@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 16/3 วันที่ 3 มิ.ย. 57

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 16/3 วันที่ 3 มิ.ย. 57

“ใครบอกว่าฉันเป็นแฟนนาย”
“ก็วันก่อน เธอไม่ไปเสม็ดกับพี่เอ็ม แล้วก็มากินบะหมี่ที่บ้านฉัน แล้วไปดูหนังกัน แล้วก็นู่นนี่ นั่นอีก”
“ฉันเคยจูบเธอรึเปล่า”
ป๋องส่ายหน้า

“เคยบอกว่ารักเธอมั้ย”
ป๋องส่ายหน้าอีก
“แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นแฟนเธอได้ไง”
“แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ”
ปลายฝนนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “เพื่อนสนิท”
ป๋องหน้าจ๋อย


โจนั่งเพ่งดูข้อมูลซ้ำไปซ้ำมา ด้วยท่าทางเคร่งเครียด วนิษามองด้วยความเป็นห่วง
“จะพักหน่อยมั้ย”
“ไม่ครับ”
“คุณอยู่ท่านี้มาตั้งแต่เช้าแล้วนะ”
“อีกนิดเดียว เรากำลังจะได้อะไรบางอย่างแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น”
วนิษาเงียบไปครู่หนึ่ง “โจ ฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“หาอะไรกิน กินนอกบ้านเหรอ ในเวลาอย่างนี้เนี่ยนะ”

โจมองวนิษาอย่างแปลกใจ
จากนั้นทั้งคู่ก็มานั่งทานอาหารในร้านหรู บรรยากาศดี

“ทำไมเราไม่กินอะไรง่ายๆที่บ้านผม ของกินคุณก็ซื้อมาเพียบ ถึงเวลาดันชวนผมมานั่งร้านแบบนี้
ผมเสียดายเวลาครับ”
วนิษามองหน้าโจ
“ตอนแรกฉันก็ตั้งใจแบบนั้น แต่เห็นคุณเครียดมาตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอะไรไม่ออก เลยอยากพามาเปลี่ยนบรรยากาศจะได้รู้สึกผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง คิดอะไรได้เข้าเป้ามากขึ้นไง”
โจถอนหายใจ “ผมเหลือเวลาอีกแค่สองวัน”
“แล้วอีกอย่าง” วนิษาหน้าเศร้า “ถ้าสุดท้ายแล้ว คุณยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ฉันกับคุณคงไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก ฉันก็อยากใช้เวลาดีๆกับคุณให้มากที่สุด”
“คิดแบบนั้นก็เหมือนกับจะยอมแพ้”
“ฉันไม่คิดถึงเรื่องแพ้ ชนะ แต่ฉันอยากมีความทรงจำดีๆ ขอแค่หนึ่งชั่วโมงก็พอ ลืมเรื่องงานซะ ลืมเรื่องคดีฆาตกรรม ลืมเรื่องหลักฐาน ปล่อยมันไปสักหนึ่งชัวโมง หนึ่งชั่วโมงที่มีแค่คุณกับฉัน ได้ไหม”

“แต่ถ้าเรายอมเสียเวลาตอนนี้ เราอาจจะมีเวลามากกว่านั้นอีกหลายเท่าในอนาคตข้างหน้า”
วนิษามองหน้าโจ “ฉันไม่เอาเวลามาเล่นพนันหรอกนะ”
“ผมก็ไม่เอาเวลามาผลาญทิ้งแบบไร้ค่าแบบนี้เหมือนกัน”
“คุณคิดว่าเวลาดีๆอย่างนี้มันไร้ค่าเหรอ”
โจไม่ตอบ พลางลุกเดินออกไป วนิษามองตาม แล้วก็ถอนใจ นั่งหลับตาเหมือนพยายามทำใจ สักพักก็มีเสียงไวโอลินดังขึ้น วนิษาตกใจ ลืมตา เห็นนักไวโอลินกำลังบรรเลงอยู่ข้างๆ ในขณะที่โจยืนอยู่ตรงหน้า พลางโค้งให้ แล้วยื่นมือมา วนิษามองโจ แล้วยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนที่จะจับมือโจ ลุกออกไปเต้นรำกัน
“ผมอยากบอกคุณว่า นี่เป็นเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม”
“ฉันนึกว่าคุณจะหนีกลับไปทำงานต่อซะอีก”
โจสบตาวนิษา “สมองสั่งให้ผมทำแบบนั้น แต่หัวใจสั่งให้ผมทำแบบนี้”
“ขอบคุณที่ยอมฟังหัวใจมากกว่าสมอง”
“ที่หัวใจของผมเป็นแบบนี้ก็เพราะมันทำตามความต้องการของหัวใจคุณ”
“งั้นถ้าหัวใจของฉันสั่งอย่างอื่นด้วยล่ะ”
“สั่งอะไรเหรอครับ”
วนิษากระซิบข้างๆหูโจ โจยิ้มเล็กน้อย พลางโอบกอดเธอแน่นขึ้น แล้วก้มลงจูบ วนิษาจูบตอบ

