อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 19/2 วันที่ 17 เม.ย. 57
“พี่เอื้อกำลังปกปิดเรื่องเลวๆของบางคนเพื่อช่วยเขารักษาภาพ แต่กำลังทำให้คนดีๆ อีกคนต้องเจ็บปวด ถ้าสิ่งที่พี่เอื้อรู้มันจะเป็นประโยชน์กับเกนหลง พี่เอื้อก็ต้องพูด ต้องแฉมันออกมาบ้าง ยิ่งเก็บไว้ คนที่ต้องเสียใจ
ก็คือเกนหลง”
อรทัยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เอื้อหันหน้าหนี เหมือนไม่อยากจะรับรู้
อัมพิกายื่นหน้ามาพูดเน้นๆ
“ผู้ชายอย่างเขมชาติดีพอสำหรับเกนหลงหรือเปล่า พี่ว่าเอื้อรู้ดีที่สุด”
วนิตายังไม่วายหันมาส่งตาหวาน “บายค่ะพี่เอื้อ”
เมื่อยืนอยู่คนเดียวในห้อง แววตาของเอื้อ ที่เคยนิ่ง ก็กลับฉายแววแห่งความกังวลออกมา คำพูดของอัมพิกา และอรทัยทำให้เขาต้องคิดหนัก เพราะจี้ใจอย่างแรง
เอื้อคิดถึงภาพเกนหลงสติแตกตอนอยู่ด้วยกันที่สวิส และจบลงที่ภาพเกนหลงร้องไห้ในอ้อมกอดของเขา พลางถอนใจ เป็นห่วง
สุริยง นั่งเศร้าอยู่ในห้องเด็กเพียงลำพัง ไฟเปิดสลัวดูอ้างว้าง เบื้องหน้าของเธอ คือภาพเจ้าสัวชวลิตที่วางอยู่ประจำในห้องนี้
สุริยงใจลอยไปไกล ทั้งภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่สวิส และเนื้อความจากจดหมายของเขมชาติ ยังคงติดตามมาหลอกหลอนอยู่ทุกขณะ
ภาพความหวานชื่นระหว่างกัน กับถ้อยคำในจดหมาย ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สีหน้าสุริยงในยามนี้ ทั้งเจ็บปวด และบาดลึกถึงส่วนที่เปราะบางที่สุดของหัวใจ พลางพยายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป
“ไม่”
สุริยงเหลือบมองนิ้วมืออันว่างเปล่า ไม่มีแหวนดอกไม้ที่เคยสวมอีกต่อไป พลางบีบมือตัวเองแน่น มันเจ็บปวดเหลือเกิน แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างที่ไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้
เสียงของเขมชาติยังคงก้องอยู่ในหู
“สุริยาวดี ผมขอเรียกชื่อนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมจะลบชื่อคุณจากใจ เพราะหนี้ของผมได้รับการชดใช้แล้ว คุณก็เช่นกัน ควรเดินออกไปจากชีวิตผม ขอให้เราตายจากกัน”
สุริยงสะอื้นอย่างสุดแรง ชั่วขณะนั้นเธอไม่อาจจะสู้กับจิตใจตัวเอง เจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหว หากจู่ๆ ก็นึกถึงรูปภาพของเจ้าสัว สุริยงค่อยๆหันไปหา สบตากับเจ้าสัวในภาพ
“คุณท่านคะ คุณท่านเคยสอนให้หนูเล็กเข้มแข็ง สอนให้รับมือกับคนที่เกลียดเรา ดูถูกเราด้วยความรักและศรัทธาในตัวเอง ถ้าเรารักและเชื่อมั่นในความถูกต้องของเรา ใครก็ทำร้ายเราไม่ได้ แต่ท่านคะ ถ้า ถ้าความรักที่หนูเล็กมีให้กับตัวเอง มันได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ถ้าหัวใจของหนูเล็กมันตายลงไปแล้ว จะให้หนูเล็กทำยังไง?”
