@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 16/3 วันที่ 2 มิ.ย. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 16/3 วันที่ 2 มิ.ย. 57

“แต่เดี๋ยวนะ..หนูฉัตรได้ยินอะไรผิดมารึเปล่า? เพราะฉันว่าคนที่จะซื้อรถให้หนูตระกาย เอ๊ย! ประกายเดือนน่ะ น่าจะเป็นท่านรองฯ มากกว่าท่านประธานนะ”
“อ่าา..คุณเจเจคะ..เรื่องนี้มอลลี่มีคำอธิบาย”
“ว่า...”

“ว่า..ถ้าจะเปรียบพี่น้อง 2 คนนี้ คนน้องก็เหมือนกับคนกินมูมมามกินเสียงดังแต่” มอลลี่ทิ้งช่วง โยนให้ลูกกอล์ฟพูดต่อ
“ยังไม่ได้กินซะที”
“ถูก!! แต่คนพี่นี่สิเด็ดค่ะ จดๆ จ้องๆ มองๆ แล้วตะครุบหมับ!!”


ลูกกอล์ฟรับ “จับกินได้ก่อนใคร”
“ถูก!!! แถวบ้านเรียกว่า “กินเงียบ””
จามจุรีอึ้ง ตะลึง ไม่อยากจะเชื่อ “โธ่!..ท่านประธาน”
ปาริฉัตรตาวาว หลังจากฟังเงียบๆ ด้วยความพึงพอใจมานาน “นี่!! อย่าพูดถึงท่านประธานอย่างนั้นนะ ต้องโทษผู้หญิงถึงจะถูก ผู้ชายคนไหนโดนมารยาห้าร้อยเล่มเกวียนของผู้หญิงแบบนั้นเข้าไปก็พลาดได้ทั้งนั้น”
“เหรอออออ???”
ทุกคนสะดุ้งหันไปมองประกายเดือน มอลลี่เสียงหวาน “คุณเลขาฯน้องเดือนขาาาาา วันนี้ทำไมมาทำงานสายกว่าพี่มอลลี่ล่ะคะ?? ยังขับรถใหม่ไม่คล่องเหรอค้าาาา คิกๆๆ” มอลลี่ขำกับลูกกอล์ฟ
ประกายเดือนเสียงแข็งใส่ แต่ตาจ้องปาริฉัตร “รถเมล์ไม่จอดป้าย!!!”
“อ้าว???” ปาริฉัตรงง
ประกายเดือนจ้อง และเดินเข้ามาหาปาริฉัตร ตามองปาริฉัตร แต่ปากถามจามจุรี “คุณเจเจคะ ศีลข้อ 4 ว่าไงนะคะ”
จามจุรีสะดุ้ง “มะ..มะ..มุสาวาทาเวระมนี สิชาปะทัง สะมาทิยามะ”
“มิ / มิ” มอลลี่กับลูกกอล์ฟช่วยแก้
จามจุรีสะดุ้ง “มิจ๊ะมิ”
ประกายเดือนจ้องปาริฉัตร พูดใส่หน้า “พูดจาโกหก พูดจาส่อเสียดใส่ร้าย ทำให้ผู้อื่นเสียหาย มันเป็นบาป!!” ประกายเดือนหันไปพูดใส่หน้ามอลลี่และลูกกอล์ฟ “บาป!! บาป!!”
ปาริฉัตรขยับจะลุย แต่เสียงนาคินทร์ดังจากอินเตอร์คอมก่อน “คุณฉัตรครับ ช่วยตามคุณประกายเดือนมาพบผมด้วยนะครับ”
ปาริฉัตรชะงัก ทุกคนตาโตวาว ประกายเดือนยิ้มเยาะยั่วทันที “โทษนะ!! ขอตัวนะ!! ไม่ว่างทะเลาะด้วยแระ!! ท่านประธานเรียก!!”
ประกายเดือนหลิ่วตาให้ปาริฉัตร แล้วเดินสะดิ้งเข้าประตูไป ปาริฉัตรอึ้ง มอลลี่และลูกกอล์ฟตาวาว อ้าปากค้าง จามจุรีส่ายหน้าไม่อยากจะเชื่อ
มอลลี่ประกบปาริฉัตร “แถวบ้านเรียกเยาะเย้ย หยามน้ำหน้าค่ะ..น้องฉัตร!!”
“ดู๊!! แต่เช้าเลยอ่ะ??”
“อึ๋ย..บัดสีบัดเถลิง..ไอ้ลูกกอล์ฟ”
“จริ้งงงง..เรียกเข้าห้องแต่เช้า!!!”
ปาริฉัตรเคืองมากๆ

