ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 6 วันที่ 22 เม.ย. 57
“ขอโทษคุณอีกครั้งที่ทำให้ต้องไม่สะดวก ผมพิภพ นี่ครับนามบัตรของผม ติดต่อหาผมได้ตลอดเวลาถ้าติดขัดอะไรหลังจากนี้”ลินีรู้สึกดีกับท่าทียอมรับผิดชอบพิภพ พออ่านนามบัตรยิ่งรู้สึกคุ้น “พิภพ อนันต์รุ่งเรืองกุล กรรมการผู้จัดการโรงงานสิ่งทออนันต์รุ่งเรืองกุล” ลินีคิดๆ ก็นึกออกว่าเขาเพิ่งไปบริจาคเงินให้มูลนิธิเมื่อเช้านี้เองตนเห็นชื่อเขาบนบอร์ด
“ไม่น่าเชื่อเลย โลกกลมมากเลยนะครับ” พิภพทำเป็นตื่นเต้น ลินียิ้มแย้มบอกว่าโลกกลมจริงๆ ใครจะเชื่อว่าเราจะมาเจอกันโดยบังเอิญได้ขนาดนี้ พิภพยิ้มจริงใจ “ครับ...บังเอิญมากจริงๆ”
“ว่าไง...มีเบาะแสอะไรคืบหน้าบ้าง”
ooooooo
เมเปิ้ลกลับไปจัดการกับจิลลาที่จะเป็นจะตายให้ได้เพราะแฟนเด็กหายไปไม่ติดต่อมาซ้ำโทร.ไปก็ไม่รับสาย เธอจึงลากพี่สาวไปที่ตลาดสดระหว่างนั้นหยาดทิพย์โทร.มาถามว่าแบบปกตกลงจะว่าอย่างไร ทุกคนรอสรุปอยู่เดี๋ยวจะโปรดักชั่นไม่ทัน เมเปิ้ลคิดหนักจะเอาอย่างไรดีเพราะจิลลาก็ทำท่าจะเป็นจะตายให้ได้
พอพาจิลลาไปถึงตลาดสด ปรากฏว่ากฤษพาทั้งหยาดทิพย์ ไทเกอร์ เจ๊ฟู ชาโนและอิ๋วตามมา ไทเกอร์ถามอย่างรับไม่ได้ว่าจะประชุมกันกลางตลาดสดนี่หรือ เหม็นก็เหม็นร้อนก็ร้อน
“ผมคิดเองครับ ถ้าคุณเมปิ้ลยังไม่สะดวกเข้า ออฟฟิศเรามาประชุมกันนอกสถานที่ก็ได้” กฤษออกรับ แทน ถูกไทเกอร์ตำหนิว่าไม่เข้าใจเหตุผลของคนที่ชอบเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน “ปนตรงไหน เดี๋ยวคุณเมเปิ้ลเคลียร์เรื่องส่วนตัวของตัวเองเสร็จก็มาคุยงาน” กฤษโต้
ไทเกอร์ฉวยโอกาสโจมตีเมเปิ้ลว่ากำลังทำให้พวกตนเกิดวิกฤติศรัทธาเอาเด็กฝึกงานมาเป็นแฟน ให้ท้ายเด็กจนทำให้เสียการปกครองชี้ให้ทุกคนดูว่า
“ดูซิ มายืนเถียงผู้ช่วย บก.อย่างฉัน ขาดวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำที่สุด” เห็นทุกคนอึ้งเลยได้ใจ “พูดเลยนะ ว่าฉันไม่แฮปปี้ ใครแฮปปี้กับวิธีการทำงานของ บก. ก็เชิญอยู่ แต่ฉันจะไป!” พูดแล้วสะบัดไปอย่างสะใจที่สร้างประเด็นความขัดแย้งให้กับทุกคนได้ กฤษฎารู้สึกแย่ กังวลแทนเมเปิ้ล
ฝ่ายเมเปิ้ลพาจิลลาไปที่เขียงหมูในตลาดไปพบเฮียซ้งกับเจ๊แป๋วที่เขียงหมู ทั้งสองเป็นพ่อกับแม่ของดรณ์นั่นเอง
แม้เฮียซ้งจะปากตลาดแต่ก็สู้ปากเมเปิ้ลไม่ได้โต้เถียงกันอึดใจใหญ่เฮียก็สั่งเจ๊แป๋วให้ไปตามไอ้ตี๋มา
“ผมมาแล้วครับป๊า ม้า” ดรณ์เดินยิ้มเศร้าๆ เข้ามาในชุดกางเกงขาสั้นเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะช่วยไปส่งหมูมา พอเห็นหน้าดรณ์ จิลลาก็ถลาเข้าไปถามว่าทำแบบนี้ต้องการเลิกกับตนใช่ไหม เมเปิ้ลบอกทั้งสองว่าเคลียร์กันให้จบ ไม่อย่างนั้นตนก็ต้องเดือดร้อนอีก
