@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 2 วันที่ 9 เม.ย. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 2 วันที่ 9 เม.ย. 57

“มันไม่สวยงามหรอก ความจริงหลังจากนั้นน่ากลัวมากรู้ไหมน้อง” กฤษบอกว่าตนไม่เข้าใจ วายุกับพีช่วยกันอธิบายว่า คนที่ไม่ได้แต่งงานก็อยากแต่งเพราะมองภาพชีวิตคู่ไว้อย่างสวยงาม ส่วนคนที่แต่งงานจริงๆ กลับทนทุกข์ทรมานกับชีวิตคู่ที่ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้จนเหมือนตกนรก พานคิดไปว่า รู้งี้เป็นโสดดีกว่า

“ยากจังนะครับ” กฤษพึมพำ

วายุบอกว่าแต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม ถ้าสองคนเข้าใจและยอมรับว่าชีวิตคู่มีเงื่อนไขที่ต้องปรับจูนเข้าหากันให้ได้ พีหยอกว่ามองโลกในแง่ดีจัง วายุ บอกว่าไม่อยากให้น้องเขากลัวการแต่งงาน ย้ำเหมือนสอนกฤษว่า


“รักแล้วก็ต้องไปให้สุดทาง สุดท้ายจะเป็นยังไง มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้”

พอดีเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเข้าพิธี การสนทนาจึงยุติลง

ooooooo

ที่หน้างาน ภัทรวลัยยืนอยู่กับพ่อ เธอกระซิบถามใจคอไม่ดีว่าเห็นเพื่อนเจ้าสาวยืนประจำตำแหน่งหรือยัง พ่อบอกว่ายัง เธอด่าทันทีว่า

“นังเพื่อนทรยศ! เห็นแก่ตัว! อีโก้! ปลวก!!”

พ่อเตือนว่าอย่าพูดหยาบคาย วันนี้เป็นวันมงคล เธอขอโทษ พ่อจึงชวน

“ไป..เดินหน้าต่อไปกับคนดีที่สุดที่จะมาแบ่งปันทุกอย่างในชีวิตกับลูก”

“ค่ะพ่อ ถึงไม่มีเพื่อนเจ้าสาว แต่หนูก็มีพี่เป้ คนเดียวก็พอ”

พ่อพาภัทรวลัยเดินเข้าสู่ห้องพิธีในบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์

แต่พอเข้าไปในห้องพิธี วลัยใจชื้นยิ้มออกเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสามไปยืนเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่แล้ว แต่ระหว่างนั้นเมเปิ้ลกับน้ำผึ้งก็จิกกัดกันไม่ได้หยุด แต่ก็จิกกัดกันเนียนๆ ไม่ให้ผิดสังเกต จนลินีโพล่งเสียงดังว่าเถียงกันไม่รู้จักเวล่ำเวลา เสียงเธอดังจนแขกในงานพากันหันมอง สามสาวจึงทำหน้าสดชื่นชวนกันร้องเพลงอย่างร่าเริง จนสามหนุ่มที่สังเกตอยู่มองแบบว่า...ทำไปได้

ooooooo

ในห้องจัดงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินทักทายแขกในงาน ในขณะที่เมเปิ้ลถือแก้วไวน์ไปนั่งจิบเซ็งๆ กฤษเห็นดังนั้นจึงเดินไปนั่งด้วย

เมเปิ้ลเห็นกฤษถึงกับสำลักไวน์ เขารีบหยิบผ้าให้ซับไวน์ที่เลอะปาก เธอถามเสียงขุ่นว่ายังจะอยู่อีกทำไมใครเชิญ!

“หยาดทิพย์ย้ำว่าต้องพาคุณกลับบ้าน อย่าปล่อยให้คุณขับรถเองเด็ดขาด” เมเปิ้ลถามว่าทำไม เขาชี้ไปที่แก้วไวน์แทนคำตอบ เมเปิ้ลบอกว่าไม่ใช่ธุระของเขาไล่ให้กลับไปได้แล้วพลางลุกขึ้น กฤษจับมือไว้ดึงให้นั่งลง ถูกเอ็ดให้ปล่อยบ่นว่าทำตัวน่ารำคาญ

“ขอโทษครับ ผมจะบอกว่าชุดคุณขาดครับ” เมเปิ้ลตกใจ พอสำรวจเห็นรอยขาดก็ทำท่าจะร้องไห้บอกว่า “ชุดนี้เป็นแสนเลยนะ อ๊าย...ใคร ฝีมือใคร!!”

