อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/4 วันที่ 1 ก.ค. 57
ก็ดีใจมาก อาร์ตรีบก้าวเท้าเข้าไปหาจุ้มจิ้มพร้อมส่งเสียงเรียกด้วยความดีใจ“จุ้ม” ผู้หญิงที่อาร์ตเห็นเป็นจุ้มจิ้มหันกลับมากลายเป็นปีโป้
อาร์ตจ๋อยที่ตัวเองตาฝาดขนาดนั้น
ปีโป้งง “อาร์ตเรียกพี่เหรอ?”
“ขอโทษครับ...ผมดูผิด..นึกว่าจุ้ม”
อาร์ตเดินซึมๆจากไป ปีโป้ก้มลงสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองแล้วรำพึงงงๆ
สารคดีสัตว์ฉายในทีวี พอลและลูกจันนั่งดูด้วยกัน
ลูกจันมีสีหน้ามีความสุข “น่ารักดีเนอะ..เราน่าจะดูสารคดีแบบนี้ตั้งนานแล้ว สบายใจดี”
พอลยิ้มๆ ดีใจที่ลูกจันเริ่มใส่ใจธรรมชาติ
ลูกจันสงสัย “เอ๊ะ...แต่ทำไมอยู่ๆแกถึงสนใจเรื่องป่าเรื่องสัตว์ขึ้นมากะทันหัน?”
พอลกำลังคิดเหตุผลที่จะอ้าง
“หยุด...ไม่ต้องตอบ..ฉันขอใช้สมองอันปราดเปรื่องของฉันคิดเอง...อือ” ลูกจันทำท่าคิด แล้วก็คิดออกจึงเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นโอเว่อร์ “ต๊าย...อย่าบอกนะยะว่าช่องจะรีเมคสุภาพบุรุษจุฑาเทพ แล้วแกจะได้เล่นเป็นคุณชายรัชชานนท์??....กรี๊ด..เริ่ด!!”
ลูกจันคิดเอง เออเองอยู่คนเดียว พอลยิ้มแหยๆ
ลูกจันจับหน้าพอลหันกลับไปทางทีวี “เอ้า..ดูเลยๆ..ดูเยอะๆจะได้อินๆ”
สารคดีกำลังพูดถึงชีวิตสัตว์
เสียงบรรยายจากสารคดี “สัตว์ป่าจะไวต่อกลิ่นมาก...ถ้าได้กลิ่นแปลกปลอม สัตว์ป่าจะหวาดกลัวจนไม่ยอมออกหากิน ซึ่งส่งผลให้ระบบนิเวศของป่าต้องเสียไป”
ลูกจันสะดุดใจกับคำบรรยายในทีวี “เอ๊ะ...”
ลูกจันคิด เธอคิดถึงเหตุการณ์ที่พอลเคยต่อว่าลูกจันตอนเจอกันครั้งแรกในป่า
“ผมยอมสกปรกเพราะต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ..ดีกว่าคนสะอาดที่มาป่ามาเขาแต่ใส่น้ำหอมกลิ่นหึ่งจนทำลายระบบนิเวศของป่า” พอลว่า
“แค่ใส่น้ำหอมเนี่ยนะ ทำลายระบบนิเวศของป่า กล่าวหากันเกินไปแล้ว”
“สัตว์ป่าพอผิดกลิ่นก็กลัว ไม่ออกหากินตามปกติ...พอไม่ออกหากิน ระบบความเป็นอยู่ในป่าก็ผิดเพี้ยน”
ลูกจันรำพึงกับตัวเองเบาๆ “เป๊ะเลย!”
พอลหันมามองหน้าลูกจัน “อะไรเป๊ะ??”
“ก็ที่ในสารคดีเค้าบอกเมื่อตะกี้น่ะสิ....เหมือนกับที่นายตัวเหม็นพูดกับฉันตอนอยู่ในป่าเป๊ะเลย”
พอลเหล่มองลูกจันเพราะมั่นใจว่าลูกจันต้องด่านายตัวเหม็นต่อแน่ๆ
ลูกจันพูดต่อ “งั้นตอนนั้นฉันคงผิดจริงๆสินะ”
พอลหันขวับมามองลูกจันอย่างแปลกใจ “หือ?”