ดรณ์สารภาพว่าที่ตนไม่รับโทรศัพท์เพราะอายที่ตกงานทั้งที่กำลังจะขอจิลลาแต่งงาน คิดว่าหางานใหม่ได้จึงจะกลับไปคุยกัน พอจิลลารู้ความจริงก็รำพันว่าอย่าคิดอย่างนั้น ตนไม่เคยคิดว่าเขาต่ำต้อย สิ่งที่กลัวคือกลัวดรณ์จะไม่รักตนเพราะนับวันตนก็แห้งเหี่ยวโรยราในขณะที่ดรณ์เองมีโอกาสได้เจอคนที่สดกว่าสวยกว่า
“ผมไม่เคยสนใจความสาว ความสวย ผมรักคุณนะจิล ผมรักคุณที่เป็นคุณอย่างนี้ คุณแก่ สักวันผมก็ต้องแก่เหมือนกัน”
จิลลาและดรณ์ต่างบอกรักกันและโผเข้ากอดกันกลางตลาดมองหน้ากันอย่างหวานซึ้ง เมเปิ้ลเห็นแล้วเซ็งบ่นว่า
ตนกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย ปล่อยให้คู่รักต่างวัยคู่นี้หวานกันกลางตลาดหน้าเขียงหมู แล้วเดินออกไปเพื่อประชุมงานแบบปกที่ค้างอยู่ แต่พอไปถึงปรากฏว่า ทุกคนหายไปหมดแล้ว เหลือแต่กฤษคนเดียว
ไม่ทันได้คุยอะไรกัน เมเปิ้ลก็ได้รับโทรศัพท์จากบอส เธอรับสายหน้าเสีย บอกว่าแล้วเจอกัน กฤษถามว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า เมเปิ้ลไม่ตอบแต่กำมือแน่นจิกตาแค้นเดินหนีไป กฤษรีบตามไปอย่างเป็นห่วง
ooooooo
หลังจากพีศทรรตถูกผู้หญิงสามคนจ้องจิกจนแทบจะไหม้เป็นจุณ เขาแหวกวงล้อมออกมา เดินไปอย่างหมดอาลัย น้ำผึ้งใจไม่ดีถามวลัยกับเป้ที่มาคอยสังเกตการณ์ว่า
“เอาไงดี ผิดวิสัยมากเลยนะปกติฉันต้องถูกด่าที่ปากไวไปแล้วเนี่ย” วลัยโบ้ยให้เป้ตอบในฐานะผู้ชายด้วยกัน เป้บอกว่าพีศกำลังคิดว่า เซ็งเป็ด พอสองสาวโวย เป้ชี้แจงว่า
“ก็มันจริงนี่คะ อุตส่าห์พาแฟนใหม่มาจะเปิดตัว แต่ลูกก็ไม่ยอมรับแถมเมียเก่าก็ฉวยโอกาสประกาศความเลวของแฟนใหม่ให้โลกรู้อีก เขาคนกลางย่อมลำบากใจและเซ็งเป็ด”
น้ำผึ้งชี้แจงว่าตนไม่ได้เลว ตนแค่ของขึ้นเมื่อถูกญาดาเรียกป้าเลยเผลอปากเสียไม่ฟังที่แฟนทักท้วง
“นั่นแหละเลว! น้ำผึ้ง ปัญหาของน้ำผึ้งคืออารมณ์ ถ้าเพียงแต่ใจเย็น อย่าเพิ่งเติมเชื้อไฟให้เรื่องที่กำลังร้อนระอุไปอีกก็พอน้ำผึ้งต้องใจเย็นๆ อยู่เคียงข้างคนรัก คอยให้กำลังใจและสนับสนุนการตัดสินใจของเขา อย่าทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายที่มีน้ำผึ้งอยู่ในชีวิต”
วลัยตอกย้ำว่าเหมือนอย่างที่พวกตนกำลังเบื่อเธอ น้ำผึ้งถามว่าตนน่าเบื่อมากเหรอ
“เออ! หัดใช้สติปัญญาแก้ปัญหาเสียบ้าง อย่า เอาแต่ใจ ต่อไปนี้เป็นเวลาของแกแล้ว พวกฉันไม่เกี่ยว ทำหน้าที่ช่วยแกได้แค่นี้บาย” ว่าแล้ววลัยก็ควงเป้ไปเลย