“ทำไมต้องหาคนผิดด้วยครับ มันอาจจะไปเกี่ยวโดนอะไรขาดระหว่างที่คุณรีบเดินเข้าพิธีก็ได้”

คำติติงของกฤษทำให้เมเปิ้ลนิ่งเงียบ ทบทวนความจำ....จึงนึกออกว่า ตอนที่ออกจากห้องแต่งตัวถูกน้ำผึ้งจงใจเดินชนเพราะหมั่นไส้ เธอเสียหลักไปกระแทกขอบประตู จะลุกไปเอาเรื่องน้ำผึ้งก็ถูกลินีแกล้งเบียดออกไปอีกคน เมเปิ้ลหมดความอดทนเลยรีบจ้ำตามไป จนไม่ทันสังเกตว่า ส่วนหนึ่งของชุดไปเกี่ยวกับส่วนที่ล็อกประตูจนกระโปรงขาดเป็นทางยาว...

ooooooo

ที่มุมหนึ่งในโรงแรม เมเปิ้ลเห็นน้ำผึ้งกับลินีเดินมาก็พรวดออกไปขวาง ถามว่ามาชนตนทำไม

“จะทำไม มันอิจฉาชุดแกน่ะสิ มันขี้อิจฉามาตั้งแต่ไหนแต่ไรจำไม่ได้เหรอ” ลินีตอบแทน น้ำผึ้งโต้ลินีว่า

“ฉันเหรอขี้อิจฉา พวกแกต่างหากที่ขี้อิจฉา พอเห็นฉันมีแฟน ซึ่งผู้หญิงที่เย่อหยิ่งจองหอง ไม่เคยเห็นหัวใครอย่างแกเมเปิ้ลไม่มีทางมี แกเลยใส่ร้ายว่าเขานอกใจ จะให้ฉันเลิกกับเขา เพราะไม่อยากให้ฉันมีแฟนกลัวตัวเองจะน้อยหน้า”

เมเปิ้ลถามว่าโรคจิตหรือเปล่าตนไม่เคยคิดว่าจะต้องน้อยหน้าเธอเพราะตนมีทุกอย่างดีกว่าเธออยู่แล้ว ผู้ชายไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิตเลย ถูกลินีด่าว่าชอบข่มคนอื่นอยู่เรื่อย นิสัยเสียไม่เลิก

“ฉันไม่ได้ข่ม ฉันพูดในสิ่งที่ฉันเป็น ฉันผิดด้วยเหรอที่ไม่ได้เกิดมาขาด แกก็ดีแต่ว่าคนอื่น ตัวเองเป็นนางฟ้านักรึไง” เมเปิ้ลด่าสวนทันที ลินีโต้ว่าตนไม่ใช่นางฟ้าแต่ไม่เคยสร้างปัญหาให้คนอื่น แล้วบ่นว่าทำไมต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีก

น้ำผึ้งโต้ว่าเพราะพวกเธอจะได้เลิกยุ่งกับตนเสียทีไง เมเปิ้ลตัดบทว่าจบงานนี้ตนก็ไม่ยุ่งกับใครอีกแล้วสบายใจได้

“จำไว้นะ ฉันปั้นหน้ายิ้มให้พวกแกเพื่อวลัย” ลินีพูดใส่หน้า น้ำผึ้งเสริมทันทีว่าตนก็เหมือนกัน

เมเปิ้ลทบทวนเรื่องราวได้แล้วอารมณ์จึงสงบลงขอไวน์อีกแก้ว กฤษติงว่าอย่าเลย ก็ถูกดุว่าเป็นเด็กเป็นเล็กอย่าขัดคำสั่งผู้ใหญ่ กฤษสวนไปตามเคยว่าตนไม่ใช่เด็กแล้วพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตา พอเห็นเธอสะอึก เขาจึงไปเอาไวน์อีกแก้วให้ตามคำสั่ง