สุริยงมองภาพของเจ้าสัว เหมือนพยายามวิงวอนขอแสงสว่าง หากมีเพียงภาพของเจ้าสัวที่ได้จากไปแล้ว สุริยงร้องไห้ รู้ดีว่าไม่มีใครช่วยได้
สุริยงยังคงร้องไห้อย่างไม่รู้ตัว พลันมือเล็กๆ อบอุ่น ก็ยื่นเข้ามาป้ายน้ำตาออกให้อย่างแผ่วเบา
“แม่หนูเล็ก เป็นอะไรไปเหรอคับ” ไก่ถามด้วยความห่วงใย ตามด้วยไข่
“ใครรังแกซูเปอร์มัมของไข่คับ”
“แม่หนูเล็ก ไม่สบายเหรอครับ”
สุริยงเห็นลูกๆมา พยายามกลั้นความเสียใจ พลางป้ายน้ำตา กลั้นก้อนสะอื้นไว้ แล้วหันมาตอบลูกแฝด
“ครับ แม่หนูเล็กไม่สบายนิดหน่อย”
“โอ๋ ไม่ต้องร้องนะครับ คนเก่ง” ไก่ทำท่าเหมือนที่สุริยงเคยทำ “ ไก่จะเป่าเพี้ยงให้แม่หนูเล็กหาย” พลางเป่าที่หน้าผากเบาๆ “เพี้ยง หายนะครับ คนเก่ง”
ไข่ช่วยเป่าด้วยอีกแรง “ เพี้ยง หาย ไม่เจ็บแล้วนะครับ”
สุริยงเอื้อมมือออกไปกอดลูกแฝดทั้งสองไว้แน่น
ไก่กับ ไข่พูดขึ้นพร้อมกัน “โอ๋ โอ๋ หาย ไม่เจ็บนะครับ”
สุริยงเสียงเครือ “จ้ะ ขอบใจนะไก่ ไข่ ลูกแม่”
สุริยงกอดลูก น้ำตาไหลพราก ได้ความอบอุ่นกลับคืนมาบ้าง เหนือขึ้นไปที่รูปของชวลิตเหมือนกับว่ามองดูสามคนแม่ลูกอยู่ ด้วยความห่วงใย
คุณพจน์มองเกนหลง และเขมชาติที่นั่งกุมมืออยู่เคียงข้างกันอยู่ตรงหน้า
“ตกลงได้คำตอบที่ต้องการแล้ว?”
เขมชาติยิ้ม
“ครับ คุณเกนตอบตกลงยอมแต่งงานกับผมแล้วครับ ผมมาเรียนคุณอาก่อนแล้วจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ
อย่างเป็นทางการอีกที”
“จริงๆไม่ต้องมีพิธีรีตองก็ได้ ถ้าเราสองคนคุยกันรู้เรื่องแล้ว ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่มาหรอก”
เขมชาติ ยิ้ม พร้อมยกมือไหว้
“ขอบคุณคุณอามากครับที่ไว้ใจผม เรื่องสินสอด”
คุณพจน์รีบบอก
“ก็แล้วแต่ 2 คนคุยกัน อาไม่มีปัญหา แต่ขอแค่อย่างเดียว หมั้นกันไว้ก่อน ส่วนเรื่องแต่งอาขอให้รออีก
หน่อย”
ทั้งเขมชาติ และเกนหลงชะงัก อย่างนึกไม่ถึง
“เอ่อ ทำไมครับ คุณอามีอะไรไม่สบายใจเหรอครับ”
เขมชาติเริ่มร้อนตัว
“ไม่มีหรอก พอดีคอนแวนชั่นฮอล์ของโรงแรมใหม่ใกล้จะเสร็จแล้ว อาอยากจัดงานของเกนเป็นงานแรก
รอได้หรือเปล่า?”