น้ำผึ้งมองพีศทรรตที่เดินมองโน่นมองนี่อย่างใช้ความคิดเครียดก็รู้สึกเห็นใจ ค่อยๆเดินตัวลีบเจี๋ยมเจี้ยมเข้าไปข้างๆเขา ยอมรับผิดว่าตนปากเสียไม่ฟังเขาห้าม พีศทรรตบอกว่าตนนัดมาทานข้าวพร้อมกันก็เพราะอยากให้ลูกรับรู้เรื่องของเราอย่างจริงจังแต่ลูกก็รับไม่ได้เพราะธัญรดามีส่วน
“รดาเป็นคนฉลาด ผมอ่านเกมเขาออก รดาใช้ลูกเป็นเครื่องมือเพื่อให้เรื่องของเรามีปัญหา”
น้ำผึ้งฟังแล้วฮึดบอกว่าตนไม่ยอมแพ้จะสู้เพื่อความรักของเรา พีศทรรตถามว่าแน่ใจหรือว่าสู้ไหวแล้ว ตัดบทบอกเธอว่ากลับเองนะ ตนมีธุระ เพราะนัดน้องเอินไว้
เป็นเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ น้ำผึ้งวิ่งตามไปถามว่าเขามีตนอยู่ทั้งคนยังกล้าไปหากิ๊กหรือ บอกว่าไม่ให้ไป เมื่อตนชอบแล้วก็ต้องเอาให้ได้ แล้วเกาะมือเกาะเท้าให้เกะกะไม่ยอมให้ไป แต่สุดท้ายก็หยุดเขาไม่ได้ กลับไปนั่งร้องไห้ที่ร้านกาแฟในฟิตเนส คร่ำครวญกับเพื่อนๆว่า
“ไอ้คุณพีศจอมหื่น เห็นเด็กดีกว่าป้า ฮือๆ สุดท้ายมันก็ไปจนได้ ฮือ...ๆ ฉันถูกมันยันออกจากรถอย่างไม่สนใจไยดีเลย”
ลินีเพิ่งมาถึงถามว่าเป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย วลัยบอกว่า
“แฟนมันไปหากิ๊ก เพราะเซ็งที่มันปากเสียใส่ลูกกับเมียเก่าเขา”
ลินีโพล่งไปว่าเลิกเลย! น้ำผึ้งไม่ยอมเพราะผู้ชายยิ่งหายากอยู่ ตนจะไม่ยอมแพ้เรียกร้องเพื่อนๆต้องให้กำลังใจตน ปลุกใจตัวเองว่า “ฉันจะสู้ สู้เพื่อรัก!”
ooooooo
ขณะเพื่อนๆกำลังมึนกับเรื่องของน้ำผึ้งนั้น เมเปิ้ลก็มายืนข้างหลังลินี สีหน้าท่าทางเมเปิ้ลพร้อมที่จะทำให้ทั้งร้านระเบิด
เป้นั่งสังเกตการณ์อยู่สั่งเด็กให้ปิดร้านเลยเพราะมันคงจะอึกทึกจนไม่มีใครกล้าเข้าแล้ว บอกเด็กว่าตนเหมาร้านเลย แล้วเมเปิ้ลก็เล่าอย่างมีอารมณ์ว่า
ตนถูกบอสเรียกไปเตือนเรื่องที่ตลาด บอสบอกว่าอย่าโกรธไทเกอร์เลยเพราะเขาย่อมมีสิทธิ์แสดงความไม่สบายใจในฐานะของคนที่ต้องทำงานร่วมกับเธอ ที่เธอให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้เสียงานและหยุดชะงัก เมเปิ้ลถามว่าทุกคนบอกบอสอย่างนี้เหมือนกันหมดหรือ พลางมองจิกไปทีละคน
“โดยหน้าที่และตำแหน่ง ผมต้องพูดแทนทุกคน เพราะผมรู้ว่าทุกคนกลัว บก. เหมือนแมวกลัวหมาไม่มีใครกล้าพูดหรอก” ไทเกอร์ออกหน้ารับแทน ถูกเมเปิ้ลดักคอว่าอยากนั่งเก้าอี้แทนตนจนทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม ไทเกอร์โต้ว่า “ผมทำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท ไม่ได้หวังตำแหน่งหรือเก้าอี้อะไรทั้งนั้น”
ทั้งสองโต้เถียงกันจนบอสสั่งให้หยุด ถามเมเปิ้ลว่าช่วงนี้เธอคงวุ่นวายใจมากสินะ งั้นก็ให้ลาพักแล้วให้ไทเกอร์ดูแลงานแทนไปก่อน
เพื่อนๆฟังแล้วถามเมเปิ้ลว่าเธอถูกไล่ออกหรือ เมเปิ้ลบอกว่าไม่ ทีแรกตนแพ้ แต่หลังจากนั้น!!
