อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 15/5 วันที่ 13 เม.ย. 57
พลางมองตามเลขาไปที่ห้องประชุมกระจกที่อยู่อีกด้าน เห็นเขมชาติยืนจับมือร่ำลาอยู่กับมิสเตอร์สมิธในห้องประชุม
สุริยงยืนอึ้ง ตัวชาวาบ ความโกรธพุ่ง เลือดสูบฉีดเข้าหน้าอย่างแรง
“เชิญนั่งรอตามสบาย” เลขาพูดอย่างสุภาพ หากสุริยงโกรธจนหูอื้อ แทบจะไม่ได้ยิน
ในขณะเดียวกัน เขมชาติก็ยิ้มร่ำลาลูกค้าและหันหน้ามาจะเดินออกจากห้องประชุม พลันเห็นสุริยงยืน
อยู่ข้างนอกพอดี สองคนประสานสายตากัน ตาสุริยงดุ โกรธ กร้าว เขมชาติชะงักกึก อึดใจต่อมาสุริยงก็หันหลังขวับ
และรีบเดินออกไปจากบริษัทในทันที เลขามองตามงงๆ เขมชาติหน้าเหวอ พอได้สติรีบเดินพุ่งตามไปทันที
เขมชาติ ที่วิ่งพรวดตามออกมา มองซ้ายมองขวาเห็นสุริยงแล้วก็รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
สุริยงเดินลิ่ว ไม่สนใจ เขมชาติพยายามวิ่งตามมา
สุริยงเดินเลี้ยวเข้ามาตามทางเดินเล็กๆ แคบๆ ที่ไม่มีคน อารมณ์ยังคงเดือดดาลเหมือนเดิม เขมชาติวิ่ง
ตามมาอย่างเร็ว
“วดี หยุดก่อน คุยกันก่อน ฟังผมก่อนนะวดี”
สุริยงหน้าดุจริงจัง เขมชาติตัดสินใจบอกตามตรง เข้าประเด็นเลย
“โอเค ผมยอมรับ ผมโกหกคุณ ผมวางแผนทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับคุณสองต่อสอง”
สุริยงส่ายหน้า ชักสีหน้า เขมชาติรีบพูดต่อ
“แต่ที่ผมทำ เพราะผมทนไม่ได้ที่จะต้องโดนคุณทิ้งเป็นครั้งที่สอง”
สุริยงชะงักกึก ที่โดนจี้ใจดำ เขมชาติพูดด้วยความเจ็บปวด
“คุณไม่เคยรู้ ตลอดเวลาที่เราจากกัน ผมจะต้องจมอยู่กับความเสียใจ ความโกรธมากมายขนาดไหน
พอเรากลับมาเจอกัน ผมถึงได้ทำไม่ดีกับคุณเพื่อให้หายแค้น แต่มันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป ถ้าผมยอมให้คุณจากไปแบบ
นั้นอีก ผมก็ต้องจมอยู่กับความทุกข์ ความเกลียดชังที่ไม่มีวันสิ้นสุด”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง? ในเมื่อคุณมีชีวิตของคุณ ฉันก็มีชีวิตของฉัน เราไม่มีวันกลับมาเป็น
เหมือนเดิม”
สุริยงเสียงสั่น
“ผมก็ไม่ได้อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม ผมขอแค่อย่างเดียว” มองหน้าอย่างอ้อนวอน “ขอให้เราจาก
กันด้วยดี”
สุริยงจุกจนนิ่ง พลางมองหน้าเขมชาติรอฟังให้เขาต่อ
“ผมขอแค่สามวันที่เราอยู่ที่นี่ ทำให้มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เป็นการบอกลาที่เราจะไม่ติดค้างอะไรกัน
อีก”
เขมชาติขุดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา เอาความเจ็บปวดที่ไม่เคยเปิดเผยมาพูดต่อหน้าสุริยง
“คุณอาจจะคิดว่ามันไม่สำคัญ อยากจะไปจากใครสักคน ก็แค่เขียนข้อความทิ้งไว้ แล้วก็หายตัวไป
แต่สำหรับผม”
น้ำเสียง และแววตาปิดบังความเจ็บปวดไว้ไม่มิด “มันไม่ง่ายอย่างนั้น โดยเฉพาะกับคนที่เคยรักกัน”
พูดถึงตรงนี้ เขมชาติก็ถึงกับน้ำตาร่วง
“คนที่ไปไม่เจ็บ แต่คนที่อยู่เจ็บ เจ็บมาก ช่วงเวลาที่ดีของเรา มันถูกข้อความบอกเลิกที่แสนเย็นชาลบ