หลังจากนั้นโจก็ขับรถขึ้นมาจอดบนลานจอดดาดฟ้า แล้วนั่งมองดวงดาวบนท้องฟ้าคู่กับวนิษา
“ทุกครั้งที่ผมมองดาวบนฟ้า ผมอดคิดไม่ได้ว่า”
โจยังพูดไม่ทันจบ วนิษาก็พูดแทรกขึ้นมา
“ดาวดวงไหนกันนะ ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้”
ทั้งสองหันมองหน้ากัน ด้วยความแปลกใจ
“คุณก็คิดเหมือนที่ผมคิดเหรอ”
“ไหนคุณบอกคุณไม่เชื่อเรื่องดวงไง”
“ผมพูดผิด ถ้าจะให้ถูก ต้องบอกว่าพยายามจะไม่เชื่อ ผมพยายามหักล้างมัน”
วนิษาหน้าสลด
“ผิดกับฉันเลย ฉันเชื่อ ทั้งเชื่อแล้วก็กลัว ฉันเล่นไปตามเกมส์ของดวงชะตา มีคนบอกว่าทำบุญแล้วแก้ดวงอาถรรพ์ได้ ฉันถึงชอบทำบุญไงล่ะ”
“หลวงพ่อพูดบ่อยๆว่าทำบุญอย่าหวังผล”
“แต่ฉันหวัง หวังว่าจะดิ้นหลุดจากดวงร้ายๆไปได้ ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันคงไม่ลังเลเลยที่จะไปเมืองจีน
กับระริน ไปให้ซินแสแก้ดวงให้”
“ล่าสุดเขาบอกว่าแค่เปลี่ยนชื่อก็ได้แล้ว”
วนิษามองหน้าโจ พลางย้อนถาม “แล้วทำไมคุณไม่เปลี่ยนชื่อล่ะ”
“เพราะผมไม่ยอมรับว่าผมเป็นตัวซวย”
“ทำไมล่ะโจ ตอนนั้นคุณก็รักระรินมากไม่ใช่เหรอ ฉันเป็นระรินฉันก็คงน้อยใจ แค่นี้ก็ทำเพื่อผู้หญิงที่รักไม่ได้”
โจเงียบไปครู่หนึ่ง
“ผมไม่เคยพูดกับใครเรื่องนี้ แต่คืนนี้ผมจะบอกคุณ ถ้าโลกนี้มีเรื่องดวงชะตาจริงๆ
ถ้าผมเป็นโจตัวซวยจริงๆ แปลว่าผมคือคนที่ทำให้พ่อหมดตัวแล้วก็ติดคุก ทำให้แม่ต้องหนีคดีไปมีสามีใหม่
ที่เมืองนอก ยังไม่พอ ยังทำให้ญาติๆที่เมตตารับผมไปเลี้ยงต้องเคราะห์ร้าย บางคนไฟไหม้บ้าน บางคนประสบอุบัติเหตุ ถ้าผมเป็นตัวซวยแบบนั้นจริงๆ สู้ไม่เกิดมาเลยยังจะดีกว่า แต่ผมเกิดมาแล้ว ผมย้ำบอกตัวเองทุกวัน
ว่าเรื่องดวงไม่ใช่เรื่องจริง ผมไม่ใช่ลูกทรพีที่ทำให้ชีวิตพ่อแม่ต้องพังพินาศ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผม ไม่ใช่โจตัวซวย”
โจพูดไป น้ำตาก็คลอหน่วย วนิษาดึงโจเข้ามากอดปลอบโยนจนโจรู้สึกดีขึ้น
“จนถึงวันนี้ ผมก็ไม่มีอะไรมาพิสูจน์ว่ามันไม่จริง ผมได้แต่ยึดคำสอนของหลวงพ่อว่าพุทธศาสนาไม่ได้สอนเรื่องนี้ พอผมถามลึกลงไป ท่านก็ไม่ตอบ บอกผมต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง”
“ฉันอยากเจอหลวงพ่อท่านบ้าง ว่างๆพาฉันไปกราบท่านบ้างนะ”
โจมองวนิษาที่กอดเขาอยู่ วนิษาเขินจะปล่อยแต่โจกอดวนิษาไว้
“เกินชั่วโมงมาตั้งนานแล้ว เรากลับเถอะ”

