@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/2 วันที่ 1 ก.ค. 57

อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/2 วันที่ 1 ก.ค. 57

อุ่นเรือน พูดแทรก “พี่ลูกจันกลับไปตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว..เห็นว่ามีธุระที่บ้าน”
อาร์ตพยักหน้ารับแกนๆ แต่ตายังสอดส่ายหาจุ้มจิ้ม
อุ่นเรือนแซว “แหม...หมู่นี้รุกหนักน้า...เช้าถึงเย็นถึงดอกไม้ถึง”

อาร์ตยิ้มแหยๆ เพราะมันไม่ใช่อย่างที่อุ่นเรือนคิดเลย
“ถามจริงๆนะ...อาร์ตรักพี่ลูกจันมากเลยเหรอ”
อาร์ตตอบยิ้มๆ “รักมาก”
จุ้มจิ้มที่แอบฟังอยู่ที่มุมหนึ่งน้ำตาไหลพราก จุ้มจิ้มเดินจากไปด้วยหัวใจแตกสลายจึงไม่ได้ยินประโยคต่อไปของอาร์ต
อาร์ตพูดต่อ “..แต่รักแบบพี่สาวนะ!”


อุ่นเรือนมองหน้าอาร์ตงงๆ
อาร์ตยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจเพราะมีความสุขที่ได้ค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองที่มีต่อลูกจันและจุ้มจิ้ม

อาร์ตเดินมาจนเห็นหลังจุ้มจิ้มอยู่ไวๆ อาร์ตยิ้มดีใจ
“จุ้มๆ”
จุ้มจิ้มยังเดินต่อโดยไม่หันมามองอาร์ต อาร์ตงงที่ตะโกนขนาดนี้จุ้มจิ้มยังไม่ได้ยิน อาร์ตรีบวิ่งไปดักหน้าจุ้มจิ้ม
อาร์ตทำเสียงร่าเริงโดยยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง “จุ้ม....หูไม่ดีแล้วนะเรา..อาร์ตตะโกนเรียกยังไม่ได้ยินเลย”
จุ้มจิ้มเมินหน้าไปทางอื่นโดยไม่มองอาร์ต
“กลับเลยมั้ย..เดี๋ยวอาร์ตไปส่ง”
จุ้มจิ้มสะบัดหน้ามามองอาร์ตด้วยแววตาแข็งกร้าวร้าวราวปนแค้นใจ
“ไม่ต้อง..ฉันกลับเองได้...แล้วต่อไปก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก...รำคาญ”
อาร์ตหน้าจ๋อยเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จุ้มจิ้มหันหลังเดินจากไปอย่างไร้เยื่อไย จุ้มจิ้มน้ำตาไหลพรากแต่กัดฟันข่มใจไม่ให้ส่งเสียงสะอื้นออกมา

จุ้มจิ้มที่นั่งอยู่ที่บ้านเศร้ามาก จุ้มจิ้มนั่งเหม่อลอย
ภาพวันเวลาแห่งความสุขระหว่างจุ้มจิ้มและอาร์ตแวบขึ้นในหัวของเธอ จุ้มจิ้มยิ้มทั้งน้ำตา
คำพูดอาร์ตกับอุ่นเรือนเมื่อตอนเย็นย้อนกลับมา
อุ่นเรือนถาม “ถามจริงๆนะ...อาร์ตรักพี่ลูกจันมากเลยเหรอ”
“รักมาก”
น้ำตาจุ้มจิ้มค่อยๆไหลรินออกจากตา จุ้มจิ้มเอามือปาดน้ำตาแล้วพยายามเชิดหน้าให้เข้มแข็ง
จุ้มจิ้มพูดกับตัวเอง “เค้าไม่ได้รักเรา..เค้าแค่ใช้เราเป็นสะพานเข้าหาพี่ลูกจัน..นิ่งซะจุ้ม”
ดูเหมือนการสั่งตัวเองจะไม่ได้ผลเพราะน้ำตาจุ้มจิ้มไหลมากขึ้นเรื่อยๆ จุ้มจิ้มคิดถึงคำพูดของแม่
“การรักเค้าข้างเดียว..ถึงมันจะไม่ผิด..แต่มันเจ็บนะลูก”
จุ้มจิ้มร้องไห้จนตาบวม
จุ้มจิ้มพูด “มันเจ็บจริงๆจ้ะแม่จ๋า”
จุ้มจิ้มสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร

อาร์ตกำลังนั่งเหม่อเมื่อคิดถึงคำพูดของจุ้มจิ้มเมื่อตอนเย็น
“ต่อไปไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก...รำคาญ!”
อาร์ตหน้าเครียดแล้วรำพึง “เราทำอะไรผิดวะ?”
วันต่อมา ลูกจันกำลังยืนรินน้ำส้มคั้นอยู่ในครัว
เสียงพอลไอ “แค่กๆๆ”
ลูกจันหันไปมอง พอลเดินไอมาอย่างหนักก่อนจะทรุดนั่งบนโซฟา ลูกจันเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าพอล
ลูกจันมองพอลอย่างห่วงใย
“แกต้องไปหาหมอกับฉัน..เดี๋ยวนี้!”
พอลพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจึงได้แต่ไอตาปริบๆ

ณ คอนโดป้าภา พีทกำลังนั่งสมาธิอยู่บนวีลแชร์ ทันใดนั้นเองก็มีลมแรงพัดวูบมา รูปถ่ายของพอลที่วางอยู่บนโต๊ะถูกแรงลมพัดตกลงมาบนพื้นจนกรอบรูปแตก
พีทสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นทันที กรอบรูปพอลแตกละเอียดอยู่บนพื้น พีทรีบเข็นวีลแชร์มาเก็บกรอบรูปที่แตก
มือพีทถูกเศษกระจกบาด “โอ๊ยย”
เลือดจากนิ้วพีทหยดใส่รูปของพอล พีทหน้าซีดใจหายวาบ
“พอล!!”

ลูกจันหน้าซีด ปากสั่น
“วัณโรค?”
ลูกจันกับพอลกำลังนั่งฟังผลวินิจฉัยโรคจากหมอ
“ครับ..อาการใกล้เคียงมาก ผลการเอ็กซเรย์ปอดก็พบว่ามีจุดฝ้าบริเวณด้านบนซึ่งเป็นตำแหน่งที่มักเกิดขึ้นกับคนเป็นวัณโรค”
หมอชี้ให้พอลและลูกจันดูภาพเอ็กซเรย์ พอลหน้านิ่งสงบอย่างคนยอมรับความจริง ส่วนลูกจันน้ำตาคลอ
หมอปลอบลูกจัน “ใจเย็นๆนะครับ เปอร์เซ็นต์ที่จะไม่ใช่ก็พอมีอยู่..เพื่อความมั่นใจหมอจะขอเอาเสมหะไปตรวจเชื้อก่อน..อีก3วันถึงจะรู้ผลที่แน่นอนครับ”
ลูกจันพยายามระงับอารมณ์แต่ก็ระงับไม่อยู่!!
“แล้ว..สมมุติว่าเป็น...จะรักษาหายมั้ยคะ”
“หายครับ แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย..เป็นปีครับ”
“แล้วตอนนี้ต้องทำยังไงต่อคะหมอ”
“หมอจะสั่งยาลดไข้กับยาแก้ไอให้ทานก่อนจะได้ไอน้อยลง..รอผลยืนยันว่าเป็นวัณโรคแน่นอนแล้ว..หมอถึงจะสั่งยาใหม่ให้ทาน”
พอลพยักหน้ารับคำหมอ “ครับ” พอลไอ
“แต่ระหว่างนี้ผู้ป่วยควรระวังการใกล้ชิดกับคนอื่นนะครับ..เพราะถ้าเป็นวัณโรคจริงๆ..เชื้อจะค่อนข้างแรง..ติดต่อกันได้ง่าย”
ลูกจันหันไปมองพอลด้วยความสงสาร
“โธ่..พีท”
ลูกจันเอื้อมมือไปจับแขนพอลอย่างปลอบโยน พอลดึงแขนออกจากการจับของลูกจัน แล้วขยับตัวออกห่างจากลูกจัน ลูกจันอึ้งกับอาการของพอล

