดื้อๆ
“อ๋อเหรอ..เคๆ..แป๊บเดียวนะแก”
ลูกจันเดินขึ้นไปบนห้อง พีทกับพอลสบตากันแล้วถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน
พอลกับพีทนั่งคุยกันที่โซฟา พอลหลบตาพีทแล้วฝืนโกหกเพราะไม่อยากให้พีทเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรมากหรอก..แค่หวัดน่ะ” พอลไอ
พีทมองพอลอย่างห่วงใย
“ไอเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?...แน่ใจนะว่าเป็นแค่หวัด...รีบไปหาหมอดีกว่าพอล”
“อื้อ..รู้แล้ว...แล้วนี่นายมายังไงคนเดียว” พอลถาม
“นั่งแท็กซี่มา”
“แล้วป้าภาล่ะ”
“ป้าภาไปตลาด..ฉันเป็นห่วงนาย รอไม่ไหว..เลยมาคนเดียว”
พอลมองพีทอย่างซึ้งใจในความรักของคู่แฝด
“ขอบใจนะพีท..ไม่ต้องห่วงเราหรอก เราดูตัวเองได้”
“เราสิต้องขอบใจนาย...ขอบใจนะพอล”
พีทน้ำตาคลอ ฝาแฝดสบตากันอย่างเข้าใจในความรักความผูกพันที่มีต่อกัน พีทและพอลทำท่าจะโผเข้ากอดกัน แต่เสียงลูกจันดังแทรกมาพอดี “มาแล้วว”
ทั้งสองสะดุ้งสุดตัวมองหน้ากัน
ลูกจันเดินเข้ามาในห้อง ลูกจันเห็นพอลมานั่งแทนที่พีทแล้ว
“หิวยัง?” ลูกจันถาม
“ยัง”
ลูกจันจ้องไปที่เสื้อพอล
“เอ๊ะ...ตะกี้แกใส่เสื้อตัวนี้เหรอ?”
พอลหน้ามีพิรุธแต่ปากแข็ง
“กะก็ใช่สิ”
ลูกจันทำหน้างงๆ
“อือ...ฉันว่าหมู่นี้ฉันคงทำงานหนักไปนะแก..มันงงๆแปลกๆไงไม่รุ...” ลูกจันสะบัดหัวไล่ความงง “เดี๋ยวฉันไปเอาข้าวมากินกับแกตรงนี้นะ”
ลูกจันตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่บังเอิญมือปัดไปโดนหนังสือบนโต๊ะหล่นลงพื้น หนังสือที่หล่นบนพื้นอยู่ในตำแหน่งที่ถ้าก้มลงหยิบจะเห็นไม้เท้าที่ซ่อนอยู่ใต้โซฟาทันที ลูกจันจะก้มลงหยิบหนังสือ
พอลรีบบอก “อย่า!!!”
ลูกจันชะงักแล้วหันมามองพอล
“คือ...เอ่อ..ฉันลืมกินยาก่อนอาหารน่ะ..เอ่อ..ยาอยู่บนห้อง”
ลูกจันค้อนขวับ
“ก็บอกสิยะ..ร้องซะตกใจ..เดี๋ยวไปเอาให้นะ”
ลูกจันเดินออกไป พอลเหลือบไปมองทางพีทที่ซ่อนอยู่ ทั้งคู่ถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน
ณัฐนั่งกินอาหารอยู่กับอิงอร สักพักณัฐก็วางช้อนกะทันหันแล้วทำหน้าเครียด อิงอรมองหน้าณัฐด้วยความสงสัย
“พี่ณัฐเป็นอะไรคะ”
ณัฐถอนหายใจแบบแอ็คติ้งใหญ่มาก
“กลุ้มใจค่ะ..จะวันเกิดคุณแม่อยู่แล้ว พี่ยังไม่มีของขวัญให้เลย”
“คุณแม่พี่ณัฐชอบอะไรล่ะคะ”
ณัฐแอบยิ้มมุมปากเพราะเข้าแผนเป๊ะ
ณัฐแอ๊บหน้าแบ๊วต่อ “ก็..เห็นชอบอยู่อย่างเดียวน่ะค่ะ..กระเป๋าแอร์เมส”
อิงอรยิ้ม “งั้นอรจัดการให้เองค่ะ”
“อย่าเลยค่ะอร พี่เกรงใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ณัฐแกล้งทำอ้ำอึ้งและทำหน้าตาลำบากใจ
“นะคะพี่ณัฐ...คิดซะว่าเป็นของขวัญจากว่าที่ลูกสะใภ้..นะคะ..นะคะ”
ณัฐยังทำหน้าไม่อยากได้เลย
อิงอรถามต่อ “คุณแม่ชอบกระเป๋าสีอะไรคะ”
ณัฐตอบไวเกิน “ชมพูค่ะ!”