ลูกจันทำหน้าสำนึกผิด “ฉันรู้สึกผิดจัง..ตอนนั้นฉันด่าเค้าไปเยอะด้วย..เค้าคง โกรธน่าดู”
พอลยิ้มหล่อ “เค้าหายโกรธนานแล้วล่ะ”
ลูกจันหันขวับมามองพอล “แกรู้ได้ไง”
พอลอึกอัก “ก็..ก็เรื่องมันตั้งนานมาแล้ว..ใครจะโกรธยาวขนาดนั้น”
ลูกจันยังทำหน้ารู้สึกผิดอยู่
“อือ..แต่ฉันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี” ลูกจันคิดได้ “เออ..พีท..เอาไว้เราไปทำบุญให้เค้ากันมั้ย?”
พอลหน้าเหวอ “เอ่อ...เค้ายังไม่ตายมั้ย?”
ลูกจันยังคงพูดจริงจัง
“ใครจะรู้ล่ะ ..อยู่ในป่าในดงขนาดนั้น ป่านนี้เสือคาบไปกินซะแล้วก็ไม่รู้...” ลูกจันคิดแล้วเครียด “ไม่ได้แระ..ฉันต้องรีบทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เค้า..จะได้ไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันต่อไป”
พอลเบื่อหน่ายความฟุ้งซ่านของลูกจัน
เช้าตรู่ เสียงไก่ขัน “เอ๊กอีเอ๊กเอ้ก” ดัง
พอลเดินลงบันไดเข้ามาในครัว เขาเดินไปทำน้ำผึ้งมะนาวให้ตัวเอง ขณะที่พอลกำลังผสมน้ำผึ้งมะนาวอยู่นั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาเฉยๆ พอลทำท่าบรึ๋ยแล้วก็งงๆ แต่ก็ทำน้ำผึ้งมะนาวต่อ ความเย็นซ่าจับใจกลับมาอีกครั้ง พอลทำท่าบรึ๋ยอีกหน
พอลรำพึง “ทำไมอยู่ๆมันเย็นวาบๆวะ..รึไข้ขึ้น”
พอลเอามืออังหน้าผากตัวเอง
พอลพูดกับตัวเอง “ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า”
พอลส่ายหัวไม่เข้าใจอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วเขาก็หันหลังกลับ ลูกจันเดินเข้าบ้านมาพร้อมถาด ลูกจันเอาถาดวางที่โต๊ะก่อนจะเดินไปหยิบมาสค์มาใส่ตามกฏ
“ไปไหนมาแต่เช้า” พอลถาม
“ไปตักบาตร” ลูกจันตอบ
พอลงง “ตักบาตร?”
ลูกจันหันมายิ้มสดใสให้พอล
“อือ..ก็ตักบาตรขอพรพระให้แกหายเร็วๆไง”
พอลยิ้มอย่างซาบซึ้งใจในความห่วงใยของลูกจัน
ลูกจันพูดต่อ “แล้วก็ตักให้วิญญาณของนายตัวเหม็นในป่าด้วย”
พอลหุบยิ้มทันที
“วิญญาณ?” พอลพูดเสียงชักเหวี่ยง “ดูพยายามจะให้เค้าตายจังเลยนะ!”
“บ้า...ใครจะไปคิดแบบนั้นเล่า”
พอลมีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อย
ลูกจันหันมาพูดกับพอลอย่างจริงจัง “แต่ความเป็นไปได้มันมีสูงนะแก!”