ระหว่างที่กฤษไปหยิบไวน์นั่น เมเปิ้ลฟุบหน้ากับโต๊ะปวดใจจนน้ำตาซึมเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ

ooooooo

ที่อีกมุมหนึ่ง พีศทรรษนั่งอยู่กับน้ำผึ้ง ถามว่าจะคุยกันได้หรือยัง เธอตอบห้วนๆ ว่าไม่มีอารมณ์

“งั้นผมขอฉีกสัญญาที่คุณเซ็นๆไว้กับผมโทษฐานหนีกองถ่ายโดยไม่มีเหตุผล ผมอาจถูกฟ้องร้อง” พูดแล้วถาม “มีอารมณ์ขึ้นมาหรือยัง” น้ำผึ้งท้าว่าจะทำอะไรก็ทำเลย “คุณนี่มันคงจะเข้าวัยทองเร็วกว่ากำหนด สะเทือนใจที่ตัวเองยังอยู่บนคานใช่ไหม”

ไม่ว่าพีศทรรษจะยั่วอย่างไร น้ำผึ้งก็ไม่สะดุ้งสะเทือนบอกว่าพูดยังไงก็ไม่เจ็บ

“ไม่แปลกใจเลยพับผ่า ทำไมคุณถึงไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีข่าวกับผู้ชายคนไหนตั้งแต่เข้าวงการมา” น้ำผึ้งบอกว่ามี แต่ไม่สน “ไม่ใช่หรอก มี แต่พอเขาทำความรู้จักสนิทสนมกับคุณเข้าจริงๆคงหนีกันหมดเพราะนิสัยตรงข้ามกับหน้าตา” น้ำผึ้งพูดหน้าตาเฉยว่า ขอบคุณที่ชม

พีศทรรษอ่อนใจ บอกว่าอยู่กับเธอก็ดี เดาอารมณ์ไม่ค่อยถูก ไม่รู้จะมาแบบไหน ทำเอาตนเลือดสูบฉีดได้ตลอดเวลายิ่งคุยกันพีก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก จนน้ำผึ้งบอกให้พอเถอะตนคุยไม่รู้เรื่องยังจะนั่งคุยอยู่ได้ ตัดบทว่า

“วันนี้เพื่อนแต่งงาน ไม่คุยเรื่องที่ไม่สบายใจ เงียบนะ ขอร้อง”

พีศทรรษถึงกับกุมขมับ น้ำผึ้งเหล่อย่างสะใจที่ได้ยียวนกวนประสาท แล้วตัวเองก็นั่งซึมต่อ

ooooooo

ลินียืนมองวลัยจูงมือกับเป้ต้อนรับแขกก็มีความสุขไปกับเพื่อนด้วย วายุเดินมาหยุดข้างหลัถามว่า

“ไม่มีเป็นของตัวเองสักคนล่ะ” ลินีตกใจหันถามว่ายังอยู่อีกหรือ “ก็คุณยังไม่กลับ”

ลินีบอกว่าไม่เกี่ยวเพราะตัวไม่ได้ติดกัน แต่วายุอยากติด ถูกลินีเสียงเข้มว่าพูดแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน

“ผมหมายถึงผมมาส่งคุณแล้วต้องรับกลับ นี่คือคติของผม ถ้าร่วมหัวจมท้ายกับใครแล้วก็ต้องทำให้จบ” วายุพูดเป็นนัย พอถูกซักก็ลื่นเป็นปลาไหลว่า “รถคุณเสีย ดื่มแอลกอฮอล์ ปล่อยให้กลับบ้านคนเดียวได้ไง ผมต้องไปส่งที่บ้าน”

“ฝัน! กลับไปบริหารธุรกิจค็อกเทลเลานจ์ไฮโซที่เป็นฉากบังหน้าตัวเองเถอะไป”

