อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 25 วันที่ 10 มิ.ย. 57
“แหะๆ..ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะคุณพี่ที่ยัยนารถ ลูกสาวดิฉันมีไอเดียประหลาดๆ ไม่ยอมออกมารับแขกที่หน้างานเหมือนงานแต่งงานทั่วไป” สาวิตรีพูด“โถ..คุณน้องคะ เด็กสมัยนี้เค้าก็มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง ดีซะอีกค่ะ..หนูนารถจะได้ไม่เหนื่อยมาก” แม่วิทย์บอก
“ยัยนารถเองก็อาจจะเกรงใจแขกผู้ใหญ่ที่ตัวเองต้องนั่งรถเข็นไม่สามารถยืนถ่ายรูปด้วยได้” ทวยเทพบอก
“โธ่..เรื่องนั้นอย่าไปคิดมาก เจ้าวิทย์และพวกเรารักหนูนารถที่จิตใจข้างใน ไม่ใช่ร่างกายภายนอกครับ” พ่อวิทย์ว่า
สาวิตรีปลื้มก่อนจะจับมือทวยเทพแน่นแล้วบอกกับพ่อแม่วิทย์
“ดิฉันดีใจแทนยัยนารถจริงๆ ค่ะ ที่ได้พบคนที่รักและเข้าใจยัยนารถขนาดนี้”
ทั้งหมดมีความสุข
“เจ้าสาวของเรา..คุณนารถนรินทร์ ไกรตระกูล ค่า” เจ้าของร้านเสื้อเสียงดัง
ใบตองกับช่างแต่งหน้าทำผมวี้ดว้ายกระตู้วู้ ชื่นชมกัน ทั้งกรี๊ดกร๊าดว่าสวยเริ่ด ฯลฯ นารถนรินทร์ยิ้มแฉ่งด้วยความดีใจ ช่างภาพกดชัตเตอร์แชะๆ
เจ้าของร้านเสื้อประกาศ “และเพื่อนเจ้าสาวทั้ง 3 คุณพราวพรรณราย, คุณประกายเดือน และคุณปานตะวัน”
เพื่อนเจ้าสาวทั้ง 3 เดินออกมาในชุดสวยงาม
ใบตองกับช่างแต่งหน้าทำผมวี้ดว้ายกระตู้วู้ ช่างภาพกดชัตเตอร์แชะๆๆ
เจ้าของร้านเสื้อปลาบปลื้ม “สวย แซบที่สุดใน 4 โลก!! แหม..เห็นแล้วมันเขี้ยว น่าจะแต่งพร้อมๆ กันซะเลยนะคะทั้ง 4 สาว”
นารถนรินทร์ถูกใจ สามสาวสะดุ้งเฮือกแบบมีพิรุธ
“อุ่ย..ก็อยากจะแต่งอยู่นะคะคุณพี่ แต่ไม่มีผู้ชายให้แต่งด้วยน่ะสิ จริงมั้ยเดือน?”
ประกายเดือนสะดุ้งโหยง ปากคอสั่น “อือ..ชะๆๆใช่..จริงๆ”
“อะไร? เป็นไร? ถามแค่นี้ปากคอสั่น เจ้าสาวน่ะน้องนารถนะยะไม่ใช่เธอ ทำเป็นตื่นเต้นเว่อร์เกินหน้าเกินตาเจ้าสาว”
ประกายเดือนแอบเหล่มองปานตะวันที่มองประกายเดือนแล้วก็ทำแหะๆ หลบตาไป
“จริงด้วยค่ะ ถ้าเรา 4 คนได้แต่งพร้อมๆ กันคงจะสนุกน่าดูเลย งั้นวันนี้ถือว่าซ้อมใหญ่ก่อนมั้ยคะ..พี่ตะวัน”
ปานตะวันสะดุ้ง “อะ..อะไรนะคะ?”
“นารถบอกว่า พี่ตะวันน่าจะถือโอกาสซ้อมใหญ่กับพี่คินไปซะเลยน่ะค่ะ”
ทุกคนกรี๊ดกร๊าดกันดังลั่น ยกเว้นปานตะวันที่แอบมองตากับแพรวพรรณราย แพรวพรรณรายแอบบีบมือให้กำลังใจเพื่อน
แพรวพรรณรายแกล้งแว๊ด “เอ๊า!! มัวแต่กรี๊ดกันอยู่นั่นแหละ นี่ก็ใกล้พิธีจะเริ่มแล้วนะ”
“ว้าย! จริงด้วยค่ะ” ใบตองโวยวายทันที “เอ้า! เร็วๆๆๆ เติมๆๆ ตบๆๆๆ หน้าผมจัดเต็มเลยสิคะ”
ช่างแต่งหน้าทำผมรุมตบแป้งและเติมหน้าให้ใบตอง
ใบตองวี๊ด “ไม่ใช่ย่ะ!! ฉันสวยมากแล้ว” ใบตองชี้ไป “ทางนู้น!”