อุ่นเรือนกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกจัน
“ค่ะ..ถ้ามีงานด่วนอุ่น..เอ๊ยย...แอนนี่จะเมล์ไปนะคะ...อ้อ..พี่ลูกจันคะ วันนี้คุณณัฐส่งดอกไม้มาอีกแล้วค่ะ..จะให้เก็บการ์ดไว้เหมือนเดิมมั้ยคะ?..ค่ะ..ได้ค่ะ”
แอนนี่วางหูโทรศัพท์ ดอกไม้ที่ณัฐส่งมาให้ลูกจันวางอยู่บนโต๊ะอุ่นเรือน

ลูกจันวางสายจากอุ่นเรือนแล้วหันมามองพอล พอลที่มีมาสค์ปิดปากแน่นหนาพยายามกลั้นไอแต่ไม่สำเร็จ ลูกจันมองด้วยแววตาอ่อนโยน ลูกจันเดินไปหาพอล พอลถอยหนีก่อนชี้มือไปที่มาสค์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
“อย่าเข้ามา!!...ใส่มาสค์ซะก่อน” พอลสั่ง
ลูกจันชะงัก
“ใส่ทำไม”
“แกก็รู้นี่ว่าวัณโรคเป็นแล้วทรมาน” พอลไออย่างหนักดูทรมาน “ไม่กลัวติดเหรอ”
ลูกจันก้าวเท้าเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าพอลแล้วเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับพอลด้วยแววตาเต็มไปด้วยความรักและจริงใจ
ลูกจันพูดเสียงหนักแน่น “ไม่กลัว!!”
พอลมองลูกจันอย่างซึ้งใจ

เวลาผ่านไป ลูกจันวิ่งวุ่นทำอาหารให้พอล
ลูกจันป้อนโจ๊กให้พอล ลูกจันเตรียมยาให้พอล
ลูกจันเช็ดตัวให้พอล ลูกจันคอยลูบหลังไหล่ให้ตอนพอลไอหนักๆ
ลูกจันป้อนยาแก้ไอให้พอล ลูกจันทำน้ำผึ้งมะนาวร้อนๆมายื่นให้พอล
ลูกจันล้างจาน ลูกจันดูเหน็ดเหนื่อยจนโทรม พอลมองลูกจันด้วยความสงสาร