ทั้งเขมชาติ และเกนหลงยิ้มอย่างโล่งอก
“รอได้ครับ ผมรอมานานแล้ว รออีกหน่อยสบายมาก ทีแรกผมนึกว่าคุณอาเปลี่ยนใจไม่ยกคุณเกนให้
ผมแล้วซะอีก”
คุณพจน์ยิ้ม พลางหันมาถามลูกสาว
“แล้วเราล่ะ รอได้มั้ย”
“ได้สิคะ เกนตามใจคุณพ่อเลยค่ะ”
“ถ้าตามใจพ่อ งั้นมีอีกเรื่อง ช่วงที่เกนต้องเตรียมงานหมั้น อาขอพักงานเลขาที่บริษัทเขมไว้ก่อนเพราะ
งานโรงแรมใหม่ก็เริ่มยุ่ง อาไม่อยากให้เกนเหนื่อยเกินไป”
เกนหลง พยักหน้าเห็นด้วย
“ก็ดีเหมือนกันนะคะเขม เกนจะได้มีเวลาเตรียมงาน เกนอยากจัดงานของเราให้ดีที่สุด”
“ ได้เลยครับ เสียเลขา แต่ได้เจ้าสาว ทำไมผมจะไม่ยอมล่ะครับ”
เกนหลงกับเขมชาติยิ้มให้กันอย่างมีความสุข เกนหลงมีความสุขจริงๆ ในขณะที่เขมชาตินั้น คิดไปเองว่ามีความสุข
คุณพจน์มองทั้งสองคนที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข แต่แววตากลับมีความหนักใจซ่อนอยู่
สุริยงนั่งดูรูปครอบครัว แล้วยิ้มเศร้าๆ อาทิตย์กับนภาเดินมา พร้อมจานใส่ของว่าง เมื่อเห็นสีหน้าของสุริยง นภาก็บอกกับลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“ตั้งแต่กลับมาจากสวิส แม่เห็นเรากินข้าวเท่าแมวดม แม่เลยทำปั้นสิบที่เราชอบไว้ให้กินเยอะๆเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
พลางรับจานไว้ แล้วก็ใช้ซ้อมเขี่ยๆจิ้มๆ หากยังไม่ยอมแตะต้องแม้แต่ชิ้นเดียว
“งานที่สวิสหนักมากเหรอลูก กลับมาถึงได้ดูเหนื่อยๆ”
อาทิตย์ถามอย่างห่วงใย
สุริยงชะงัก ก่อนจะตอบ
“ก็หนักนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ตอนนี้มันก็จบแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องทำที่นั่นอีกแล้ว”
นภายิ้ม “ออกจากงานนี้ก็ดีเหมือนกัน แม่เห็นเจ้านายเราใช้งานหนัก บอกตรงๆว่าแม่เป็นห่วง เอ่อ แล้วเมื่อไหร่จะไปเริ่มงานใหม่กับคุณเอื้อ?”
สุริยง คิด แล้วตัดสินใจบอกกับพ่อ-แม่ “หนูเล็กไม่ไปทำงานกับคุณเอื้อแล้วค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ” นภาไม่เข้าใจ
“อยากทำงานกับคนใหม่ๆบ้าง ทำงานอยู่กับคนรู้จัก ก็จะเจอแต่คนหน้าเดิมๆ เบื่อ ไม่อยากเจอ”
นภากับอาทิตย์ฟังแล้วรู้สึกว่าแปลกๆ แล้วนภาพูดกับสุริยงที่ทำเป็นดูรูปครอบครัวอยู่
“รูปนี้ ถ่ายตอนที่เราไปฉลองวันที่ลูกเอ็นติด ชื่นทานซะเยอะ กลับมาท้องเสียไปสองวัน”
สุริยงหันมาหัวเราะเบาๆ
“ใช่ค่ะ ใช่ หนูเล็กจำได้ วันนั้นคุณพ่อคุณแม่ดีใจมากๆเลยที่หนูเล็กเอ็นติด” แล้วก็หน้าเศร้า “แล้วพ่อ
กับแม่ผิดหวังมั้ยคะ ที่หนูเล็กไม่ได้รับปริญญา”
นภานั่งลงข้างๆ สุริยงแล้วก็โอบไว้
“ไม่ว่าลูกจะได้รับปริญญาหรือไม่ได้รับ จะเอ็นติด หรือไม่ติด ลูกก็ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ ผิดหวัง”
สุริยงซบที่ไหล่มารดา
“แล้วถ้าหนูเล็กทำอะไรบางอย่างที่มันผิดพลาดอย่างไม่น่าให้ แม่จะผิดหวังมั้ยคะ ?”