ล้าง ไปจนหมดสิ้น ทุกครั้งที่ผมคิดถึงคุณ มันคือความเจ็บปวด และมันก็ยิ่งเจ็บ ตรงที่ผมหยุดคิดถึงคุณไม่ได้”
แม้ว่าเขมชาติจะไมได้ร้องไห้ฟูมฟาย แต่สุริยงก็หยั่งความรู้สึก ที่เจ็บลึกจากข้างในของเขาได้เป็นอย่าง
ดี และเธอเอง ก็อยากจะบอกเหลือเกิน ว่าตัวเองก็เจ็บ แต่ก็บอกไม่ได้ ต้องกลั้นใจ เก็บกดไว้อย่างทรมาน
“ผมอยู่กับคำถามมากมาย อยู่กับความไม่เข้าใจ ผมไม่รู้ว่า ผมทำอะไรผิด”
“คุณไม่ได้ทำผิด”
ในที่สุดสุริยง ก็โพล่งออกมา เขมชาติมองหน้าสุริยง แววตาตอนนี้อ่อนลง ความหวั่นไหวที่ซ่อนไว้
แอบเผยออกมาก
“ไม่มีใครผิด เพียงแต่วันนั้น ฉันต้องเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุด”
สุริยงพูดนิ่งๆ ทว่าหนักแน่น เขมชาติมองลึกเข้าไปในแววตาของสุริยง เห็นบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในแวว
ตาที่อ่อนลง
“ผมไม่รู้ว่าความถูกต้องของคุณคืออะไร แต่ผลของมันคือ ความทรงจำอันเลวร้าย แต่ในเมื่อเรา
กลับไปแก้อดีตไม่ได้ ผมขอใช้เวลาที่มีอยู่ไม่มากสร้างความทรงจำใหม่ที่ดี ก่อนที่เราจะแยกจากกันไปตามทางของ
ตัวเอง”
เขมชาติๆ ล้วงกระเป๋า หยิบแหวนดอกไม้ออกมา
“ถ้าคุณเห็นด้วย ขอให้สวมแหวน และเราจะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อจากลากันด้วยความทรงจำที่ดี”
พูดจบก็วางแหวนไว้ที่ก้อนหิน พลางลุ้น
. สุริยงมองแหวนแปลกใจนิดๆ เพราะตัวเองวางทิ้งไว้ในห้อง พลางมองหน้าเขมชาติ และครุ่นคิดอย่าง
หนัก
ภาพความหวานชื่นในอดีตหวนกลับมาอีกครั้ง
สุดท้ายสุริยงก็เอื้อมมือไปหยิบแหวนมาสวม
“ฉันจะให้อภัยการโกหกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ครบสามวันขอให้เรื่องระหว่างเราจบลงตามที่พูดจริงๆ”
แววตาของเขมชาติเปล่งประกาย
“ผมสัญญา ผมจะทำตามที่พูดไว้ ขอบคุณมาก ขอบคุณที่ไว้ใจผม”
เขมชาติพุ่งเข้ามากอดสุริยงไว้อย่างแน่น สุริยงตกใจนิดๆ ยกมือขึ้นจะดันออกแต่ก็ยั้งไว้
สุริยงไม่กอดตอบ แต่ยืนนิ่งให้เขมชาติกอดไว้ และเธอไม่มีโอกาสรู้เลยว่า บัดนี้แววตาซาบซึ้งของของ
เขมชาติ กำลังวาวโรจน์ด้วยความแค้น
เอื้อหยิบโทรศัพท์ตั้งใจจะโทร หาสุริยง แต่เมื่อดูนาฬิกา และพบว่าเป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่า
“ที่โน่นเก้าโมง สงสัยจะกำลังคุยกับลูกค้า”
จึงเปลี่ยนใจส่งเป็นข้อความแทน
“การเดินทางเป็นยังไงบ้าง ? ส่งข่าวด้วย Take care!”
เอื้อกดส่ง แล้วก็คิดถึงสุริยง ราวกับมีกระแสจิตอะไรบางอย่างที่สื่อสารถึงกันได้กระนั้น
สุริยงยังคงเดินหน้าเครียดๆ ด้วยความรู้สึกที่ยังค้างคาอยู่ในใจ จนไม่มีอารมณ์ร่วมกับวิวทิวทัศน์ ที่
สวยงามของเมืองซูริคแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นก็มีเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้น สุริยงหันไปตามเสียง เห็นเขมชาติใช้มือถือถ่ายรูปอยู่
“ถ่ายทำไม?”
“ก็จะได้เห็นหน้าตัวเองไง”
สุริยงทำเสียงดุ “นี่พอได้แล้ว”
เขมชาติยื่นโทรศัพท์ให้สุริยงดู
“อะ ดูซะ คุณทำหน้าแบบนี้ตลอดเวลาที่เดินอยู่ด้วยกัน คุณคิดว่า พอผมหันมาเห็นหน้าคุณแล้ว
ผมจะมีความสุขมั้ย?”