โจอิดออด แต่ที่สุดก็ยอมปล่อยวนิษา
โจขับรถมาจอดหน้าบ้าน วนิษาเปิดประตูเดินลงมา โจเดินมากุมมือเธอไว้ พลางมองจนวนิษาเขิน

“ปล่อยได้แล้ว”
แต่โจเหมือนอยู่ในภวังค์ จนวนิษาต้องเรียกซ้ำ ถึงรู้สึกตัว
“คุณพูดถูก คุณพาผมออกมาข้างนอก บอกว่าให้ผ่อนคลายเผื่อจะคิดออก ผมคิดออกแล้ว”
“เรื่องคดีน่ะเหรอ คุณคิดอะไรออก”
“มือ”
วนิษามองหน้าโจงงๆ

โจเดินหารูปถ่ายบางอย่าง ปากก็พูดไปด้วย ขณะที่วนิษาถือรูปถ่ายงานแต่งของเธอกับ ม.ร.ว.
จันทร์กระจ่าง เห็นพจน์ยืนข้างพี่ชายซูซี่
“สิ่งที่เราต้องหาคือจุดเชื่อมโยงของคดีคุณชายแจ้กับคดีสถาพรเจ้านายซูซี่ ถ้าเราหาเจอ มันจะบอกเราว่าพี่ชายของซูซี่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ นี่ไงครับ จุดเชื่อมโยง”
โจหยิบรูปสองรูปให้วนิษาดู เป็นรูปคุณชายแจ้ ขณะถูกเจ้าหน้าที่เข็นขึ้นเตียงพาไปโรงพยาบาล กับรูปศพของสถาพรในสถานที่เกิดเหตุ
“ดูที่มือของทั้งสองคนสิครับ”
วนิษาเพ่งมอง ที่มือขวาของทั้งสอง มีรอยดำๆที่ฝ่ามือ
“มีรอยดำเหมือนเปื้อนอะไรสักอย่าง แต่มันไม่ค่อยชัด”
“ครับ ถ้าเรามองเผินๆมันอาจเป็นรอยเปื้อนอะไรก็ได้ แต่ในกรณีนี้ ไม่ธรรมดาแน่ๆ มันผิดปกติเกินไปที่คนสองคนที่ตายแบบเดียวกันจะมีรอยลักษณะนี้เหมือนๆกัน”
“มันคือรอยอะไรคะ” วนิษาย้อนถาม
“ถ้าถามผม ผมคงต้องเดา ผมว่าไปถามคนที่เขารู้จริงดีกว่า”
“ใครคะ”
“พี่ชายซูซี่ไงครับ”

โจขับรถมาตามทาง โดยมีวนิษานั่งข้างๆ ทั้งคู่นั่งคุยกันมาตลอดทาง
“คุณพอรู้มั้ยว่าคุณพจน์แฟนคุณหญิงจุ๋มเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไง”
“คุณหญิงจุ๋มเป็นแม่งานเรื่องนี้ เขาเป็นคนติดต่อกับทางโรงแรม”
“ผมคิดว่า พี่ชายซูซี่ต้องรู้เห็นเรื่องการตายของคุณชายแจ้แน่ๆ แปลว่า”
วนิษาพูดต่อทันที

อ่านละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 16/3 วันที่ 3 มิ.ย. 57

ละครรักออกฤทธิ์ บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
ละครรักออกฤทธิ์ บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
ละครรักออกฤทธิ์ กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ดำเนินงานโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ละครรักออกฤทธิ์ ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครรักออกฤทธิ์ ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