ลูกจันกำลังหลับด้วยความอ่อนเพลีย พอลเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าลูกจัน พอลมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า พอลเห็นลูกจันหลับสนิทผมรุ่ยร่าย เขามองลูกจันด้วยสายตาอ่อนโยน พอลค่อยๆเอื้อมไปปัดผมที่รุ่ยร่ายให้ลูกจัน
เขามองลูกจันอย่างอาลัยอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะตัดใจ พอลหันหลังกลับ
เสียงลูกจันพูดขึ้น “แกจะทิ้งฉันไปจริงๆเหรอ”
พอลหันกลับไป
ลูกจันกำลังยืนส่งสายตาตัดพ้อทั้งน้ำตามาให้พอล
ลูกจันน้ำตาร่วง “ตอบสิ..แกจะทิ้งฉันใช่มั้ย?”
พอลอึ้งกับน้ำตาของลูกจัน
“ฉัน..ฉันสงสารแกที่ต้องคอยดูแลฉัน...ฉันไม่อยากเห็นแกเหนื่อย..แล้วฉันก็ไม่อยากให้แกติดโรคจากฉัน”
ลูกจันมองพอลอย่างตัดพ้อ
“แล้วแกเคยถามฉันมั้ยว่าฉันเหนื่อยรึเปล่า?..รึฉันมีความสุขที่ได้ดูแลแก?”
พอลอึ้งกว่าเดิม
ลูกจันพูดทั้งน้ำตา “แกเคยคิดมั่งมั้ยว่าถ้าไม่มีแกฉันจะอยู่ยังไง?”
พอลรู้สึกผิดที่คิดจะทิ้งลูกจันไว้คนเดียว
ลูกจันร้องไห้ “ถ้าฉันดูแลแกจนถึงที่สุดแล้ว..แต่แกต้องจากฉันไปเพราะโรคร้าย ฉันยังพอทำใจรับได้..เพราะอย่างน้อยฉันก็ได้ทำหน้าที่ของเพื่อนดีที่สุดแล้ว...แต่นี่ฉันยังไม่ทันได้ดูแลแกเลย..แกก็จะทิ้งฉันไปแล้ว...นี่เหรอที่แกบอกว่าแกรักฉัน?”
ลูกจันร้องไห้โฮ พอลน้ำตาคลอเพราะซึ้งใจในความรักเพื่อนของลูกจัน
“ลูกจัน..ฉันขอโทษ”
ลูกจันโผเข้ามาจะกอดพอล พอลหยิบมาสค์ออกมา ลูกจันชะงักมองพอล
พอลพูดเสียงจริงจัง “อย่าทำให้ฉันต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต”
ลูกจันพยักหน้าเข้าใจความต้องการของพอล พอลยิ้มอบอุ่นก่อนเอื้อมมือไปใส่มาสค์ให้ลูกจัน ลูกจันหยิบมาสค์อีกอันใส่ให้พอล พอลและลูกจันมองตากันด้วยความรัก พอลและลูกจันโผเข้ากอดกัน
พีทกำลังพยายามโทรศัพท์หาพอล
เสียงตอบรับจากโทรศัพท์ อัตโนมัติ “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...Sorry there is no acknowledgement from your requested number,please try again later”
พีทร้อนใจมาก พีทหันไปหาป้าภาที่นั่งปอกผลไม้อยู่ใกล้ๆ
“ปิดเครื่องทั้งคู่เลยครับป้า” พีทนึกได้ “ป้าครับ...ป้าช่วยแวะไปดูที่บ้านหน่อยได้มั้ยครับว่าพอลปลอดภัยดีรึเปล่า”
“ไปได้ยังไงล่ะพีท..ป้ามุสาหนูลูกจันว่าป้าไปแสวงบุญที่อินเดีย..อีกเดือนนึงถึงจะกลับ”
ป้าภามองดูพีทด้วยความเป็นห่วง พีทกระวนกระวาย
ป้าภาปลอบ “พีท..ป้าว่าหนูคิดมากไปนะลูก..กะอีแค่กรอบรูปโดนลมพัดตกลงไปแตก ไม่ได้แปลว่าจะต้องเกิดเรื่องร้ายกับคนในรูปเหมือนละครที่หนูเคยเล่นหรอกลูก”
พีทยังคงเครียด เขาเดินกระสับกระส่ายเพราะสัญชาติญาณฝาแฝดกำลังทำงาน

พอลนอนห่มผ้าหลับสนิทอยู่บนโซฟาที่บ้านพีท โทรศัพท์มือถือถูกปิดเครื่องวางไว้ใกล้ๆ

อุ่นเรือนกำลังคุยกับอาร์ตอยู่ที่ออฟฟิศ

“อ๋อ..จุ้มเค้าลาพักร้อนอาทิตย์นึงน่ะ เห็นว่าโทรบอกพี่ลูกจันแล้ว”
อาร์ตอึ้งกับข่าวใหม่
“อาร์ตมีงานด่วนเหรอ” อุ่นเรือนถาม
อาร์ตอึกอัก
“เอ่อ..อือๆ” อาร์ตพยักหน้า
“งั้นก็โทรไปสิ”
อาร์ตเครียด

ณ ออฟฟิศเซเลบ
เสียงตอบรับจากโทรศัพท์ดัง “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...Sorry there is no acknowledgement from your requested number,please try again later”
อาร์ตกดโทรศัพท์อีกครั้งด้วยความเครียด
เสียงตอบรับจากโทรศัพท์ เหมือนเดิม “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ...Sorry there is no acknowledgement from your requested number,please try again later”
อาร์ตดูกระวนกระวายกระสับกระส่ายและกระเสือกกระสนกดโทรศัพท์หาจุ้มจิ้มต่อไป

พีทยังนั่งกระวนกระวายอยู่บนวีลแชร์ เขาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์กรอบรูปแตก
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา ลมแรงพัดวูบมา รูปถ่ายของพอลที่วางอยู่บนโต๊ะถูกแรงลมพัดตกลงมาบนพื้นจนกรอบรูปแตก
เลือดจากนิ้วพีทหยดใส่รูปของพอล รูปพอลเปื้อนเลือดเป็นดวงๆ ดูน่าสยดสยองมาก
พีททนไม่ไหวจึงเข็นวีลแชร์ไปหยิบเสื้อแจ็คเก็ตมีฮู้ดพร้อมแว่นดำมาสวม พีทประคองร่างลุกขึ้นจากวีลแชร์ หยิบไม้เท้า แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างร้อนใจ

พอลกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนั่งเล่น เขารู้สึกตัวว่าปวดฉี่ พอลลุกจากโซฟาเดินไปเข้าห้องน้ำ ทันทีที่พอลก้าวเท้าออกไปจากห้องก็เป็นเวลาเดียวกับที่พีทก้าวเข้ามาในห้อง พีทเดินโขยกเขยกมาพร้อมไม้เท้า พีทค่อยๆเอาฮู้ดลง ถอดแว่นดำใส่ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตแล้วยืนเหลียวซ้ายแลขวาอยู่กลางห้อง
เสียงลูกจันดังขึ้น “พี๊ท”
พีทสะดุ้งก้มลงมองขาที่หักและไม้เท้าในมือ พีทเลิ่กลั่กว่าจะทำยังไงดี

ลูกจันเดินเข้ามาในห้องแล้วถาม
“หิวมั้ยพีท”
ลูกจันเห็นพีทกำลังนอนอยู่บนโซฟาโดยมีผ้าห่มคลุมขาเอาไว้ ไม้เท้าถูกพีทซ่อนเอาไว้ใต้โซฟา พีทมองลูกจันด้วยสายตาคิดถึง
“ลูกจัน...คิดถึงจัง..ขอกอดหน่อยสิ”
ลูกจันมองพีทอย่างเอ็นดู
“ป่วยแล้วอ้อนนะยะ”
ลูกจันเดินเข้าไปกอดพีท ทั้งคู่กอดกันอย่างเพื่อนสาวที่รักกันมาก
“ฉันรักแกนะ” พีทบอก
“ฉันก็รักแก” ลูกจันบอก
ลูกจันผละออกจากพีทแล้วก็นึกได้
“เอ๊ะ...แกไม่ไอแล้วเหรอ?”
พีทเหวอแต่ด้วยความเป็นดารามืออาชีพเลยรับมุกทันที พีทไอค่อกแค่ก
“แค่กๆๆ..ยังไออยู่..แค่กๆๆ”
ลูกจันมองหน้าพีทงงๆ
“อ้าว...แล้วแกไม่ใส่มาสค์แล้วเหรอ...ไหนแกบอกซีเรียสมาก..เราสองคนต้องใส่ตลอดเวลาไง”
พีทเหวออีกครั้งแต่ก็แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...ก็..เพิ่งแกะน่ะ...คือแบบ..”
พีทเหลือบมองบนโต๊ะก็เห็นมาสค์วางอยู่เป็นกระตั๊ก
“คือ...จะเปลี่ยนอันใหม่น่ะ” พีทรีบหยิบมาสค์มาใส่ “นี่ไง..ใส่แล้ว”
ลูกจันมองความลุกลี้ลุกลนของพีทอย่างงงๆ
“เออๆ...แล้วแกหิวรึยังล่ะ”
พอลฉี่เสร็จและกำลังจะเดินเข้ามาในห้องก็เห็นลูกจันกำลังนั่งอยู่กับพีท พอลสะดุ้งแล้วรีบแอบมุมเสา พีทหันมาเห็นพอลก็ตกใจกลัวความลับแตก พีทส่งซิกไม่ให้พอลเข้ามา ลูกจันมองอาการแปลกๆของพีทด้วยความประหลาดใจ

อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/2 วันที่ 1 ก.ค. 57

อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ แนว:โรแมนติก-คอมเมดี
ละคร รักนี้เจ้จัดให้บทประพันธ์โดย จากเค้าโครงเรื่องของ อิสย่าห์-พิมพิสุธญ์
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ บทโทรทัศน์โดย จอมยุทธ เคน-นายนุกูล
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ กำกับการแสดงโดย เสกวสุ, สิปปกร ภควัชร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ผลิตโดย บริษัท พุด-เดิ้น จำกัด โดยผู้จัด : ปาจรีย์ ณ นคร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ออกอากาศ ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2557
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