ที่หน้าจอ มีแต่รูปสุริยงที่ทำหน้าเครียด ดุ สุริยงเห็นแล้วก็ชะงัก พลางพยายามคลายกล้ามเนื้อบน
ใบหน้าให้เครียดน้อยลง
“เวลาที่ผมนึกย้อนกลับมาถึงเวลานี้ หน้าคุณก็เป็นแบบนี้ตลอดเวลา แล้.มันจะเป็นความทรงจำที่
ดีมั้ย?” เขมชาติพูดแซวขำๆ
“แล้วจะให้ฉันทำหน้ายังไง?”
“ก็ทำหน้าให้มีความสุข จริงๆในใจอาจจะไม่สุขก็ได้ แต่ช่วยปั้นหน้าให้หน่อยแล้วกันนะ ผมจะได้
สบายใจ”
สุริยงยิ่งรู้สึกอึดอัดๆ ทำหน้าไม่ถูก เขมชาติช่วยคิด
“เอางี้ ลองคิดถึงตอนที่มีความสุข แต่ต้องเป็นตอนที่อยู่กับผมนะ โอเค ตอนที่กลับมาเจอกันอีกที
อาจจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ก็คิดย้อนกลับไปตอนที่ “เป็นแฟน” กันก็ได้ คิดถึงตอนที่ “เดินเป็ดไง”
สุริยง ขมวดคิ้ว “เดินเป็ด”
จากนั้นสุริยงก็ย้อนนึกถึงภาพตัวเอง ยืนอยู่กลางสนามหญ้าที่โรงเรียนต่างจังหวัด กำลังพูดกับน้องๆ นักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมกันเต็มสนาม
“น้องๆคะ วันนี้พี่วดีจะนำน้องๆแปลงร่าง กลายเป็น “เป็ด” อย่างแรกเราต้อง ใส่ขา ก่อนแบบนี้ แล้ว
ก็ใส่ปีก ใส่ปาก”
เด็กนักเรียนหัวเราะร่วน ชอบใจกันใหญ่ เขมชาติเดินมาเห็น ในขณะที่เพื่อนๆอีกกลุ่มยืนอยู่ที่กลอง
ทอมพร้อมบรรเลง
สุริยงพูดต่อ
“แล้วก็เดินแบบเป็ด”
เพื่อนๆ รีบร้องเพลงรับ
“ก๊าบๆๆ เป็ดอาบน้ำในคลอง ตาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมีหอย ปู ปลา เอ๊า ทุกคน ลุกขึ้น”
เด็กๆลุกขึ้นพร้อมกัน
“ใส่ขา ใส่ปีก ใส่ปาก”
เด็กๆขำชอบใจกันใหญ่ แก๊งกลองทอมร้องเพลงอีกรอบ สุริยงเดินนำ เด็กเดินตามเป็นแถว ทำเป็นบ้าง
ไม่เป็นบ้าง ขำเพื่อนบ้าง ขำตัวเองบ้าง อย่างสนุกสนาน
เสียงหัวเราะเขมชาติดังประสานกับเสียงเด็กๆในอดีต สุริยงยืนยิ้มเขิน
“ผมยังจำติดตาอยู่เลย เอ๊า ใส่ขา ใส่ปีก ใส่ปาก”
สุริยงสะบัดหน้าอายๆ “ไม่”
เขมชาตินรีบอ้อนต่อ “น่าน เต้นหน่อยนะ ผมรู้คุณจำได้ เร็วๆ ใส่ขา”
“พอได้แล้ว ฉันไม่ได้บ้า จะได้มาเดินเป็ดตรงนี้”
“ก็ตรงนี้แหละ ฮาดี เร็วๆ มา ผมทำเป็นเพื่อน ใส่ขา”
สุริยงอาย จนหน้าแดง “บ้า ฉันไม่ทำหรอก”
เขมชาติยังไม่ยอมหยุด คนเริ่มหันมามอง และขำ
“ใส่ปีก ใส่ปาก”
สุริยงบีบหน้าเขมชาติให้ปากเป็ดหายไป “คนมองใหญ่แล้ว ไม่อายหรือไงหะ?”
“อายทำไมไม่มีใครรู้จักเราสักหน่อย”
“ไม่รู้จัก ฉันก็อาย ดูสิ อยากจะทำก็ทำไปคนเดียว ฉันไปล่ะ”
สุริยงปล่อยมือจากหน้าเขมชาติแล้วก็เดินไปเลย
เขมชาติยังอยู่ท่าเป็ด
“รอด้วยสิ” แล้วก็เดินท่าเป็ดตามไป คนมอง หัวเราะ แล้วก็ถ่ายรูปกันใหญ่
สุริยงอายมาก รีบหันมาแล้วก็คว้าแขนเขมชาติลากเดินไปอย่างเร็ว เขมชาติต้องจำยอมเลิกทำท่า
อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 15/5 วันที่ 13 เม.ย. 57
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตีละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3