อ่านละครเรื่อง เรือนริษยา ตอนที่ 8 วันที่ 10 มิ.ย. 57
“ไม่มีใครทำอะไรหรอกครับพี่เรไร เพราะรำเพยไม่ได้ไปที่บ้านผม วันนี้ผมก็ตั้งใจมาถามว่าทำไมเธอถึงไม่ไป”“เป็นไปไม่ได้ รำเพยไม่ได้อยู่ที่เรือนรัตนะแล้ว เขาเก็บเสื้อผ้าไปแล้ว เขาก็ต้องไปอยู่บ้านเธอสิ”
วันชัยส่ายหน้าน้อยๆแทนคำตอบ เรไรเริ่มเป็นกังวล รีบกลับบ้านไปบัญชาการให้คนงานช่วยกันตามหารำเพย เมื่อลิตรกลับมาถึงก็ตกใจหน้าเสีย แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย เรไรทุกข์ใจมาก พยายามคิดหัวแทบแตกว่าน้องสาวคนเดียวจะหนีไปตกระกำลำบากที่ไหน ลิตรตีหน้าซื่อปลอบเสียงอ่อน
คำพูดน่าสงสัยของสามีทำให้เรไรนิ่วหน้า แต่ซักเท่าไหร่ลิตรก็ยืนกรานไม่รู้เรื่องอะไร เรไรถอนใจหนักหน่วง มั่นใจว่าน้องสาวเป็นคนหัวอ่อน ไม่มีทางขัดคำสั่งเธอแน่ ลิตรพยักหน้าเห็นด้วย รีบเสนอตัวช่วยตามหาเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยพิรุธ เรไรไม่ทันสังเกตท่าทางแปลกๆ ได้แต่ขอบใจสามีที่มีน้ำใจช่วยเหลือ
ooooooo
ชิดกังวลและเป็นห่วงรำเพยไม่ต่างจากเรไร แต่เพียรตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอตัวสักที เรไรหมด อาลัยตายอยาก ความรู้สึกผิดถาโถม เพราะเข้าใจว่าตัวเองมีส่วนผิดที่กดดันน้องจนหนีเตลิด
ฝ่ายลิตรเฝ้ามองความทุกข์ใจของเรไรด้วยอาการสมใจแถมลักลอบไปหารำเพยติดต่อกันเป็นเดือนๆจนเธอตั้งท้องรำเพยหน้าเสียสับสนไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจต่างจากลิตรที่ดีใจเนื้อเต้น
“เราจะมีลูกด้วยกันแล้วพี่จะมีลูกกับผู้หญิงที่พี่รักต่อไปนี้ชีวิตของนายลิตรจะสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างจะไม่ใช่ไอ้ลิตรที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าไร้ครอบครัวอีกต่อไป”
ความจริงเรื่องท้องทำให้รำเพยหงุดหงิดเป็นพิเศษยิ่งต้องอยู่แต่ในบ้านสวนไม่ได้ออกไปเดินเล่นให้ผ่อนคลายอารมณ์เหมือนแต่ก่อนเลยยิ่งหัวเสียหนักลิตรแวะมาหาพยายามเอาอกเอาใจอย่างไม่เบื่อหน่าย
“รำเพยอยากได้อะไรไหมเสื้อผ้าสร้อยคอต่างหูหรืออะไรดีเดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”
รำเพยไม่ขัดขืนที่เขากอดแต่เว้าวอนให้เขาทำตามที่ต้องการแทน “รำเพยอยากออกไปข้างนอกบ้างได้ไหมจ๊ะอยู่แต่ในนี้ทุกวันรำเพยเบื่อนะจ๊ะพี่ลิตรให้รำเพยออกไปเที่ยวบ้างนะอย่าขังรำเพยไว้อย่างนี้เลย”
ลิตรใจอ่อนยวบเมื่อถูกเมียรักอ้อนเสียงอ่อน เสียงหวานจำต้องทำตามที่ขอในวันถัดมาโดยไม่สังหรณ์ใจเลยว่าเรไรกับชิดจะบุกไปค้นบ้านสวนตามที่ตำรวจแจ้งมาเพราะได้รับเบาะแสจากชาวบ้านละแวกนั้นว่ามีคนหน้าตาคล้ายกับรำเพยอาศัยอยู่
ระหว่างที่ลิตรกับรำเพยใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุขเรไรกับชิดค้นบ้านสวนจนทั่วแต่ไม่พบอะไรน่าสงสัยเรไรหงุดหงิดมากแต่ต้องพยายามข่มไว้จนเมื่อเห็นนาฬิกาข้อมือล้อมเพชรของลิตรที่เธอเคยให้เขาเมื่อไม่นานมานี้บนพื้นบ้านก็ถึงกับชะงักช็อกสุดขีดเพราะจำได้ดีว่าเป็นของใคร
เรไรถือนาฬิกาล้อมเพชรเรือนหรูของลิตรกลับไปที่เรือนรัตนะด้วยสีหน้าเจ็บแค้นภาพในอดีตตอนลิตรพยายามเข้าหารำเพยหลายครั้งทั้งก่อนและในวันแต่งงานผุดในหัวอีกครั้งความระแวงที่เคยเลือนหายกลับคืนมาใหม่จนต้องปานาฬิกาของสามีลงพื้นระบายความแค้น...เธอทำกับพี่แบบนี้ได้ยังไงลิตร!
แต่ถึงกระนั้นความรักที่มีต่อสามีก็ไม่จางหายง่ายๆเรไรตัดสินใจส่งชิดไปตามหาหลักฐานเพื่อมัดตัวลิตร
“จับตาดูลิตรไว้เขาก้าวออกจากบ้านหลังนี้เมื่อไหร่แกต้องตามไปแล้วกลับมารายงานฉันทุกครั้งเข้าใจไหม”
ชิดพยักหน้ารับคำแล้วรีบทำตามคำสั่งเริ่มตั้งแต่ลิตรออกจากบ้านไปโรงสีแล้วมาหยุดที่บ้านสวนซึ่งเขาเคยมาสำรวจกับเรไรเมื่อวันก่อนภาพรำเพยท้องโตนั่งร้อยมาลัยโดยมีลิตรพะเน้าพะนอไม่ห่างทำให้ชิดอึ้ง
“คิดถึงพี่หรือนี่พี่ก็มาแล้วไงขอหอมให้หายคิดถึงหน่อย”
“โธ่พี่ลิตร...ถ้าพี่เรไรรู้เรื่องที่รำเพยท้องรำเพยจะทำอย่างไรดี”
ลิตรหุบยิ้มเครียดไม่ต่างกัน “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ตอนนี้รำเพยอย่าเพิ่งคิดเรื่องพวกนี้เลยนะทำใจให้สบายนะจ๊ะ...เพื่อลูกของเราพี่รับรองจ้ะว่าจะดูแลรำเพยกับลูกให้ดีที่สุดเท่าที่พี่จะทำได้นะจ๊ะ”
รำเพยยิ้มบางๆอย่างยอมรับถึงไม่รักแต่อย่างน้อยลิตรก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกชิดแอบมองสองหนุ่มสาวที่บังอาจทรยศเรไรด้วยสีหน้าคาดไม่ถึงไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารำเพยกับลิตรจะกล้าทำได้ขนาดนี้
ooooooo
แม้จะทำให้เจ้านายสาวใหญ่เสียใจแต่สุดท้ายชิดก็ต้องรายงานตามความเป็นจริงเรไรเจ็บปวดมากกับสิ่งที่ได้ยินภาพความรักที่เคยมีต่อสามีพังทลายไม่มีเหลือราวกับโลกถล่มลงมาทับตัวเธอจนแทบขยับตัวไม่ไหวชิดพยายามปลอบแต่เหมือนไม่ได้ผลเพราะเจ้านายสาวใหญ่อาละวาดหนักขว้างปาข้าวของระเนระนาดไปหมด
เรไรร้องไห้ปิ่มว่าใจจะขาด “มันทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงชิด...มันทำได้ยังไงฉันเป็นพี่สาวแท้ๆของมันมันแย่งผัวพี่สาวที่เลี้ยงดูมันมากับมือเหมือนพ่อแม่มันได้ยังไง...มันกับฉันคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ชิด...แกต้องไปฆ่ามัน”
ชิดตกใจสุดขีดไม่อยากเชื่อว่าเจ้านายสาวใหญ่จะโกรธแค้นจนสั่งไปฆ่าน้องสาวคนเดียวแบบนี้
“อีรำเพย...อีน้องทรยศในเมื่อมันกล้าหักหาญน้ำใจฉันฉันก็ไม่คิดว่ามันเป็นน้องเหมือนกันมีมันต้องไม่มีฉัน!”