พอลเซ็ง
ห้องนอนของณัฐยามเช้า เสียงมือถือของณัฐดัง “กริ๊งง”
ณัฐหงุดหงิด โทรศัพท์มือถือยังดังต่อเนื่อง ณัฐหยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างอารมณ์เสีย ณัฐเห็นหน้าจอขึ้นชื่ออิงอร เขารีบข่มอารมณ์รับโทรศัพท์เสียงหวาน
“Morningค่ะอร...พี่กำลังคิดถึงอรอยู่พอดี” ณัฐฟัง “ทำเล็บ” ณัฐหงุดหงิด..แต่พยายามปรับเสียงให้นุ่มนวล “นี่มันเพิ่ง 9 โมงเช้าเองนะคะ” ณัฐฟังด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “ก็ได้ค่ะ..เดี๋ยวพี่จะไปรับนะคะ”
ณัฐวางหูโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วก็ลุกลงไปจากเตียง นายแบบคนสุดท้ายนอนเปลือยกายหลับสนิทอยู่ข้างๆ
ลูกจันกับพอลกำลังช่วยกันปล่อยปลาหมอและเต่า ปลาหมอและเต่าค่อยๆหายไปในแม่น้ำ ลูกจันกับพอลยืนมองอย่างอิ่มบุญ
ลูกจันหันมาทางพอล “มีทั้งปลาหมอ มีทั้งเต่า..แกต้องหายป่วย..และก็อายุยืนหมื่นๆปีแน่ๆ”
พอลยิ้มเอ็นดูลูกจัน ลูกจันทรุดตัวลงนั่งเตรียมกรวดน้ำ
ลูกจันเรียกพอล “มากรวดน้ำก่อนเร็ว”
พอลช่วยกรวดน้ำกับลูกจัน
ลูกจันหลับตาอธิษฐานอย่างตั้งใจมาก “บุญกุศลนี้ ข้าพเจ้าขอให้กลายเป็นพรส่งถึงผู้ที่อยู่ข้างๆข้าพเจ้า..ขอให้เค้าหายจากอาการป่วยทั้งหลาย”
พอลมีอาการบรึ๋ยขึ้นมาอีกแล้ว
ลูกจันยังหลับตาอธิษฐานต่อ “และข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้แก่วิญญาณของนายตัวเหม็นที่เจอในป่าด้วยเทอญ”
พอลบรึ๋ยยอีกทีที่ได้รับบุญเบิ้ลแบบไม่อยากได้
ลูกจันอธิษฐานแล้วก็ลืมตามาคุยกับพอล
“เป็นไงแก...รู้สึกอิ่มบุญมั้ย?”
พอลยิ้มแหยๆ
“อิ่มจนจุกเลยล่ะ!!”
ลูกจันกับพอลกำลังนั่งอยู่บนเสื่อปิคนิคในสวนสาธารณะ ลูกจันสูดอากาศเข้าปอดอย่างสดชื่น
ลูกจันพูดกับพอล “สดชื่นเนอะ”
พอลพยักหน้า
“หมอบอกว่าผู้ป่วยวัณโรคควรอยู่ในที่ๆมีอากาศบริสุทธิ์มากๆ...แล้วฉันจะพาแกมาตากอากาศบริสุทธิ์บ่อยๆนะ”
พอลมองลูกจันด้วยความซึ้งใจ
“ขอบใจนะลูกจัน”
“ตอนเย็นหมอนัดไปเอกซเรย์ปอดอีกที..วันนี้เราอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยดีกว่านะ”
พอลพยักหน้ายิ้มๆ