ทุกคนมองลุ้นระทึก เมเปิ้ลประกาศเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ว่า
“ฉันไม่พัก!! กะอีแค่เด็กขี้อิจฉา เอาเรื่องหยุมหยิมไปฟ้อง บอสก็เอามาเป็นเรื่องใหญ่เหรอคะ นี่พูดด้วยความเคารพนะคะ”
บอสถามไทเกอร์ว่าอิจฉาเมเปิ้ลหรือเปล่า ไทเกอร์ปฏิเสธว่าไม่เลย ตนพูดทุกอย่างไปตามเหตุผล ชี้แจงว่า “จะว่าผมหยุมหยิมก็ได้ แต่เรื่องเล็กมันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องใหญ่ ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆมันจะเกิดความเสียหาย”
“แล้วมันเสียหายหรือยังไอ้ไทเกอร์” เมเปิ้ลฉุนขาด
“บอสครับ บก.หยาบคายครับ” ไทเกอร์เบนประเด็น เมเปิ้ลประกาศกับทุกคนว่า
“ทุกคนฟังนะ! ถ้ามีใครอึดอัด ลำบากใจที่จะทำงานกับฉัน บอกมา แล้วลาออกไปเลย โดยเฉพาะแกไทเกอร์! ถ้าฉันทำให้แกปั่นป่วนนัก จะทนทำไม ลาออกไปสิ!”
ทุกคนอึ้ง ไทเกอร์ใบ้กินสนิท บอสเลยสรุปว่า
“อ่ะ...ไม่พักก็ไม่พัก ผมก็ลืมไป ว่ามันยังไม่มีอะไรร้ายแรง ถือว่าเป็นการเตือนจากผมก็แล้วกันนะ จัดสรรชีวิตให้ดี เมเปิ้ล สำหรับไทเกอร์ ถ้าอยากเป็น บก.บห.มาก ควรใช้ฝีมือทำงานมากกว่าฝีปากนะ พอดีผมกำลังจะเปิดแมกกาซีนหัวใหม่ ตอนแรกว่าจะพิจารณาคุณไปดูแล แต่ตอนนี้คงต้องระงับไว้ก่อน”
พูดแล้วบอสลุกออกไป ไทเกอร์เหวอ ทุกคนสะใจ โดยเฉพาะเมเปิ้ลสะใจกว่าเพื่อน
เล่าให้เพื่อนๆฟังจบ เมเปิ้ลหัวเราะลั่นบอกว่า “แล้วฉันก็ชนะ มันแพ้” ลินีถามว่าแล้วกฤษหายไปไหน เมเปิ้ลเพิ่งนึกได้ ก่อนเข้าบ้านเลยโทร.หา แล้วก็หงุดหงิดเมื่อกฤษไม่รับสาย
“เด็กบ้า อย่าบอกนะว่างอนฉัน พรุ่งนี้เจอจะด่าให้หายบ้าเลย”
ที่แท้กฤษปล่อยให้สายเรียกจนหลุด พอดีน้ำฟ้ามาหาถามว่าแน่ใจหรือที่เขาจะทำอย่างนี้ กฤษบอกว่าแน่ใจถามว่าแล้วเธอโอเคหรือเปล่า
“สำหรับเพื่อน เราพร้อมเสมอ” น้ำฟ้ายิ้มแย้มเดินเข้าห้องกฤษ เขายิ้มแล้วปิดประตู
ooooooo
สิริมาพกความแค้นไว้เต็มอก ไปหาพิภพที่ผับของเขา พิภพที่เคยรักสิริมาแต่เธอไม่ได้รักเขาหากแต่รักวายุ จนเมื่อเธอเลิกกับวายุแล้วก็ยังมีใจให้เขาเพื่อเป้าประสงค์ของตน สิริมาอ่อยว่าตนอาจเปลี่ยนใจก็ได้ถ้าเขาทำให้ตนพอใจ
แต่การมาของสิริมาก็ถึงหูวายุทันทีทางโทรศัพท์จากการรายงานของคนในผับของพิภพ
หลังจากสิริมาบอกพิภพถึงสิ่งที่ตนต้องการให้เขาทำให้ลินีเจ็บกลัวจนต้องหนีไปจากโลกนี้แล้ว พิภพบอกว่าเรื่องแค่นี้ตนทำได้อยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกัน สิริมาก็ทั้งยุทั้งขู่พิภพว่า รู้ไหมว่าเขากำลังถูกวายุจับตามองแต่พอเขาถามว่ายังไง เธอกลับบอกว่า