ลินีจะเดินหนีแต่สะดุดเท้าตัวเองเซหงายหลังวายุรับไว้ทัน แต่สัญชาตญาณตกใจทำให้เธอป้องกันตัวพลิกบิดข้อมือและแขนของวายุจับกดกับพื้น แขกในงานพากันมองตกใจ วายุโวยว่าตนช่วยรับเธอไว้แท้ๆ แต่ตอบแทนกันแบบนี้หรือ ลินีขอโทษที่ลืมตัวไปหน่อยแล้วบอกให้เขาลุกขึ้น

“คุณทำผมเจ็บ ผมไม่มีแรงลุก ช่วยหน่อย” วายุเล่นแง่ส่งมือให้ ลินียิ้มเยาะว่าตนไม่หลงกล แล้วเดินไปเลย วายุเลยต้องลุกเองแต่ทำให้เขาสนใจผู้หญิงแปลกๆ ห้าวๆ คนนี้มากยิ่งขึ้น

ooooooo

ดีเจในงานเปิดเพลงให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมสนุกกับแขก เป็นเพลงบรรยายความรู้สึกของคนโสดที่อยากมีคู่ ดีเจประกาศอย่างครื้นเครงว่า

“ใครยังอยู่บนคาน ขอเสียงหน่อยเร้วววว...” ทุกคนเงียบมีแต่เมเปิ้ล น้ำผึ้งและลินีที่เผลอชูแก้วส่งเสียงให้ ดีเจอวยพรว่า “ ก็ขอให้ลงจากคานเร็วๆ อย่ารอช้า ถ้าอยากสนิทกับใครก็สะกิดกันเลย!!”

พอดีเจเปิดเพลง เมเปิ้ลถึงกับกรี๊ดบอกว่าเพลงนี้ตนชอบ กฤษหันมองอมยิ้ม ชวนออกไปแจมกับเพื่อนเธอกันไหม เมเปิ้ลทำคอแข็งถามว่าตนเป็นเจ้านายเขากล้าชวนไปเต้นหรือ กฤษถามอ้อนๆว่าตกลงไม่ไล่ตนออกแล้วใช่ไหม

“ถ้ายังไม่หยุดทำตัวน่ารำคาญ จะไล่ออกเดี๋ยวนี้”

“คนอื่นว่าผมน่ารัก มีแต่คุณที่ว่าผมน่ารำคาญ”

พอดีเพื่อนเก่าของเมเปิ้ลสองคนที่ไม่เจอกันนานเดินมาทัก เมเปิ้ลจำไม่ได้แต่ปากไวทักว่านึกว่าเป็นแม่ใครเสียอีก ทำเอาเพื่อนทั้งสองหน้าเจื่อน กฤษช่วยพูดแก้ให้ว่า

“พอดีคุณเมเปิ้ลไม่ค่อยสบายน่ะครับ เวียนหัว ตาพร่า แกเลยมองหน้าใครไม่ค่อยชัด”

เพื่อนเลยจิกคืนว่าสงสัยสายตายาว เมเปิ้ลฉุนหันใส่กฤษว่า “ชงทำไม!” เพื่อนทั้งสองที่มีครอบครัวแล้วเลยแสดงเจตนาดีแต่แอบจิกกัดว่า อายุสามสิบห้ายังไม่ได้แต่งงาน ระวังมดลูกหน้าอกไม่ได้ใช้งานนานความเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง อีกคนบอกว่าได้ข่าวว่าเขาจะเก็บภาษีคนโสดเพิ่ม แล้วคุยกันเองกระทบเมเปิ้ลอย่างมันอารมณ์ว่า ไม่น่าเชื่อ สมัยเรียนนึกว่าเธอสามคนน่าจะขายออกก่อนใคร ที่ไหนได้คนอื่นไปกันหมดแล้วเหลือแต่พวกเธอ สงสัยจะจองคานถาวรแหงๆ

เมเปิ้ลทนไม่ไหวเดินดุ่มๆ ไปที่บูธดีเจ ผ่านน้ำผึ้ง พี ลินี และวายุไป ทุกคนมองสงสัยว่าเธอจะไปทำอะไร

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 2 วันที่ 9 เม.ย. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตรา
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