เวลาผ่านไป พอลและลูกจันใช้เวลาร่วมกันในการทำกิจกรรมคนละอย่างอยู่ข้างๆกัน ลูกจันและพอลกินอาหารเที่ยงด้วยกัน ลูกจันนั่งวาดรูป ส่วนพอลก็ถ่ายรูปอยู่ใกล้ๆ ลูกจันนอนอ่านหนังสือแฟชั่นชั้นสูงของเมืองนอก ส่วนพอลนอนอ่านหนังสือพระ เวลาผ่านไป พอลและลูกจันนอนหลับอยู่คู่กันโดยต่างก็มีหนังสือแฟชั่นและหนังสือพระวางทับอยู่บนอก
ปีโป้นั่งอยู่ท่ามกลางกองหนังสือแฟชั่นรอบตัว
ปีโป้บ่น “โอ๊ย...จะถ่ายปกใหม่แล้ว..ยังหาไอเดียแฟชั่นไม่ได้เลย” ปีโป้หยิบหนังสือมาเปิดดูทีละเล่ม “อันนี้ก็อปไปแล้ว...อันนี้ก็เพิ่งก็อปไป..โอ๊ยย...ยังไงดีเนี่ย”
มินตรามองวิธีการทำงานของปีโป้ด้วยความสมเพช
“ลูกจันยังไม่กลับมาทำงานอีกเหรอ”
ปีโป้ทำสีหน้าไม่พอใจ
“ยัง!!...ตอนนี้ใครมีงานอะไร ต้องเมล์ส่งนางจ้า..เฮอะ..ทำงานสบายยังกะเจ้าหญิง”
มินตรากระตุกมุมปาก
“หึ..ใจเย็นๆ..อีกไม่นานเจ้าหญิงก็จะตกบัลลังก์แล้ว”
“แหม..อยากให้วันนั้นมาถึงเร็วๆจัง”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วแข่งกันหัวเราะแบบนางร้าย
ที่โรงพยาบาล หมอทำหน้าเครียดแล้วพูดอะไรบางอย่างกับพอลและลูกจัน ลูกจันเบิกตากว้างแล้วถลาเข้าไปเขย่าแขนหมอ พอลตะลึง หมอยกฟิล์มเอกซเรย์ขึ้นมาอธิบายพอลกับลูกจันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ลูกจันน้ำตาไหลพราก พอลยืนนิ่งงันคล้ายคนปลงตก
น้ำตาของลูกจันยังไหลเป็นสาย เธอสะอื้นฮักๆ พอลมองลูกจันด้วยความห่วงใย
พอลพูดเสียงอ่อนโยน “ลูกจัน”
ลูกจันยังสะอึกสะอื้น “ฮือๆๆ”
พอลเรียกซ้ำ “ลูกจัน”
“ฮือๆๆ”
พอลทำตาปริบๆ “ลูกจัน”
ลูกจันยังไม่หยุดร้อง “ฮือๆๆๆ”
พอลงงมาก
“เอ่อ...เดี๋ยวนะลูกจัน..ฉันเข้าใจถูกรึเปล่า..คือหมอบอกว่า...”
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หมอพูดกับทั้งสองคนว่า
“ไม่ได้เป็นวัณโรคครับ”
พอลทวนคำพูดหมอ “แค่ปอดชื้นนิดหน่อย”
หมอพูดต่อ “เลยมีอาการไอ”
ลูกจันยังร้องไปพูดไป “ก็ใช่ไง”
พอลยิ่งงงหนักกว่าเดิม
“อ้าว...แล้วแกร้องไห้ทำไมอ่ะ..ตั้งแต่โรงพยาบาลมาจนถึงบ้าน..แกยังไม่หยุดร้องเลยเนี่ย”
ลูกจันมองหน้าพอลแล้วน้ำตาก็ยังไหลไม่หยุด
“ก็ฉันดีใจนี่..แกไม่รู้หรอกว่าตอนแกป่วยฉันทรมานใจแค่ไหน” ลูกจันจับแขนพอลลูบเบาๆ “ดีใจจังที่แกไม่เป็นไร”
ลูกจันสะอื้นฮักๆ เหมือนเด็ก พอลมองลูกจันด้วยความสงสาร พอลอ้าแขนจะกอดลูกจัน ลูกจันโผเข้าหาพอล แต่แล้วพอลก็ยกมือห้ามกะทันหัน “เดี๋ยว!!”