“ทำงานที่ฉันบอกให้สำเร็จก่อนสิแล้วฉันจะบอกคุณว่าวายุวางหมากไว้รอบตัวคุณยังไงบ้าง แถมด้วย...ตัวฉัน! แต่ถ้าเดิมพันนี้ไม่สำเร็จก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก หรือถ้าคุณจะไปบอกวายุเรื่องฉัน คิดเหรอว่าวายุจะเชื่อศัตรูอย่างคุณมากกว่าเพื่อนที่ตายแทนกันได้อย่างฉัน”
สิริมาเดินเชิดออกไปอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ทำเอาพิภพอดระแวงกับคำพูดของเธอไม่ได้เหมือนกัน
ooooooo
ฝ่ายคุณหญิงกานดาแม่ของพีศทรรตก็เร่งมือบีบน้ำผึ้ง คืนนี้ไปพบเธอถึงคอนโด เจรจาจ้างให้เธอเลิกคบกับลูกชายตน นอกจากน้ำผึ้งจะไม่รับแล้ว ยังพูดเชิงปรามว่า
“อย่าดูถูกความรักของหนูมากกว่านี้อีก เพราะหนู...คงจะไม่ทน” คุณหญิงถามว่าเธอจะทำอะไร “หนูจะฟ้องคุณพีศ การแสดงของหนูดราม่าเข้าขั้นสุดยอด กวาดรางวัลมาแล้วทุกเวที ลูกชายเพียงคนเดียวของคุณแม่จะโกรธคุณแม่ไปตลอดชีวิต แลกกันไหมคะ” พูดแล้วยิ้มสวยสบายๆ แต่คุณหญิงกานดาโกรธจนอยากจะฆ่าเธอ
เมเปิ้ลเอง หลังจากหัวเราะอย่างผู้ชนะแล้ว กลับถึงบ้านก็ต้องหัวเสียหนักเมื่อคุณย่าแสนสุขแจ้งว่าได้ฤกษ์แต่งงานของเธอกับตรัยคุณแล้ว เมเปิ้ลยืนกระต่ายขาเดียวว่าตนจะแต่งงานกับแฟนตัวเองเท่านั้น
“เธอจะแต่งงานกับแฟนเธอได้ยังไง หน้าตาเป็นยังไง พื้นเพระดับไหน ฉันหรือพ่อแม่เธอก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะยอมให้เธอแต่ง”
เมเปิ้ลถามว่าแล้วถ้าตนพามาให้คุณย่าคุณพ่อคุณแม่เจอจะยอมให้ตนแต่งไหม พ่อกับแม่ยอมแต่คุณย่าไม่ยอม!
“ก็นั่นไงคะ คุณย่าไม่รักหนู คุณย่าทำร้ายจิตใจหนูอย่างนี้ได้ยังไง หมดสมัยคลุมถุงชนแล้วนะคะ หนูก็ไม่ใช่เด็ก หนูมีความคิด มีวิจารณญาณ ถ้าคุณย่าไม่ยอมเปิดใจรับแฟนหนู หนูจะไปบวชชีกับชีเพื่อนคุณย่าเอง” พูดแล้ววิ่งเข้าห้องปิดประตูเลย
คุณย่าแสนสุขเรียกเมเปิ้ลให้ออกมา แต่มารยาทกับวุฒิพ่อกับแม่บอกว่าอย่าเรียกออกมาเลย ปล่อยให้ลูกแห้งตายอยู่ในนั้นดีกว่า คุณย่าด่าทั้งสองว่าเบื่อพวกเธอจริงๆ แล้วเดินหนีไป มารยาทร้องบอกเมเปิ้ลที่ประตูห้องว่า
“เม...ไม่ต้องออกมานะลูก อยู่ในห้องแหละ ยืนยันหนักแน่นไว้นะลูก แม่เชียร์สุดใจ สู้ๆ!”
ooooooo
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 6 วันที่ 22 เม.ย. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