ในห้องทำงานนาคินทร์ นาคินทร์มาฟอร์มผิดหวัง ส่ายหน้าน้อยๆ “พี่สาวคุณไม่น่าคิดมากขนาดนั้นเลย”
“ก็..” ประกายเดือนพูดไม่ออก “ตะวันเค้าก็งี้แหละค่ะ” พูดแล้วก็แอบขำพี่สาว “สวยเริ่ดเชิดหยิ่ง ทะนงและรักศักดิ์ศรี”
นาคินทร์ไม่ขำด้วยเพราะไม่เห็นด้วยเลยซักนิด
“อุ่ย..ขอโทษค่ะ..พูดเล่นขำๆ น่ะค่ะ”
นาคินทร์รู้สึกตัวว่าหน้ายักษ์ ก็แกล้งทำยิ้มๆ “จริงนะครับ ท่าทางพี่สาวคุณจะหยิ่งทะนงและรักศักดิ์ศรีจริงๆ” ปากพูดแต่ในใจกำลับคิดตรงข้าม
ประกายเดือนยิ้ม พยักหน้ายืนยัน
“น่าสงสารนายนัค”
“ท่านรองฯ?? สงสารเรื่องอะไรคะ?”
“จริงๆ แล้วเป็นนายนัคที่หวังดีต่อคุณ”
“คะ??”
“นายนัคเป็นห่วงที่เห็นคุณต้องโหนรถเมล์ไปไหนมาไหน ก็เลยมาขอให้ผมซื้อรถให้คุณ” ประกายเดือนอึ้ง นาคินทร์เห็นอาการ ก็รีบไซโค ทำถอนใจเฮือก “นี่ถ้าน้องชายผมมันรู้ว่าคุณปฏิเสธไม่รับความหวังดีของมันล่ะก้อ..คงเสียใจแย่”
ประกายเดือนได้ยินก็หน้าจ๋อยๆ ไป นาคินทร์พอใจที่ไซโคประกายเดือนได้
เช้าวันใหม่ ห้องนอนนารถนรินทร์ ปานตะวันยื่นมือรอนารถรินทร์เดินมาจับ ปานตะวันลุ้นเอาใจช่วย “มาค่ะ..มาหาพี่ตะวัน”
นารถนรินทร์กัดฟันตั้งใจ แล้วค่อยๆก้าวเดินช้าๆ รวมแล้ว 3 - 4 ก้าว สุดท้ายโผเข้าสู่อ้อมกอดปานตะวันได้ 2 สาวดีใจกันใหญ่ นารถนรินทร์ปลื้ม น้ำตารื้น “นารถทำได้จริงๆ นารถเก่งมั้ยคะพี่ตะวัน”
“เก่งมากเลยค่ะ น้องนารถเก่งมาก”
“อีกไม่กี่เดือน พี่วิทย์ก็จะกลับมาแล้วนารถจะเดินให้พี่วิทย์ และทุกคนเห็นในวันแต่งงานได้ทันมั้ยพี่ตะวัน”
“ทันสิคะ.. ต้องทันแน่นอนคะน้องนารถ”
นารถนรินทร์กอดตะวัน “นารถรักตะวันที่สุดเลยค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก๊อกๆๆ ปานตะวันรีบพานารถนรินทร์ขึ้นไปนั่งบนเตียง
“คุณนารถขา..คุณนารถ..เปิดประตูหน่อยค่ะ” ปานตะวันรีบวิ่งไปเปิดประตู ใบตองเดินเข้ามาสายตาวิบวับ “แหม..มีความลับอะไรกันคะ? ทำไมหมู่นี้ล็อคประตู บ๊อยบ่อย”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่ใบตองแหละมีอะไรก็ว่ามานารถอยากจะพักผ่อนแล้ว”
ใบตองเหล่ วิบวับ “แน่ใจเหรอค่ะว่าอยากพักผ่อน??”
นารถนรินทร์ตาเขียว “ถ้าไม่บอก..ก็รีบออกไปใน 3 วิ 1 – 2 - ….”
วิทย์ก็โผล่มายืนยิ้มหล่อ นารถนรินทร์อึ้ง ช็อค น้ำตารื้น ดีใจ “พี่วิทย์???พี่วิทย์ จริงๆด้วย!!”
“น้องนารถ!!” วิทย์พุ่งเข้ามากอดนารถนรินทร์แน่น ปานตะวันอึ้ง ซึ้งกับภาพที่เห็น ใบตองลุ้นจนตัวบิดเป็นเกลียว วิทย์และนารถนรินทร์ยังคงกอดกันแน่น