ท่าทางลังเลของชิดทำให้เรไรยิ่งโมโหย้อนถามเสียงเย็นว่าเธอเคยมีบุญคุณกับเขาเท่าไหร่ชิดสะดุ้งละล่ำละลักบอกว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณใหญ่หลวงใช้เท่าไหร่ก็คงไม่หมดในชาตินี้
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปกำจัดหนามยอกอกให้ฉันอย่าให้มันอยู่เป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงหัวใจฉันอีกต่อไป”
ขาดคำก็เขวี้ยงนาฬิกาล้อมเพชรลงพื้นแตกกระจายลิตรผ่านมาเห็นและทันได้ยินประโยคอาฆาตของภรรยาพอดีหน้าเสียเมื่อคิดว่ารำเพยกำลังตกอยู่ในอันตราย...หรือว่าเขาต้องตัดสินใจทำบางอย่าง
คำสั่งฆ่ารำเพยของเรไรทำให้ลิตรเครียดจัดไหนจะอารมณ์ฉุนเฉียวของรำเพยที่ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนจนตัดพ้อกับเขาบ่อยครั้งว่าเมื่อไหร่จะให้เธอออกจากบ้านสวนอุดอู้สักทีลิตรชั่งใจไม่นานก็ตัดสินใจไปขุดห่อกิ่งรำเพยแห้งของพ่อเฒ่าจากใต้ต้นรำเพยในเรือนรัตนะ ...ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้งานเพื่อโชคชะตาที่ดีขึ้นของฉันเสียที
ฝ่ายเรไรคลั่งหนักไม่อยากเชื่อว่าน้องสาวคนเดียวที่เคยรักและเชื่อฟังเธอตลอดจะกล้าทรยศหักหลังอย่างเลือดเย็นขนาดนี้แต่ถึงกระนั้นภาพความดีในอดีตของรำเพยก็ทำให้ลังเลใจสุดท้าย...ความรักและฤทธิ์หึงแรงหวงที่มีต่อลิตรซึ่งมีมากกว่าเลยยืนยันจะทำตามความตั้งใจเดิม...รำเพย...แกไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!
ลิตรวางแผนกำจัดเรไรอย่างรอบคอบตีหน้าตายเมื่อเจอกับเธอในค่ำวันเดียวกันทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่แววตาลุกโชนด้วยความแค้นส่วนเรไรก็ไม่น้อยหน้าเจ็บจี๊ดในอกที่เห็นเขายิ้มหวานและเข้ามากอดเหมือนเคยราวกับไม่มีเรื่องปิดบังยิ่งเขาถามไถ่ด้วยความห่วงใยยิ่งสะเทือนใจได้แต่ตอบกลับเสียงเรียบแต่แฝงความนัย
“พี่ไม่เป็นไรห่วงก็แต่รำเพยไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนชาตินี้ถ้าไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกันอีกก็ขอให้รำเพยไปสบาย!”
ลิตรขบกรามแน่นเข้าใจความนัยของเธอดีแต่ยังทำใจเย็นโต้กลับด้วยคำพูดออดอ้อนเสียงหวาน
“พี่เรไรช่างเป็นพี่สาวที่แสนดีอะไรเช่นนี้เอาแต่พูดถึงแต่น้องรำเพยไม่ห่วงผมบ้างหรือไง”
“ห่วงสิ...ทั้งรักทั้งหวงไม่ยอมให้เธอเป็นของใครพี่ถึง...”