“แล้วคุณแม่อยากได้รุ่นไหนคะ”
ณัฐรีบหยิบโทรศัพท์มาอย่างไวเตรียมเปิดเว็บแอร์เมส
“เดี๋ยวพี่เข้าเว็บให้ค่ะ”
ณัฐรีบจิ้มรุ่นกระเป๋าให้อิงอรดู
พอลนั่งส่องพระอย่างขะมักเขม้น ลูกจันเดินเข้ามาหยุดยืนมองพอลด้วยความแปลกใจ
“ทำอะไรน่ะ”
พอลยังก้มหน้าส่องพระต่อ “ส่องพระ”
ลูกจันงง
“เอ่อ..ดูเป็นกิจกรรมผู้ชายมากนะ”
พอลเริ่มรู้สึกตัวว่าแมนไปจึงพยายามแก้ตัว
“ก็..ไม่มีอะไรทำอ่ะ..เลยเอาพระของป้าภามานั่งดู”
ลูกจันพยักหน้ารับรู้ พอลก้มหน้าส่องต่อ ลูกจันนั่งมองพอลนิ่งแล้วน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหล พอลเงยมองลูกจันแล้วก็ตกใจที่เห็นลูกจันร้องไห้
“ลูกจัน..เป็นอะไรรึเปล่า”
ลูกจันส่ายหัวแล้วยิ้มทั้งน้ำตา
“เปล่า...ฉันแค่..ดีใจที่มีแกในชีวิต”
พอลยิ้มอ่อนโยน
ลูกจันพูดทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่ “พีท..ฉันต้องต่อสู้กับงานหนักมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่ฉันก็ไม่เคยกลัว เพราะฉันรู้ว่าวันไหนที่ฉันล้ม..ฉันก็จะยังมียาย แม่ ป้าภา และก็แกอยู่ข้างๆฉัน.....แต่ถ้าแก...แก...” ลูกจันจะพูดว่าแต่ถ้าแกจากไปแต่ก็พูดไม่ออกจึงได้แต่สะอื้น
พอลเอื้อมมือไปกุมมือลูกจันเพื่อปลอบใจ
“ลูกจัน..มะเร็งเค้ายังรักษาหายได้เลย นี่แค่วัณโรคเอง..หมอก็บอกแล้วไงว่ารักษาได้”
ลูกจันปาดน้ำตาแล้วจ้องหน้าพอลนิ่ง
“พีท..แกสัญญากับฉันได้มั้ยว่าแกจะไม่ตายก่อนฉัน”
พอลหัวเราะเบาๆ
“ใครจะรู้ล่ะลูกจันว่าเราจะตายเมื่อไหร่..ฉันจะสัญญาได้ยังไง”
ลูกจันทำหน้าเอาแต่ใจ
“ไม่รู้ล่ะ..แกต้องสัญญา..ฉันทนไม่ได้หรอกที่ต้องเห็นแกตายก่อน...ฉันต้องเศร้ามากแน่ๆ”
พอลงงกับตรรกะของลูกจัน
“อ้าว..แล้วไม่คิดเหรอว่าถ้าแกตายก่อน..ฉันก็เศร้าเหมือนกัน”
ลูกจันชักอารมณ์เสีย
“ไม่รู้แหละ..ฉันเศร้ากว่าแก..เพราะฉะนั้นฉันต้องตายก่อนแก..เร็วๆสิ..สัญญาเดี๋ยวนี้ว่าแกจะตายทีหลังฉัน”
พอลพูดอย่างเสียไม่ได้ “อือๆ..สัญญา”
ลูกจันยิ้มออก น้ำตาของเธอแห้งพอดี
“เฮ้อ..สบายใจแระ”
พอลมองลูกจันอย่างเอ็นดูในความเป็นเด็กน้อยของเธอ
อาร์ตยืนเหม่อมองอะไรบางอย่างอยู่ท่ามกลางความมืด เขาเห็นบ้านจุ้มจิ้มปิดเงียบ ไฟในบ้านดับสนิทดูก็รู้ว่าไม่มีคนอยู่ อาร์ตเศร้า
พอลเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นโดยที่ยังไออยู่เล็กน้อย ลูกจันหันมาเห็นพอลก็เรียก
“พีท..มานี่เร้ว”
พอลเดินไปหาลูกจัน
“เมื่อเช้าฉันไปตลาด เลยซื้อของมาฝากแกด้วย”
ลูกจันหยิบถุงใส่หนังสือพระปึกใหญ่ส่งให้พอล พอลรับหนังสือพระมาดูด้วยแววตาเป็นประกายเพราะดีใจมาก ลูกจันสังเกตอาการของพอลด้วยความแปลกใจ
“ได้หนังสือพระเนี่ยต้องปลื้มปริ่มขนาดนี้เลย???...พูดจริงๆนะ ฉันว่าแกชักคล้ายผู้ชายเข้าไปทุกวันแล้วนะพีท”
พอลพยายามแก้ตัว
“ก็..ก็ฉันป่วยอ่ะ..ก็อยากได้พระเป็นที่พึ่งทางใจ”
พอลรีบเปิดหนังสือพระอ่านอย่างกระตือรือล้นเกิน
ลูกจันค้อนด้วยความหมั่นไส้ “เว่อร์!”