บ้านไกรตระกูล ขนมเค้กถูกวางลงตรงหน้าวิทย์ ทุกคนรวมตัวกันอยู่
“วิทย์จ๋าวิทย์ วิทย์นี่น่าตีจริง จู่ๆก็โผล่มาแบบนี้ แม่ก็ไม่ทันได้เตรียมจัดเมนูชุดใหญ่ไว้ต้อนรับนะสิจ๊ะ ประเดี๋ยวไม่ยกลูกสาวให้ซะเลย”
วิทย์รีบยกมือไหว้ขอโทษ “ผมขอโทษครับ ผมแค่อยากเซอร์ไพรส์น้องนารถ คุณแม่ไม่ยกน้องนารถให้ผมไม่ได้นะครับ ผมไม่ยอม”
“แหม..นารถไม่ยอมค่ะ คุณแม่ยกแล้วต้องยกเลย”
“ยัยนารถ!!! เป็นสาวเป็นนางออกตัวแรงเกินเหตุนะเธอ??”
“ยุคนี้ ไม่แรงไม่ได้แล้วค่ะ เคยได้ยินมั้ยคะ ณ จุดนี้ ความเร็วเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุด”
“นี่!! ช้าบ้างไรบ้างก็ได้ ดูอย่างใบตองซิ..อยู่มาจนป่านนี้”
ใบตองสะดุ้ง “เอ๊า!!ใบตองคนเดียวที่ไหนคะ? นี่..คุณตะวันก็เหมือนกัน”
ปานตะวันสะดุ้ง
“เดี๋ยวเถอะพี่ใบตอง อย่ามาว่าพี่ตะวันของนารถนะ รับรอง...ว่าพี่ตะวันเค้าก็อีกไม่นานหรอก..จริงมั้ยคะพี่คิน??”
นาคินทร์และปานตะวัน มองหน้ากัน ก่อนจะเมินกัน
“พูดอะไร ยัยนารถ” นาคินทร์ปราม
ทุกคนยิ้มขำกัน ยกเว้นอัครินทร์
“หรือจะพร้อมกับนารถซะเลยก็ดีนะคะคุณพ่อคุณแม่”
พ่อแม่มองกันอมยิ้ม นาคินทร์ทำหน้านิ่ง ปานตะวันทำหน้าไม่ถูก ขณะที่ทุกคนครื้นเครง ยกเว้นอัครินทร์
“ว่าแต่..งานแต่งของผมกับน้องนารถ”
นารถนรินทร์สะดุ้ง รีบพูดเลย “ยังนะคะ!! ยังไม่แต่งตอนนี้นะคะ”
“อ้าว..ทำไมล่ะครับน้องนารถ พี่พร้อมจะให้คุณพ่อ คุณแม่ของพี่มาพบ คุณพ่อ คุณแม่ของน้องนารถได้เลยนะครับ”
“ผู้หญิงนี่ยังไงนะ? ไอ้ตอนเค้าไม่แต่งก็บ่นแง๊วๆๆ ว่าเมื่อไหร่จะแต่ง พอเค้าจะแต่งก็บอกให้รอก่อน ไงฮะเนี่ย??” นัครินทร์บ่น
นารถนรินทร์มองปานตะวัน “เอ่อ..คือ..คือ..นารถยังไม่พร้อมน่ะค่ะ นารถขอเวลาอีกซักนิดนึงนะคะพี่วิทย์”
วิทย์ยิ้ม “ไม่มีปัญหาครับ ทุกอย่างแล้วแต่น้องนารถ”
นารถนรินทร์ยิ้มแฉ่ง โล่งอก เหลือบมองปานตะวัน ปานตะวันยิ้มๆให้กำลังใจ ก่อนจะเหลือบมองนาคินทร์ นาคินทร์เมินไป อัครินทร์เห็นใจปานตะวัน