นภาลูบผมสุริยงเบาๆ
“สิ่งที่ลูกทำให้พ่อกับแม่มาโดยตลอด มันทำให้เราสองคนอยู่ห่างไกลจากคำว่าผิดหวังมานานแล้ว ไม่
ว่าหนูเล็กจะทำผิด หรือพลาดอะไรมา พ่อกับแม่พร้อมที่จะเข้าใจ และอยู่เคียงข้างหนูเสมอ”
สุริยงน้ำตาซึมๆ อาทิตย์เข้ามาโอบ “ ไม่ใช่แค่พ่อกับแม่ แต่ยังมีไก่กับไข่อีกสองคน ที่ยังรักและเป็นห่วงเราอย่างไม่มีเงื่อนไข”
นภารีบเสริม
“เมื่อไหร่ที่หนูเหนื่อย หนูผิดหวัง มั่นใจเถอะว่า เราทั้งสี่คนยังอยู่ที่นี่ และพร้อมที่จะโอบกอดลูกไว้ด้วย
ความรักอย่างแท้จริง”
สุริยงน้ำตาร่วงพรู พลางกอดมารดาไว้แน่น นภากอดตอบด้วยความรักอย่างเต็มอก
สุริยงซึมซับความรักจากแม่ด้วยหัวใจที่สงบขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มจะนิ่ง พลังแห่งความรักทำให้สุริยงค่อยๆฟื้นฟูจิตใจของตัวเองขึ้นมา จากแววตาที่หมองหม่นในตอนแรกค่อยๆฉายแววแห่งความเข้มแข็ง
สุริยงคนเดิม ค่อยๆกลับคืนมาอีกครั้ง
ที่ร้านอาหารหรู บริกรรินไวน์อย่างดีให้เกนหลง และเขมชาติ ด้วยท่าทีที่สุภาพ
“นี่ถึงกับต้องฉลองเลยเหรอคะ แค่คุยกับคุณพ่อสำเร็จแค่นี้เอง เสียดาย พ่อน่าจะหวงลูกสาวมากๆ เขมจะได้เลี้ยงมื้อใหญ่กว่านี้”
เขมชาติ หัวเราะ
“ถ้าเป็นคุณเกน ให้เลี้ยงมื้อใหญ่แค่ไหนผมก็ยินดีจัดให้ และอยากจะให้มันพิเศษมากๆ มากกว่าที่เคยทำให้ใครทุกคน”
เขมชาติจงใจพูดกระทบสุริยง ทั้งที่ไม่อยู่ตรงนี้ แล้วชูแก้วไวน์ชวนเกนหลงดื่ม สองคนยิ้มๆมีความสุข
บริการนำซุปล็อบสเตอร์มาเสิร์ฟ เกนหลงตักชิม
“อื้อ อร่อยจังเลยค่ะ ลองชิมดูสิคะ”
เขมชาติยิ้ม เอื้อมมือจะตักชิม แต่พอเกลี่ยช้อนลงไปบนเนื้อซุป ทันใดนั้นมีเสียง และภาพ ของสุริยงก็ซ้อนเข้ามา
“ซุปอัลมอนด์กุ้ง ? เนี่ยนะ?”
“ ในคัมภีร์ไบเบิ้ลจะมีการใช้สัญลักษณ์แทนสิ่งต่างๆ .. และ “ต้นอัลมอนด์” ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของ
“คำสัญญา” ผมสัญญาว่า จะเก็บเรื่องราวระหว่างเราเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป”
เขมชาติชะงักมือที่กำลังจะตักซุปค้างไว้ เกนหลง มองด้วยความแปลกใจ
“เขม มีอะไรรึเปล่าคะ?”
เขมชาติ รีบออกตัว
“คือ วันนี้ผมไม่ค่อยอยากทานกุ้ง คุณทานเผื่อผมก็แล้วกัน”
”ทานเผื่อกันไม่ได้ค่ะ เสิร์ฟจานที่2 ให้คุณเขมเลยนะ”
บริกรรับคำ แล้วเดินออกไป ก่อนจะยกอาหารจานที่สองมาเสิร์ฟ เป็นพาสต้า ที่ตกแต่งแบบหรูหรา
เขมชาติยิ้ม ตักพาสต้าเข้าปาก แล้วก็ยิ้มอย่างถูกใจอวดเกนหลง เกนหลงพยักหน้า
ภาพของสุริยงก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง
“ บะหมี่ต้มยำปลากระป๋อง”
“ เส้นแข็งๆ แบบที่คุณชอบ”
“ ไม่ได้ทานมานานมาก ครั้งสุดท้ายก็ตอน ไปค่ายมหาลัยปีสุดท้าย”
“ผมก็เหมือนกัน หลังจากนั้นพอคุณหายไป ผมก็ไม่กล้าทำ ไม่กล้าเห็นมัน แต่วันนี้เป็นวันพิเศษของ
อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 19/2 วันที่ 17 เม.ย. 57
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตีละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3