ช่างแต่งหน้าทำผมกรูไปหาเจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาว ช่างภาพเก็บภาพกันอย่างสนุกสนาน นารถนรินทร์จับมือมองตากับปานตะวันแบบเตรียมจะทำเซอร์ไพรส์ใหญ่
นาคินทร์ที่แต่งตัวหล่อทิ้งตัวลงนั่งอย่างเซ็งๆ อัครินทร์นั่งลงจ้องหน้า
“โห..พี่คิน หน้าตาไม่ยินดีแบบนี้ ยัยนารถเห็นคงวี๊ดงานแตกแน่ๆ”
“ก็วี๊ดไปสิ ไอเดียบ้าๆ เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว” นาคินทร์ส่ายหน้าอย่างเคืองๆ
นัครินทร์ที่เสียงนำมาก่อนเดินควงวิทย์แต่งหล่อออกมาด้วย
“อัลไลฮะ? ยังไงฮะ? อิจฉาไอ้วิทย์เหรอฮะ? อยากเป็นเจ้าบ่าวกะเค้ามั่งล่ะสิ?”
นาคินทร์ไม่ขำด้วย “ไอ้นัค!”
“อุ่ยย”
วิทย์ยิ้มๆ “ต้องขอโทษพี่คินด้วยนะครับที่ต้องรบกวน แต่น้องนารถรักพี่ๆ ทั้ง 3 คนมากเลยอยากให้เป็นคนสำคัญที่ยืนอยู่ข้างๆ เค้าบนเวที”
นัครินทร์ยืด “มันแน่นอนอยู่แล้ว มีพี่ชายทั้งหล่อและแสนดีขนาดนี้ มันต้องโชว์แขกกันหน่อย”
ทันใดนั้นออแกไนเซอร์ก็โผล่มา
“ได้เวลาเริ่มพิธีแล้วค่า ขอเชิญได้เลยค่า เชิญเจ้าบ่าวค่า” ออแกไนเซอร์รีบมาลากวิทย์ออกไปทันที
ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนพี่น้อง
นัครินทร์มองตามวิทย์ตาละห้อยก่อนจะพึมพำ “ทำไมถึงไม่เป็นเรามั่งวะ” นัครินทร์หันมาพูดกับอัครินทร์ ไอ้หมอ!! แกคอยดูนะ คิวต่อไปต้องเป็นฉัน ฉันจะต้องได้เป็น ‘เจ้าบ่าว’ ในเร็วๆนี้”
นาคินทร์ที่นั่งอยู่ทำหน้านิ่ง
นาคินทร์พูดเสียงเย็น “ฝันไปเถอะ!”
พูดจบนาคินทร์ก็ลุกขึ้นเดินผ่านหน้าน้องชายที่เหวอรับประทานออกไป
นัครินทร์เหวออยู่ “เฮ่ย..” นัครินทร์ตะโกนเรียก “พี่คิน!! พี่คิน!!” นัครินทร์พูดกับอัครินทร์ “พูดงี้ได้ไงวะ พี่คินพูดจาแบบนี้ได้ไง” นัครินทร์หมายมั่นปั้นมือ “แกคอยดูนะไอ้หมอ แกคอยดู”
นัครินทร์รีบพุ่งออกไป ทิ้งให้อัครินทร์มองตามแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินตามไป
พ่อแม่บ่าวสาวต้อนรับแขกอยู่ ออแกไนเซอร์เข้ามาเชิญ
“ได้เวลาแล้ว เชิญด้านในเลยครับ”
ทุกคนชวนกันออกไปจนไม่เหลือใคร เท้าใครคนหนึ่งก้าวเข้ามา ‘กนกรัตน์’ เดินเยื้องย่างเข้ามาในชุดราตรีสีแดง ปากสีแดงด้วยลิปสติกแท่งนั้น กนกรัตน์เดินมาหยุดยืนมองแล้วยิ้มเหยียดๆ
แขกเหรื่อยืนคุยเพื่อรอพิธีเริ่มกันอยู่ จู่ๆ ไฟก็ดับพรึ่บ ทุกคนฮือฮาสักพัก ก่อนที่ไฟ Follow บนเวทีจะส่องสว่างให้เห็นนักร้อง นักเปียโนชื่อดัง ทั้งสองเริ่มเล่นเปียโนและร้องเพลง ผู้คนเริ่มยิ้มแย้ม
หลังเวทีออแกไนเซอร์กำลังบรีฟเพื่อนเจ้าบ่าวทั้ง 3 คน
“อย่าลืมคิวนะครับ เดินออกไปปุ๊บ เจอเพื่อนเจ้าสาวจับมือปั๊บ”
นาคินทร์หันขวับ “อะไรนะครับ? ทำไมต้องจับมือด้วย”
นัครินทร์พูดกับออแกไนเซอร์ทันที “จัดให้เลยฮะ!! ระดับนัครินทร์..คิวเป๊ะ!! ของโปรด..เอ้ย มือโปร!! ไม่ต้องห่วง”
“นี่!! เดี๋ยวก่อนครับ..”