อีกมุมบ้านไกรตระกูล ปานตะวันเดินอยู่ เศร้าๆ นั่งลง สักพักอัครินทร์เดินมานั่งลงตรงข้าม “แต่งงานกับผมเถอะครับ?”
ปานตะวันตกใจ “คุณอัค!!!”
อัครินทร์ยิ้ม “แต่งพร้อมยัยนารถซะเลยก็ดีเหมือนกันนะครับ”
“อย่าพูดเล่นอย่างนี้สิคะคุณอัค”
“ผมไม่ได้พูดเล่น หมั้นก็ได้ เผื่อจะกดดันให้พี่คินยอมเผยความรู้สึกจริงๆ ออกมาซะที”
ปานตะวันส่ายหน้าน้อยๆ “ชีวิตจริงนะคะ..ไม่ใช่ละคร”
“บางที..ชีวิตจริงก็ยิ่งกว่าละครนะครับ.. ไม่ใช่เหรอครับ??”
ปานตะวันอึ้งไป ก่อนจะพยักหน้า พึมพำ “ก็จริงค่ะ..ยิ่งกว่าละคร”
“คุณจะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เหรอครับ? ไม่คิดถึงลูก”
ปานตะวันรีบเอามือปิดปากอัครินทร์ เหลียวซ้าย-ขวา รีบพูด “คุณอัค!! เดี๋ยวใครได้ยินเข้า” อัครินทร์โอเคไม่พูดต่อ ปานตะวันถอนใจ “คุณจะให้ฉันลุกขึ้นมาทำอะไรเหรอคะ? คุณนาคินทร์เกลียดฉันยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนต่อให้คุณแต่งงานกับฉัน มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มันกลับทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ ฉันยิ่งต้องดูต่ำลงไปอีกในสายตาของเค้า”
“ไม่จริงเหรอครับ พี่คินรักคุณ”
ปานตะวันอึ้งไปนิด ก่อนจะยิ้มสมเพชตัวเอง “รักฉัน?!” ปานตะวันส่ายหน้า ก่อนจะฮึด ลุกขึ้นยืน “ฉันจะพยายาม ดูแลคุณนารถให้ดีที่สุด ให้หายเร็วที่สุด ฉันจะได้ไปจากที่นี่เร็วที่สุด ก่อนที่” ปานตะวันเอามือจับท้อง “ก่อนที่ทุกคนจะรู้เรื่องนี้”
อัครินทร์อึ้ง ปานตะวันจะเดินออก นึกได้ หันมา “ฉันหวังว่า..คุณจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ..ตลอดไป..นะคะคุณอัครินทร์”
พูดจบปานตะวันก็เดินออกไป ทิ้งให้อัครินทร์มองตาม

ภายในบ้านไกรตระกูล ปานตะวันเดินกลับมา เห็นนาคินทร์นั่งอยู่ก็ชะงักจะไปอีกทาง “เดี๋ยว!!”
ปานตะวันหยุด เซ็ง รู้ว่าจะโดนหาเรื่อง
“ผมจ้างคุณมาดูแลยัยนารถ ทำให้ยัยนารถเดินได้ แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จนนายวิทย์กลับมาแล้ว” นาคินทร์ส่ายหน้า “ก็วันๆ มัวแต่ไปหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชาย”
“คุณนาคินทร์”
“จู๋จี๋กับนายอัคเสร็จแล้วก็รีบไปดูแลยัยนารถได้แล้ว”
“ฉันรู้หน้าที่ของฉันดี!! และฉันก็อยากจะให้คุณนารถเดินได้ใจจะขาด!! ฉันจะได้ไปๆ ให้พ้นจากที่นี่ซะที”

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 16/3 วันที่ 2 มิ.ย. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