ณัฐกำลังคุยโทรศัพท์กับสาโรจน์
“ครับ..ผมกำลังพยายามอยู่ครับพี่...” ณัฐฟัง “คนอย่างลูกจันใช้เงินซื้อไม่ได้หรอกครับ..แต่ผมรับรองว่าอีกไม่นาน พี่ต้องได้ลูกจันมาทำงานด้วยแน่ๆ”
ณัฐยิ้มเจ้าเล่ห์
อุ่นเรือนนั่งกินข้าวอยู่กับกอล์ฟ
“งานของอุ่นน่าสนุกดีนะคะ..ดูคนละโลกกับงานวิศวกรของกอล์ฟเลย”
อุ่นเรือนยิ้มอายๆ
“เล่าเรื่องหนังสืออุ่นให้กอล์ฟฟังบ้างสิคะ” กอล์ฟบอก
อุ่นเรือนดีใจที่ผู้ชายสนใจงานที่ตัวเองทำ เธอรีบเล่าเรื่องราวของเซเลบให้กอล์ฟฟัง
“ก็เป็นหนังสือแฟชั่นค่ะ..จริงๆในตลาดก็มีหนังสือแบบนี้หลายเล่มนะคะ แต่โชคดีที่เซเลบมีพี่ลูกจันเป็นบก. พี่ลูกจันเก่งเลยทำให้เซเลบยอดขายสูงทุกเล่ม........” อุ่นเรือนเล่าไปเรื่อยๆ..ถึงเรื่องราวในออฟฟิศ วิธีการทำงาน ฯลฯ กอล์ฟนั่งฟังอุ่นเรือนอย่างตั้งใจด้วยแววตามี"อะไรบางอย่าง"ซ่อนอยู่
ภาพจากจอคอมพิวเตอร์เป็นหน้าเว็บไซต์พันทิปซึ่งมีคนเอาคอลัมน์ซุบซิบจากหนังสือพิมพ์มาโพสต์
พีทอ่าน “ไฮไซณัฐ บก.สุดหล่อโชว์แมนอีกแล้ว..ล่าสุดเพิ่งเสี่ยงชีวิตไปบู๊กับอันธพาลกว่า30คน เพื่อช่วยคุณยายอายุเกือบร้อยจนรอดจาก การถูกข่มขืนหวุดหวิด...เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น แถมยังจิตใจงามแบบนี้ ท่านรัฐมนตรีคงใจอ่อนยกลูกสาวให้เร็วๆนี้แน่”
พีทส่ายหัวกับสิ่งที่อ่านเพราะรู้ว่าเป็นข่าวพีอาร์ตัวเองของณัฐ พีทคิดถึงสิ่งที่ณัฐทำกับตัวเองแล้วความเจ็บปวดก็กลับมาอีกครั้ง พีทน้ำตาคลอ
พอลกับลูกจันนั่งกันอยู่คนละมุม พอลเพลิดเพลินอยู่กับหนังสือพระ ส่วนลูกจันเพลิดเพลินกับพันทิป ลูกจันนั่งอ่านกระทู้เรื่องณัฐช่วยคนแก่แล้วก็หัวเราะ พอลมองลูกจันอย่างกลัวๆ ว่าเป็นอะไรอีก
“หัวเราะอะไรอ่ะ” พอลถาม
ลูกจันหันมาถามพอล
“แกว่าฉันดูเหมือนคนแก่อายุเกือบร้อยป่ะ?”
“บ้า!”
“เออ..ฉันก็ว่าบ้า..ฮ่าๆๆ”
พอลมองลูกจันงงๆ
อาร์ตเดินหน้าเศร้าเข้ามาในออฟฟิศ เขาเหลียวมองไปรอบๆตัวอย่างเหงาๆ อาร์ตเห็นจุ้มจิ้มนั่งอยู่ที่เก้าอี้
ก็ดีใจมาก อาร์ตรีบก้าวเท้าเข้าไปหาจุ้มจิ้มพร้อมส่งเสียงเรียกด้วยความดีใจ
“จุ้ม” ผู้หญิงที่อาร์ตเห็นเป็นจุ้มจิ้มหันกลับมากลายเป็นปีโป้
อาร์ตจ๋อยที่ตัวเองตาฝาดขนาดนั้น
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/3 วันที่ 1 ก.ค. 57
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ แนว:โรแมนติก-คอมเมดีละคร รักนี้เจ้จัดให้บทประพันธ์โดย จากเค้าโครงเรื่องของ อิสย่าห์-พิมพิสุธญ์
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ บทโทรทัศน์โดย จอมยุทธ เคน-นายนุกูล
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ กำกับการแสดงโดย เสกวสุ, สิปปกร ภควัชร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ผลิตโดย บริษัท พุด-เดิ้น จำกัด โดยผู้จัด : ปาจรีย์ ณ นคร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ออกอากาศ ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2557
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