ลูกจันชะงักมองพอลอย่างไม่เข้าใจ พอลถอดมาสค์ของตัวเองออกแล้วเอื้อมมือมาถอดมาสค์ของลูกจัน พอลส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกจันก่อนจะดึงตัวลูกจันเข้ามากอด
“แบบนี้ดีกว่าเยอะเลยเนอะ” พอลบอก
ลูกจันพยักหน้าทั้งน้ำตา ทั้งคู่กอดกันด้วยความรัก
ที่ทะเลยามเช้า จุ้มจิ้มเดินเลียบชายหาดอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย จุ้มจิ้มคิดถึงอดีตที่ทะเลกับอาร์ต เธอนึกถึงตอนที่ติดเกาะแล้วอาร์ตมาช่วย นึกถึงตอนที่จุ้มจิ้มแกล้งผลักอาร์ตล้มลงในทะเลแล้วหัวเราะสะใจ จุ้มจิ้มน้ำตาไหล
จุ้มจิ้มกำลังจะเดินกลับบ้านพัก เธอเพ่งมองไปข้างหน้าก็เห็นนันทากำลังเดินมาพร้อมกระเป๋าเดินทาง จุ้มจิ้มเดินเข้าไปหา
“เอากระเป๋ามาทำไมจ๊ะแม่” จุ้มจิ้มถาม
“กลับบ้านเถอะลูก” นันทาบอก
จุ้มจิ้มมองนันทาด้วยความสงสัย
“ทำไมล่ะจ๊ะ..เราเพิ่งมาได้ 3วันเองนะแม่..จุ้มอยากพาแม่มาพักผ่อนหลายๆวัน”
นันทามองจุ้มจิ้มอย่างแม่ที่เข้าใจลูกดี
“พาแม่มาพัก..รึว่าหนีใครบางคน?”
จุ้มจิ้มหลบตาแม่แล้วก็หน้าเศร้าขึ้นมาทันที
“จุ้ม..คนเราต้องยอมรับความจริง..ถึงแม้ว่าบางครั้งความจริงจะทำให้เราเจ็บปวด แต่เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้..การหนีปัญหาไม่ช่วยอะไรนะลูก”
จุ้มจิ้มน้ำตาไหลพราก นันทาดึงตัวจุ้มจิ้มเข้าไปกอด
“ถึงยังไงหนูก็ยังมีแม่ที่รักหนูนะลูก”
จุ้มจิ้มสะอื้นอยู่กับอกของนันทา ท่ามกลางเสียงคลื่นที่ราวกับกำลังส่งกำลังใจมาถึงจุ้มจิ้มว่าสู้ๆ
ที่จอคอมพิวเตอร์มีภาพวิวสวยๆในกรุงเทพ พอลกำลังเมล์รูปเหล่านั้นไปให้ลูกค้าดู
อุ่นเรือนกำลังปัดมาสคาราอย่างตั้งใจ อุ่นเรือนเห็นเท้าคู่หนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมอง
อุ่นเรือนดีใจ “พี่ลูกจัน”
ลูกจันกำลังยืนสำรวจการเปลี่ยนแปลงของอุ่นเรือนอย่างไม่สบายใจ
“มีงานอะไรให้พี่เซ็น..เอาเข้าไปในห้องเลย”
พูดจบลูกจันก็เดินเข้าห้องไป
ลูกจันกำลังคร่ำเคร่งกับการเซ็นเอกสาร เวลาผ่านไป แฟ้มเอกสารกองสูงขึ้นเรื่อยๆ ลูกจันเซ็นเอกสารต่อ
ปากกาที่กำลังเซ็นหมึกหมด ลูกจันหยิบปากกาแท่งใหม่ขึ้นมาเซ็นต่อ เวลาผ่านไปลูกจันก็พักหลับตานวดหัวคิ้ว
ลูกจันเซ็นต่อ อุ่นเรือนเอาน้ำมาให้ ลูกจันจิบน้ำแล้วก็เซ็นต่อ ลูกจันปิดแฟ้มสุดท้าย
ลูกจันถอนหายใจ “เฮ้อ...พี่คงไม่กล้าลางานอีกนานเลย”
อุ่นเรือนขำแล้วหอบแฟ้มเตรียมออกจากห้อง
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 10/4 วันที่ 1 ก.ค. 57
อ่านละคร รักนี้เจ้จัดให้ แนว:โรแมนติก-คอมเมดีละคร รักนี้เจ้จัดให้บทประพันธ์โดย จากเค้าโครงเรื่องของ อิสย่าห์-พิมพิสุธญ์
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ บทโทรทัศน์โดย จอมยุทธ เคน-นายนุกูล
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ กำกับการแสดงโดย เสกวสุ, สิปปกร ภควัชร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ผลิตโดย บริษัท พุด-เดิ้น จำกัด โดยผู้จัด : ปาจรีย์ ณ นคร
ละคร รักนี้เจ้จัดให้ ออกอากาศ ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่ม 15 มิถุนายน 2557
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