ออแกไนเซอร์ไม่ฟังเสียง “คิว!” ออแกไนเซอร์เร่งกับนาคินทร์ “คิวแล้วครับทุกคน!”
นัครินทร์ผลักนาคินทร์ออกไปทันที
นาคินทร์ถูกผลักออกมายืนหน้าเวที แขกเหรื่อฮือฮาในความหล่อ นาคินทร์จำต้องยืนนิ่ง ปานตะวันเดินเปิดตัวออกมาจากมุมเวที เธอดูสวยจนนาคินทร์เผลอตะลึง
ออแกไนเซอร์ที่อยู่หลังเวทีเร่งพูดใส่วอ.
“คิว!! คิวสิคิวๆๆ”
นาคินทร์สะดุ้งนิดนึงแล้วก็ทำเก๊กก่อนจะเดินไปจับมือปานตะวัน ทั้งสองมองหน้ากันแล้วเดินมาอยู่คู่กัน
แขกเหรื่อยิ้มแย้ม พ่อ แม่ และใบตองยิ้มปลื้มปริ่ม
’กนกรัตน์’ เดินเข้างานมาจ้องมองจนตาแทบถลน
นัครินทร์เดินออกมา ประกายเดือนเดินตามมา นัครินทร์เดินไปจับมือประกายเดือนอย่างกระดี๊กระด๊าสุดๆ ประกายเดือนแอบกลัวปานตะวันกับนาคินทร์ที่มองมา
นาคินทร์กัดฟันพูดหน้านิ่งๆ “อย่าหวังว่าแผนจับน้องชายผมจะสำเร็จ ผมไม่มีวันยอม”
ปานตะวันกัดฟันพูดตอบด้วยสีหน้านิ่ง “อย่าหวังว่าจะแตะต้องน้องสาวฉันได้ ฉันเอาตายแน่”
ทั้งสองหันมาจ้องตากันแบบไม่ยอมกัน
’กนกรัตน์’ จ้องมองตาวาวเมื่อเห็นเขาจ้องตากันก็นึกว่าทั้งสองหวานใส่กัน เธอจึงโกรธมาก
บนเวที อัครินทร์เดินออกมา แพรวพรรณรายเดินตามมา อัครินทร์เดินไปจับมือแพรวพรรณราย แพรวพรรณรายแอบปลื้มปริ่มแต่ก็ยังรักษาฟอร์มอยู่
หลังจากนั้นวิทย์ก็เข็นรถเข็นนารถนรินทร์เดินผ่านทั้ง 3 คู่มาอยู่ที่กลางเวที ทุกคนปรบมือด้วยความชื่นใจ วิทย์คุกเข่าลงทำการสวมแหวนแต่งงานให้นารถนรินทร์ นารถนรินทร์สวมแหวนแต่งงานให้วิทย์ ทั้งสองสวมกอดกัน แขกเหรื่อปรบมือด้วยความชื่นใจ วิทย์ลุกขึ้นจะเข็นนารถนรินทร์ไปที่เค้กแต่งงาน แต่นารถนรินทร์แตะมือวิทย์ไว้ วิทย์ชะงักมอง
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่วิทย์”
นารถนรินทร์หันไปมองปานตะวัน ปานตะวันยิ้มให้กำลังใจ นาคินทร์มองอย่างงงๆ ทันใดนั้น นารถนรินทร์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สร้างความตกตะลึงให้คนทั้งบนเวทีและแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน
วิทย์ตะลึง “น้องนารถ?”