เรไรพูดไม่ออกในใจเต็มไปด้วยความแค้นที่เขาโกหกหน้าตายส่วนลิตรรีบพูดตัดบทเหมือนจะสั่งลา
“พอเถอะครับพี่ไม่ต้องบอกผมก็รู้พี่เหนื่อยมามากพอแล้วถึงเวลาที่พี่ควรจะพักผ่อนเสียที”
“ลิตรของพี่...เพื่อจะได้อยู่กับเธอพี่ยอมแล้วยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างอย่าทำให้พี่เสียใจอีกนะ...อย่าทำอีก”
ถ้อยคำเหมือนขอร้องของเรไรไม่ทำให้ลิตรสำนึกหรือเปลี่ยนใจ...ยังไงวันนี้แกก็ต้องตายอีแก่!
ooooooo
เรไรหลับไปแล้วด้วยใจที่อ่อนล้าความเครียดที่สั่งสมมานานหลายวันทำให้ผล็อยหลับอย่างง่ายดายแต่แล้วเศรษฐินีใหญ่ก็ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเบิกตาโพลงด้วยความทรมานเพราะหายใจไม่ออกมือทั้งสองไขว่คว้าหาความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครเห็นหรือโผล่มาหาสุดท้ายเลยต้องตายอย่างอเนจอนาถในห้องนอนตัวเอง
ลิตรรอจนร่างเรไรแน่นิ่งจึงค่อยๆออกจากมุมมืดในห้องเดียวกันมาเปิดหน้าต่างแล้วหยิบเตาเล็กๆสำหรับจุดกำยานออกจากห้องไปทิ้งให้เรไรนอนตายอย่างเดียวดาย...ไม่เหลือใครแม้แต่ช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
เวลาเดียวกันที่บ้านสวน...รำเพยกรีดร้องด้วยความทรมานไม่ต่างกันความปวดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะใกล้คลอดทำให้แทบขยับไปไหนไม่ได้ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้กรี๊ดลั่นบ้านพร้อมเสียงร้องแรกเกิดของเด็กที่เพิ่งคลอดออกมา
รำเพยอุ้มลูกเข้ามาในเรือนรัตนะหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้นน้ำตานองหน้าเมื่อเห็นภาพถ่ายของเรไรที่กลางบ้านความรักความผูกพันที่เคยมีทำให้ทำใจไม่ได้ที่พี่สาวต้องจากไปอย่างกะทันหันขนาดนี้ไหนจะความผิดของตัวเองอีกที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้เรื่องเลยเถิดกลายเป็นคนทรยศหักหลังแย่งสามีของพี่สาวไปอย่างหน้าไม่อาย
“ฉันขอโทษ...ฉันทำผิดต่อพี่แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลย”
“อย่าเสียใจไปเลยรำเพยพี่เรไรเขาไปดีแล้วนะหมอบอกว่าพี่เขาหัวใจวายเฉียบพลัน” ลิตรปลอบแกนๆ
“ไม่...เป็นไปไม่ได้พี่เรไรไม่ได้เป็นโรคหัวใจพี่เรไรยังแข็งแรงดีตอนฉันไปจากที่นี่จู่ๆจะมาตายได้ยังไง”
“หักห้ามใจเสียบ้างเถอะรำเพยไหนๆพี่เรไรก็ตายไปแล้วต่อไปรำเพยจะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิมนะจ๊ะ”
ลิตรจับมือรำเพยด้วยความดีใจจะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่มีเรไรมาเป็นอุปสรรคอีกน้ำเสียงร่าเริงไม่เหมือนสามีที่ภรรยาเพิ่งตายของลิตรทำให้รำเพยเอะใจโพล่งออกไปว่าเรไรไม่น่าจะหัวใจวายแต่ตายเพราะสาเหตุอื่นมากกว่าลิตรตกใจหน้าซีดอย่างคนมีพิรุธรำเพยเลยคาดคั้นใหญ่ให้เขาเล่าเรื่องทั้งหมด