นารถนรินทร์ยิ้มๆ แบบกังวลนิดๆ ก่อนจะยื่นมือไปให้วิทย์
“เราเดินไปด้วยกันนะคะพี่วิทย์”
วิทย์อึ้ง “น้องนารถ”
วิทย์พุ่งเข้ามาสวมกอดนารถนรินทร์แน่น
นาคินทร์หันขวับไปมองปานตะวันที่กำลังซับน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มอยู่ แล้วเขาก็หันกลับไปมองนารถนรินทร์อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
นารถนรินทร์กับวิทย์ค่อยๆ จับมือกันเดินไปตัดเค้กด้วยกัน
แขกเหรื่อปรบมือ พ่อกับแม่ดีใจจนน้ำตาแตกกับใบตอง นารถนรินทร์กับวิทย์ตัดเค้กอย่างสวยงาม นาคินทร์หันไปมองปานตะวันอย่างเหลือเชื่อที่เธอทำได้ สายตาของเขาเผลอทึ่งปานตะวัน ปานตะวันหันมาเห็นสายตาก็ชะงักก่อนจะเมินไป นาคินทร์เก้อ กนกรัตน์จ้องมองทั้งสองบนเวทีอย่างไม่พอใจ
กนกรัตน์เหวี่ยงกระเป๋าลงที่หน้ากระจกแล้วจ้องตัวเองในกระจกด้วยความโมโห
“อะไร? ทำไม? นี่ฉันยังไม่สวยพออีกเรอะ?? ทำไมพี่คินถึงได้จ้องมองแต่อีนังปานตะวัน?? ทำไมๆๆ”
กนกรัตน์มองกระจกอย่างโกรธแค้นก่อนจะทำฟึดฟัดหยิบกระเป๋ามาเปิดแล้วควักลิปสติกแท่งเดิมออกมาหมุนแล้วมอง
กนกรัตน์พึมพำราวกับสะกดจิตตัวเอง “ฉันต้องสวย พี่คินต้องมองฉันคนเดียว ฉันต้องสวยอีก”
ว่าแล้วกนกรัตน์ก็บรรจงทาลิปสติกสีแดงให้ปากแดงยิ่งขึ้นไปอีก
ทันใดนั้น ‘ประกายเดือน’ ก็เดินจะเข้ามาในห้องน้ำแต่พอเห็นกนกรัตน์ก็ชะงักกึก
กนกรัตน์หันไปมองแล้วยิ้มหวาน “อ้าว..คุณเดือน” กนกรัตน์จิกตามองแล้วพูดเหยียด “วันนี้สวยนะคะ” กนกรัตน์หันไปทาลิปสติกต่อโดยไม่สนใจ
ประกายเดือนอ้าปากจะด่าแต่ก็ชะงักเมื่อเห็นลิปสติกในมือกนกรัตน์ ประกายเดือนมองคุ้นๆ
กนกรัตน์ชะงักเมื่อรู้สึกว่าถูกจ้องอยู่ก็ค่อยๆ หันมามองด้วยสายตาประกายเดือนที่มองมาที่ลิปสติกของเธอก่อนจะยิ้มแล้วยื่นให้ “ซะหน่อยมั้ยคะ? จะได้สวยขึ้น?”
ประกายเดือนฉุน “ไม่ล่ะค่ะ” ประกายเดือนด่ากระแทก “สวยปลอมๆ..ไม่ปลื้ม”
ประกายเดือนพูดจบก็สะบัดออกไปทันที ทิ้งให้กนกรัตน์ยืนตาวาว
กนกรัตน์ด่าตามหลัง “อิจฉาล่ะสิ!!! เชอะ”
กนกรัตน์มองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มสวย เธอเก็บลิปสติกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แพรวพรรณรายประคองปานตะวันเข้ามายืนคุยหน้ากระจกหน้าห้องน้ำ
“ไงตะวัน..ไหวป่ะ?? เพื่อนพาไปส่งบ้านดีกว่ามั้ย” แพรวพรรณรายถาม
“ได้ไง งานยังไม่เลิก” ปานตะวันว่า
กนกรัตน์ที่อยู่ในห้องน้ำชะงัก
“อยากอาเจียนรึเปล่า?? เพื่อนลูบหลังให้” แพรวพรรณรายถาม
“ไม่ขนาดนั้น แค่มึนๆ ข้างในคนเยอะน่ะ” ปานตะวันว่า
อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 25 วันที่ 10 มิ.ย. 57
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shaynaละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