“พูดความจริงสิพี่ลิตรฉันอยากได้ยินจากปากพี่ถ้าพี่รักฉันจริงอย่างที่พร่ำบอกตลอดเวลาที่กักขังฉันไว้เป็นเมียพี่ต้องไม่โกหกฉันพี่ทำอะไรกับพี่เรไรบอกมาสิ...บอกฉันมา”
รำเพยร้องไห้ปานใจจะขาดลิตรรู้สึกแย่มากแต่เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็จะไม่มีวันบอกความจริงเรื่องเรไร
คำยืนยันของลิตรว่าเรไรตายเพราะหัวใจวายไม่ได้ทำให้รำเพยเชื่อแม้แต่น้อยแต่หาหลักฐานไม่ได้เลยต้องนิ่งเฉยความคิดถึงพี่สาวถาโถมจนต้องไปนั่งในห้องนอนของเรไรก้มลงกราบหัวเตียงเพื่อกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้ายร่างโปร่งแสงของเรไรมองมาจากมุมห้องด้วยสายตาชิงชังแต่เมื่อเห็นท่าทางสำนึกผิดของน้องสาวแววตาจึงอ่อนแสงลงความโกรธเกลียดค่อยๆเลือนหายกลายเป็นความสงสารและห่วงใยแทน...ต้องเข้มแข็งนะรำเพย
ฝ่ายลิตรพยายามทำตัวเป็นปกติและเข้าหารำเพยเหมือนที่เคยทำตอนอยู่บ้านสวนแต่รำเพยไม่ยอมเจอหน้าและเก็บตัวอยู่แต่ในห้องหมกมุ่นกับการเลี้ยงนันทนัชลูกสาวที่ยังแบเบาะจนลิตรเริ่มหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะรักเมียเกินกว่าจะทำร้ายจิตใจให้เคืองกันไปมากกว่านี้
รำเพยตื่นไปใส่บาตรให้เรไรในเช้าวันถัดมาโดยมีนวลกับชิดช่วยดูแลไม่ห่างเลยทำให้ทราบความจริงในคืนวันเกิดเหตุว่าเรไรนอนตายในห้องตามลำพังนวลเป็นคนเจอศพเรไรเช้าวันต่อมาส่วนลิตรอ้างว่ามีธุระต้องไปนอกเมืองกลางดึกจึงไม่รู้ไม่เห็นซึ่งชิดไม่เชื่อแม้แต่น้อยแต่ไม่กล้าพูดกลัวรำเพยจะเสียใจ
ooooooo
ท่าทางแปลกๆเหมือนรู้อะไรบางอย่างของชิดทำให้รำเพยมั่นใจมากว่าเรไรไม่ได้หัวใจวายแต่ถูกฆาตกรรมและบุคคลน่าสงสัยที่สุดก็คือลิตรเพราะใกล้ชิดเรไรที่สุดในฐานะสามีแถมมีแรงจูงใจอีกต่างหาก
ลิตรอ้าปากค้างความดีใจที่เมียรักมาหาถึงห้องเลือนหายกลายเป็นความหวาดระแวงเมื่อเธอพูดเรื่องการตายของเรไรชายหนุ่มพยายามตั้งสติและแก้ตัวแกนๆเหมือนเคยแต่รำเพยปักใจไปแล้วและพุ่งไปทุบตีเขาอย่างบ้าคลั่ง
“มันจริงใช่ไหมพี่พูดความจริงมาสิว่าพี่ฆ่าพี่เรไรพี่ทำทำไมพี่ทำได้ยังไง”
อ่านละครเรื่อง เรือนริษยา ตอนที่ 8 วันที่ 10 มิ.ย. 57
ละครเรือนริษยา บทประพันธ์โดย : Neananokละครเรือนริษยา บทโทรทัศน์โดย : เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์
ละครเรือนริษยา กำกับการแสดงโดย : สราวุธ วิเชียรสาร
ละครเรือนริษยา ดำเนินงานโดย : จันทร์จิรา จูแจ้ง
ละครเรือนริษยา ผลิตโดย : บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครเรือนริษยา ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทาง ละครเรือนริษยา ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